วิ่งรถเมล์ใหม่ไฮบริด 7 สาย - 16 มิ.ย. นี้ @กทม !!!

ประชาชนเฮเตรียมนั่งรถเมล์ใหม่ไฮบริด 31 พ.ค. ไจก้าใจดีส่งมอบรถเมล์ไฮบริดฮีโน่ให้ ขสมก. 1 คันทดลองวิ่ง 122 วัน เริ่ม 16 มิ.ย.-30 ก.ย. 7 เส้นทาง นำร่องสาย A1 ดอนเมือง-หมอชิต 2 https://winne.ws/n23914

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 พ.ค. นี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นประธานพิธีส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำยี่ห้อฮีโน่ ระบบดีเซลและไฟฟ้า (ไฮบริด) ในโครงการความร่วมมือระหว่าง ขสมก. บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จำนวน 1 คัน มาทดลองวิ่งให้บริการประชาชนในเส้นทางเดินรถของ ขสมก. เป็นระยะเวลา 122 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-30 ก.ย. 61 ในพื้นที่ 3 เขตการเดินรถ ประกอบด้วย เขต 1, 3 และ 5 มีทั้งหมด 7 เส้นทาง ได้แก่ 1.สาย A1 ดอนเมือง-หมอชิต 2 ระยะทาง 20 กม.  วันที่ 16-30 มิ.ย. 61 2.สาย 510 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิระยะทาง 42 กม. วันที่ 1-15 ก.ค. 61

นายประยูร กล่าวต่อว่า 3.สาย522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ (ทางด่วน) ระยะทาง 40 กม.  วันที่16-31 ก.ค. 61 4.สาย 145 อู่เมกา-หมอชิต 2 ระยะทาง 47 กม.  วันที่ 1-15 ส.ค. 61 5.สาย 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ ระยะทาง 48.5 กม.  วันที่ 16-31 ส.ค.61 6.สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยฯ (ทางด่วน) ระยะทาง 33 กม. วันที่ 1-15 ก.ย.61 และ 7.สาย 138 พระประแดง-หมอชิต 2 (ทางด่วน) ระยะทาง 30 กม. วันที่ 16-30 ก.ย.61 โดยเก็บค่าโดยสารเท่ากับรถเมล์ปรับอากาศ  ขสมก. ราคา 11-23 บาท  ยกเว้นสาย A1 ที่จะเก็บค่าโดยสาร 30 บาทตลอดสาย ทั้งนี้การนำมาทดสอบวิ่งใน 7 เส้นทางนั้นเนื่องจากเป็นเส้นทางที่อยู่ในพื้นที่จราจรติดขัด มีปัญหามลพิษ วิ่งในเมืองและวิ่งนอกเมือง ตลอดจนวิ่งข้ามสะพาน หลังจากนำมาวิ่งทดสอบแล้ว ขสมก. จะประเมินผลความพึงพอใจของผู้โดยสาร จำนวนเที่ยววิ่ง จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ ปัญหา อุปสรรคการให้บริการประสิทธิภาพการใช้งาน ความคุ้มค่า และการประหยัดพลังงาน ถ้านำมาเปรียบเทียบกับรถเมล์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง

ด้านนายชิดชัย ภู่อารีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ ขสมก. กล่าวว่า สำหรับรถเมล์ไฮบริดมีขนาด 12 เมตร 35 ที่นั่ง บรรทุกได้ทั้งคันรวมประมาณ 70 คน มีอายุการใช้งาน 12 ปี หรือ 600,000 กม. ต้นทุนคันละ 8 ล้านบาท มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่นั่งสำหรับคนพิการ น้ำหนักเบา กะทัดรัด มีระบบส่งกำลังที่ดีและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดี โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทฮีโน่ฯ ได้นำรถเมล์ไฮบริดมาให้ ขสมก. ตรวจเช็กความเรียบร้อยและความพร้อมที่นำมาทดลองวิ่ง หลังจากการส่งมอบในวันที่ 31 พ.ค. แล้ว ทางบริษัทฮีโน่ฯ จะนำรถเมล์ไฮบริดไปเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าอมม่วง คล้ายกับสีของรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) 100 คันแรกที่ ขสมก. ได้นำมาวิ่งให้บริการประชาชน ซึ่งการเปลี่ยนสีรถเมล์ครั้งนี้เนื่องจากต้องการให้ประชาชนจดจำรถเมล์ใหม่ที่ให้บริการ และถ้าเห็นรถเมล์สีฟ้าอมม่วงต้องเข้าใจทันทีว่าเป็นรถเมล์ใหม่ นอกจากนี้หลังจากทดลองวิ่งทั้ง 7 เส้นทางแล้ว ขสมก. คาดว่าเบื้องต้น ขสมก. จะนำมาบรรจุวิ่งถาวรในเส้นทางสาย A1 ดอนเมือง-หมอชิต 2 เนื่องจากเป็นเส้นทางที่วิ่งให้บริการภายในสนามบิน และมีนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เมื่อได้ใช้บริการรถเมล์ใหม่ทำให้เกิดความประทับใจและสร้างภาพลักษณ์ให้บริการที่ดีของรถเมล์ อย่างไรก็ตามการที่นำมาบรรจุในเส้นทางถาวรอยู่ระหว่างหาข้อสรุปอีกครั้ง

นายชิดชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การที่ ขสมก. เลือกจัดซื้อรถเมล์ไฮบริดในแผนฟื้นฟู ขสมก. ประมาณ 2,000 คันนั้นเนื่องจากรถเมล์ไฮบริดสามารถใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งดีเซลและไฟฟ้าซึ่งจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับรถเมล์ที่ใช้น้ำมันดีเซลและยังช่วยลดมลพิษ ทั้งนี้ยังไม่ต้องมีสถานีเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะเหมือนกับรถเมล์ไฟฟ้าที่ต้องมีสถานีชาร์จแบตเตอร์รี่และต้นทุนลงทุนรถเมล์ไฟฟ้าค่อนข้างสูง ขณะที่รถเมล์ที่ใช้น้ำมันดีเซลตอนนี้มีปัญหาเรื่องราคาค่าน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นมลพิษ ส่วนรถเมล์เอ็นจีวียังมีข้อจำกัดเติมน้ำมันที่มีท่อก๊าซพื้นที่ในเมือง

Cr: https://bit.ly/2LMZCSq