나는 오직 당신을 영원히 사랑합니다. สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ©
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
zasang k wave evolution

ในยุคสมัยที่ชีวิตประจำวัน อินเทอร์เนต โซเชี่ยลเนตเวิค ต่างๆได้เข้าถึง ย่อโลกให้ใกล้ติดอยู่ที่ปลายนิ้ว การดำรงค์ชีวิตในประจำก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นารีหญิงสาววัยเพียง 20 เป็นบัณฑิตจบใหม่ป้ายแดงในปีนี้ เธอเองก็เหมือนกับวัยรุ่นหลายๆคนในวัยเดียวกันที่ ชื่นชอบศิลปินเกาหลี เป็นเพราะสังคมและเพื่อนรอบข้างเธอเป็นแบบนั้น มันจึงไม่แปลกอะไรที่ เธอจึงต้องทำตัวกลมกลืนไปด้วย เพราะมนุษย์ ก็ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์สังคม งานรับปริญญาในปีนี้เพื่อนๆหลายคนมีครอบครัวญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเหล่าบัณฑิตกันทั้งนั้น แต่เธอกลับต้องรู้สึกหงอยๆ เพราะพ่อไม่สามารถมาร่วมยินดีกับเธอได้ ส่วนน้องสาวของเธอเพียงคนเดียวก็มาเกิดป่วยไปซะอีก เธอจึงได้ยืนเฝ้ามองครอบครัวและญาติของเพื่อนที่ใบหน้าของทุกคนต่างเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม เฮ้ยย นารี มายืนทำไรต้องนี้อ่ะ เป็นไรไปหรอ มาๆๆ ถ่ายรูปด้วยกันสิ นารี ตอบปฏิเสธ ไม่เอาหล่ะ ขอบใจ จินดานะ เห้ยย บอกให้มาไง จินดาเพื่อนสาวลาก กระชากแขนของหญิงสาวให้ออกไปถ่ายรูปกับครอบครัวของเธอ มาเหอะ ญาติฉันมากันจนแน่น แบ่งๆกันไป อ้าวๆๆๆนี่ มาถ่ายรูปกับเพื่อนจินดากันหน่อยค่าาา ญาิตทั้งขโยงของจินดา ก็กรูรวมกลุ่มแอ๊คท่าถ่ายรูปกันทันที จน นารี รู้สึกนึกขำอยู่ในใจ แต่ละคนมาหนักจัดเต็มกันทั้งนั้น โพสท่าถ่ายรูปกันที บัณฑิตจบใหม่แทบไม่ได้เกิดกันเลย เป็นไงหล่ะ ญาติๆฉัน ที่เห็นมากัน จนแน่นเนี่ย กะจะมาถ่ายรูปไปอัพ ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊คกันเท่านั้นนะจ๊ะ แต่ละท่านแต่ละนาง เตรียมมากันแม้กระทั่ง พร็อพ นี่ขาดก็แค่ป้ายไฟเท่านั้นอ่ะ นารียิ้ม ที่เพื่อนจิกกัดญาติๆของเธอเอง เออ นารีกลับบ้านยังไงหล่ะ ไปกับเรามั้ย ไม่หรอก ขอบใจ จะแวะไปหาน้องที่ รพ.ด้วยอ่ะ นารีเอ่ย อ้าว น้อง เข้า รพ.หรอ เป็นอะไรมากรึเปล่าหล่ะ แล้วนอน รพ.ไหน นารีตอบไปว่า เป็นไส้ติ่งอักเสบ รพ. ไม่ไกลหรอก เรานั่งแท๊กซี่ไปได้ จินดาๆๆ จะกลับกันรึยัง เสียงชายหนุ่มตะโกนเรียกแต่ไกล อ้อๆเดี่ยวแป๊ปนึงพี่ คุยกับเพื่อนก่อน นารีเอ่ย พี่เธอมาตามแล้ว ไปเถอะ จินดา เออ ก็ได้ๆ มีอะไรก็โทรมาหาฉันนะ จ้า นารีรับคำ

นารี อยู่ กับพ่อน้อง และแม่เลี้ยงของเธอที่บ้าน หลังไม่ใหญ่นัก แต่นารีก็มีพื้นที่ส่วนตัวของเธอ คือนห้องนอนบนชั้น 2 พ่อแต่งงานใหม่หลังจาก แม่เธอเสียงไปได้ตอน เธอ 5 ขวบ และน้องเธอ 3ขวบ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อ ก็ดูห่างกัน เธอจึงใช้ชีวิต อยู่แต่ในห้องหล้งจากกลับจากมหาลัย ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวเล่นไหน จะกลับบ้านดึกๆก็มีบ้างแต่ก็ไม่บ่อย พ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่องสร้าง เป็นบริษัทเล็กๆ ที่พ่อทำมันมาด้วยมือของพ่อเอง ฐานะครอบครัวของเธอ จึงไม่ได้ลำบากอะไรนัก พ่อที่ทำงานหนักมาตั้งแต่ นารี กับน้อง ยังไม่ขึ้นมัธยม หลายครั้งที่ เธอต้องอยู่บ้านกันเพียง 2 คนพี่น้องเท่านั้น เธอมักจะเปรียบเทียบ บ้านเธอกับบ้านจินดาเสมอ ทุกครั้งที่ไปบ้านของเพื่อนสาว เธอเคยคิดว่าไม่อยากจะกลับมาบ้านของเธอเลย ทำไมบ้านเราไม่เป็นแบบนี้บ้างนะ และเมื่อนารีเรียนจบ พ่อเธอก็อยากให้เธอเข้ามาช่วยงานในบริษัท อยากให้มาช่วยเรื่องบัญชี การเงิน แต่แม่เลี้ยงกลับบอกพ่อของเธอว่า นารีคงจะทำไม่ได้ พ่อกล่าวต่อว่า ส่งให้เรียนสูงๆ เรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้ นารีตอบพ่อไปว่า หนูจบสาขา เทคนิคฯคอมฯมา พ่อจะให้ไปช่วยเรื่องการเงินก็ต้องรอ แอนแล้วหล่ะ กว่าแอนจะจบ อีกตั้งปี แก มาช่วยพ่อก่อน น้องสาวเธอกลับบ้านมาพอดี นารีจึงเอ่ยขึ้น แอนๆเธอช่วยดูบัญชี การเงินให้พ่อแล้วกันนะ อ้าว ไรอ่ะ พ่อเริ่มจะหงุดหงิดกับ นารี ทำไมฮะ แกจบมาแล้ว ถ้าไม่ทำงานแล้วจะอยู่เฉยๆหรือไง หนูไม่ได้บอกพ่อว่าจะอยู่เฉยๆนี่ แม่เลี้ยงปรายตามองอย่างไม่พอใจ แล้วเอ่ยว่า ถ้ามันไม่อยากทำจะไปง้อมันทำไม ปล่อยมันไปสิ พ่อเลยย้อนแม้เลี้ยงไปว่า คุณอยู่เฉยๆ ผมจะพูดกับลูกเอง แล้วเรียกลูกว่ามัน อย่าให้ได้ยินอีก ถึงจะไม่ใช่ลูกที่คุณเบ่ง ออกมา แต่มัน ที่คุณว่านี่ เป็นลูกผม แอนเห็นว่าบรรยากาศเริ่มจะไม่ดี เลยรับปากพ่อว่าจะดูบัญชีให้ พ่อก็รู้นี่ ว่านารี ไม่ชอบเรื่องบัญชี ตัวเลข เรื่องเกี่ยวกับเงิน ด้วย แอนทำให้เองค่ะ ให้ นารีทำ พ่อขาดทุนเจ๊งแน่ๆอ่ะ
ก่อนเข้านอน นารีเดินไปที่ห้องน้องสาว นั่งคุยกันตามประสา พี่น้อง ทำไมไม่เข้าไปช่วยพ่อที่บริษัทฯ หล่ะ นารีตอบ เธอไม่เห็นสายตาแม่เลี้ยงหรอไง เขาไม่อยากให้เข้าไปยุ่ง บ่ิอเงินบ่อทองของเขานี่ นั่นแหล่ะ พี่ก็ยิ่งต้องเข้าไปช่วยดิ่ พ่อบ่นๆให้ฟังว่า ขาดทุนๆ นารีเบิกตากว้าง จริงหรอ พ่อพูดแบบนั้นกับเธอจริงๆหรอ แอน น้องสาวเอ่ย อื้มม บ่นให้ฉันฟังหลายครั้งแล้ว ฉันว่าหลังสอบนี่ก็จะเอาบัญชีพ่อมา ตรวจดูอ่ะ พี่โกรธที่ พ่อไม่ไปร่วมงานรับปริญญาหรอ นารีก้มหน้า เปล่าซะหน่อย อย่าๆๆๆมา รู้หน่าา หน้ายี่ห้อเนี่ยมันฟ้อง แอนเย้าพี่สาว บอกว่า เปล่าไง แค่น้อยใจเฉยๆ อ่านหนังสือต่อเหอะ ฉันจะไปนอนแล้ว นารีกล่าว นอนจริงๆอ่ะ เล่นคอมฯจนดึกอ่ะดิ่ แล้วพี่จะทำไงเรียบจบแล้ว ไม่เข้าไปช่วยงานพ่ออ่ะ น้องสาวเอ่ยถาม นารีตอบว่า จะลองไปหาประสบการณ์จากข้างนอกดูก่อน น้องสาวเอ่ย พี่ จะบ้าหรอ แทนที่จะอยู่ช่วยงานพ่อ ก็มีเธออยู่แล้วไง รีบๆเรียนให้จบ ดิ่ จะได้มาช่วยงานพ่อ โธ่ ไอพี่บ้า อีกตั้งปี นั่นแหล่ะ ปีนึงแป๊ปเดียวเอง พี่ไม่กลัวพ่อตัดเงินค่าขนมหรอฮ่ะ นารีเลยนึกได้ จริงสิเรียนจบแล้วนี่ ถ้าไม่ช่วยงานพ่อ พ่อคงไม่ให้เงินค่าขนมแน่ๆเลย

2 3 วันต่อมา จินดานัด นารีมาเจอกันที่ห้างฯ นี่ตั้งแต่วันนั้นเธอก็เงียบหายไปกับสายลมเลยนะ ไหนฉันบอกให้ติดต่อฉันมาไงเพื่อนสาวติง อ้าวก็ไม่มีเรื่องอะไรนี่ เธอบอกมีเรื่องอะไรก็ให้เธอมาไม่ใช่หรอ โธ่ ไอกวน ไอเกรียน เดี๊ยวตบเกรียนแตกรุยนิ แล้ว ออนไลน์ เห็นฉันก็ทำเป็นไม่ทักนะ นี่ถ้าฉันไม่คบเธอ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครคบเธอแล้วนะ นารี อึ้งไปทันที มันก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอพูดมานั่นแหล่ะ จะมีใครมาคบกับเธอ หน้าตาก็ บ้านๆ นิสัยก็แปลกๆ ผู้หญิงก็ไม่มี ผู้ชายยิ่งไม่ต้องคาดหวัง เออ แล้วทำไมจินดา ถึงคบฉันเป็นเพื่อนหล่ะ เพื่อนสาววางแก้วกาแฟลง แล้วตอบกลับไปว่า เพราะเธอซื่อ(บื้อ)มั้ง เอร้ยย ซื่อๆอ่ะ นี่ การเรียนเก่งเรียนดีบางครั้งก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตมันดีขึ้นหรอกนะ เธอรู้ไหมว่าโลกเดี๊ยวนี้หน่ะมันอยู่ยากขึ้นทุกวัน เธอหัดสนใจใส่ใจคนรอบข้าง สังคมบ้างดิ่ หง่ะ ตกลงนัดออกมานี่ มาฟังพุทธโอวาท จากแม่ชี จินดาใช่มั้ย ไปดูหนังกันมะ ทำไมคนเยอะจังวันนี้ นารี มองเห็นโต๊ะข้างๆ มีสาวๆกำลังกรี๊ดๆเสียงดัง จนคนในร้านตกใจ มันอะไรกันวะ จินดาหันไปมอง นารีเอ่ย มีคอนเสริทของใครมาอ่ะ เหมือนวันนี้จะเปิดขายบัตร เห้ยย เป็นไปได้ยังไง ทำไมฉันตกข่าว ไม่ได้การแล้ว นารีเธอนั่งรอฉันก่อนนะ เดี๊ยวขอเวลาแป๊ปนึงไปอัพเดท ก่อน จินดาเดินหายออกไป ไม่เกนิ 10 นาที เพื่อนสาวกลับมาด้วยอาการ รีบร้อน เฮ้ย ไปเหอะ นารี ลุกๆๆ เดี๊ยวไม่ทัน ทำไมอ่ะ ไปไหน ดูหนังหรอ เปล่าๆ ไปจองบัตรคอนฯ ของโปรเจค วัน กัน เร็วซี่ เพื่อนสาวกระชากเธออาจากร้านทันที วงนี้ บัตรแพงโคตรเลยอ่ะ ไม่เอาๆหล่ะ ฉันไม่ดู นารีตอบ ไปดูก่อนเหอะว่าเหลือบัตรให้ซื้อรึเปล่า สงสัยคงเป็นช่วงที่เราซ้อมรับปริญากันแน่ๆอ่ะตายเลยฉัน พลาดไปได้ไง นั้น จินดาเธอไปถามที่เค้าท์เตอร์ดูสิ แล้วเธอหล่ะ เพื่อนสาวเอ่ย ฉันจะไปห้องน้ำนะ เดี๊ยวตามไป จินดาหลี่ตามองเพื่อนสาว กลัวว่า นารีจะหนีเธอกลับบ้านไปเหมือนอย่างที่เคยทำมาแล้ว อย่าๆหนีกลับบ้านนะเฟร้ยย ขอเตือนไว้ก่อนไม่งั้น ฉันเลิกคบเธอแน่ แล้ว นารีก็แยกตัวมาเข้าห้องน้ำ เพี้ยงๆๆๆของให้บัตรมันขายหมดทีเหอะ จะได้ไม่ต้องซื้อ นารีนั่งภาวนาอยู่ในส้วม บัตรคอนฯ วีไอพี ตั้ง ครึ่งหมื่น เธอแอบเสียดาย ยิ่งคิดถึงเรื่องที่เธอ อาจโดนพ่อตัดค่าขนมด้วย เธอถึงกับส่ายศรีษะ ไม่อ่ะ ให้ตายยังไงก็ไม่ดู นารี ออกมาล้างมือ หาวิธีที่จะหนีกลับบ้านอย่างเนียนๆ หญิงสาวยืนคิดอยู่ จะทำยังไงไม่ให้เพื่อนมันเลิกคบ เห้อยย ขอแค่บัตรมันขายหมดก็พอ ต่อให้ นารีไม่อยากดู จินดาก็จะซื้อบัตรมายัดเยียดเธออยู่ดี หนีกลับดีกว่าอ่ะ คิดได้ดังนั้นเธอก็ล้างมือเตรียมออกจากห้องน้ำ หันไปดึงกระดาษเช็ดมือ เธอก็เจอกับ แผ่นกระดาษที่ถูกขยำที้งในถ้งขยะ ใกล้ๆ มันคล้ายๆกับ กระดาษที่เธอเห็นบนโต๊ะของ กลุ่มหญิงสาวๆที่นั่งโต๊ะข้างๆในร้านกาแฟ จึงหยิบมาค่อยๆคลี่ออกดู เห้ยย ...อะไรอยู่ในถังขยะ เสียงเพื่อนสาวดังจากข้างหลัง ท้องเธอผูกหรือไง ถึงได้เข้าห้องน้ำนานขนาดนี้อ่ะ นารีรีบขยำกระดาษนั่นทันที อ้อ คนมันเยอะนี่ เธอก็ดูสิ แล้วเป็นไงอ่ะ เห็นสีหน้าเพื่อนก็รู้ได้ทันที แก บัตรขายหมดภายใน 3 วัน หรออ นารีสีหน้าดีใจสุดๆ หมดแล้วหรอ ว้า ไว้ดูวงใหม่ก็ได้นี่ เนอะ แล้วเธอกำอะไรอยู่ในมืออ่ะ ฉันเห็นเธอหยิบมันขึ้นมาจากถังขยะ นารีรีบปฎิเสธ อ้อเศษกระดาษอะไรก้อไม่รู้ แล้วเธอก็เหวี่ยงมันลงถังไปอีกที ไปเหอะ ถ้าไม่ดูหนังฉันจะได้กลับบ้าน แต่เพื่อนสาวเงียบ สายไปแล้วจินดาหยิบ เศษกระดาษมาคลีดู แล้วเงียบไป จินดารีบคว้ามือเพื่อนเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว สองคนมองหน้ากัน ขณะอยู่บนแท๊กซี่ นิสัยหว่ะ นารีอ่ะ นี่ถ้าฉันไม่หันกับไปหยิบมันในถังขยะขึ้นมาอีก คงอดดู โปรเจค วันแน่ๆเลย นี่เธอตาแหกหรอไงห๊ะ นี่มันตั๋วคอนฯ วีไอพี นะ ขยำทิ้งส่งๆไปได้ยังไง อ้าว ก็ฉันไม่อยากดูนี่ แต่ฉันอยากอ่ะ สองคนเถียงกันจน คนขับรถเหล่มอง ทั้งคู่จึงหลี่วอลวุ่มลง ตกลงเธอไม่อยากมีเพื่อนไม่อยากคบใครสินะ ถึงได้แสดงท่าทีแบบนี้ ฉันสู้อุตส่าห์ คิดว่าคบเธอคงน่าจะดีกว่ามีเพื่อน สตอ(แหล) แต่คงคิดผิด นิสัยเธอนี่แปลกอย่างที่หลายคนพูดกันจริงๆนั้นแหล่ะ เธอคงอยากอยู่แต่ในโลกส่วนตัวของเองสินะ ทำเอา นารีเงียบจนเถียงอะไรไม่ออกเลย น้าค่ะหนูจะลงข้างหน้า ช่วยจอดด้วย อ่ะ จินดายื่นบัตรที่เป็นปัญหาคืนให้ นารี เธอจะเอาไปปาหัวหมาที่ไหนก็ตามใจ นารีรู้ว่า คงทำให้เพื่อนสาวเธอโกรธมาก แต่ ณ จุดนั้นก็พูดอะไรไม่ออกจริงๆ

เมื่อเธอกลับถึงบ้าน บ้านก็มืดเงียบเหมือนเคย แต่วันนี้มันดูทะมึน ครื้มกว่าก่อน เสียงมือถือเธอดัง นารี รับสาย อ้อ แอนหรอ มีไร แล้วทำไมดึกนักหล่ะ ติวหนังสือ หรอติวกันที่ไหน เออ ฉันกินข้าวมาแล้วอ่ะ เห็นแล้วยอดเงินอ่ะ เออๆ รีบๆกลับนะ นารีวางสายจากน้อง พ่อกับแม่เลี้ยงไปสิงค์โปร น้องก็กลับบ้านดึกอีก เพื่อนก็มาตีจาก วันนี้มันเป็นวัน นรกแตกหรือไงนะ


Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2556 12:07:31 น. 0 comments
Counter : 345 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

fanrongjaing
Location :
Taiwan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






blogger analyzer
New Comments
Friends' blogs
[Add fanrongjaing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.