เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
Italy
Kenya
Africa
Asia
Europe
Home Cuisine
English and whatnot
For the Sake of Complaining
Misc
<<
ตุลาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
14 ตุลาคม 2554
เคนยา : ทะเลสาบมากาดิ แดดร้อน น้ำพุร้อน คนก็ใจร้อน
All Blogs
เคนยา : วัดแขกอินเดียในเคนยา ที่พึ่งทางใจพุทธศาสนิกชนยามไร้วัดพุทธ
เคนยา : เทศกาลดอกจักกะรันดาบาน
เคนยา : สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าโบสถ์ อนุสรณ์เชลยสงครามโลกครั้งสุดท้าย
เคนยา : Hells Gate ไต่ มุด ล่อง
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนจบ)
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนเริ่ม)
เคนยา : คนดีตกน้ำไม่ไหล แต่เปียกและอาย
เคนยา : ตามหานกฟลามิงโกสีชมพูไปจนสุดขอบเลค
เคนยา : Lake Elementaita เป็นเอดส์มายังสู้หาย
เคนยา : ล่องแก่งเบียดเสียด จะเครียดไปไหน
เคนยา : Kisumu เมืองปลานิล
เคนยา : เกาะพระจันทร์เสี้ยว สองเลี้ยวก็ถึง
เคนยา : Paradise Lost สวรรค์ที่หายไปแล้วไม่น่าหาเจออีก
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 4)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 3)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 2)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 1)
เคนยา : อเบอร์แดร์ สวยแท้ดั่งภาพวาด
เคนยา : โรงงานทำแก้วจากของเหลือใช้ reuse หรือ recycle
เคนยา : Mount Suswa ภูเขาไฟดับแล้วที่ไม่ต้องปีน
เคนยา : ทะเลสาบมากาดิ แดดร้อน น้ำพุร้อน คนก็ใจร้อน
Hells Gate : ประตูสู่นรกกับการได้ไปที่ชอบที่ชอบ
Ngong Forest แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ถูกสาดด้วยความรู้
เคนยา : ไร่ชาของคุณป้าผู้ดี
เคนยา : อึ้ง น้ำตก 7 สาวน้อยยังมีฝาแฝด คนไทยค้นพบน้ำตก 14 สาวน้อยที่เคนยา
เคนยา : พาไปปีนเขาให้เมื่อยตุ้มเล่น
เคนยา : ดำน้ำดูปลา เคนยาเขาก็มี
เคนยา : มอมบาซา เมืองท่า เมืองเที่ยว
เคนยา : นากูรู ในป่ามีนก ในเมืองมีตึก ในสนามกีฬามีทอง
เคนยา : Lake Naivasha Country Club หนีความวุ่นวาย สายๆ ก็มาถึง
เคนยา : ประสบการณ์ตรงจาก(ปาก)ผู้เดินทางมาท่องเที่ยว
เคนยา : กุหลาบจะสวยไปไหน สวยไม่เผื่อแผ่ใคร สวยไม่บันยะบันยัง
เคนยา : ประพฤติตัวเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีบ้างไรบ้าง....
เคนยา : นกกระจอกเทศยังไม่ทันกินน้ำ
เคนยา : ภัยใกล้ตัวที่ใกล้เข้ามาจนเกือบชิด
เคนยา : อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนเจ้าไม่มีศาล
เคนยา : จะขอผ่านเข้าเมือง โปรดชำเรืองสักนิด
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 2)
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 1)
เคนยา : Mount Kenya สูงกว่า ไกลกว่า แพงกว่า เสล่อกว่า
เคนยา : รถมือสอง ลองมาขับ จับไม่กลัว
เคนยา : Do you ride an elephant to work?
เคนยา : ซาฟารีพาร์ค สมใจอยาก กินไม่หยุดปาก
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 2)
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 1)
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 2
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 1
เคนยา : ขึ้นไปเป็นเจ้าหญิงลงมาเป็นพระราชินี
เคนยา : Thomson’s Falls น้ำตกจากนรกสู่สวรรค์
เคนยา : ซาฟารีใหญ่กลางใจเมือง
เคนยา : เอนเตอร์เทนเมนต์และแหล่งมั่วสุมของฆาตกร (ฆ่าเวลา)
เคนยา : สงกรานต์แบบไทยในแอฟริกา
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (2)
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (1)
เคนยา : ช่วยลูกช้างด้วย...เจ้าประคู๊ณ
เคนยา : อยู่อย่างคนไม่ไร้ที่ซุกหัวนอน
เคนยา : นากูรู เช้าตรู่ ฟลามิงกู สีชมพู น่าดู
เคนยา : พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เชยๆ แบบทันสมัย
เคนยา : Giraffe Center จูบแรกกับน้องยีราฟ
เคนยา : Karen Blixen แหม่มผิวขาวที่คนเคนยารู้จักมากที่สุด
เคนยา : ของขึ้นหน้าขึ้นตาที่ไม่ใช่สิว
เคนยา : Hell's Gate ประตูสู่นรก ?
เคนยา : ทะเลสาบไนวาชากับชีวิตสุดฮิป (โป)
เคนยา : The Rift Valley รอยแยกแห่งกาฬทวีป
เคนยา : ทะเลสาบมากาดิ แดดร้อน น้ำพุร้อน คนก็ใจร้อน
แห่งหนตำบลไหนที่เขาว่าดีว่าสวย เราดั้นด้นไปกันเกือบครบแล้ว จะไปไหนที เดี๋ยวนี้ต้องลงทุนเปิดกูเกิ้ลแม็พแล้วจิ้มๆ เอา วันนี้จิ้มไปโดนทะเลสาบมากาดิ (Lake Magadi) ซึ่งห่างออกไปจากกรุงไนโรบีประมาณ 100 กม. แต่ถนนดีบ้าง ไม่ดีบ้างและแวะฉี่แวะเยี่ยวอยู่อีก กว่าจะถึงจริงๆ ก็ปาเข้าไป 3.5 ชม.
เจ้าของทะเลสาบและเมืองมากาดิเป็นบริษัทเอกชนชื่อ Magadi Soda Company ซึ่งเป็นบริษัทผลิตโซดาใหญ่ที่สุดในเคนยา ทางเข้ามีป้ายบอกชัดเจน
เข้ามาด้านในก็พบกับทะเลสาบสีชมพู ไม่ได้สีชมพูเพราะนกฟลามิงโกสีชมพู แต่ชมพูเพราะแร่ธาตุและโซดาที่เข้มข้น รวมทั้งอาจจะเป็นที่ระบายของเสียจากโรงงานโซดาด้วย
จากทางเข้าบริษัทโรงงานโซดามาถึงทางเข้าทะเลสาบมากาดิ ที่ต้องหยุดรถเพื่อชำระค่าเข้า ห่างกันไม่มากนัก ค่าเข้ามีป้ายบอกสนนราคาไว้ชัดเจนเช่นเดียวกัน คนละ 250 ชิลลิ่งและคิดค่ารถคันละ 300 ชิลลิ่ง ถือว่าไม่แพง เพราะทะเลสาบเองไม่ได้เป็นอุทยานแห่งชาติ เอกชนบริหารจัดการกันเอง
จากจุดชำระเงิน ขับรถเข้าไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงตัวทะเลสาบ ซึ่งดูแห้งแล้งมาก น้ำลดจนเหลือไม่มากนัก แดดร้อนระอุ
พยายามจะหาที่จอดรถใต้ร่มไม้ ก็หาไม่ได้เลย จอดรถกันริมถนนแล้วเอากล้องออกมาถ่ายรูปสัตว์ในทะเลสาบกัน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนกฟลามิงโกสีชมพู ที่ปัจจุบันหาดูได้ยากเต็มที ทะเลสาบนากูรูที่เคยมีนกชนิดนี้อยู่มาก ก็ลดจำนวนลงอย่างน่าตกใจ
ทุกคนถ่ายภาพด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน คือ มือหนึ่งยกกล้องขึ้นถ่าย อีกมือหนึ่งยกขึ้นบังแดด ร้อนแรงเหลือเกิน
ถ่ายรูปนกกันเสร็จ ก้มดูนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายโมงตรง แต่หิวข้าวมากกว่าปกติ คงโดนแดดเผาผลาญพลังงานส่วนเกินไปด้วย แดดก็ร้อน ไม่อยากให้คนอารมณ์ร้อน เลยตกลงหาที่เหมาะๆ ปิกนิกกัน
ขับรถวนหาอยู่นานสองนาน แค่จะหาร่มไม้ที่ใหญ่พอจะบดบังแดดระหว่างรับประทานอาหารกลางวันสำหรับคน 10 คน หายากเหลือเกิน คิดผิดจริงๆ ที่มาเที่ยวทะเลสาบหน้าแล้ง
หาสุมทุมพุ่มไม้ที่พอมีร่มเงาได้ก็บรรเลงกันเลย
ควักอาหารกลางวันที่เตรียมมาออกมาจกกันไม่เกรงใจแมลงวันกับกองขี้วัวของชนเผ่ามาไซ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก
มาไซขี้เหนียว เดินต้อนฝูงวัวผ่านมา ขอถ่ายรูปหน่อยก็ไม่ได้ เลยต้องแอบถ่าย
ทานเสร็จ ออกรถต่อไปอีกไม่เกินสอง กม. ก็มาถึงไฮไลท์ที่แท้จริงของทะเลสาบแห่งนี้
เป็นบ่อน้ำพุร้อนกลางทะเลสาบที่แห้งเหือด จึงไม่พลุ่งพล่านจากใต้พิภพเหมือนที่เคยเห็นในรูปและหายากมากกว่าจะเจอ ต้องให้คนท้องถิ่นพาไปชี้จุด
เห็นสภาพแล้ว ขอเรียกว่าบ่อน้ำผุดร้อน แทนบ่อน้ำพุร้อน จะใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่า
น้ำใส มีตะกอนเป็นพวกตะไคร่น้ำเขียวอี๋อยู่ก้นบ่อและทางเดิน ทำให้ลื่นปร๊าด เดินไม่ดูหน้าดูหลัง อาจตีลังกาหัวทิ่มบ่อได้
น้ำร้อน แต่ไม่ขนาดเดือดปุดๆ พอเอาแขน ขาและตัวลงไปแช่ได้อยู่ แม้จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะเป็นคนจึงไม่มีฉนวนกันความร้อน แต่คนบางคนก็ลงไปแช่ได้นานสองนาน
ครั้นจะวักน้ำมาล้างหน้า กลิ่นกำมะถันก็แรงเหลือเกิน เลยวักใส่คนอื่นแทน กลัววักใส่หน้าแล้วเลเซอร์หน้าใสที่ทำมาจะเสียหายหมด
เล่นเพลินๆ อยู่ในบ่อได้ไม่ถึง 15 นาที หันมาบนฝั่ง คนมาไซมาจัดกระบวนตั้งของขายกันพรึ่บแล้ว เป็นตลาดขายของที่ระลึกแบบพกพา ราคาโอเคแล้วแต่ต่อรอง
พี่ๆ น้องๆ ก็ช่วยซื้อกันคนละเล็กละน้อย ช่วยส่งเสริมรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย เพราะดูๆ แล้ว ทะเลสาบแบบนี้ มาไกลขนาดนี้ อากาศร้อนแสบตับขนาดนี้ คงไม่มีนักท่องเที่ยว (หลงเข้ามา) มากนัก
กลับออกมาตอนประมาณสี่โมงเย็น ผ่านเพื่อนร่วมทางขำๆ แต่คนที่ผมไปด้วยไม่ค่อยขำล่ะ บอกว่าคราวหน้าถ้ามากันดารขนาดนี้แล้วมีแค่รูน้ำผุดเล็กๆ ให้ดู เขาขอบาย ปิดตาจิ้มกูเกิ้ลแม็พคราวนี้ไม่ได้ผล เอาไว้ขอแก้มือครั้งหน้าครับ
Create Date : 14 ตุลาคม 2554
Last Update : 18 ตุลาคม 2554 21:06:52 น.
3 comments
Counter : 2104 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยมชมครับ
โดย:
BoonsermLover
วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:20:51:13 น.
ธรรมชาติดีครับ ถ้าระบบจัดการดีกว่านี้ นักท่องเที่ยวคงมากกว่านี้
โดย:
ablaze357
วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:13:08:02 น.
ไข่สุกยังอ่ะ?
โดย: นพ IP: 58.11.180.165 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:21:41:48 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Thaisoloclub
Location :
Rome Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [
?
]
Friends' blogs
nungkwak
Qingqing
Webmaster - BlogGang
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.