เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
Italy
Kenya
Africa
Asia
Europe
Home Cuisine
English and whatnot
For the Sake of Complaining
Misc
<<
กรกฏาคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
22 กรกฏาคม 2555
เคนยา : Lake Elementaita เป็นเอดส์มายังสู้หาย
All Blogs
เคนยา : วัดแขกอินเดียในเคนยา ที่พึ่งทางใจพุทธศาสนิกชนยามไร้วัดพุทธ
เคนยา : เทศกาลดอกจักกะรันดาบาน
เคนยา : สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าโบสถ์ อนุสรณ์เชลยสงครามโลกครั้งสุดท้าย
เคนยา : Hells Gate ไต่ มุด ล่อง
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนจบ)
เคนยา : ซัมบูรู ถิ่นนักรบที่แม้ไม่ใช่มาไซ แต่ก็ใกล้เคียง (ตอนเริ่ม)
เคนยา : คนดีตกน้ำไม่ไหล แต่เปียกและอาย
เคนยา : ตามหานกฟลามิงโกสีชมพูไปจนสุดขอบเลค
เคนยา : Lake Elementaita เป็นเอดส์มายังสู้หาย
เคนยา : ล่องแก่งเบียดเสียด จะเครียดไปไหน
เคนยา : Kisumu เมืองปลานิล
เคนยา : เกาะพระจันทร์เสี้ยว สองเลี้ยวก็ถึง
เคนยา : Paradise Lost สวรรค์ที่หายไปแล้วไม่น่าหาเจออีก
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 4)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 3)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 2)
เคนยา : ภารกิจพิชิต Mt. Kenya (วันที่ 1)
เคนยา : อเบอร์แดร์ สวยแท้ดั่งภาพวาด
เคนยา : โรงงานทำแก้วจากของเหลือใช้ reuse หรือ recycle
เคนยา : Mount Suswa ภูเขาไฟดับแล้วที่ไม่ต้องปีน
เคนยา : ทะเลสาบมากาดิ แดดร้อน น้ำพุร้อน คนก็ใจร้อน
Hells Gate : ประตูสู่นรกกับการได้ไปที่ชอบที่ชอบ
Ngong Forest แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ถูกสาดด้วยความรู้
เคนยา : ไร่ชาของคุณป้าผู้ดี
เคนยา : อึ้ง น้ำตก 7 สาวน้อยยังมีฝาแฝด คนไทยค้นพบน้ำตก 14 สาวน้อยที่เคนยา
เคนยา : พาไปปีนเขาให้เมื่อยตุ้มเล่น
เคนยา : ดำน้ำดูปลา เคนยาเขาก็มี
เคนยา : มอมบาซา เมืองท่า เมืองเที่ยว
เคนยา : นากูรู ในป่ามีนก ในเมืองมีตึก ในสนามกีฬามีทอง
เคนยา : Lake Naivasha Country Club หนีความวุ่นวาย สายๆ ก็มาถึง
เคนยา : ประสบการณ์ตรงจาก(ปาก)ผู้เดินทางมาท่องเที่ยว
เคนยา : กุหลาบจะสวยไปไหน สวยไม่เผื่อแผ่ใคร สวยไม่บันยะบันยัง
เคนยา : ประพฤติตัวเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีบ้างไรบ้าง....
เคนยา : นกกระจอกเทศยังไม่ทันกินน้ำ
เคนยา : ภัยใกล้ตัวที่ใกล้เข้ามาจนเกือบชิด
เคนยา : อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนเจ้าไม่มีศาล
เคนยา : จะขอผ่านเข้าเมือง โปรดชำเรืองสักนิด
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 2)
เคนยา : เมาท์ลองโกน็อต เม้าท์แตกกลางภูเขาไฟ ถอดใจไปหลายรอบ (ภาค 1)
เคนยา : Mount Kenya สูงกว่า ไกลกว่า แพงกว่า เสล่อกว่า
เคนยา : รถมือสอง ลองมาขับ จับไม่กลัว
เคนยา : Do you ride an elephant to work?
เคนยา : ซาฟารีพาร์ค สมใจอยาก กินไม่หยุดปาก
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 2)
เคนยา : มาไซมาร่า...สามเดือนผ่านไป ไฉไลกว่าเดิม (ตอน 1)
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 2
เคนยา : มาไซ ชนเผ่ามาทำไม ตอน 1
เคนยา : ขึ้นไปเป็นเจ้าหญิงลงมาเป็นพระราชินี
เคนยา : Thomson’s Falls น้ำตกจากนรกสู่สวรรค์
เคนยา : ซาฟารีใหญ่กลางใจเมือง
เคนยา : เอนเตอร์เทนเมนต์และแหล่งมั่วสุมของฆาตกร (ฆ่าเวลา)
เคนยา : สงกรานต์แบบไทยในแอฟริกา
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (2)
เคนยา : คิลิมันจาโร ยอดหิมะสูงระฟ้า (1)
เคนยา : ช่วยลูกช้างด้วย...เจ้าประคู๊ณ
เคนยา : อยู่อย่างคนไม่ไร้ที่ซุกหัวนอน
เคนยา : นากูรู เช้าตรู่ ฟลามิงกู สีชมพู น่าดู
เคนยา : พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เชยๆ แบบทันสมัย
เคนยา : Giraffe Center จูบแรกกับน้องยีราฟ
เคนยา : Karen Blixen แหม่มผิวขาวที่คนเคนยารู้จักมากที่สุด
เคนยา : ของขึ้นหน้าขึ้นตาที่ไม่ใช่สิว
เคนยา : Hell's Gate ประตูสู่นรก ?
เคนยา : ทะเลสาบไนวาชากับชีวิตสุดฮิป (โป)
เคนยา : The Rift Valley รอยแยกแห่งกาฬทวีป
เคนยา : Lake Elementaita เป็นเอดส์มายังสู้หาย
หาเรื่องให้คนอื่นหรือตัวเองเที่ยวทุกครั้งก็เป็นอันต้องปวดหัวทุกที ไม่รู้จะพากันไปไหนดี หลายที่ไปมาแล้วอยากไปอีก บางที่ยังไม่เคยไปแต่ไม่ไปก็ได้ บางที่ทางดีวิวแย่ บางทีวิวดีทาง รพช. และเมื่อโอกาสเที่ยวมาถึง จึงตั้งใจจะพากันไปอุทยานแห่งชาติ Hells Gate น่าจะรอบที่สองหรือสามแล้วกระมัง แต่ทุกครั้งที่มา Hells Gate มีเหตุให้ไม่สามารถพิชิตจุดหมายปลายทางของการเดินท่องป่าลอดถ้ำของอุทยานแห่งนี้ ซึ่งมีระยะทางเพียง 13 กม. ได้ทุกทีไป
คราวนี้ก็เช่นกัน หลังจากโทรตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่อุทยานตามเบอร์ที่ให้ไว้บนเว็บ ซึ่งก็โทรไม่ติดจนต้องโทรถามเพื่อนอีกคนที่เป็นเจ้าหน้าที่อุทยานส่วนกลางถึงได้เรื่องว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าฝน ทำให้อุทยานแห่งชาติ Hells Gate ปิดให้บริการบางส่วนโดยเฉพาะส่วนที่เป็นทางน้ำและถ้ำที่ต้องมีการปีนป่าย เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวจากน้ำป่าไหลหลาก เป็นว่าผิดหวังไปอีกรอบ
เป้าหมายต่อไปที่คิดไว้แล้วว่าถ้า Hells Gate ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ คือ ทะเลสาบเอเลเมนไตตา (Lake Elementaita) เป็นทะเลสาบที่ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ อยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบไนวาชาและทะเลสาบนากูรู เนื่องจากเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติของเอกชน จึงอาจไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ความสงบ สวยงามและการพัฒนาในแง่ของสิ่งปลูกสร้าง โรงแรมและที่พักค้างคืนคงจะอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร อันนี้เป็นจินตนาการที่มโนเอาก่อนได้ไปจริง
เมื่อทุกคนตกลงจะร่วมทางกันไปทะเลสาบเอเลเมนไตตาแล้ว ผมจึงได้โทรไปหาข้อมูลเพื่อจะทำการจองอาหารกลางวันสำหรับคน 10 คน โทรไปตามลอดจ์หรือโรงแรมริมทะเลสาบหลายที่ ต่างก็อ้างว่าทำเลที่ตั้งของโรงแรมตนดีเยี่ยมเห็นวิวทะเลสาบ อาหารอร่อยและมีกิจกรรมให้ทำสารพัด ไม่รู้จะจองที่ไหนดี เลยลองกูเกิลเร็วๆ เห็นหลายคนพูดถึง Sunbird Lodge ว่าวิวดี บริการใช้ได้ จึงได้ยกหูโทรไปจองอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อย
ตอนเช้าไม่ได้ออกจากไนโรบีกันแต่เช้าตรู่ เพราะระยะทางห่างออกไปประมาณ 130 กม. เท่านั้น ถนนหนทางสายนี้ก็ดีใช้ได้ ออกกันสายๆ ประมาณ 10 โมง กะว่าไปถึงทะเลสาบช่วงรับประทานอาหารกลางวันพอดี
แวะจุดชมวิว Rift Valley กันตามเคย แต่คราวนี้วิ่งถนนเส้นบน (มีเส้นบนกับเส้นล่าง) เส้นบนรถน้อยกว่าแต่เส้นล่างวิวสวยกว่า
แต่ถึงจะวิ่งเส้นล่างในวันนี้ก็จะผิดหวังอยู่ดี เพราะหมอกลงหนาขนาดนี้ ไม่ว่าจะวิ่งเส้นไหนก็มองไม่เห็นอะไรอยู่ดี
แวะร้านขายของที่ระลึกเพื่อยืดแข้งยืดขาและเข้าห้องน้ำเป็นหลัก ของที่ขายในร้านกับที่มาเร่ขายแทบจะไม่มีใครซื้อ เพราะในไนโรบีถูกกว่ามาก
ที่แวะริมทางนี้มีไว้ขายนักท่องเที่ยวจริงๆ พอเราต่อไปถูกๆ ไม่ขาย แต่พอเห็นว่ารถเรากำลังจะออก (กำลังจะสูญเสียลูกค้าไปแล้ว) วิ่งมาเกาะข้างรถลดราคากันกระหน่ำ
ประมาณ 11 โมงครึ่ง ฟ้าจึงเริ่มเปิด แดดช่วงสายช่วยขับไล่หมอกออกไป ทำให้วิวทิวทัศน์น่ามองและอากาศดีขึ้นเป็นกอง
ประมาณเที่ยงตรงเราจึงเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ชื่อว่า Sunbird Lodge ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงจากกรุงไนโรบี
สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึง คือ เดินสำรวจและถ่ายภาพ ทั้งที่เป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้วและพวกเราหลายคนรวมทั้งตัวผมก็หิวข้าวแล้วด้วย แต่ความสวยงามแปลกตาของโรงแรมแห่งนี้ และวิวของทะเลสาบด้านล่าง รวมทั้งนิสัยชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจของคนไทย ทำให้พวกเราทุกคนลืมความหิวกันไปชั่วขณะ
Elementaita เป็นคำที่ฝรั่งเมื่อครั้งกระโน้นเรียกเพี้ยนมาจากภาษามาไซ ซึ่งแปลว่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่น เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบมีชื่อของเคนยา คือ ทะเลสาบไนวาชาและทะเลสาบนากูรู แต่เอเลเมนไตตาเองไม่มีชื่อเสียงเท่า
ไกด์เล่าว่าหลายร้อยปีก่อนหน้านี้ ทะเลสาบทั้งสาม ซึ่งมีระยะทางห่างกันเป็นร้อย กม. เป็นทะเลสาบเดียวกัน ซึ่งคงเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่มากๆ
ชาวมาไซมีความเชื่อว่าน้ำพุร้อนที่อยู่มุมหนึ่งของทะเลสาบแห่งนี้ (ซึ่งเราไม่ได้ไป) มีคุณสมบัติในการรักษาโรคร้ายต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคเอดส์ เรื่องนี้ อย. ไม่รับรองและไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์นะครับ
ด้วยเหตุที่ทะเลสาบแห่งนี้เป็น soda lake อุดมไปด้วยสารอาหารและสาหร่ายที่นกฟลามิงโกชอบกิน จึงมีนกฟลามิงโกให้เห็นบ้าง แต่ก็อยู่ไกลแสนไกล เกือบจะอีกมุมหนึ่งของทะเลสาบเลยทีเดียว ต้องใช้กล้องส่องทางไกลดู จะลงไปก็ไม่ได้ เพราะทะเลสาบไม่สามารถเข้าถึงหรือขับรถรอบได้เหมือนทะเลสาบอื่น อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยม
ที่พักแห่งนี้ เขาว่าเขาได้ทำเลดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับที่พักอื่นๆ เพราะของเขาอยู่บนเนินผา มองเห็นวิวได้จากที่สูงและโดยรอบ
ที่พักรอบๆ ทะเลสาบนี้ มีอยู่ประมาณ 10 แห่ง หลายแห่งมองเห็นได้จาก Sunbird Lodge บางแห่งตั้งอยู่ด้านล่างริมทะเลสาบ บางแห่งตั้งอยู่ที่ชะง่อนผาถัดไป
แต่ดูๆ แล้ว Sunbird Lodge คงจะวิวดีแล้วจริงอย่างเขาว่า
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อที่พักนี้ คือ เพื่อนชาวเคนยาเป็นคนแนะนำ บอกว่าสวยงาม สงบเงียบและเหมาะกับการมาทำโรแมนติก เรามากันเป็นหมู่คณะ คงเน้นสวยงามมากกว่าโรแมนติก
สถานที่เขาสร้างดีใช้ได้ครับ ล็อบบี้และที่รับประทานอาหารมองเห็นวิวทะเลสาบทั้งหมด
สระว่ายน้ำดูสะอาด แดดแรงๆ แบบนี้ ถ้าเอากางเกงว่ายน้ำติดมา น่าจะได้ลงไปดำผุดดำว่าย
ไกด์พาพวกเราชมห้องพักและชักชวนให้มานอนพักแรมในครั้งหน้า หากมีโอกาส
ดูห้องหับและการตกแต่งแล้ว Sunbird Lodge เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่หนึ่ง หากเบื่อหน่ายสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมกันแล้ว
สนนราคา จำไม่ได้ครับ น่าจะคืนละห้าหกพันบาทนะ ราคาสูงหน่อยแต่ถือว่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
ชมห้อง ชมวิว ถ่ายภาพกันจนพอใจ จึงเริ่มนึกถึงอาหาร ซึ่งควรจะได้รับทานกันตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
อาหารที่นี่เขาจัดเป็นคอร์สครับ มีซุป อาหารจานหลักและอาหารหวาน ราคาคนละ 1,600 ชิลลิ่งหรือประมาณ 500 บาท ผมต่อเหลือ 1,500 ชิลลิ่งเพราะมากันเป็นสิบคน
เราเลือกโต๊ะที่ดีที่สุด ใต้ร่มไม้ มองเห็นวิวพาโนรามาของทะเลสาบ แต่มองไปรอบๆ แล้วก็มีแหม่มแก่ๆ นั่งอยู่อีกโต๊ะเท่านั้น จึงระลึกได้ว่าหน้านี้ไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวเพราะเป็นหน้าฝน แต่โชคดีเรายังไม่เจอฝนกันเลยในวันนี้
อาหารจานหลักเป็นสเต็กชนิดต่างๆ แล้วแต่จะเลือก
อาหารแอฟริกันมีความหลากหลายสู้อาหารไทยไม่ได้เลยสักนิด เพราะมันก็คืออาหารตะวันตกเจ้าอาณานิคมของเขานั่นเอง เวลาไปตามร้านดีๆ หรือโรงแรมไม่สเต็ก ก็เป็นอาหารอบหรือทอด เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดหรือบด
จึงไม่แปลกใจที่พี่ๆ ร่วมทริปได้พกน้ำพริกตาแดง ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง ข้าวเหนียวและหอมเจียวมาด้วย
ไม่ทันได้เริ่มต้นคอร์สของหวาน ฝนก็เทลงมา เราต้องอพยพเข้าไปทานของหวานภายในห้องอาหาร
ของคาวเป็นสเต็ก ของหวานจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากไอสกรีม นึกถึงลอดช่อง ซาหริ่ม แตงไทยน้ำกะทิขึ้นมาอย่างประหลาด
จนเวลาล่วงเลยไปประมาณ 4 โมงเย็น เห็นฝนตั้งเค้าครึ้มมืด จึงชวนกันเดินทางกลับไนโรบี
ไม่วายแวะเก็บพืชชนิดหนึ่งซึ่งดูคล้ายใบกะเพรากันตรงทางออก ได้ของแถมเป็นความคันคะเยอกันถ้วนหน้า ไม่รู้สุดท้ายกล้าเอาไปทำกินกันหรือเปล่า
ออกมายังไม่ทันถึงไหน ฝนก็เทลงมา จึงได้ภาพ Mount Longonot ในสายฝน
และโบสถ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในเคนยาระหว่างทางมาฝากปิดท้ายบล็อกครับ
Create Date : 22 กรกฎาคม 2555
Last Update : 23 กรกฎาคม 2555 3:13:09 น.
2 comments
Counter : 2589 Pageviews.
Share
Tweet
เม้นให้หน่อย เดี๋ยวจะน้อยใจอุตส่าห์เจียดเวลาคิวทองมาโพสต์บล้อค จะติดตามตอนต่อไป /
ปล.เจอหญ้ารังตังไก่เข้าให้รึปล่าว?
โดย: นพ IP: 58.9.246.247 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:28:50 น.
ติดตามอ่านบล๊อกคุณตลอดค่ะ ชอบการเขียนสนุกดี น่าจะเขียนหนังสือเนอะ ทุกๆตอนที่คุณไปเที่ยว+ทำงาน แต่เมื่อคุณนำ มาเล่าผ่าน ตัวหนังสือสู่บล็อก กลับเขียนได้สนุกสนานเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยคะ ชอบมากคะเข้ามาอ่านที่ไรได้นั่งขำคนเดียวทุกครั้ง ชอบๆๆๆคะ
โดย: คนไทยในยุโรป IP: 91.112.119.182 วันที่: 27 กรกฎาคม 2555 เวลา:2:08:29 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Thaisoloclub
Location :
Rome Italy
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [
?
]
Friends' blogs
nungkwak
Qingqing
Webmaster - BlogGang
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ปล.เจอหญ้ารังตังไก่เข้าให้รึปล่าว?