เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
เคนยา : สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าโบสถ์ อนุสรณ์เชลยสงครามโลกครั้งสุดท้าย

ทีแรกตั้งใจจะใช้ชื่อบล็อกว่า สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าโบสถ์ อนุสรณ์เชลยสงครามโลกครั้งล่าสุด แต่เปลี่ยนเป็นครั้งสุดท้ายเพราะเชื่อว่าในช่วงชีวิตผมที่เหลืออยู่คงไม่มีสงครามโลกอีกแล้ว โลกจะมีความสงบสุขตลอดไป สาธุ สาธุ ถ้าจะมีจริงในยุคต่อไปคงเป็นประเภทสงครามอวกาศกับมนุษย์ต่างดาวอะไรทำนองนั้นมากกว่า

การเดินทางไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อหลายแห่งในเคนยาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ว่าจะเป็นไนวาชา นากูรู เมืองนรก หรือการเดินทางไปมาไซมาราด้วยรถยนต์ก็ตาม จะต้องขับรถผ่านบริเวณที่เรียกว่า Rift Valley ซึ่งในวันที่แดดจัดจะสวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพอย่างมาก มากี่ครั้งก็แวะถ่ายรูปทุกครั้งไป จุดชมวิว(และขายของที่ระลึก)แต่ละจุดล้วนมีรถทัวร์ซาฟารีจอดกันแทบทั้งนั้น คนยังคงนิยมมาเที่ยวเคนยากันอยู่ครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้ในสี่ปีมานี้ คือ มีนักท่องเที่ยวจากเอเชียมาเที่ยวเคนยามากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

ผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่แวะจุดชมวิวบริเวณ Rift Valley ไม่มีโอกาสหรือไม่ตั้งใจแวะโบสถ์ที่สร้างโดยเชลยสงครามชาวอิตาเลียนซึ่งมีความพิเศษและน่าสนใจหลายอย่าง หลายท่านไม่ได้แวะเพราะเวลาจำกัดหรือคิดว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ ขอแนะนำท่านที่มาอ่านบล็อกนี้ว่าคราวหลังขอให้แวะชมเถิด ท่านจะเสียเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นแต่จะมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งเก็บไว้ในไดอารี่ของท่าน


ประมาณ 60 กม. จากไนโรบี ท่านจะผ่านจุดชมวิวซึ่งเต็มไปด้วยร้านรวงขายของที่ระลึกจำนวนหลายสิบร้าน จากประสบการณ์ของผม ร้านพวกนี้ขายของแพงกว่าในไนโรบีมาก แต่หากไม่มีเวลาก็หาซื้อกันได้ อย่าไปคิดอะไรมาก


หลังจากผ่านจุดชมวิวทั้งหมดแล้ว ถนนจะเริ่มเป็นทางชันลงเขาก่อนถึงเมือง Mai Mahiu จุดสังเกต คือ จะมีสถานีตำรวจติดกับโบสถ์แห่งนี้เลย ซึ่งก็จะเป็นที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย หากไปในเร็ววันนี้ ผมเห็นเขาทำเป็นสวนหย่อมเล็กๆ อยู่หน้าสถานีและดอกไม้กำลังออกดอกอย่างสวยงาม


จอดรถเสร็จเดินไปทางโบสถ์ สิ่งแรกที่จะเจอ คือ ป้ายเขียนว่าโบสถ์คาธอลิกสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1942 โดยเชลยสงครามชาวอิตาเลียน


เมื่อเข้าไปถึงบริเวณโบสถ์จะต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 10 ขั้นเพื่อเข้าไปในตัวโบสถ์


โบสถ์นี้มีขนาดเล็กมาก เล็กจนกระทั่งได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในเคนยา


ภายในมีเก้าอี้นั่งเพียงสามแถว


มีรูปเคารพ จิตรกรรมเกี่ยวกับพระเยซูและกระจกสีแบบเรียบง่ายที่สุด เรียกว่ามีทุกสิ่งอย่างที่โบสถ์คาธอลิกจำเป็นต้องมี


ด้านข้างมีพื้นที่เล็กๆ จัดเป็นส่วนหย่อม มีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุน่าจะพอสมควร


แม้จะเป็นสวนหย่อมขนาดย่อมจริงๆ แต่จัดได้น่ารักและแลดูว่ามีการดูแลรักษาอย่างดี


ทางเข้ายังมีหอคอยเล็กๆ น่าจะมีทางขึ้นได้ แต่ไม่มีใครคิดจะขึ้นไป ผมนึกถึงแต่การ์ตูนเรื่อง Rapunzel ที่เด็กฝรั่งรู้จักเป็นอย่างดี ที่เป็นเจ้าหญิงถูกขังอยู่ในหอคอยและผมยาวมากจนเจ้าชายใช้ไต่ขึ้นมาช่วยนางได้


ความมีเมตตาธรรมอย่างหนึ่งเจ้าอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งชนะสงครามโลกครั้งที่สองและได้เชลยทหารอิตาเลียนซึ่งเป็นฝ่ายอักษะที่แพ้สงครามมาเป็นตัวประกัน คือ นอกจากจะให้เชลยสงครามของตนมาสร้างถนนเลาะริมเหว Rift Valley ในเคนยาแล้ว ยังอนุญาตให้สร้างโบสถ์ขนาดเล็กเพื่อใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจและเป็นที่พึ่งทางใจของเชลยเหล่านี้ ถึงจะสูญเสียอิสรภาพในเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้เจ้าอาณานิคมไม่ได้มองข้ามครับ


ถนนเส้นที่ว่าสร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกและปัจจุบันก็ยังใช้เป็นถนนสายหลักกันอยู่ เนื่องจากเคนยาไม่มีการบำรุงรักษาเหมือนอีกหลายๆ สิ่งที่เจ้าอาณานิคมสร้างไว้ให้ สภาพถนนค่อนข้างแย่เต็มไปด้วยหลุมบ่อที่ขับรถเก่งแค่ไหนก็หลบไม่พ้น บวกกับนิสัยการขับขี่ของคนที่นี่ที่ไม่ว่าถนนจะอยู่ในสภาพไหนตรูก็ขับเร็วและปาดซ้ายไต่ขวาได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่แทบทุกครั้งที่ผมใช้เส้นทางนี้ จะมีอุบัติเหตุประหลาดๆ ให้เห็นคอยเตือนสติ


วันนี้ที่ได้แวะโบสถ์ที่เล็กที่สุดในเคนยาเพราะเราเดินทางไปเที่ยวเลคไนวาชากันครับ แต่ไม่ลงเรื่องเลคไนวาชาให้อ่านเพราะเคยลงไปนานมากแล้วก่อนหน้านี้ อยากอ่านก็ไปรื้อดูในบล็อกเก่าๆ กันเอาเอง เพียงแต่อยากลงภาพนี้ เพราะทำให้ผมนึกถึงเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วที่งานประจำปีของจังหวัดผม จะมีคนมาออกร้านคล้ายสตูดิโอถ่ายภาพ โดยมีฉากหลังเป็นภาพวาดวิวทะเลหัวหินง่อยๆ ถ่ายแล้วอีกสองวันค่อยมารับ ภาพขาวดำด้วยนะ จำได้ว่าพื้นเป็นเสื่อน้ำมันแบบนี้เลย แต่นั่นมันเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วที่บ้านเรา ที่นี่ยังมีให้เห็นและคนยังใช้บริการกันคึกคัก แม้ว่ากล้องจะเป็นกล้องดิจิตอลและสามารถปรินท์รูปได้ทันทีแล้วก็ตาม แต่ความคลาสสิกไม่มีวันเปลี่ยนแปลง



 


Create Date : 22 ตุลาคม 2555
Last Update : 30 ธันวาคม 2564 22:18:00 น. 1 comments
Counter : 1785 Pageviews.

 
ของเราฉากหลังเป็นรถไฟ ถ่ายกันสามคนพี่น้อง ขาวดำเหมือนกัน ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว


โดย: นพ IP: 110.168.168.52 วันที่: 25 ตุลาคม 2555 เวลา:0:39:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.