ลุยนครนายก ตอนที่ ๔ เดินเลาะเขื่อนขุนด่าน เล่นแก่งเทียม ไหว้หลวงพ่อปากแดง
สถานที่ต่อไปที่ผมไปในวันนั้นเป็นอีกสถานที่สำคัญที่ต้องมาเยือนให้ได้เมื่อมานครนายก นั่นก็คือ เขื่อนขุนด่านปราการชล
เขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นหนึ่งในโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกักเก็บน้ำ แก้ปัญหาอุทกภัย รวมไปถึงปัญหาดินเปรี้ยวในเขตนครนายก เดิมมีชื่อว่าเขื่อนท่าด่าน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามใหม่ว่า เขื่อนขุนด่านปราการชล โดยนำชื่อมาจาก ขุนด่าน ผู้นำชาวบ้านนครนายกต่อต้านทัพข้าศึกในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ก่อนจะขึ้นไปถึงตัวเขื่อน เราแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อนนั่นคือ ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง ซึ่งเมื่อครั้งยังมีชีวิตท่านมีนามว่า ปลัดจ่าง นิสัยสัตย์ เคยเป็นผู้นำในการปราบปรามโจรผู้ร้ายในแถบนี้จนได้รับความดีความชอบมากมาย เมื่อครั้งมีการเปิดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้อัญเชิญดวงวิญญาณของปลัดจ่างมาเป็นเจ้าพ่อเขาใหญ่เพื่อปกป้องป่าและสรรพสัตว์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย (เขื่อนขุนด่านเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)
เคยมีอดีตนักร้องบอยแบนด์คนหนึ่งได้ไปบนบานต่อเจ้าพ่อปลัดจ่างว่าขอให้มีชื่อเสียง แล้วจะกลับมาแก้บน ปรากฏว่าหลังจากนั้นก็ดังจริง ๆ ตามที่บนไว้ แต่ไม่ได้มาแก้บน สุดท้ายชีวิตของเขาต้องประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆ จนต้องมาแก้บนและปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ของเจ้าพ่อปลัดจ่าง ในเวลาต่อา เขาประสบอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยจนเกือบถึงแก่ชีวิตหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้ เชื่อว่าเป็นเพราะเจ้าพ่อปลัดจ่างช่วยไว้
จากศาลมองลงไปด้านล่าง
ในที่สุดก็มาถึง เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ซูมเข้ามาหน่อย
ถนนบนเขื่อน
ผืนน้ำดูนิ่ง สงบ เวิ้งว้าง แต่คนกลัวความสูงอย่างผมก็แอบเสียว ๆ เหมือนกัน
ไม่ค่อยเจอธรรมชาติแบบนี้ในกรุงเทพฯ
จากบนสันเขื่อนมองลงไปเห็นบริเวณลำธารที่เขาปล่อยน้ำให้คนได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน
ยิ่งใหญ่ อลังการ
ออกจากเขื่อนขุนด่านปราการชลแล้ว เราก็แวะไปกินข้าวกลางวันกันที่บริเวณแก่งเทียม จำไม่ได้ว่าแก่งเทียมที่ไหน พร้อมกับเล่นน้ำด้วย (ผมไม่ได้ลงไปเล่นแบบเปียกทั้งตัว แค่ลงไปเดินในน้ำเฉย ๆ แต่เพื่อนผมเล่น)
อาหารที่รับประทานกันในวันนั้น
แก่งเทียมก็คือแก่งเทียมจริง ๆ สร้างขึ้นมาให้คนเล่น
มีเรือพาข้ามฝั่งด้วย
สถานที่สุดท้ายที่ผมไปในวันนั้นเป็นอีกวัดขึ้นชื่อของนครนายก น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคอหวย นั่นคือ วัดพราหมณี หรือที่เรารู้จักกันในนาม วัดหลวงพ่อปากแดง
หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง จีวรมีลายดอกพิกุล ว่ากันว่าเป็นพระพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส (จากตำนาน พระเสริม พระสุก และพระใส ของจังหวัดหนองคาย) พระทั้งสามพี่น้องนั้นได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังที่ต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดงได้มีชาวบ้านอัญเชิญและมาแวะพักบริเวณที่เป็นที่ตั้งของวัดพราหมณีในปัจจุบัน
สำหรับคนที่เป็นคอถ่ายรูป อาจจะไม่ค่อยสะใจกับวัดนี้เท่าไร เพราะไม่ค่อยมีมุมให้ถ่ายเท่าใดนัก
หลวงพ่อปากแดงประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ
ในวันนั้นเป็นวันใกล้หวยออก เลยมีสาธุชนมากราบไหว้มากเป็นพิเศษ
ลากันไปด้วยภาพของหมู่พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร
ขอขอบคุณที่ตามอ่านกันมาจนครบทั้ง ๔ ตอน คราวนี้จะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกก็ติดตามกันนะครับ
บล็อกตอนก่อนหน้านี้
Create Date : 23 กันยายน 2559 |
Last Update : 23 กันยายน 2559 22:46:31 น. |
|
4 comments
|
Counter : 6424 Pageviews. |
|
|
|