ไหว้พระใหญ่ เมืองอ่างทอง
ห่างหาย ไม่ได้เขียนบล็อกมานานนะครับ ในวันนี้เลยจะขอเริ่มด้วยเรื่องของอะไรใหญ่ ๆ โต ๆ นั่นคือพระพุทธรูปองค์ใหญ่
ผมชอบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๆ ครับ ยิ่งใหญ่ยิ่งชอบ ซึ่ง จ.อ่างทองนั้นก็เป็นจังหวัดที่ตอบโจทย์ผมในเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นจังหวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เยอะมาก ๆ ซึ่งในบล็อกนี้ผมจะได้แนะนำพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงและน่าไปกราบไว้กัน ต้องขอบอกก่อนนะครับว่ามีเฉพาะวัดที่ผมเคยไปแล้วเท่านั้น
๑.พระมหาพุทธพิมพ์ หรือ หลวงพ่อโต วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย
เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของจังหวัดอ่างทอง ในภาพนี่ผมถ่ายเมื่อเดือนธันวาคม ปี ๒๕๕๖ ซึ่งกำลังมีการบูรณะภายในพระวิหารของหลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์นี้สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) แต่ในเวลาต่อมา องค์ที่สมเด็จโตสร้างได้พังทลายลง รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการสร้างองค์พระขึ้นมาใหม่ และคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
มีความเชื่อกันว่าหากใครเข้ามาด้วยจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์ จะมีความรู้สึกเหมือนองค์พระจะล้มลงมาทับ
นอกจากนี้ในวัดยังมีพระวิหารประดิษฐานรูปหล่อของสมเด็จโตองค์ใหญ่ด้วย
๒.พระนอน วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง
ได้ชื่อว่าเป็นพระนอนที่ยาวที่สุดในไทย องค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง เดิมเคยมีวิหาร แต่พังทลายไปหมดแล้ว พระนอนองค์นี้สร้างโดยขุนอินทประมูล ซึ่งในภายหลังได้ถูกสืบทราบว่ายักยอกเงินหลวงไปใช้สร้างองค์พระ จึงถูกประหารชีวิต เคยมีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณใกล้ ๆ องค์พระ เชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของขุนอินทประมูล
พระนอนวัดขุนอินทประมูล ปรากฏในคำขวัญของจังหวัดอ่างทองในวรรคที่ว่า "เมืองสามพระนอน" ด้วย นอกจากจะมากราบสักการะองค์พระนอนแล้ว ในวัดขุนอินทประมูลยังมีจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือ อุโบสถหลังใหญ่ซึ่งมีทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อน ติดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งความยาวของอุโบสถหลังนั้นเท่ากับความยาวขององค์พระนอนเลยทีเดียว
อุโบสถไฮเทค
๓.พระนอน วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก
เป็นอีกพระนอนที่ถูกกล่าวถึงในคำขวัญของจังหวัดอ่างทอง มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระนอนพูดได้ เนื่องจากเคยมีพระรูปหนึ่งนามว่า "พระโต" เกิดอาพาธหนัก และหลานสาวของพระโตได้ไปกราบพระนอนเพื่อขอสูตรยาที่จะมารักษา ก็ปรากฏว่ามีเสียงพูดถึงสูตรยาดังออกมาจากพระอุรุ (อก) ขององค์พระ เมื่อหลานสาวของพระโตปรุงยาตามสูตรนั้นให้พระโต พระโตก็หายดี
เป็นพระนอนที่สวยงามมากองค์หนึ่ง
๔.หลวงพ่อโต วัดสี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ
สร้างโดยหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจำลองแบบมาจากหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี องค์พระประดิษฐานด้านหลังอุโบสถ
ในวันที่ผมไปนั้นไม่มีแดด
เหตุที่วัดนี้มีชื่อว่าวัดสี่ร้อย ก็เนื่องจากชาวบ้านได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่รำลึกถึง ขุนรองปลัดชู ชาวเมืองวิเศษชัยชาญ ที่นำกำลังชาววิเศษชัยชาญสี่ร้อยคนไปต้านทัพพม่าที่ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะพลีชีพทั้งหมด ซึ่งว่ากันว่าหากไม่มีวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ก็อาจจะไม่เกิดวีรกรรมของชาวบ้านบางระจันขึ้น
๕.หลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ
หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก องค์พระสูงใหญ่เห็นเด่นชัดมาแต่ไกล หลวงพ่อใหญ่นี้สร้างโดย พระครูวิบูลอาจารคุร (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) แต่ยังไม่แล้วเสร็จท่านก็มรณภาพเสียก่อน ลูกศิษย์และเจ้าอาวาสรูปต่อ ๆ มาจึงสร้างจนแล้วเสร็จ
นอกจากองค์พระใหญ่แล้ว วัดนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่วิหารแก้วอีกด้วย
นอกจากนี้ในวัดม่วงยังมีรูปปั้นของเปรตและนรกภูมิเหมือนกับที่วัดไผ่โรงวัว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเกี่ยวกับพระอรหันต์ของจีน,ประวัติศาสตร์ไทย และวรรณคดีไทยอีกหลายเรื่อง น่าจะเป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูป
จะอยู่มุมไหนก็เห็นองค์พระ
๖.สมเด็จพระศรีเมืองทอง วัดต้นสน อ.เมือง
มีชื่อเต็ม ๆ ว่า สมเด็จพระนะวะโลกกุตตะระธัมมะบดีศรึเมืองทอง เป็นพระพุทธรูปทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างโดยพระราชสุวรรณโมลี ผู้ฟื้นฟูวัดต้นส้นที่ร้างลงให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง แต่สร้างได้เพียงพระอุระขององค์พระ พระราชสุวรรณโมลีก็มรณภาพ
นอกจากสมเด็จพระศรีเมืองทองในวิหารแล้ว ในวัดยังมี สมเด็จพระศรีเมืองเงิน ประดิษฐานอยู่ด้วย
พระประธานในอุโบสถนามว่าหลวงพ่อดำ ก็น่าเลื่อมใสกราบไหว้เช่นกัน
๗.หลวงพ่อสด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัดจันทรังษี
นอกจากจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่แล้ว ยังมีรูปหล่อของพระเกจิองค์ใหญ่อีกด้วย นั่นคือ หลวงพ่อสด จนฺทสโร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานในมณฑป วัดจันทรังษี อ.เมือง สามารถเข้าไปกราบไหว้ขอพรได้
๘.พระนอน วัดท้ายย่าน อ.เมือง
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าพระพุทธไสยาสปุญญาภา เพิ่งมีการค้นพบพระนอนองค์นี้เมื่อไม่นานมานี้เอง ยังไม่ถึงสิบปีเลยด้วย แต่องค์พระสร้างมานานแล้วโดยอดีตเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง เมื่อสร้างเสร็จก็ปิดวิหารเอาไว้ไม่ได้เปิดให้เข้าไปกราบไหว้จนเจ้าอาวาสมรณภาพ เจ้าอาวาสรูปใหม่ที่มาปฏิบัติหน้าที่แทนก็ยังไม่ได้เปิดอีกเช่นกัน มาจนถึงเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันจึงได้เปิดวิหารให้คนได้เข้าไปกราบไหว้สักการะพระนอน
เป็นที่ฮือฮากันมากในตอนที่เพิ่งมีการเปิดวิหารและพบว่ามีพระนอนใหญ่อยู่ข้างใน แม้แต่ชาวอ่างทองเองก็เพิ่งรู้ว่ามี ยกเว้นแต่คนที่อยู่ในพื้นที่ที่ทราบมาก่อน
เนื่องมาจากการพบพระนอนองค์นี้ ทำให้มีการเสนอเรื่องให้เปลี่ยนคำขวัญของอ่างทองที่ว่า "เมืองสองพระนอน" ให้เป็น "เมืองสามพระนอน" นอกจากนี้ พระนอนองค์นี้ยังมีขนาดที่ใหญ่กว่าพระนอนวัดป่าโมก ทำให้พระนอนวัดป่าโมกต้องกลายเป็นพระนอนที่ใหญ่เป็นอันดับ ๓ รองจากพระนอนองค์นี้ไป ส่วนองค์ใหญ่ที่สุดก็คือพระนอนวัดขุนอินทประมูลนั่นเอง
จบแล้วครับสำหรับบล็อกนี้ ใครที่สนใจอยากจะไปกราบไหว้สักการะพระใหญ่ทั้งแปดก็สามารถมาได้ที่จังหวัดอ่างทอง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางไป-กลับสะดวกครับ
Create Date : 07 ธันวาคม 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 7 ธันวาคม 2559 17:08:27 น. |
Counter : 2883 Pageviews. |
|
|
|