หลังจากสิ้นสุดการเป็น Au Pair แล้ว เราก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาต่อไป แต่ก่อนที่จะเล่าเรื่องอื่น เราก็ขอเล่าเรื่องบางเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับเรา

เรื่องแรกก็คือ เราสังเกตเห็นว่าคนอเมริกันชอบมีผิวสีแทนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันแท้หรือว่าเป็นอเมริกันที่มีเชื้อสายดั้งเดิมมาจากชาติอื่นๆ เช่นเอเชีย ยุโรปหรือลาตินอเมริกา ถ้าเป็นหน้าร้อน ก็จะออกไปนอนอาบแดดกันจนผิวเปลี่ยนสี แต่ถ้าช่วงหน้าหนาว ก็จะใช้บริการของร้านทำผิวสีแทน ซึ่งสามารถหาได้ทั่วไป บางคนทำจากขาวจนกลายเป็นดำไปเลย เพราะพวกเขาเชื่อว่าผิวสีแทนสวย

จริงๆแล้ว เบื้องหลังความสวยก็คือ สมัยก่อนคนที่มีผิวสีแทนสามารถบ่งบอกถึงฐานะได้ เพราะถ้าใครมีผิวสีแทน แสดงว่ามีเงินพอที่จะไปเที่ยวพักร้อนอาบแดดตามประเทศเมืองร้อนต่างๆ ยิ่งโดยเฉพาะหน้าหนาว คนรวยก็จะเลือกไปเที่ยวในประเทศร้อนแทนที่จะอยู่กับความหนาว และกลับมาพร้อมกับผิวที่เข้มขึ้น

ปัจจุบันนี้ ค่านิยมผิวสีแทนเข้าไปถึงกลุ่มคนทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องรวยก็สามารถมีผิวสีแทนได้ แปลกตรงที่ว่าคนเอเชียอยากขาว แต่คนอเมริกันอยากดำ




เรื่องที่สองก็คือ การทำแท้ง ตอนที่เป็น Au Pair นั้น เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเกิดพลาดท้องขึ้นมา สุดท้ายเธอตัดสินใจเอาเด็กออก ด้วยความที่เรานับถือศาสนาพุทธ ในใจลึกๆก็รู้สึกว่าการทำแท้งเป็นการทำบาป เพราะเรากำลังฆ่าสิ่งมีชีวิต แต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้

หลังจากที่เพื่อนไปคลีนิคเรียบร้อยแล้ว เพื่อนกลับมาเล่าให้ฟังว่า มีคนไปรอคิวเพื่อทำแท้งเยอะมาก โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น และบางคนไม่ได้มาเป็นครั้งแรก เราแปลกใจ จึงได้ไปคุยกับโฮสท์ที่เราพักอยู่ โฮสท์บอกว่าการทำแท้งที่นี่ถูกกฏหมาย และถือเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าใครที่ท้องโดยไม่ได้เจตนา และไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดู หรือด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็สามารถไปตามคลีนิกได้

ต่างคนต่างความคิด แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคน เราไม่สามารถตัดสินได้ว่าการทำแท้งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเหตุผลของการทำแท้งบางเหตุผลก็เป็นผลดีต่อผู้ที่ตัดสินใจทำแท้ง




เรื่องต่อมาคือ คนอเมริกันเป็นโรคภูมิแพ้กันล้นหลาม ไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนชรา คาดว่าระบบภูมิต้านทานคงไม่ค่อยแข็งแรง

จากความคิดเรา คนอเมริกันได้รับการเลี้ยงดูที่สะอาดเกินไป ส่วนเรื่องอาหารก็ทานอาหารที่แปรสำเร็จรูปตั้งแต่ตอนเป็นเด็กทารก ไม่ใช่อาหารสดเหมือนอย่างที่บ้านเราทำให้เด็กๆทาน คุณค่าของสารอาหารที่ได้รับน่าจะแตกต่างกัน และอากาศที่นี่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเป็นภูมิแพ้กัน เมื่อฤดูเปลี่ยนแปลง ร่างกายของคนก็จะเปลี่ยนไม่ค่อยทัน

ไม่แปลกใจเลยที่ยาแก้แพ้ในประเทศนี้มีเยอะมาก รวมไปถึงโฆษณาทางทีวีต่างๆก็ไม่แพ้กัน ไม่ว่าร่างกายเกิดอาการผิดปกตินิดหน่อย คนอเมริกันก็หันหน้าพึ่งยากันแล้ว มีแม้กระทั่งยารักษาอาการหดหู่

เคยได้ยินมาว่าคนต่างชาติที่มาอยู่ในอเมริกาเกินห้าปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มเป็นภูมิแพ้กัน ไม่รู้ว่าจะเห็นด้วยดีหรือเปล่า เพราะเราเจอทั้งคนที่เป็นและคนที่ไม่เป็น เอาเป็นว่าพยายามรักษาสุขภาพให้ดีที่สุดไว้ก่อนดีกว่า





และเรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องเด็กที่เกิดมาจาก Single mom ตามปกติแล้ว Single mom ที่ใครๆเข้าใจก็คือการที่แม่อาศัยอยู่กับลูกและเลี้ยงลูกโดยลำพัง อาจจะเป็นเพราะแม่และพ่อได้อย่าร้างกันหรืออาจจะด้วยเหตุผลอื่นๆ แต่มีเหตุผลหนึ่งของการเป็น Single mom ที่ทำให้เราตะลึงไปเลย

ตอนที่เราเป็น Au Pair เราได้รู้จักกับ Single mom คนหนึ่ง เธอได้ให้รางวัลในวันเกิดของตัวเองโดยการซื้อเชื้ออสุจิมาหนึ่งหลอด และฉีดเข้าช่องคลอดของตัวเองเพื่อจะได้ตั้งครรภ์ สรุปเธอตั้งครรภ์จริงๆและได้ลูกสาวซึ่งออกมาหน้าตาน่ารักหน้าชังมาก

หลังจากได้พูดคุยกับเธอ ก็รู้ว่าการซื้อเชื้ออสุจินี้ ก่อนซื้อเราสามารถเลือกพ่อพันธุ์ทางออนไลน์ได้ โดยเราเลือกได้ตามต้องการว่าอยากได้แบบไหน เช่นอยากได้ตาสีฟ้า ตาสีเขียว ผมสีทอง จะเป็นเอเชียหรือชาติอื่นๆ ตามใจชอบ ทุกน้ำเชื้อจะมีข้อมูลของเจ้าของทุกอย่าง ยกเว้นชื่อของเจ้าของ แต่ข้อมูลนี้เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะได้เชื้อที่ไม่ดี เพราะน้ำเชื้อเหล่านี้มาจากบุคคลที่มีหน้าที่การงานดีและจบการศึกษาระดับสูงเท่านั้น

เราได้เจอเรื่องแบบนี้มาก็รู้สึกแปลกๆ และยังคงไม่เห็นด้วย เพราะเรารู้สึกว่าการสร้างครอบครัวแบบนี้เป็นการสร้างครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ลูกก็ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองคือใคร

ถ้าผู้หญิงเก่งที่ไม่อยากมีสามีหันมาสนใจผลิตลูกด้วยวิธีนี้กันมากขึ้น ในอนาคตเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเด็กที่เกิดมาด้วยวิธีแบบนี้จะไปมีความสัมพันธ์กับบรรดาเครือญาติเดียวกันหรือเปล่า และถ้าเป็นแบบนั้น ลูกที่ออกมาก็อาจจะไม่สมประกอบได้

เฮ้อ...สงสัยเราอาจจะคิดมากไป โลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ

ทั้งหมดก็มีแค่นี้ ไม่รู้ว่าแปลกของเราจะแปลกของคนอื่นด้วยหรือเปล่า เอาเป็นว่าขอจบเพียงเท่านี้ดีกว่า แล้วครั้งหน้าจะมาเล่าเรื่องอื่นๆในเมืองที่ย้ายไปอยู่ใหม่ให้ฟัง ขอให้ทุกคนโชคดี





ป.ล. เรื่องราวข้างบนเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าคิดเห็นไม่ตรงกับใคร ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้า