Bloggang.com : weblog for you and your gang
GOLDEN BAMBOO:)
I love King รักในหลวงค่ะ
Group Blog
Me
ชีวิตในต่างแดน (My life abroad)
เรื่องราว ความทรงจำ (Memories)
นานา สารพัน (Divers)
ดูหนัง ดูละคร (Movies)
บทเพลงและเสียงดนตรี ( Music)
หนังสือน่าอ่าน (Books)
อาหารอร่อย (Cuisine)
เที่ยวละไม (Travel)
สุขภาพและการออกกำลัง (Health)
บันทึก...ชินชิลล่า (Chinchilla)
สิงหาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
31 สิงหาคม 2552
เด็กอเมริกัน (Au Pair)
All Blogs
ดอกไม้บาน...นานๆที
อารมณ์เสีย เหตุเกิด ณ ชิคาโก
หิมะมาแล้วจ้า
เรื่องเล็กๆชวนขันของภาษาอังกฤษ
Tip in USA
เรื่องขำขำ (ของคนอื่น) จากร้านอาหาร (USA)
ฟ้าหลังฝน ชีวิตเด็กเสริฟ ภาค 2 (USA)
ชีวิตเด็กเสริฟในต่างแดน (USA)
งานในร้านอาหารไทย (USA)
ความเคยชิน
Chicago....Windy City
จาก Philly สู่ Chicago
เก็บตกจาก Au Pair
วันของการลาจาก (Au Pair)
เลี้ยงเด็กวันละนิดจิตแจ่มใส (Au Pair)
ความรัก (Au Pair)
เด็กอเมริกัน (Au Pair)
กิจกรรมยามว่าง (Au Pair)
ปัญหาและความขัดแย้ง (Au Pair)
เพื่อนจากร้านอาหารไทย (Au Pair)
รายได้พิเศษ (Au Pair)
Culture Shock in America
ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว (Au Pair)
เพื่อนใหม่ (Au Pair)
ถึงคราวปรับตัวเข้ากับครอบครัวอุปถัมภ์ (Au Pair)
Philadelphia เมืองที่ฉันเลือก (Au Pair)
My host family (Au Pair)
Au Pair Orientation in New York 3
Au Pair Orientation in new York 2
Au Pair Orientation in New York 1
ก้าวแรกสู่อเมริกา (Au Pair)
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ (Au Pair)
เด็กอเมริกัน (Au Pair)
หลังจากที่เรามาเป็น Au Pair เราก็มีความเห็นว่า การเลี้ยงดูเด็กอเมริกันค่อนข้างจะแตกต่างจากการเลี้ยงแบบไทยๆ
ครอบครัวอเมริกันมักจะให้อิสระกับเด็กๆ ด้านการแสดงความคิดเห็นและการตัดสินใจในทุกๆเรื่อง เด็กอเมริกันจึงกล้าแสดงออก และไม่อายที่จะต้องแสดงความสามารถของตัวเองให้คนอื่นเห็น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีและน่าเอาเป็นตัวอย่าง
คนอเมริกันไม่ใส่ใจคำว่าอาวุโส ซึ่งต่างกับวัฒนธรรมเอเชีย ดังนั้นเด็กอเมริกันก็จะคิดว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมด เด็กมีสิทธิ์ตำหนิผู้ใหญ่ ถ้าพวกเค้าไม่พอใจในการกระทำของผู้ใหญ่ บางครั้งเราเห็น host mom กับ host dad ของเราขอโทษลูกตัวเอง หลังจากที่ได้ทำโทษลูก หรือทำอะไรให้ลูกไม่พอใจ ซึ่งเราค่อนข้างประหลาดใจ นอกจากนั้นเด็กอเมริกันไม่มีคำว่าเกรงใจ ในสายตาเรา เรารู้สึกว่าเด็กอเมริกันบางคนก้าวร้าว และเลี้ยงยาก
เด็กอเมริกันค่อนข้าง spoiled เอาแต่ใจตัวเอง บางครั้งถ้าไม่ได้ดั่งใจก็จะกรีดร้อง หรือลงไปชักดิ้นชักงอ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เพราะถูกผู้ใหญ่ตามใจ คนที่นี่ส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้านและไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก วิธีที่ทำให้พวกเค้าคิดว่าได้ดูแลเอาใจใส่คือการซื้อของเล่นให้ เด็กอเมริกันมีของเล่นเยอะมาก เด็กส่วนใหญ่จะมีห้อง playroom อยู่ในบ้านของตัวเอง และเวลาของเด็กส่วนมากจะคลุกคลีอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กมากกว่าพ่อแม่ จะเห็นได้ว่าที่นี่อาชีพพี่เลี้ยงเด็กไม่ต้องกลัวตกงานเลย
อาหารเด็กในอเมริกาค่อนข้างแตกต่างจากเมืองไทย เด็กที่นี่ตั้งแต่วัยเริ่มทานอาหารได้ ก็จะทานอาหารเหลวที่ผลิตออกมาสำเร็จรูปอยู่ในกระปุกแทบทุกมื้อ มีหลายรสมาก คุณแม่บ้านที่นี่ไม่นิยมทำอาหารสดให้เด็กทาน และการรับประทานอาหารของเด็กที่นี่มีข้อควรระวังเยอะมาก ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่าว่าที่คนอเมริกันเป็นภูมิแพ้กันเยอะมาก แพ้ได้ทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนเด็กๆทานอาหารที่ผลิตออกมาสำเร็จรูปมากเกินไปหรือเปล่า ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง
สิ่งที่เราชอบในการเลี้ยงเด็กอเมริกันก็คือ เค้าสนับสนุนให้เด็กรักการอ่าน จะเห็นได้จากร้านขายหนังสือ หรือห้องสมุดสาธารณะทั่วไป มีหนังสือการ์ตูนเด็กน่ารักๆ ทุกวัย และน่าอ่านทุกเล่ม ห้องสมุดท้องถิ่นก็จะมีเวลา story time ให้แม่บ้านพาเด็กๆไปนั่งฟังกันฟรี ส่วนในบ้านเวลาพาเด็กๆเข้านอน พ่อแม่หรือพี่เลี้ยงก็ต้องอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง เป็นการฝึกให้เด็กรักการอ่านไปในตัว
ครอบครัวอเมริกันที่ค่อนข้างใส่ใจสุขภาพของเด็ก จะไม่นิยมให้เด็กดูทีวี นอกเสียจากนานๆครั้งจะเปิดให้ดูการ์ตูนตามวัยของเด็ก เพราะคนอเมริกันเชื่อว่าเด็กที่ดูทีวีมากเกินไป อาจจะทำให้เป็นโรค ADD หรือโรคสมาธิสั้น และอาจจะทำให้ไฮเปอร์ได้ ดังนั้นพ่อแม่ชาวอเมริกันก็จะสร้างตารางให้ลูกๆเพื่อออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ นอกบ้านแทน
การลงโทษเด็กอเมริกัน ที่อเมริกามีกฏหมายคุ้มครองเด็ก ผู้ใหญ่ไม่สามารถทำโทษเด็กโดยการตีได้ แม้กระทั่งพ่อแม่ก็ตาม ดังนั้นการทำโทษเด็กๆที่นี่จะใช้วิธี time out วิธีนี้คือให้เด็กไปนั่งอยู่มุมใดมุมหนึ่งของบ้าน หรือจับเด็กให้ออกไปอยู่นอกกลุ่มคนเดียวสักพักหนึ่ง เด็กก็จะนั่งเงียบๆเหมือนกับว่าให้เวลาเด็กได้ไตร่ตรองสำนึกผิดอะไรทำนองนั้น และก็รอเด็กเดินมาขอโทษ เราคิดว่าการทำโษแบบนี้ตลกดี ตอนเราเลี้ยงเด็ก เราก็ต้องทำโทษแบบนี้เช่นกัน แต่ไม่เห็นได้ผลเลย เพราะพอเด็กเดินมาขอโทษ เดี๋ยวก็ลืมว่าตัวเองเคยทำผิด ก็เกิดขึ้นอีกซ้ำซาก บางทีเด็กเริ่มชิน รู้ว่าตัวเองทำผิด ก็เดินไป time out เอง เรายังเชื่อสำนวนไทยที่ว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ยังไงก็ได้ผลดีกว่า
การเลี้ยงดูเด็กอเมริกันไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เราต้องพยายามเข้าใจว่าเด็กอเมริกันมีอิสระด้านความคิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกว่าเด็กก้าวร้าว สำหรับเรา การทำตัวให้กลมกลืนเหมือนเป็นเพื่อนกับพวกเค้า จะทำให้เด็กๆ ฟังเรามากขึ้นและรู้สึกรักที่จะอยู่กับเรา
ป.ล. เรื่องราวที่เขียนมาเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว บางครั้งอาจจะไปขัดแย้งกับความคิดของคนอื่นบ้าง ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 มิถุนายน 2554 7:21:24 น.
8 comments
Counter : 14359 Pageviews.
Share
Tweet
เด็กที่นี่สกปรกมาก และไม่มีระเบียบ หน้าตาสวยๆๆ แต่เชื่อได้เลยคะ ว่าถ้าเดินเข้าไปดูที่ห้องนอน ต้องร้อง..............
โดย:
lovelylk
วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:9:16:03 น.
เด็กไทยเลี้ยงโตยาก ไม่ว่าอายุขนาดไหนอะไรก็ต้องพ่อเเม่
โดย: ตา IP: 74.167.181.205 วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:10:18:08 น.
โรงเรียนเปิดเทอมแล้วจร้า
พี่ส้มทำงานไม่หนักหรอกสบายๆทำ past-time ครึ่งวันเองจ๊ะ
ตั้งใจเอาไว้ว่าปีนี้อยากมีเจ้าหญิงเจ้าชาย55555
ไผ่สบายดีน่ะ
พี่ส้มผ่านเรื่องที่ไผ่เขียนหลายๆเรื่อง
ไผ่เขียนได้ดีทีเดียวแหละ เขียนต่อไปเรื่อยๆน่ะ
เด็กๆทั่วโลกมีความแตกต่างที่หลากหลายเชียวแหละ
โดย:
somphoenix
วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:11:22:45 น.
โอ้โห ได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่แตกต่างจากการเลี้ยงเด็กไปมากเลยค่ะ
ขอเข้ามาเก็บความรู้นะคะ
โดย:
หนูเมเปิล
วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:21:41:10 น.
เราว่าเลี้ยงเด็กแบบอเมริกันดีกว่าไทย เด็กไทยไม่รู้จักโตและไม่ค่อยมีความคิดซะเท่าไหร่ เพราะถูกเลี้ยงแบบไทยๆประคบประหงมลูกซะจนทำอะไรไม่เป็น
โดย: JK (
justkitty
) วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:22:18:47 น.
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะคะ
โดย:
Coucou Bamboo
วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:11:16:00 น.
เช็คหลังไมค์ด้วยจ้า
โดย:
lovelylk
วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:13:45:45 น.
ถ้าเกิดว่าผมต้องการที่จาไปทำงานที่สหรัฐบ้าง
ผมควรที่จาสมัครที่ไหนครับ เมื่อครั้งตอนที่คุณผู้หญิงไปนั้น คุณผู้หญิงสมัครที่บริษัทไหนหรอครับ ? รบกวนขอข้อมูลหน่อยนะครับ
bro.kit@hotmail.com
โดย: MORITA KANATO IP: 125.24.241.74 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:53:19 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Coucou Bamboo
Location :
Chicago United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
?
]
Welcome to my blog
พอดีได้มีโอกาสเข้ามาดู Bloggang ของคนหลายๆคน ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าน่าสนใจ เลยสมัครเป็นสมาชิกของที่นี่อีกหนึ่งคน แม้ว่าจะเป็นคนเขียนไม่เก่ง ใช้ภาษาไม่ค่อยถูกต้อง แต่สิ่งที่ตั้งใจจะทำก็คืออยากจะเก็บข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ได้พบเห็นมาเอาไว้ นอกจากนั้นบางอารมณ์ก็อยากเขียนความรู้สึกนึกคิดไว้เป็นบันทึกของตัวเองที่นี่ด้วย เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำตลอดไป สำหรับใครก็ตามที่หลงเข้ามาในบล็อกนี้ ก็ขอกล่าวคำสวัสดี และขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ และขอให้โชคดีนะค่ะ
BON COURAGE!.
New Comments
Friends' blogs
bite25
warest
somphoenix
lovelylk
FonRattiya
แมวดำข้างหน้าต่าง
aumdeeda
MollyJinx
classhopper
talentman
ตะวันหรรษา ทะเลอาแจ่มใส
ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Dress Code
กลับมาแล้วเหรอ เก่งมาก ๆ เลย
jipnaja
prunelle la belle femme
แฟนสาวฮัตโตริคุง
chokun123
natto-kita
manoi2007
tuniez83
rainoflove
sweetstrawberryzz
ST.Exsodus
Artagold
Twin007
aston27
XOOMER
Webmaster - BlogGang
[Add Coucou Bamboo's blog to your web]
Links
Code&Script 1
Code & Script 2
Code & Script 3
Color Code
Photobucket
กรอบสำเร็จรูป
Line
My facebook
My hi5
Youtube
Photoscape
วิธีแต่งบล็อกต่างๆ
Code ใส่เพลง
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.