ออทิสติกกับการใช้ชีวิตคู่
บังเอิญได้คุยกับ ผู้รู้ ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็ให้คำแนะนำ สำหรับกรณีนี้มา ว่า ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะ อาการของ ออทิสติก ประเภท Asperger's syndrome เค้าเรียกว่า "ก้าวร้าวอย่างสุภาพ" ค่ะ ด้วยความที่เค้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของเค้าได้ เมื่อเค้าระเบิดออกมา นั่นหมายถึง คำพูดแสบๆคันๆก็จะหลุดออกมาจากปากอย่างควบคุมไม่ได้ คำว่าก้าวร้าวอย่างสุภาพก็เหมือนกับว่า การแสดงออกโดยอากัปกริยาที่นิ่ง หรือแสดงสีหน้าโกรธ แต่ ไม่ทำร้ายใครทั้งนั้น จะด่าๆๆๆๆๆๆๆ ไม่หยุดแล้วแต่พื้นฐานของคนๆนั้นว่าครอบครัวเลี้ยงดูมาแบบไหน หมายความว่า ดีกรีความหยาบคาย จะขึ้นอยู่กับสภาวะการเลี้ยงดูของคนในครอบครัวค่ะ คือคุยกับแฟนผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่เคยได้รับรู้อาการของเค้าครั้งหนึ่ง คือปกติเราจะออนไลน์คุยกันทุกๆวัน เวลาเดิมๆ มีอยู่วันหนึ่งที่เค้าไม่ออนไลน์ หายไปเฉยๆโดยไม่บอกล่วงหน้า ซึ่งผิดปกตินิสัยเค้ามากๆ พอวันรุ่งขึ้น เค้าเข้ามาคุยตามปกติ และเล่าว่า ที่หายไป เหตุผลเพราะว่า เค้าไปค้างที่บ้านของคุณน้า แล้วพยายามจะต่อ INTERNET เพื่อเข้ามาแชตคุยกับเราตามปกติ แต่ปรากฎว่าต่อไม่ได้ เค้าพยายามจะทำอยู่เป็นชั่วโมง สุดท้ายไม่ได้จริงๆ เหมือน Modem จะมีปัญหา แล้วตอนนั้นที่บ้านเค้าก็ค่ำแล้วค่ะ จะไปตามช่างคงไม่ได้ เชื่อมั้ย คะว่า เค้าตัดสินใจ วางทุกอย่าง หันหลังเข้าหามุมห้อง แล้วก็ไม่พูดไม่คุยกับใครอีก แน่นอนค่ะ แม้แต่กับเราด้วย จริงๆบ้านก็ไม่ไกลกันมาก เค้าจะกลับมาออนไลน์ที่บ้านก็ได้ แต่เค้าไม่ทำค่ะ เพราะเค้าบอกว่า เค้ากำลังโมโห ที่แค่นี้ก็ทำไม่ได้ เค้าเลยไม่อยากคุยกับใคร รวมถึงเราด้วย เพราะกลัวว่า จะหลุดคำพูดที่ไม่สุภาพใส่เรา และทำให้เราเสียใจ เค้าไม่อยากเสียเราไป แสดงให้เห็นว่าเค้ารับรู้อาการที่เค้าเป็น และพยายามจะควบคุมมันให้ได้ ซึ่งคงเป็นความพยายามที่ยากเย็นมาก ตอนนี้แฟนอายุ 37 ปี เคยแต่งงานมาแล้ว 2 หน ค่ะ 2 หนแล้ว แต่งงานหนแรก อายุ 19 ปี แต่งได้ 4 ปีก็หย่า หลังจากนั้นก็เป็นโสดมาตลอดจนแต่งงานหนที่ 2 ตอนอายุ 29 ปี หย่าเมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ แต่งได้ 6 ปีเท่านั้น (ตัวภรรยาเก่าเค้า เราก็รู้จักค่ะ แต่เธอคงไม่อยากเสวนากะเราเท่าไหร่) ปัญหาของอาการ Asperger's syndrome กับการหย่าร้าง มี % สูงมากๆ ในการเทียบสถิติกันเลยทีเดียว เนื่องจากเหตุผลเดียวคือการควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยู่เป็นหลัก ทำให้เกิดการผิดใจ ทะเลาะกันได้ง่าย แล้วอาการโกรธคือต้องปล่อยให้ เค้านิ่ง ห้ามไปยุ่งวุ่นวาย ห้ามไปปลอบโยนหรือพยายามเคลียร์ เพราะยิ่งทำเช่นนั้น ยิ่งทำให้แตกหักหนักกว่าเก่า อันนี้เราต้องศึกษาไว้ให้จงหนักทีเดียว โมโหต้องปล่อยให้มันเป็นบ้าไปคนเดียว เดี๋ยวมันก็หาย 5555 ตอนนี้แฟนนั่งสมาธิเกือบทุกวัน เค้าเปลี่ยนศาสนามาเป็น ศาสนาพุทธ ประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลที่เค้ารู้สึกว่า นี่คือศาสนาที่ใกล้เคียงกับ "วิทยาศาสตร์" มากที่สุด และเค้าก็นับถืออย่างจริงจัง ห้อยพระด้วย ในห้องนอนก็มีพระพุทธรูป ศิลปะทางมหายาน (เค้านับถือสาย ZEN) จำได้ว่า ตอนที่ตัดสินใจคบกันใหม่ๆ ได้ไม่นาน เค้าบอกกับเราว่า ตอนที่เค้าหย่ากับภรรยาคนล่าสุดได้สักพัก เค้ามีความตั้งใจว่า ถ้าเค้าจะมีภรรยาใหม่ จะต้องได้ 5 ข้อตามนี้ 1. ไม่ใช่ผู้หญิงอเมริกัน 2. นับถือศาสนาพุทธ (อันนี้พอเข้าใจว่า มันไปด้วยกันได้เรื่องของการนับถือศาสนา) 3. มีสีผิวขาว 4. ชอบอะไรที่คล้ายๆกัน มีอารมณ์ขัน ร่าเริง คุยสนุก เข้าใจเค้า 5. ต้องอ้วน (?????) ข้อ 5 นี่ เล่นเอาเราขำก๊าก แต่เค้าบอกว่า ซีเรียสเลยนะข้อนี้ เพราะเค้าไม่ชอบผู้หญิงผอมๆค่ะ แปลกคน ??? ตอนนั้นที่เค้าคิดไว้ เค้ายังไม่พบเจอเราด้วยซ้ำไป เค้าบอกด้วยซ้ำว่า สำหรับเค้าการมีภรรยาที่เป็นคนเอเชีย หรือชาติอื่นที่ไม่ใช่อเมริกัน เป็นเรื่องยากมาก เพราะเมืองของเค้าอยู่ มีอยู่บ้างก็จริง แต่ส่วนมากจะมีสามีแล้วค่ะ การพบเจอเรา ถึงแม้ในอินเตอร์เน็ต แต่พบกันในจังหวะที่มันถูกที่ ถูกเวลา มันเลยเป็นอะไรที่เกินความคาดหวังของเค้ามาก เพราะเค้าบอกว่าแรกที่เห็นปุ๊บก็ชอบปั๊บ มันใช่เลย แต่ก็ลังเลว่า เรายังโสดอยู่รึเปล่า พอรู้ว่าโสด ก็เลยรีบรุก กลัวพลาด (ก็ว่าไป) แต่ก็เป็นจังหวะของเราเหมือนกันนะคะ เพราะปกติไม่ชอบฝรั่ง เป็นเพื่อนกันซะเยอะแยะ แต่แปลก พอมาคุยกะเค้าแล้วสนุกถูกใจ รู้สึกดีๆ พอเค้าถามเราเลยไม่ปฏิเสธ แบบว่า มันใจตรงกันนี่นา.. เค้าเป็นคนชอบ ดูหนังทางโซนเอเชีย แน่นอนว่าต้องมีหนังไทยรวมอยู่ด้วย แต่เค้าชอบหนังญี่ปุ่นมากๆ ตอนรู้จักกันใหม่ๆ เคยหยอกเค้าว่า สงสัยเค้าคงอยากได้ ภรรยาเป็นสาวญี่ปุ่นแน่ๆ เค้าตอบกลับมาเล่นเอาหงายว่า... ผมว่าตอนนี้ผมอยากได้ภรรยาเป็นสาวไทยมากกว่า ตอนนี้แฟนพยายามไปปรึกษาคุณหมอ เพราะอาการ Asperger's syndrome นั้นรักษาไม่หายแต่พัฒนาให้ดีขึ้นได้เรื่อยๆค่ะ ถ้ารู้จักการควบคุม รู้เท่าทันตัวเอง และเพื่อการเตรียมพร้อมเวลาที่มาหาเรา จะได้ไม่หลุด ไม่รั่วให้เราพบเจอ น่าสงสารเหมือนกัน.. จริงๆ คือเค้าเหมือนเด็กๆ บางทีที่คุยกัน เหมือนเค้าจะมีโลกในจินตนาการเยอะ แล้วเล่าให้เราฟัง บางทีแต่งเพลงก็ส่งเนื้อมาให้เราดู เล่าเรื่องราวต่างๆเหมือนเล่านิทานให้เราฟัง แต่เวลาทำงานก็ยังไปทำงานตามปกติ เลิกงานกลับมาก่อนนอนก็คุยกับเราทุกวัน วันไหนไม่ได้คุยเพราะไปธุระต่างเมือง เค้าก็จะบ่นว่า "คิดถึงคุณชะมัด รู้สึกแปลกเวลาก่อนนอนไม่ได้คุยกับคุณ" เหมือนกับมีความเป็นเด็ก อยู่ในความเป็นผู้ใหญ่ เวลาทำงานก็ซีเรียสจริงจัง ทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วไป แต่พอเลิกงานก็กลับมา เป็นเด็กๆเหมือนเดิม.. ยัง เคยคิดว่าถ้าต้องอยู่ด้วยกันจริงๆ เวลาเค้าโมโหแล้วด่าเราเงี้ย เราก็ทำเป็นหูทวนลมซะก็สิ้นเรื่อง อีกอย่างด่าภาษาอังกฤษ คงไม่มันส์สะใจเท่าภาษาไทยแน่นอน (และก็จะไม่สอนคำด่าภาษาไทยให้เค้าด้วยเดี๋ยวเป็นเรื่อง) ปล่อยให้ด่าให้เหนื่อย แล้วเดี๋ยวก็กลับมาเป็นคนเดิมเอง นึกๆ ก็ขำ แต่ชีวิตจริง คงขำไม่ออกแน่นอน ปล. ตอนนี้ก็มานั่งคิดว่า เห็นทีพี่ชายเราจะดูไพ่ยิปซีให้เราแม่นซะละมั้ง ไพ่ที่บอกว่าคนที่เราจะแต่งงานด้วย เป็นนักดนตรี เป็นคนมีความรู้ความสามารถเก่งมากๆทีเดียว แต่เป็นคนหลายบุคลิก และ บางครั้งก็ รั่ว !!! (ไอ้นี่หละที่ว่าแม่น) ถ้ารักกันเข้าใจกันด้วยดี แต่งงานแล้วจะมีความสุขมาก ขอให้เข้าใจกันก็พอ.. ยังแซวพี่ชายอยู่เลยว่า..กลัวจัง กลัวไพ่จะแม่น พี่ชายยังขำเลยอะ แต่ทุกๆอย่างต้องรอว่ากันอีกครั้ง เพราะจริงๆ อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ แม้แต่เค้ายังกลัวเราเจอตัวเป็นๆ เค้าแล้วเราไม่ชอบเค้าเลยอะ..เราก็กลัวว่าเค้าอาจจะไม่คลิ๊กกับเราตอนเจอตัว เราเป็นๆ บอกเลิกไปหนหนึ่งเพราะกลัว เค้าก็บอกว่า รอเจอกันแล้วไม่ถูกใจกันค่อยบอกเลิกกัน ก็เป็นเพื่อนกันได้ ก็จริงของเค้า เลยต้องรอดูกันต่อไปค่ะ เค้าบอกว่า พร้อมเมื่อไหร่ ก็ป๊ะกันแหม ละเจ๊า !!!
Create Date : 23 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2555 21:01:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1685 Pageviews. |
 |
|