SPLICE

เพาะพันธุ์อสูรกาย

      กิเลสมนุษย์เรานี้ไม่ต่างอะไรกับอสูรกายเลย หากมนุษย์ไร้ซึ่งความพร้อม และไม่รู้จักควบคุมกิเลสไว้ได้อสูรกายร้ายตนนี้ก็จะก่อตัวแกร่งขึ้นจนยากที่เราจะกลับมาบนเส้นทางเดิมได้ต่อไป ความร้ายกาจของอสูรกายย่อมเป็นที่รู้จักกันดีหากแต่ว่ามนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่มนุษย์ต้องเผชิญกับมันอยู่เสมอ และเรียนรู้มันพร้อมกับการควบคุมความอยากในกิเลสนั้นให้สมดุลกับชีวิต เพื่อ ที่จะให้ชีวิตเราไม่พบกับสิ่งเลวร้าย ตัวกิเลสนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีได้เสมอหากเราควบคุมมันได้และมีความพร้อมในการรับมือกับมัน เราก็จะใช้กิเลสนั้นสร้างแรงผลักดันที่ก่อประโยชน์ขึ้นมาอย่างถูกต้องพอเหมาะพอควรไม่เกินเลยความพอดีได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วศีลธรรมจริยธรรมเองก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เราต้องมีเพื่อจะยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการรับมือกับกิเลส สิ่งนี้เปรียบเป็นเสาหลักในการกำหนดทิศทางของชีวิต และยังเป็นเกราะหุ้มให้เราแคล้วคลาดในสิ่งมืดร้ายนั้นด้วย เมื่อผมได้ดูหนังจบลง ผมรู้สึกว่าภาพยนตร์ที่ผมได้ไปดูมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2553 เรื่อง Splice นี้ มันทำให้ผมคิดเช่นนั้น

      Splice ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ชีวิตลึกลับระทึกขวัญเรื่องนี้ไม่ได้มาในแนวที่เราคุ้นๆกันนักแบบพวกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ถล่มโลก แต่มาในแนวที่จริงจังกว่าการเป็นหนังแฟนตาซีอะไรเทือกนั้นมากกว่า แล้วหนังก็จงใจเล่นในด้านมืดของมนุษย์ซึ่งมีไม่ค่อยเห็นมากนักในหนังแนวแบบนี้ ผู้ชมจะได้รับชมในเรื่องราวตัวประหลาด และมนุษย์ควบคู่กันไป หนังเรื่องนี้เปรียบเป็นการสะท้อนของเงามนุษย์จากตัวประหลาดที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาได้ฉลาดนัก ในขณะเราดูเราก็ต้องคิดวิเคราะห์ตามไปด้วยก็จะเกิดความสนุกในอีกแบบ หากผู้ชมเพียงแค่ดูอย่างเดียวหนังก็ให้อารมณ์ตามแนวหนังที่ชมเช่นนั้นจริงๆ ก็ถือได้ว่าหนังเรื่องนี้ก็ทำได้ประสบความสำเร็จแล้วทั้งการเล่นอารมณ์กับคนดูเป็นระยะๆ การสร้างเงื่อนงำและคลายปมปัญหาจากการทดลองของมนุษย์ตลอดการชมชวนติดตามไปจนจบ

      ผู้กำกับภาพยนตร์ วินเซนโซ นาตาลี ควบคุมงานหนังของตัวเองออกมาในแนวทางที่ต้องการได้ดีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเล่นประเด็นเกี่ยวกับกิเลส และศีลธรรมได้อย่างแยบยลได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย ผู้กำกับไม่พยายามป้อนหรือยัดเยียดในแนวทางที่เสร็จสรรพทางความคิดต่อผู้ชม แต่ให้คนดูคิดตามไปในการกระทำของตัวละครตลอด หากย้อนไปดูผลงานเก่าๆเขาแล้วก็ถือว่ายอดเยี่ยมเลยครับที่ได้รางวัลมาประดับเกียรติยศให้ตัวเองมามากมายหลายสถาบันจากเรื่อง Cube, Cypher, Nothing และหนังสั้น Elevated และมาในแนวหนังวิทยาศาสตร์ชีวิตลึกลับระทึกขวัญที่แฝงอะไรอยู่ในหนังของเขาอันเป็นเรื่องถนัดอีกด้วย และที่สำคัญเรื่องนี้เขายังทำหน้าที่ในส่วนผู้เขียนบทร่วมกับ แอนตัวเน็ต เทอรี่ ไบรอัน และ ดั๊ก เทย์เลอร์ โดยที่เรื่องราวนี้มาจากความคิดของตัวผู้กำกับฯเองและ แอนตัวเน็ต เทอรี่ ไบรอัน ซึ่งย่อมรู้ว่าจะกำหนดอย่างไรให้เป็นไปตามความต้องการ

    ผู้กำกับฯ ใช้ตัวละครได้อย่างคุ้มค่ามากจากจำนวนนักแสดงที่น้อยนิดในการสร้างสรรค์เรื่องราวเหตุการณ์ได้อย่างน่าชมเชย และจากพัฒนาการของตัวละครเองนั้นทำให้เห็นถึงด้านมืดของตัวละครที่กำลังดำเนินไปในหนังอย่างเข้มข้น รวมถึงความเวทนาแห่งโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นได้อย่างพอดิบพอดี แม้หนังจบลงแล้วคำถามที่หนังได้ตั้งไว้ยังเป็นที่ให้ถกถึงได้อีก

    Splice นับว่าได้นักแสดงชั้นดีมาแสดงที่สามารถจะช่วยเรียกความน่าสนใจจากผู้ชมเข้ามาดู เอเดรียน โบรดี้รับบทเป็นนักเคมีฟิสิกส์นาม “ไคลฟ์ นิโคลี” เขาทำได้ในมาตรฐานของนักแสดงบทนี้ ไม่มีอะไรที่ให้ต้องลำบากเลย อารมณ์ความสับสนขาดความหนักแน่นความพร้อมต่างๆเขาทำได้ตรงตามบุคลิกตัวละครนี้เลยครับ นักแสดงสาวสวยตัวนำอีกตัวคือ ซาราห์ โพลลี่ รับบทเป็น “เอลซ่า แคส์ท” ก็ให้การแสดงที่ดีผมขอเปรียบเธอเหมือนกับลูกกวาดที่อาบยาพิษแล้วกันครับตามความคิดของผมที่ได้ดูการแสดงของเธอในตัวละครตัวนี้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัวละครตัวประหลาดที่เป็นตัวละครแห่งกิเลส และศีลธรรมมีนามว่า “เดรน” รับบทโดยนักแสดงสาวสวย เดลฟีน ชาแนค เธอแสดงดีมากครับดูเย้ายวน มีมีความน่าเวทนา และความมีชีวิตชีวาในตัวละครตัวนี้มาก “เดรน” เหมือนความพิกลพิการแห่งสังคมในปัจจุบันนี้ที่หนังเปรียบเปรยถึงได้ดีมาก ผลลัพธ์ที่เกิดออกมาอย่างไร้ความพร้อมมักนำมาซึ่งปัญหาเสมอ ยากนักที่จะทำให้จบลงได้อย่างราบลื่น ต้องชมให้กับบทหนังเรื่องนี้ครับว่าสร้างตัวละครตัวนี้ออกมาได้ดี

      งานการสร้างของหนังอยู่ในระดับมาตรฐานที่ดีมีคุณภาพ ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับระทึกขวัญ ในโทนอึมครึมตลอดเรื่องราว ดนตรีและเพลงประกอบหนังเรื่องนี้มีส่วนในการกำหนดอารมณ์ของหนังในช่วงจังหวะนั้นๆได้ดีครับที่มีทั้งแนวหนักแน่นร้อนแรง และแนวอ่อนหวานชวนฝันนุ่มนวลได้ค่อนข้างเข้าท่าครับ งานด้านเสียงพิเศษก็สร้างความระทึกดีเช่นกัน

     ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นไม่ถึงกับเป็นหนังที่ตลาดจ๋านักแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ให้ความบันเทิงเลยต่อผู้ชม ซึ่งหนังมีแน่นอนในสิ่งที่ผู้ชมอยากดูเช่นกัน แต่ผู้ชมต้องปรับตัวเล็กน้อยเพราะระดับความเร็วของหนังนั้นไม่เหมือนกับหนังจากฮอลลีวู้ด เพราะนี่เป็นหนังที่ร่วมทุนสร้างจากสามสัญชาติ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา จากกลุ่มผู้สร้างอิสระที่มีความคิดแนวทางที่ต่างจากสตูดิโอใหญ่ของฮอลลีวู้ดที่ค่อนข้างเอาใจตลาด ดังนั้นแล้วขอแนะนำว่าให้ปล่อยใจเปิดใจไปกับการชมแล้วจะสนุกแน่นอนครับ

คะแนนความพึงพอใจ      7.5/10

ความยาวภาพยนตร์:   106  นาที

ระดับวัยผู้ชม :   15  ปีขึ้นไป มีฉากเปลือย ฉากเพศสัมพันธ์ การ                                    ต่อสู้ที่รุนแรง และภาษาที่ใช้ไม่เหมาะสมบ้างซึ่งผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำในการชม 

ผู้กำกับภาพยนตร์ :   วินเซนโซ นาตาลี

บทภาพยนตร์ :   วินเซนโซ นาตาลี, แอนตัวเน็ต เทอรี่ ไบรอัน และ ดั๊ก เทย์เลอร์

นักแสดง:   เอเดรียน โบรดี้, ซาราห์ โพลลี่, เดลฟัน ชาแนค, แบรนดอน แมคกิ๊บบอน, ซิโมนา ไมคาเนสคู, เดวิด ฮิวเล็ต, อบิเกล ชู

ผู้อำนวยการสร้าง:   แฟรงค์ โครอท, สตีเวน โฮแบน, ซูซาน มอนท์ฟอร์ด, ดอน เมอร์ฟี่, คริสตอฟ เรนดี, กิลเลอโม เดล โทโร่

ผู้กำกับภาพ :   เท็ตซูโอะ นากาตะ

ลำดับภาพ :   มิเชล คอนรอย