TOY STORY 3 กับสิ่งดีดีที่ได้จากของเล่น
TOY STORY 3 ของเล่นเป็นสิ่งที่เด็กๆชื่นชอบมาก ของเล่นเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กๆเกิดแรงผลักดันในการสร้างจินตนาการขึ้นมาขณะเล่น ของเล่นก็ยังเป็นสิ่งที่ให้ความสุขใจสร้างมิตรภาพที่ดีหากเด็กๆเองได้เรียนรู้จากการเล่นของเล่นกันอย่างถูกวิธี ของเล่นจึงมีประโยชน์ต่อพัฒนาการต่อเด็ก และความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง และสิ่งรอบตัวด้วยเช่นกัน เมื่อผมระลึกถึงเมื่อเยาว์วัยผมมีของเล่นไม่มากนักหรอกครับ แต่สิ่งที่ผมจำได้ดีว่าของเล่นที่ผมเล่นผมเล่นกับพวกเขาและเธออย่างทะนุถนอมเสมอ เพราะของเล่นทุกตัวล้วนให้แต่สิ่งดีกับตัวคนเล่นเสมอนั่นเอง กาลเวลาเปลี่ยนไปตัวเด็กโตขึ้นเด็กบางคนอาจจะลืมของเล่นบางตัวไปหรือจะยังจดจำหรือจะอีกหลายเหตุผลก็ตาม อย่างเช่นตัวผมเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้มาทั้งสามภาค ก็ทำให้ต้องย้อนระลึกถึงวันวานครั้งนั้นเสมอ และขอบคุณของเล่นทั้งหลายและผู้ที่สร้างของเล่นทุกคนในที่นี้ครับ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของสตูดิโอพิกซาร์ที่นำเรื่องของเล่นมาสร้างความหรรษาบันเทิงใจเปี่ยมล้นความอบอุ่นมาสู่ผู้ชมที่ยืนยงมากว่า 15 ปีจนได้มีภาคที่ 3 ออกมาให้ผู้ชมได้ดูกันนี้นับว่าสมค่ากับการรอคอยที่ห่างจากภาคที่ 2 ถึง 11 ปี โดยที่เนื้อเรื่องไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาตลอดจากที่ได้ดูในภาคที่ 3 นี้ และที่สำคัญความเป็นจิตวิญญาณของเรื่องราวของเล่นคงความแน่นเต็มเนื้อในของหนังไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าผู้กำกับภาพยนตร์จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่จาก จอห์น แลสซีเตอร์ มาเป็น ผู้กำกับฯลี อันค์ริช ก็ตามหนังก็ยังคงความเป็น TOY STORY เช่นเดิม เนื่องเพราะเรื่องราวของภาพยนตร์มาจาก จอห์น แลสซีเตอร์ เช่นเดิมพร้อมกับทีมงาน แอนดรูว์ สแตนตัน และตัวผู้กำกับฯลี อันค์ริช โดยเรียบเรียงเป็นบทภาพยนตร์โดย ไมเคิล อานท์
จากนั้นก็เป็นหน้าที่ที่ผู้กำกับฯลี อันค์ริช จะควบคุมงานให้ออกมาตรงตามจินตนาการของตัวเขาให้ผสานเข้ากับตัวบทภาพยนตร์ได้ดีอย่างเพียงไร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจากการดูแลกำกับภาพยนตร์แบบเต็มตัวในครั้งแรกของผู้กำกับฯลี อันค์ริช บนจอเงินพูดได้ว่ายอดเยี่ยมมากเพราะจากการเปิดเรื่องขึ้นมา ผู้กำกับฯ ลี อันค์ริช นำพาผู้ชมเข้าสู่จิตนาการได้อย่างโลดโผนตื่นตาตื่นใจ ซึ่งผู้ชมจะต้องโดนใจถูกกระชากเข้าสู่ความเป็นเด็กอีกครั้งเมื่อยามเราเล่นของเล่นจุดนี้ผมชื่นชอบมากๆช่างมีชีวิตชีวาแล้วจากนั้นภาพกลับมาสู่ความจริงให้เราเตรียมความพร้อมว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวหลักแล้วนะ ในเรื่องราวของภาคล่าสุดนี้บทบาทของมนุษย์ถูกเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมจากสองภาคก่อน และเป็นความสัมพันธ์ที่สำคัญนำมาซึ่งเรื่องราวการผจญภัยในภาคนี้ ผู้กำกับฯลี อันค์ริชก็จัดสรรความเด่นในแต่ละส่วนได้ดีมาก เปิดทุกประเด็นและปิดทุกประเด็นที่กล่าวอย่างลงตัวตามที่บทบาทของแต่ละตัวละครถูกกำหนดมา ซึ่งทุกตัวไม่มีตัวใดเลยที่จะถูกละเลยโผล่มาเฉยๆแล้วก็จากไป ทุกตัวละครเป็นเหมือนเส้นใยที่เชื่อมต่อกันเพื่อมอบภาระหน้าที่จากอีกตัวละครหนึ่งไปอีกตัวละครได้อย่างไหลลื่น ซึ่งหนังได้แสดงให้เราได้รับรู้และเห็นมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนเป็นนัยที่บ่งบอกถึงความผูกพันระหว่างคนดูต่อแอนิเมชั่นชุดนี้ตลอดเวลา 15 ปี แอนิเมชั่นเรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นภาคที่ 3 แต่ความสดใหม่ของเรื่อราวที่พัฒนาต่อยอดมาจากเริ่มแรกนั้น เป็นจุดแข็งของเหล่าทีมงานผู้สร้างแห่งค่ายพิกซาร์นี้มากๆต่างจากสตูดิโออื่นอย่างเห็นชัดเจน เนื่องเพราะความใส่ใจในสิ่งละอันพันละน้อยนี้ที่ถูกกลั่นกรองจนได้ความสมดุล เช่นในความมีมิตรภาพ ความภักดี ความมีเสรีภาพประชาธิปไตย ความยุติธรรม ความเอื้ออาทรเอาใจใส่ ความสามัคคี ความรับผิดชอบ ความรัก ความเสียสละ ที่ใครๆที่ได้ดูจะต้องรู้สึกถึงความหมายเหล่านี้ที่หนังซ่อนอยู่อย่างเปิดเผย และเมื่อหนังจะจบก็จบลงอย่างประทับใจอย่างเช่นเคยโดยการส่งมอบสายสัมพันธ์นั้นไปสู่สายสัมพันธ์ใหม่ได้ชนิดที่ใครที่เคยเป็นดังเช่นตัวละครแบบนั้นก็คงจะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ดี เหล่านักแสดงที่มาร่วมกันให้เสียงทุกคนให้น้ำเสียง และอารมณ์ออกมาได้อย่างสุดยอดกันทุกคนเลยครับ ยิ่งโดยเฉพาะ ทิม อัลเลนผู้ให้เสียง บัซ ไลท์เยียร์ ด้วยนี่เด่นมากๆเขามาพร้อมกับบุคลิกที่แฟนๆคาดหวังอยากที่จะเห็น และเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่แฟนต้องการจริงๆ ส่วนคู่หู ทอม แฮงค์ ในบท วู้ดดี้ ก็คงความสุขุมในมาดคาวบอยสุภาพบุรุษคนกล้ามีคุณธรรมได้อย่างดีเยี่ยม และที่สร้างสีสันอีกตัวที่ฮามากๆคือ มิสเตอร์โปเทโท้เฮด ที่ให้เสียงโดย ดอน ริคเกิลส์ และอีกตัวละครที่สำคัญอีกตัวในฝ่ายมนุษย์คือ แอนดี้ ให้เสียงโดย จอห์น มอร์ริส จากเด็กน้อยจนเป็นวัยรุ่นหนุ่มวัยอุดมศึกษา เขาจะไม่ต่างจากเหล่าของเล่นในเรื่องเลยครับที่จะทำให้คนดูอย่างเราๆต้องคิดถึงและจดจำเขาไปตลอด
ในส่วนงานด้านภาพมีความสดใสสวยงาม ถ่ายทอดอารมณ์ในแต่ละฉากได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะในช่วงอารมณ์หม่นๆหลอนๆดูมีพลังมาก และเมื่อต้องการอารมณ์ที่โดดเดี่ยวก็ให้ภาพที่กว้างบวกกับดนตรีประกอบพร้อมเสียงพิเศษที่เข้ากับจังหวะของหนัง ซึ่งผมโชคดีมากที่เลือกดูในระบบฟิล์ม 35 ม.ม. ที่ยังไงก็ตามก็ให้ให้อารมณ์การดูหนังที่ดูดีมีมิติไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าดิจิตอล 3 มิติเลย แต่อดเสียดายไม่ได้ที่โรงหนังบ้านเราน่าจะควรมีโรงที่ฉายแบบดิจิตอลมาเป็นตัวเลือกด้วยก็น่าจะดี ทั้งที่เครื่องฉายดิจิตอล 3 มิติก็สามารถฉายในระบบดิจิตอลได้
นอกจากนี้ก็ยังมีการ์ตูนสั้นปะหัวก่อนฉาย Toy Story 3 คือเรื่อง Day & Night ความยาวประมาณ 7 นาทีให้ชมกันเช่นเคยตามความคิดส่วนตัวของผมการ์ตูนสั้นเรื่องนี้จะดีเยี่ยมมากๆถ้าหากไม่มีบทบรรยายมาใส่ในตอนท้าย ที่ผมรู้สึกว่าปิดกั้นจินตนาการความคิดคนดูไป หากปล่อยให้เขาคิดเองจะให้อารมณ์หนังที่น่าจะลงตัวกว่า ผมชอบความคิดการถ่ายทอดของหนังเรื่องนี้มากๆครับเป็นอะไรที่สร้างสรรค์แปลกตามากครับ คะแนนความพึงพอใจ 8.5/10 ความยาวภาพยนตร์ : 109 นาที (รวมการ์ตูนสั้น) ระดับวัยผู้ชม : 5 ปีขึ้นไป มีฉากระเบิด ฉากอันตราย ฉากการต่อสู้ ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำบ้าง ผู้กำกับภาพยนตร์ : ลี อันค์ริช บทภาพยนตร์ : ไมเคิล อานท์
เรื่องโดย : จอห์น แลสซีเตอร์, แอนดรูว์ สแตนตัน, ลี อันค์ริช
นักแสดง : ทอม แฮงค์(วู้ดดี้), ทิม อัลเลน(บัซ ไลท์เยียร์), ดอน ริคเกิลส์(คุณหัวมันฝรั่ง), โจน คิวแซ็ค(เจ็สซี่), เน็ด บีทตี้(ล๊อตโซ), ไมเคิล คีตัน(เคน), เอสเทลล์ แฮร์ริส(คุณนายหัวมันฝรั่ง), วอลเลซ ชอว์น(ทีเร็กซ์), จอห์น มอรร์ริส(แอนดี้), โจดี้ เบนสัน(บาร์บี้), เบียร์ทริกซ์ มิลเลอร์(มอลลี่), เบรค คล๊าก(สลิงกี้ ด๊อกซ์), จอห์น ลาสเซนเบอร์เกอร์(แฮมม์), เอมมีลี่ ฮานน์(บอนนี่), วูปี้ โกลด์เบิร์ก(สเตรทค์) ลำดับภาพ : เคน เชร็ทซ์แมนน์
ผู้อำนวยการสร้าง : ดาร์ลา เค.แอนเดอร์สัน, จอห์น แลสซีเตอร์
Free TextEditor
Create Date : 18 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 18:34:30 น. |
|
2 comments
|
Counter : 691 Pageviews. |
|
|