MILLENNIUM 1 : The Girl with Dragon Tattoo ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องเยี่ยมที่คอหนังไม่ควรพลาด

MILLENNIUM 1 : 

 The Girl with Dragon Tattoo 

ภาพยนตร์สวีเดนสืบสวนปมปริศนาดรามาที่เข้มข้นตลอดเรื่องระยะเวลา 143 นาทีเต็มๆ (ไม่รวมเครดิตท้ายเรื่อง) ของไตรภาคแรกนี้คุณผู้ชมจะต้องชื่นชอบครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอหนัง เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายขายดีของ สติ๊ก ลาร์สสัน มาผ่านการดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดยนิโคลัส อาร์เซล และ รามุส ไฮสเตอร์เบิร์ก ทั้งคู่ทำบทภาพยนตร์ออกมาได้ดีมากโดยความดีทั้งหมดนี้ต้องยกให้เจ้าของนิยาย สติ๊ก ลาร์สสัน ที่มีความเข้มข้นในประเด็นของปมหลังของตัวละครหญิง ลิสเบธ ซาแลนเดอร์(นุมี ราพาซ) และ แฮเรียต แวงเกอร์ (อีวา โฟรลิงค์;ในวัยชรา และ จูเลีย สปอร์รี;ในวัยสาว)ได้อย่างลงตัวมาก โดยเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันการฆาตกรรมที่ซับซ้อนมาก เรื่องราวการหายสาบสูญของหญิงสาวตระกูลมหาเศรษฐีระดับชั้นนำของประเทศที่ทำให้หนุ่มใหญ่ มิคาเอล บลอมควิสต์(ไมเคิล นีควิสต์) แห่งนิตยสารดังผู้ขุดคุ้ยหาความจริงมาตีแผ่สังคมต้องมีชีวิตที่ผันแปร เมื่อต้องมาสืบหาความจริงของคดีปริศนากว่า 60 ปีให้เต็มไปด้วยความเข้มข้นของเรื่องราวในภาพยนตร์

หนังเรื่องนี้ผู้ชมจะได้เห็นถึงประเด็นภัยคุกคามสตรี ประเด็นความถูกผิดในด้านศีลธรรม ประเด็นสังคม ประเด็นความรัก และในเรื่องการสืบหาความจริงซึ่งถูกกำกับภาพยนตร์โดย นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ ทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเปี่ยมเทคนิคการสร้างสรรค์งานจากผู้กำกับภาพยนตร์ท่านนี้ หนังให้อารมณ์ที่หดหู่สะเทือนใจผู้ชมในประเด็นที่ผมกล่าวตอนต้น ทำให้เราทุกคนอึ้งไปกับชะตากรรมของตัวละครและก้าวร่วมไปกับสิ่งที่หนังนำเสนอดีมาก เมื่อต้องเข้าสู่ความระทึกผู้กำกับภาพยนตร์สามารถควบคุมบรรยากาศต่างๆในองค์ประกอบของฉากนั้นได้อย่างควรจะเป็นในทุกประเด็นให้คนดูได้รับรู้เรื่องราวจากหนังที่เหล่านักแสดงได้ทำงานของพวกเขาอยู่ได้อย่างถึงรส และเมื่อหนังเข้าในช่วงเรื่องความรักหนังก็ช่างเป็นความสมจริงที่ต้องชวนลุ้นตลอดว่าจะจบลงเช่นไร มันช่างสร้างอารมณ์การติดตามในความรักที่หนังทำได้ดีและแตกต่างจากหนังเรื่องอื่นๆที่เราคนดูคุ้นๆกัน

นอกจากนี้แล้วตัวละครในเรื่องช่างมากมายและมีความสำคัญมากมีทั้งตัวหลอก ตัวจริง ตัวขับเคลื่อน ตัวเสริม ตัวรับ ทำได้อย่างลงตัวเพราะในนิยายย่อมต้องมีรายละเอียดมากมายและลงลึก ซึ่งยากมากที่หนังจะถ่ายทอดได้หมดแต่ผู้เขียนบทภาพยนตร์ทั้ง 2 นิโคลัส อาร์เซล และรามุส ไฮสเตอร์เบิร์ก ถ่ายทอดลงมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ตัวผู้กำกับฯนีลส์ อาร์เดน ออฟเลฟ ก็จัดสรรแต่ละตัวละครอย่างได้ตรงตามบททุกประการ ผู้ชมจะได้รับรู้ที่มาที่ไปของแต่ละตัวละคร ทุกตัวละครมีความสำคัญมากเหมือนเราคนดูกำลังดูการต่อภาพจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่อย่างจดจ่อ จากตัวละครนำของเรื่อง ในขณะเดียวกันหนังยังนำเราเข้าสู่ปมหลังของตัวละครสำคัญไปด้วย ก็จะทำให้ผู้ชมเห็นถึงความนึกคิดเหตุผลว่าทำไมตัวละครถึงเลือกการกระทำเช่นนั้น อะไรเป็นแรงจูงใจ แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร

หนังยังมีการคลายอารมณ์ให้ผู้ชมผ่อนคลายเล็กๆน้อยจากพฤติกรรมของตัวละครนำเป็นระยะตามสถานการณ์ที่เป็นจริงกลมกลืน จะต้องทำให้ผู้ชมชอบใจ และหลงใหลไปกับบุคลิกของตัวละครนำนั้นแน่นอนเลยละครับ ซึ่งทั้งเขาและเธอ ไมเคิล นีควิสต์ และ นุมี ราพาซ ให้การแสดงที่น่ายกย่องมาก แน่นอนว่าผมเองไม่เคยรู้จักเพราะนี่คือภาพยนตร์จากสวีเดน แต่นับจากนี้จะเป็นที่จดจำในใจคอหนังไปตลอดเลยครับ ทั้งคู่มีที่มาต่างกันมากแต่กลับผสานกันได้เข้าท่า ที่อีกคนมีความสว่างกับอีกคนมีความดำมืดเหมือนหยินและหยางที่มีความใกล้ชิดสัมพันธ์กันตลอดเวลา แล้วในขณะเดียวกันก็ยังมีตัวละครที่ผูกพันเช่นเดียวกันอีกคู่ในตัวละครอย่างคู่ลุงกับหลาน เฮนริค แวงเกอร์(สเวน เบอร์ทิว ธอร์ป) กับ แฮเรียต แวงเกอร์ ที่ทำให้ผู้ชมต้องรู้สึกอาดูรในชะตาความผูกพันของทั้งคู่

ส่วนงานสร้างในหนังเรื่องนี้ในทุกๆส่วนงานทำออกมาได้ดีเลยครับ ทั้งช่วงบรรยากาศเวลาในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปัจจุบัน  ทั้งในเรื่องสถานที่ในท้องเรื่องที่ใช้เป็นฐานการสืบสวนก็ให้อารมณ์ชวนน่าพิศวง ลึกลับซ่อนเร้นมีอะไรไม่ชอบมาพากลในสถานที่ แล้วในเรื่องของฤดูกาลที่แตกต่างในหนังก็มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวจากความอึมครึมไปสู่ความสดใสซึ่งการเปลี่ยนถ่ายของช่วงฤดูกาล ภาพในหนังให้ความกลมกลืนจนเราเองไม่รู้สึกว่าเกิดความสะดุดเลย

อย่างที่ว่าไว้ว่านี่เป็นหนังไตรภาคของสวีเดน ผมจึงรอคอยที่จะได้ชมภาคที่ 2 ที่จะฉายต่อกันไปเลยจนจบภาคที่ 3 ซึ่งนับว่าเรื่องราวที่จะดำเนินต่อไปนั้นของ ลิสเบธ ซาแลนเดอร์ กับ มิคาเอล บลอมควิสต์ จะไปจบลงอย่างไร  ใครที่ยังไม่ได้ชมควรหาชมให้ได้นะครับ ตัวผมดูที่เฮ้าส์อาร์ซีเอครับ เพราะอีกไม่นานในปี 2554 หนังฉบับรีเมคที่สร้างจากทางฝั่งฮอลลีวู้ดก็จะออกมาฉายในวงที่กว้างขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีเท่าต้นฉบับหรือไม่ คอหนังไม่ควรพลาดหนังดีเรื่องนี้เลยครับ 

คะแนนความพึงพอใจ     8.5/10

ความยาวภาพยนตร์ :   150  นาที

ระดับวัยผู้ชม :  อายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะมีฉากเปลือย การต่อสู้ ความรุนแรง ความตาย และความทารุณกรรม ซึ่งผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำต่อเยาวชน

ผู้กำกับภาพยนตร์ :  นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ

ผู้อำนวยการสร้าง :  โซเรน สแตมอสซ์, โลน คอร์สลุนด์, มิคาเอล วอลเลน, แอนนี ฟอร์บาย เฟอร์นันเดซ, โอเล่ ซอนด์เบิร์ก

ผู้กำกับภาพ :  เจน ฟิสเชอร์, อีริค เกรซ

นักแสดง :  นุมิ ราพาซ, ไมเคิล นีควิสต์, สเวน เบอร์ทิว ธอร์ป, จูเลีย สปอร์รี, อีวา โฟรลิงค์, ลีน่า เองเดร, ปีเตอร์ ฮาร์เบอร์, ปีเตอร์ แอนเดอร์สัน
Free TextEditor

Create Date : 11 สิงหาคม 2553		0 comments
Last Update : 3 กันยายน 2553 11:51:21 น.
Counter : 913 Pageviews.
Share Tweet