เราสองสามคนเมื่อวันก่อนได้ไปดูหนังเรื่อง เราสองสามคน มาครับเป็นหนังแนวรักโรแมนติก เดินทางไปในสามประเทศอันได้แก่ ลาว เวียดนาม และจีน หนังนำเสนอในรูปแบบการขับรถเป็นขบวนคาราวานไปยังสามประเทศข้างต้น ในระหว่างทางก็มีการผูกเรื่องราวความรักของผู้เดินทางว่าเกิดจากพรหมลิขิต หรือเพราะความแปลกใหม่ที่ใครบางคนไม่เคยพบเจอจนทำให้เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นภายในใจจนเป็นความรัก นอกจากเรื่องราวหลักแล้วก็มีเรื่องราวรองที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคู่รักคู่อื่นที่คอยเป็นเหมือนแนวทางของคนมีรักมีประสบการณ์มาคอยเป็นตัวตามพระตามนางสร้างสีสันให้กับหนัง และเพื่อให้ครบสูตรของภาพยนตร์แนวรักๆใคร่แบบนี้ต้องมีจุดขัดแย้งจุดที่ว่าก็็คือ รักสามเส้าที่จะมาทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในตัวภาพยนตร์ ในส่วนประเด็นขัดแย้งในเรื่องความรักหนังให้ความรู้สึกในทางสดใสไม่ได้ต้องการลงลึกมากซึ่งไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่หากผู้ชมที่ที่ต้องการความลึกของบทภาพยนตร์ หนังไม่เลือกที่จะทำตัวเองให้หลุดไปจากแนวทางความสดใส เลือกที่จะมุ่งไปสิ่งผ่อนคลายจิตใจผู้ชมมากกว่าการขบคิด ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะนำเสนอข้อมูลไปในทางเดียวป้อนให้ผู้ชมตลอดการดูหนัง ผู้ชมไม่ต้องคิดนะดูในสิ่งที่ทางเรานำเสนอก็พอ ในตรงนี้คือตลาดใหญ่ที่ผู้ชมส่วนมากเป็น แน่นอนว่าหลายๆคนคงต้องชอบและอมยิ้มหัวเราะไปกับหนังที่มีมุกตลกมานำเสนอไม่ขาดสาย ต้องยอมรับว่ามุกเหล่านี้มันทำออกมาได้ผลและเข้ากับตัวหนังดีมากๆในแนวรักโรแมนติกแบบนี้ หนังแนวนี้นอกจากเป็นเรื่องรักแล้วก็เป็นเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวไปใน 3 ประเทศ ซึ่งก็เป็นการเปิดมุมมองผู็ชมให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่แปลกใหม่กว่าหนังรักเรื่องอื่นๆคนดูจะไม่รู้สึกจำเจ เพราะวิวทิวทัศน์ในหนังเป็นตัวช่วยขับให้ผู้ชมตื่นตาไปกับวิถีชีวิตในต่างแดนของผู้คนในประเทศนั้น ภาพที่หนังนำเสนอก็ให้ความรู้สึกแปลกตาเช่นกันในมุมมองของคนที่ไม่ปกติด้านสายตา เหมือนดังภาพวาดสีน้ำที่นำเสนอมาได้ดีมากให้ความรู้สึกอบอุ่นของรักใสๆ บวกกับงานภาพในส่วนอื่นที่ถ่ายภูมิประเทศก็ให้ภาพที่น่าพอใจ สิ่งสำคัญของหนังรักโรแมนติกขาดไม่ได้เลยคือเพลงประกอบ และดนตรีประกอบ ที่มาช่วยสร้างอารมณ์นั้นมีความเพราะพริ้งและเข้าบรรยากาศในหนังได้ดีครับ แต่มันทำให้เหมือนมิวสิควีดิโอไปนิด ซึ่งทำให้หนังมันเป๋ไปในบางช่วง เหล่านักแสดงในเรื่องทุกคนต่างก็ให้การแสดงที่สบายๆเป็นไปตามธรรมชาติที่คนดูสามารถสัมผัสได้อยู่รอบๆตัวเราทั้งนั้น ตัวเอกของเรื่องอย่าง เจ มณฑล จิรา นั้นเรียกได้ว่าสามารถสร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองได้เกิดบนจอเงินกับลีลาที่เขาแสดงได้ดี จนชนิดที่ว่าสาวๆคงต้องหลงใหลเชียวแหละครับ พลอย รัตนรัตน์ ผู้มารับบทสาวหูตึง ในบทสุนทรีย์ มีความเป็นธรรมชาติในบทบาททีเดียวให้ความรู้สึกด้านความรักที่เกิดขึ้นมาได้สมจริงไม่ขัดเขินกับกล้อง และคนดูก็คล้อยตามไปกับเธอเสมอ อีกหนึ่งตัวนำคนสุดท้ายคือ ยิปโซ รมิตา สาวสายตาสั้น เพื่อสาวคู่หูของสุนทรีย์ ที่จะมาสร้างความเป็นจุดขัดแย้งในเรื่องอีกจุดหนึ่ง แสดงได้เข้ากันดีกับ พลอย รัตนรัตน์ที่จะทำให้เราได้เห็นมิตรภาพของเพื่อนที่ทำเพื่อเพื่อน ทั้งที่ธุระเราก็ไม่ใช่เราก็ทำเพราะคำว่าเพื่อนนี่เอง ผู้กำกับภาพยนตร์ เรียว กิตติกร กล่าวได้ว่าทำหนังหลายแนวตลอดการทำงานหนังมากล้าที่จะคิดและทำ โดยมีการสร้างจุดดึงดูดหนังตลอดมา ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆต่อตัวผู้กำกับผู้นี้ แม้ว่างานหนังเรื่องนี้จะไม่ดีไปกว่าเรื่องก่อนหน้านี้ แต่ถือได้ว่าเป็นความกล้าและท้าทายที่นำมาสู่วงการภาพยนตร์ไทย ข้อเสียของผู้กำกับฯเรียว กิตติกร ในหนังเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่เห็น นอกจากบทภาพยนตร์ คือตอนจบของหนังหากว่าบทให้ความละเอียดการทำเรื่องราวไปสู่ฉากสุดท้ายจะทำให้คนดูประทับตราตรึงใจกว่าที่เป็นอยู่ ตรงนี้ผู้กำกับฯทำพลาดซึ่งต่างจากภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ที่สามารถสรุปลงมาอย่างสวยงามมากคะแนนความพึงพอใจ 6.5/10ระดับวัยผู้ชม : อายุ 13 ปีขึ้นไปมีภาพโป๊บางภาพ และภาษาที่ไม่เหมาะสมบางคำความยาวของภาพยนตร์ : ประมาณ 90 นาทีผู้กำกับภาพยนตร์ : เรียว กิตติกรบทภาพยนตร์ : เรียว กิตติกรนักแสดง : เจ มณฑล จิรา, พลอย รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล, ยิปโซ รมิตา มหาพฤกษพงศ์, เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา