ชิงหมาเถิด / เปิดม่านฉายหนัง
ชิงหมาเถิด ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดแนวตลกร้ายเสียดสีจิกกัดสังคมไทยจากฝีมือการกำกับภาพยนตร์โดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ซึ่งเขาได้พลิกแนวจาก 2 เรื่องแรกที่ทำก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคน 2 คนมาสู่คนหลายๆกลุ่ม โดยมีหมามาเกี่ยวข้อง แล้วเรื่องนี้แค่ชื่อภาพยนตร์ก็ค่อนข้างแรงหากอ่านผิดตรงอักษร ถ. เป็น ก. แต่หากอ่านถูกต้องก็จะไม่มีความรู้สึกว่าแรงเลยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่แรงก็ยังให้ความรู้สึกที่ว่าประชดประชันให้คนที่รับฟังได้รู้ว่าคนพูดไม่พอใจอะไรบางอย่างถึงได้พูดออกไปเช่นนั้น แล้วชื่อหนังเรื่องนี้จึงเป็นที่มาของความวุ่นวายในเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผู้สร้างต้องการนำมาใช้สื่อสารต่อแฟนหนัง น้องพอใจ คือตัวละครเอกของเรื่องคือ หมาหิมะ เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้สร้างต้องการนำมาสื่อถึงผู้คนในสังคมในด้านความสุข เป็นความสุขที่ใครๆก็อยากถวิลหามาประดับจิตใจแม้ว่าความสุขนั้นจะยั้งยืน หรือไม่ยั้งยืนก็ตาม โดยเป็นความตั้งใจจากผู้สร้างที่จะตั้งประเด็นคำถามถึงผู้ชมทุกคนในเรื่องความสุข และความทุกข์ผ่านตัวหมาหิมะหรือน้องหมาพอใจตัวเอกของเรื่อง ว่าแท้จริงแล้วความสุขที่เป็นเพียงเปลือกนอกหรือเนื้อในมันคืออะไรกัน สำหรับผมแล้วผมพอใจกับสิ่งที่หนังยกมาเปรียบเทียบ ตัวละครฝ่ายมนุษย์ล้วนเป็นตัวแทนของกลุ่มคนต่างๆทั้งยังใช้บุคคลเหล่านี้บ่งบอกความหมายอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวละครระหว่าง พ่อกับลูก แม้กระทั่งชื่อตัวละครก็บ่งบอกถึงลักษณะอุปนิสัยบุคคลิกภาพเช่นกันอย่างเช่น -มาริโอ้ เมาเร่อ(อาร์ท)เป็นคนที่เก่งมีความสามารถหัวสมองระดับอัจฉริยะที่ในสายตาเขานั้นสำหรับคนทั่วไป เป็นแค่คนไร้ความสามารถมองคนอื่นอย่างดูถูกเย็นชาต่อความรู้สึกผู้อื่น ทั้งมีความคิดที่มองว่าตัวเองนั้นถูกต้อง ในบางครั้งแล้วความคิดที่เราว่าถูกต้องแค่คิดทำอย่างนี้เท่านั้นเอง มันอาจจะไม่ใช่เช่นที่ตัวเองคิดก็ได้ เพราะความคิดที่เราคิดบางครั้งเราต้องเข้าใจและแคร์ต่อส่วนรวมด้วย จะเห็นว่า อาร์ท จึงได้รับผลของการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อรู้แล้วมันก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว ในบทนี้ มาริโอ้ เมาเร่อ ให้การแสดงได้ดีสมบทไม่มีอะไรที่ต้องตำหนิเลยเมื่อเทียบกับเรื่องก่อนๆนับว่ามีพัฒนาการในด้านการแสดงที่ดีขึ้น อนาคตคงยาวไกลแน่ๆ -ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์(แบงค์) เป็นตัวละครที่อยู่ในฐานะที่ร่ำรวย ถูกเลี้ยงดูมาอย่างขาดความถูกต้องและเข้าใจกันระหว่างพ่อกับลูกคู่นี้ เขาจึงเป็นคนที่ขาดความอบอุ่นเอาแต่ใจตนเองอยากได้อะไรก็ใช้เงินตราทุ่มล่อเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการ โดยขาดหลักเหตุผลการไตร่ตรองที่ดี เหมือนกับที่เราเองก็เห็นในหลายๆครอบครัวไทยที่เป็นเช่น แบงค์ และมันก็สร้างให้เขาทำอะไรก็ไม่สำเร็จอย่างถูกหลักแห่งความยั้งยืนได้เลย เช่นที่หนังนำเสนอในคำพูด และการกระทำของเขามันไม่เคยสอดคล้องกันเลย มีแต่จะแยกห่างจากกันเสมอ จนท้ายสุดแบงค์จึงได้รู้และเข้าใจดั่งคำพูดที่ว่า ไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แสดงหนังเรื่องนี้ได้ดีเกินคาด จากที่ได้ดูมาในเรื่องก่อนมากๆถึงแม้จะไม่สุดยอด แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาได้มอบให้กับงานที่เขารับอย่างสุดความสามารถ และคงจะพัฒนางานให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ -โก๊ะตี๋ อารามบอย(เด่น) เป็นตัวละครที่ต้องต่อสู้ชีวิตรับผิดชอบครอบครัว ผมขอเปรียบเป็นดังเบี้ยในกระดานหมากรุก ที่อยู่ท่ามกลางผู้มีความสามารถ และพลังที่เหนือกว่า ที่ถูกกระทำอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ มีบุคคลิกที่คล้ายกับตัวละครอย่าง แผน ในภาพยนตร์ไทยเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ เด่น เองก็ไม่รู้อะไรเลยว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นมันจถูกต้องเพียงใดและจะได้รับผลกระทบเท่าใด ขาดกระบวนการคิดที่ดีจากพื้นฐานการศึกษา คิดเพียงแต่ครอบครัวซึ่งสิ่งที่เขาคิดมันก็ไม่ผิดเช่นกัน เพราะความด้อยโอกาสจึงเป็นเช่นนี้ เด่นจึงอยากให้ลูกสาวได้รับโอกาสการศึกษาจากสิ่งที่เขาได้เลือกทำ ผู้สร้างเลือกใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในตัวละครตัวนี้เพื่อชี้สะท้อนถึงสังคมว่าผู้มีความสามารถที่มีความพร้อมมากกว่าไม่แบ่งปัน เลิกใช้คนด้อยกว่าเป็นเบี้ยสักที เราควรทำความเข้าใจกันแบ่งปันกันเพื่อความผาสุขที่ยั้งยืนจะดีกว่าไหม โก๊ะตี๋ อารามบอย ถูกให้ได้รับบทบาทที่เขาแสดงได้อย่างดีเยี่ยม เข้าตาผมมากๆ คล้ายกับที่ จิม แคร์รี่ ให้การแสดงในเรื่อง The Truman Show ที่ลดความตลกท่าทางลงไป เช่นที่โก๊ะตี๋ อารามบอย ก็ได้แสดงให้เห็น ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงหญิงหน้าใหม่ที่ขอกล่าวถึงสักนิดคือ ณฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์(เมย์) เธอยังดูขัดๆแข็งๆในทางการแสดงอยู่ ตรงนี้ผู้สร้างที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดไปเต็มๆ ที่ไม่สามารถทำให้ตัวละครตัวนี้ดูกลมกลืนไปกับหนัง เธอก็มีข้อดีในเรื่องการทำอารมณ์ทางสีหน้าออกมา เพียงแต่ท่าทางท่วงท่าของเธอยังไม่สอดคล้อง แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้เธอครับที่พยายามแล้ว งานหน้าถ้ามีโอกาสก็สู้ใหม่ครับ และผมก็คิดว่าหนุ่มๆที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คงเอาใจช่วยเช่นกันที่พร้อมจะให้เธอเกิดเป็นดาวประดับฟ้าวงการหนังไทย ผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ถือว่าทำงานในหน้าที่ของเขาอย่างดีมีมุมมองในองค์รวมทั้งหมดดีตรงใจผม ยังคงรักษาตรฐานการสร้างหนังออกมาให้ได้ชื่นชม แต่ก็ควรเพิ่มงานในส่วนนักแสดงหญิงสักนิดนะครับ จะทำให้หนังเรื่องดีดูสมบูรณ์ขึ้นเลยครับ นี่คือแนวหนึ่งในประเภทหนังตลก ซึ่งมันก็ต้องมีอะไรให้คนดูขำๆบ้าง จากที่สัมผัสออกมาก็ขอยอมรับว่าทำออกมาได้ดีในหลายๆแก๊กที่สอดแทรกเข้ามาตามสถานการณ์ ผสมไปกับการเสียดสี และประการหนึ่งที่อยากกล่าวถึงคือรอบที่ผมไปดูนี่มีเด็กเล็กที่ผู้ปกครองพาไปชม หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็กๆเลยเพราะมีทั้งคำพูดที่หยาบ ภาพการใช้อาวุธจนถึงแก่ความตาย ก็อยากให้เลือกสรรหน่อยนะครับ คะแนนความพึงพอใจ : 8/10 ความยาวภาพยนตร์ : 98 นาที ระดับวัยผู้ชม : อายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะมีฉากใช้อาวุธจนถึงแก่ความตาย ภาษาที่หยาบ ผู้ใหญ่ควรให้การดูแลหากมีผู้เยาว์กว่าอายุที่กำหนด ผู้กำกับภาพยนตร์ : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง บทภาพยนตร์ : บริษัท วรรคทอง จำกัด นักแสดง : มาริโอ้ เมาเร่อ, ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, โก๊ะตี๋ อารามบอย, โกวิท วัฒนกุล, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์, น้องพอใจ ผู้กำกับภาพ : สยมภู มุกดีพร้อม ผู้อำนวยการสร้าง : พิชญ์ โพธารามิก, ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา, นวมินทร์ ประสพเนต, ซัง โด ลี, ธัยญา วชิรบรรจง, ปิยะลักษณ์ มหาธนทรัพย์
Free TextEditor
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 14:52:16 น. |
|
2 comments
|
Counter : 909 Pageviews. |
|
|
สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว