คุณเคยผ่านพบกับการสูญเสีย การพลัดพราก การจากลา การเสียไปในสิ่งที่เรารักบางไหม? แน่นอน คนส่วนใหญ่ย่อมตอบว่า เคย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน สิ่งที่เรารักที่เราหวงแหน แม้กระทั่งแต่คนที่เรารัก หรือได้พบเจอกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คนใดคนหนึ่งได้หายไปจากวงจรชีวิตที่ได้ดำเนินอย่างเป็นปกติทุกวัน เราก็จะเกิดอาการเสียอกเสียใจ และเฝ้าถามแต่ว่า ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ หรือทำไมเขาต้องจากเราไปด้วย
ขณะที่เรากำลังตกอยู่ในอารมณ์แห่งการสูญเสียอยู่นั้น เรามัวแต่ไปสนใจอยู่กับสิ่งอื่น สิ่งที่ได้จากไปแล้ว และจะไม่กลับคืนมา แต่เราไม่ได้สนใจตัวเองเลยว่าขณะนี้ เราก็กำลังเป็นผู้สูญเสียอยู่เหมือนกัน สูญเสียเวลาไปกับการร้องไห้ทรมานตนเอง เสียเวลาที่จะไปทำสิ่งอื่น และช่วงเวลากว่าที่คนๆ หนึ่งจะหายเศร้าใจได้ คิดดูแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่นานพอควรทีเดียว แล้วเหตุใด เราถึงชอบจมปลักอยู่กับสิ่งๆ นี้กันนัก
เคยมีเพื่อนของฉันคนหนึ่ง เธอเป็นคนที่เก่งมาก มีความสามารถรอบด้านจนทำให้เธอเป็นที่ยอมรับของทั้งครูผู้สอน และเพื่อนด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นศิษย์รักของคุณครูเลยทีเดียว รูปร่างหน้าตา ฐานะทางครอบครัวเธอดูจะมีพร้อมไปหมด แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่เคยทำได้และฉันก็ไม่รู้ว่าเธอจะสามารถทำได้หรือไม่นั่นก็คือ การปล่อยวาง
วันนั้นเป็นวันแห่งการคร่ำเคร่งตั้งใจทบทวนความรู้ของเพื่อนทั้งชั้นแต่มีเพียงอยู่คนเดียวกระมังที่ดูจะมีจุดมุ่งหมายต่างไปจากเพื่อน เธอกำลังนั่งเหม่อลอยเสียใจกับการจากไปของคุณตาของเธอ ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าจะมีการสอบเก็บคะแนนครั้งใหญ่ นั่นไม่ได้ทำให้เธอตื่นตัวมาจากวังวนแห่งความเศร้าได้เลย เธอนั่งอยู่ท่าเดิม อารมณ์เดิม จนเสียงกริ่งบอกเวลาเปลี่ยนคาบดังขึ้นเป็นสัญญาณว่า ชั่วโมงแห่งการสอบครั้งสำคัญของพวกเรามาถึงแล้ว ฉันก็ยังเห็นเธอนั่งอยู่เหมือนเดิมในขณะที่เพื่อนคนอื่นเตรียมตัวพร้อมแล้วกับการสอบ ภายหลังการสอบเสร็จ ปรากฏว่าเพื่อนทั้งห้องต้องเวียนกันมาปลอบใจเธอคนนั้นคนละหลายๆ รอบ สาเหตุมาจากสองเรื่อง หนึ่งคือเธอเสียใจในการจากไปของคุณตา และสองคือเธอไม่สามารถทำข้อสอบได้สักข้อเดียว
ถ้าเพียงแต่เธอรู้จักควบคุมจิตใจของตนเอง รู้จักปล่อยวางเรื่องบางเรื่องและทำใจยอมรับสักนิด ผลคะแนนของเธอคงจะเป็นที่หนึ่งของสายชั้นเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดอย่างแน่นอน
เห็นหรือยังละว่า เพียงอารมณ์ชั่ววูบของการติดใจกับรูป รส กลิ่น เสียง ของทุกสรรพสิ่ง ทำให้เราพลาดอะไรไปบ้าง ความจริงแล้วเราควรพิจารณากับสิ่งต่างๆ อย่างถี่ถ้วนให้ดีที่สุด ลองคิดตามดูสิ คนเราเกิดมามีสิ่งใดติดมาด้วยบ้าง ไม่มีเลย หากว่ากันตามเรื่องของธาตุทั้งสี่ในหลักพระพุทธศาสนาแล้ว มีธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ ลองตรองเอาดูสิ เมื่อแยกย่อยออกมาแล้ว เรามีอะไรบ้าง ความจริงแล้วเรื่องธาตุทั้งสี่จะว่าไปก็เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่งนั่นเอง คือ มีอะไหล่มากมายต้องเอามาประกอบรวมกันถึงจะเกิดเป็นรถคันหนึ่ง ถ้าลองเราได้มาแยกดูแล้วก็จะพบว่า มันเหมือนไม่ใช่รถเลยนะ มันมีเหล็ก มีน็อต มีโครงร่างของมัน ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วย ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ทำงานก็ไม่สามารถไปต่อได้ ก็เหมือนกับร่างกายของคนเรา และในการที่จะประกอบรถเสร็จแต่ละคันนั้นต้องมีวิศวกรควบคุมความพอดีของอุปกรณ์แต่ละอย่าง ว่าควรจะประกอบอะไรเข้ากับส่วนใด ในส่วนของผู้ควบคุมนี้ก็เปรียบคล้ายได้กับสติของคนเราในการบังคับควบคุมเราให้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงถ้าเรามีสติ ปัญญาก็จะบังเกิดแก่เรานั่นเอง
ในเมื่อเรารู้กันแล้วว่าคนเราเกิดมาไม่มีอะไรเลย ใยยังชอบที่จะยึดติดกับมันกันอยู่หนอ
ถ้าหากเราลองศึกษาดูให้ดีจะพบว่า องค์สัมมาสัมพระพุทธเจ้าได้มอบแนวธรรมะมาให้เราใช้ในการพิจารณาชีวิตของเรา นั่นก็คือ แนวทางของกฎไตรลักษณ์... อนิจจา คือความไม่เที่ยงตรง มีการเปลี่ยนแปลงได้โดยเสมอ เมื่อสิ่งๆ หนึ่งเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็ดับสลายไปที่สุด ทุกขัง คือความเป็นทุกข์ของเรา อยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ทั้งๆ ที่เราอยากให้มันเป็นอยู่ตลอดไป เราทุกข์เพราะอะไร ทุกข์เพราะกิเลสอันมัวหมองของเราใช่ไหม แล้วเหตุใดเราจึงไม่ตัดมันออกไปจากใจของเรากันละ อนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตนอันแท้จริง คือไม่ว่าใครก็แล้วแต่ก็ย่อมไม่มีอำนาจบารมีที่จะสั่งตัวเราเองได้ให้คงความสวยงาม ความแข็งแรง ไปได้ตลอด วันหนึ่งย่อมมีวันโรยราดั่งดอกไม้ที่ต้องแดดแรงกล้า เราไม่มีตัวตนที่แท้จริงของเรา เราเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของธาตุทั่งสี่ เมื่อวันใดธาตุทั้งหมดแยกสลายไป ความเป็นเรา เป็นตัวตนของเราที่เคยยึดมั่น ถือมั่น ก็จะหายไป
สิ่งทั้งหลายต่างๆ เกิดมา มีขึ้นมา มีอยู่ได้ สักวันก็ต้องจากไปได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เราจึงควรเตรียมตัวฝึกใจเราให้เคยชินกับเรื่องแบบนี้ เพื่อที่ว่า ถ้าช่วงเวลานั้นมาถึง เราจะได้เป็นผู้ที่มีความพร้อม มีสติเท่าทันกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ประมาทกับชีวิต
และเราก็จะเกิดมา ตั้งอยู่กับสติที่สมบูรณ์พร้อมของเรา เพื่อว่าในที่สุดแล้ว เราก็จะดับไป
และร่วมเป็นกำลังใจให้ทหารไทยทุกนายค่ะ