กันยายน 2562

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
พระอัษฏามหาเจดีย์
 
พระอัษฏามหาเจดีย์
การสร้างพระบรมมหาราชวังได้เลียนแบบกรุงศรีอยุธยาครั้งที่รุ่งโรจน์ อย่างน้อยได้รำลึกถึงความหลังและแสดงว่าเมืองใหม่จะเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกัน  เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดขึ้นในใจคนไทยให้ฮึกเหิมและเกิดพลังในการหลอมรวมจิตวิญญาณของคนไทยทุกคน
ทุกคนต่างคิดว่า เมืองใหม่ต้องสวยงามกว่ากรุงศรีอยุธยาและจะมั่นคงกว่าเดิม สิ่งที่คิดฝันและหวังได้กลายมาเป็นความจริง เพราะจนถึงทุกวันนี้บางกอกกลายเป็นพระนครและกรุงเทพ
มหานครได้เจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ
 
รัชกาลที่ 1 ทรงสร้างถาวรวัตถุมากมายภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นอกเหนือจากพระมณฑป พระระเบียง ยังทรงสร้างพระศรีรัตนเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ์
พระอัษฎามหาเจดีย์  สถาปัตยกรรมทั้งหมดเลียนแบบสมัยกรุงศรีอยุธยาที่รวมคติความเชื่อแบบโบราณว่ากษัตริย์คือเทพ  เมื่อมาจุติยังโลกมนุษย์จึงเป็นสมมติเทพ 
ลักษณะการก่อสร้างเน้นตามความเชื่อแห่งกรุงศรีอยุธยามาเกือบทั้งหมด รวมทั้งความเป็นเจ้า ผู้สืบเชื้อสายจากสวรรค์หรือที่เรียกว่าสมมติเทพ  โดยสถาปัตยกรรมบ่งบอกความเป็นเชื้อสายของพระนารายณ์ เช่น ฐานอาคารเชิงบาตรหรือเอวขันธ์ ประดับด้วยแถวครุฑแบก เป็นครุฑยุคนาคเรียงล้อมรอบฐานปราสาทหรือสวรรค์ 
พระทวารและพระบัญชรเป็นยอดปราสาทมีระบบของหลังคาชั้นซ้อนลดหลั่นกันแบบเสาตั้งคานทับ  หน้าบันแกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจก เป็นลายพระนารายณ์ทรงครุฑตรงกลาง ล้อมรอบด้วยลายเครือก้านขด
ลักษณะลวดลายดังกล่าวนิยมในสมัยอยุธยาตอนปลาย สัญลักษณ์ของพระนารายณ์ทรงครุฑถือเป็นแบบแผนการสร้างวัดในสมัยโบราณซึ่งสันนิษฐานว่าใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าแผ่นดิน
 
ครั้นมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4  พระองค์ทรงสร้างเพิ่มเติมเพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามงดงามและทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น ได้แก่ นครวัดจำลอง ให้พระสามภพพ่ายสร้างขึ้น โดยจำลองแบบจากปราสาทหินนครวัตนครธม ประเทศกัมพูชา 
นอกจากนี้ทรงสร้างสุวรรณเจดีย์ มณฑป ปราสาทพระเทพบิดร เดิมเรียก “พุทธปรางค์ปราสาท” เป็นปราสาทยอดปรางจัตุรมุข ปัจจุบันภายใน ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 – 8 รวมทั้งขยายแนวระเบียงคดใหม่ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างนครวัดจำลองใหม่ด้วยปูน เพื่อฉลองพระนครครบ 100 ปี 
พระศรีรัตนเจดีย์สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2398 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 4ได้มาจากลังกา โดยเลียนแบบมาจากเจดีย์ประธานวัดพระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา เป็นเจดีย์ที่ก่ออิฐถือปูน ประดับกระเบื้องโมเสกทอง ภายในประดิษฐานเจดีย์ขนาดเล็กที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระระเบียงเป็นเสมือนกำแพงวัดมีภาพเขียนเรื่องรามเกียรติ์จนจบเรื่อง รวม 178 ภาพ และคำบรรยายใต้ภาพเพื่อให้เข้าใจวรรณกรรมที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1 เอง
 
แทรกรูป s6300182
 
พระปรางค์  8  องค์ เส้นผ่าศูนย์กลาง  9.40  เมตร  ตั้งเรียงรายอยู่ทางทิศตะวันออก ด้านหน้าวัด  เดิมพระปรางค์ทั้ง  8 องค์จะตั้งเรียงกันอยู่นอกพระระเบียงเป็นแถวเดียวกัน 
ต่อมารัชกาลที่  4  ทรงโปรดให้ขยายพระวิหารคดยื่นออกไปทางทิศตะวันออก  เพื่อสร้างซุ้มประตูมงกุฎ  และให้มีเกยอยู่  2  ด้าน   สำหรับเสด็จบนพระยานุมาศในพระราชพิธีการที่มีการเสด็จโดยทางสถลมารค 
เมื่อขยายวิหารคดออกไปจึงทำให้พระปรางค์  8  องค์เข้ามาอยู่ในกำแพงวิหารคด  คือ
พระปรางค์ทั้ง  8  องค์สร้างขึ้นมาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา  จึงมีชื่อเรียกเรียงตามลำดับนับจากทิศเหนือลงมาทิศใต้  ดังนี้
 ปรางค์องค์สีขาว ชื่อ พระสัมมาสัมพุทธมหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 ปรางค์สีขาบหรือสีฟ้าหม่น ชื่อ พระสัทธรรมปริยัติวรมหาเจดีย์อุทิศถวายแด่พระธรรม
 ปรางค์สีชมพู ชื่อ พระอริยสงฆ์สาวกมหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่พระอริยสงฆ์
 ปรางค์สีเขียว ชื่อ พระอริยสาวิกาภิกษุสังฆมหาเจดีย์  อุทิศถวายแด่พระภิกษุณี
 ปรางค์สีเทา ชื่อ พระปัจเจกโพธิสัมพุทธมหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้าในอดีตชาติ
 ปรางค์สีฟ้าอมเทา ชื่อ พระบรมจักรวรรดิราชามหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่พระมหากษัตริย์
 ปรางค์สีแดง ชื่อ พระโพธิสัตว์กฤษฎามหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่พระโพธิสัตว์
 ปรางค์สีเหลือง ชื่อ พระศรีอริยเมตตะมหาเจดีย์ อุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้าในอนาคต
 
พระมหาเจดีย์ทั้ง 8 องค์นี้มีขนาด รูปร่าง และความสูงเหมือนกันทุกประการแต่ต่างกันออกไปด้วยสีของกระเบื้องเคลือบที่ประดับองค์พระเจดีย์และชื่อประจำองค์พระเจดีย์เท่านั้น
พระมหาเจดีย์แต่ละองค์ก่ออิฐถือปูนแบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ ส่วนฐาน ส่วนเรือนธาตุ และส่วนยอดปรางค์ ส่วนฐานประกอบด้วยฐานทักษิณเป็นฐานแปดเหลี่ยมด้านไม่เท่า มีพนักระเบียงโดยรอบฐาน ส่วนเรือนธาตุเป็นแบบย่อมุมไม้สิบสองมีซุ้มจรนำประดิษฐานพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ทิศส่วนองค์ปรางค์อยู่เหนือส่วนเรือนธาตุ แบ่งเป็น 7 ชั้นรองรับด้วยมารแบกปูนปั้น มียอดนภศูลเป็นรูปฝักเพกาทำด้วยโลหะ
 
พระปรางค์แปดองค์หรือพระอัษฏามหาเจดีย์เป็นตัวแทนของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระสาวก พระภิกษุณี พระโพธิสัตว์ และพระยาจักร และบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายใน
พระเจดีย์ทองด้านหน้าพระอุโบสถ ศิลปกรรมเจดีย์ทรงเครื่อง ภายในพระมณฑปเก็บพระไตรปิฎก หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา
ถึงพระไตรปิฎกจะสูญหายไปครั้งไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แต่จำเป็นที่จะต้องชำระสะสางพระไตรปิฎกกันใหม่ เพราะถือกันว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย
ที่ฐานมียักษ์แบกชุดฐานสิงห์ 3 ฐาน มีบัวทรงคลุ่มรองรับองค์ระฆัง ตั้งแต่ฐานถึงองค์ระฆังอยู่ในผังย่อมุมไม้ 20 ส่วนยอดเป็นบัวทรงคลุ่มเถาและปลีตามลำดับ 
พระศรีรัตนเจดีย์สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2398 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 4ได้มาจากลังกา โดยเลียนแบบมาจากเจดีย์ประธานวัดพระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา เป็นเจดีย์ที่ก่ออิฐถือปูน ประดับกระเบื้องโมเสกทอง ภายในประดิษฐานเจดีย์ขนาดเล็กที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

 



Create Date : 20 กันยายน 2562
Last Update : 20 กันยายน 2562 15:57:03 น.
Counter : 2983 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 21 กันยายน 2562 เวลา:12:00:05 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments