..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
: : LONDON in Bloom : :



ชีวิตนักเรียนไทยในต่างแดน เท่าที่ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในช่วงสั้นๆ (ก้อสองปีแน่ะ...) เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ...

เพราะสำหรับเรา การได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในบ้านเมืองที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นกำไรชีวิตแบบที่รับรองได้ว่าไม่น่าเสียดายเงิน...

ขอแนะนำเลยว่า ถ้าใครพอจะมีโอกาสได้ไปเรียนและใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างคนท้องถิ่นได้จริงๆ ขอให้ถือสุภาษิต "เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" หน่อยนะจ๊ะ...

อยู่เมืองไทยไปไหนๆ ก็ขับรถยนต์ ไปอยู่ลอนดอนถนนมีน้อยนิด ที่จอดก็หายาก ใครๆ เขาก็เดินกันเป็นหลัก ใช้รถใต้ดินและรถเมล์เป็นตัวช่วย เราก็ใช้บริการรถขนส่งมวลชนเหมือนๆ กับเขานั่นแหละดีที่สุด...

ทั้งประหยัด สะดวก รวดเร็ว และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วยอีกนา...

สมัยก่อน อากาศที่ลอนดอนมักจะหนาวมากกว่าอุ่น ดินฟ้าอากาศมืดๆ ทึมๆ และมีฝนตกพรำๆ เกือบตลอดปี วันไหนพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตก (ก็เกือบทุกวันนั่นแหละ) ก็ต้องพกร่มและสวมเสื้อโค้ทออกจากบ้านทุกวันๆ...

(แต่ ณ บัดนาว... ลอนดอนร้อนกว่าเดิมเยอะมากมาย รถเมล์รถใต้ดินไม่มีแอร์ ร้อนๆ อย่างนี้ขึ้นไปแทบสลบ... อย่างนี้ก็ขอเดินบนดินดีกว่าจ้า...)

ย้อนไปสู่อดีต... เพราะอากาศเย็นสบาย การเดินเหินไปไหนๆ ถึงจะไกลก็ไม่เหนื่อยง่ายๆ ใครๆ เขาก็เดินกันทั้งนั้น เราก็เดิน..เดิน..เดิน จนชิน ฝนตกก็เดินฝ่าฝนได้ เพราะใส่เสื้อโค้ทตัวยาวมีฮู้ด กันลมกันฝนกันหนาวได้เต็มอัตรา...

อีกอย่างเราเป็นคนชอบอากาศหนาวๆ อยู่แล้วด้วยก็เลยปลื้มเป็นพิเศษที่ได้มาอยู่ในเมืองที่อากาศเย็นๆ ทึมๆ ทั้งปีทั้งชาติ...

แรกๆ ที่ไป พี่ชายผู้เคยใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษมาค่อนชีวิต (และช่วยไปเป็นเพื่อนในช่วงแรกๆ) แนะนำว่าเราเพิ่งมาจากเมืองไทย ยังใหม่ต่อการปรับตัวในต่างถิ่น ควรจะพักในหอพักของโรงเรียน (อันแพงลิบ) ไปพลางก่อน ซึ่งเดินไปเรียนสะดวก แค่ห้านาทีก็ถึง....

เมื่ออยู่ไปสักพัก พอรู้จักที่ทางเดินดีขึ้นแล้ว เรา (โดยการชักชวนของเพื่อนก็ขยับขยายไปพักหอพักของแม่ชีที่อยู่ห่างโรงเรียนออกไปพอสมควร ต้องเดินไปเรียนอยู่ดี แต่ทางเดินผ่านบ้านเรือนผู้คน (บ้านหลังใหญ่ๆ น่าจะมีฐานะดี) จึงไม่น่ากลัว...

ชีวิตนักเรียน นอกจากไปโรงเรียน อ่านตำรา ทำงานส่ง ทำการบ้าน เราก็ได้พบปะเพื่อนฝูง กิน นอน เดิน เที่ยว อยู่ในละแวกชานกรุงลอนดอนนั่นเอง ไม่ค่อยได้ไปต่างจังหวัดสักเท่าไหร่ วันธรรมดาก็จะอยู่แต่หอพักกับไปโรงเรียน วันเสาร์-อาทิตย์ จึงจะได้เข้าไปในใจกลางกรุงลอนดอนบ้าง...

เนื่องจากเราใช้บริการรถขนส่งมวลชนเป็นหลัก เราก็เลยไม่ค่อยจะได้ไปไหนมาก ซ้ำๆ ซากๆ อยู่ไม่กี่ที่ เช่น...

...ไปซื้อกระดาษ เครื่องเขียนที่ร้านขายกระดาษชื่อดัง "Paper Chase" แถว Goodge Street (ฮ้า.. ตะกี้ลองเซิร์ชกูเกิลดู วันนี้ร้านนี้ก็ยังอยู่ดีด้วยแฮะ แถมยังมีสาขาเพิ่มเติมอีกเยอะ...)

...ไปซื้อของใช้ เสื้อผ้า ย่านถนนอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) ร้านประจำคือท็อป ช็อป (Top Shop - แปลกใจจัง... ร้านนี้ยังอยู่ยงคงกระพันถึงทุกวันนี้นะเก่งจริงๆ) แล้วก้อมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ (Marks and Spencer) ซึ่งมีสาขาอยู่มากมายทั่วทุกหัวระแหง...

...วันอาทิตย์ร้านรวงปิดก็ต้องไปเที่ยวตามสวนสาธารณะสวยๆ ที่มีอยู่มากมาย พวกที่ฟรีก็เช่น สวนรีเจนท์ส (Regent's Park) สวนไฮด์ (Hyde Park) สวนที่ไม่ฟรีแถมยังต้องนั่งรถไฟไปตั้งไกลก็คือ สวนคิว (Kew Gardens)...

เราและเพื่อนเป็นพวกรสนิยมเดียวกันคือชอบสวน ชอบดอกไม้ (อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีตังค์ไปช็อปปิ้งด้วยแหละ) ก็เลยเป็นนักนิยมธรรมชาติไปโดยปริยายและมักจะชักชวนกันไปถ่ายรูปดอกไม้บานกันเป็นประจำ...

...แดฟโฟดิลในเดือนมีนาคม...
...เชอร์รี บลอสซัมในเดือนเมษายน...
...โรโดเดนดรอนและทิวลิปในเดือนพฤษภาคม...
...และกุหลาบในเดือนมิถุนายน...

(นั่นคือข้อมูลเมื่อนานมาแล้วนะคะ... ไม่รู้ว่าภาวะโลกร้อนอย่างเดี๋ยวนี้ วันเวลาของดอกไม้บานแต่ละชนิด จะเปลี่ยนแปลงไปประมาณใดหรือไม่...)


บรรยากาศสงบ สบาย ของสวนเซนต์เจมส์ (St. Jame's Park) ใกล้พระราชวังบัคกิงแฮม


...หรือไม่ถ้ามีหนังใหม่ออกฉาย เราก็อาจจะชวนกันไปดูหนังที่เลสเตอร์ สแควร์ (Leicester Square) ต่อด้วยกินข้าวจีนที่โซโห (Soho) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน...

เสร็จแล้วก็ต้องรีบกลับหอพักมาเอาผ้าเข้าเครื่องซัก รอเก็บผ้า แล้วก็อาจจะต้องรีดผ้าบ้าง (แต่น้อยมาก.. ส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่เราใช้ไม่ต้องรีดเลยจ้า..)

ตลอดช่วงเวลาที่อยู่โน่น เราแทบจะไม่เคยคิดถึงบ้านเลย (ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราจากบ้านมาด้วยต้องการไปให้ไกลๆ ปัญหา หรือความไม่สบายใจหลายอย่าง)...

เมื่อได้ไปอยู่ในเขตนอกเมืองที่สงบของเมืองใหญ่อย่างลอนดอน เราก็อยู่เงียบๆ ได้อย่างสบายใจ การเรียนออกจะยากเพราะเป็นการเปลี่ยนสาขาจากที่เคยเรียนมาในระดับปอตรี ต้องปรับตัวมากหน่อย.. เลิกเรียนกลับมานั่งอ่านทบทวนตำรา พยายามไล่กวดอาจารย์ให้ทันก็แล้วกัน....

หลังเลิกเรียน แถวชานเมืองอย่างนี้ก็พอมีที่ทางให้ไปเดิน เป็นย่านร้านค้าเล็กๆ มีร้านค้าคล้ายๆ ตึกแถวแบบโบราณ ส่วนใหญ่เป็นคูหาเดียว เราได้รู้จัก เดอะ บอดี้ ช็อปครั้งแรกก็ที่นี่ สมัยนู้นเขาสนับสนุนการรีไซเคิลมากๆ เราเอาขวดครีมอาบน้ำที่ใช้หมดแล้วมาซื้อครีมแบบรีฟิล ได้ลดราคาถูกอย่างใจดีจริงๆ...

กิจวัตรของเราก็ไม่แคล้วไปซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ แห่งเดียวในย่านนี้ ซื้อขนมนมเนยกระจุกกระจิกหรือผลไม้มากิน (หอพักที่เราอยู่เขาห้ามทำกับข้าวจ้ะ) หรือไปเข้าคิวซื้อเครปร้อนๆ จากรถเข็นขายเครปมุมถนน...

ประโยชน์ของการไปเรียนในต่างแดน อย่างหนึ่งที่เห็นๆ คือพัฒนาการด้านภาษา สำหรับนักเรียนไทยที่ตลอดสี่ปีในมหา'ลัยไม่ได้เรียนวิชาอังกฤษเลยเมื่อได้มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนต่างชาติ เป็นสถานการณ์ที่บังคับให้เราต้องพูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาของเขาให้ได้ไปโดยปริยาย...

...ดึกอีกแล้ว...ขอลาไปนอนก่อน พรุ่งนี้มาว่ากันต่อ...

ขอแปะภาพจาก Scrapblog ที่เพิ่งทำเสร็จเย็นนี้มาเป็นภาพประกอบ เป็นภาพดอกไม้บานในลอนดอน ที่สวนคิว สวนเซ็นต์ เจมส์ และสวนรีเจนท์ส เป็นหลัก...


Create Date : 31 สิงหาคม 2551
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 20:14:46 น. 7 comments
Counter : 1304 Pageviews.

 
มาแวะยี่ยม เพื่อน VIP แทบไม่ได้ตดต่อกันเลย
วันหลังจะมาไล่อ่านเรื่องราว ต่อนะค๊ะ

โชคดีค่ะ


โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) วันที่: 2 กันยายน 2551 เวลา:13:41:43 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:1:02:20 น.  

 

ชีวิตต่างแดนนี้ก็ดีไปอีกแบบนะค่ะ แต่งเหงาน่าดูเลยอยู่ต่างแดนนะ


โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:6:50:33 น.  

 
อ่านแล้วได้ความรู้ของผู้คนที่นั่นครับ แล้วจะตามมาอ่านอีกครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:19:54:35 น.  

 
ไม่ได้มาเยี่ยมเสียยาน พี่แดงสบายดีนะคะ

อ่านแล้วอยากไปเที่ยวอังกฤษบ้างจังเลยค่ะ ชอบจังค่ะได้มีโอกาสอยู่ดอมด้วย


โดย: tuktikmatt วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:7:24:55 น.  

 
ดูรูปแล้วลอนดอนชวนฝันจริงๆนะคะ
แล้วนึกออกเลยว่าทำไมพี่แดงถึงชอบโรโดเดนดอนมากค่ะ

ช่วงนี้หนูงานยังเยอะอยู่เลยค่ะ
ถ้าผ่านงานนี้ไปได้คงจะโล่งขึ้นเยอะ
ตอนนี้ลุ้นให้สำเร็จทีเถอะ
ไม่งั้นสงสัยจะต้องหางานใหม่แน่ๆเลย...

:-)

สุขสันต์วันจันทร์นะคะ


โดย: SevenDaffodils วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:8:50:31 น.  

 
ดีจังเลยค่ะโชคดีนะค่ะได้ไปเรียนกับเจ้าของภาษาเลย นับว่า เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยค่ะ

ดอกไม้งามมากเลยค่ะ โอโห บางพุ่มทำไมดอกถึงได้ดกมากขนาดนั้นค่ะ ยังกะไม่มีใบเลยนะ มีแต่ดอก

แม่แดงในรูปน่ารักมากค่ะ อิอิ หน้าตาคล้ายรูปตอนเป็นเด็กนะค่ะเค้าตอนเด็กยังอยู่อะค่ะ

ขอให้มีความสุขนะค่ะ have a nice day


โดย: แม่มณี (ย่าชอบเล่า ) วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:18:56:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.