Bloggang.com : Devonshire : : : พลีมัธ พิลกริมส์ กับเมย์ฟลาวเวอร์ : :

: : พลีมัธ พิลกริมส์ กับเมย์ฟลาวเวอร์ : :

เมืองพลีมัธ (Plymouth) ในแคว้นเดเวิน (Devon) เป็นหนึ่งในเมืองที่เราชอบมาก ด้วยความน่าสนใจในประวัติความเป็นมา ความเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญมาแต่กาลก่อน และยังเป็นเมืองที่สวยงามและอากาศดีมากๆ อีกด้วย เคยอ่านเจอหนังสือ (ฝรั่ง) เล่มนึงถึงกับกล่าวขานกันว่า พลีมัธเคยได้รับการลงคะแนนให้เป็นเมืองที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดเมืองหนึ่งเลยเชียว

เราพอจะรู้จักพลีมัธในฐานะที่เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์การเดินเรือของคนบริทิช ชื่อที่อยู่คู่กับเมืองพลีมัธที่คนแถวๆ นี้ดูจะคุ้นเคยคงไม่แคล้ว "เซอร์ ฟรานซิส เดรค" (Sir Francis Drake) "พวกพิลกริมส์ และเรือเมย์ฟลาวเวอร์" (The Pilgrims and the Mayflower) พลีมัธ ยังได้รับการขนานนามว่า "Plymouth...Spirit of Discovery" อีกด้วย

เรื่องท่านเซอร์ เดรคก็เป็นหนังเรื่องยาว คืนนี้เห็นจะร่ายยาวไม่ไหว เอาเรื่องพิลกริมส์ที่เราอยากเขียนถึงก่อนละกัน ชอบที่พวกนี้แกดูเป็นตำนานๆ ดี...

..พลีมัธ พิลกริมส์ ..ดูฮาเฮดีไหม..

พิลกริมส์ ที่จะเขียนถึงในที่นี้ หมายถึงเฉพาะพวก "พิลกริมส์แห่งพลีมัธ" (The Plymouth Pilgrims) ซึ่งว่ากันว่าเป็นพวกคณะแสวงบุญ หรือเผยแพร่ศาสนา ที่มีคติความเชื่อไม่เหมือนกับนิกายเชิร์ช ออฟ อิงลันด์ (Church of England) ที่เป็นคริสต์ศาสนาประจำชาติของบริเทน (เราไม่ค่อยสันทัดเรื่องศาสนา ขอข้ามๆ ไปหน่อย) สรุปว่า พวกพิลกริมส์นี้มีความประสงค์จะออกจากดินแดนเดิมๆ ไปหาที่อยู่ในโลกใหม่ ก็เลยชวนกันรวบรวมสมัครพรรคพวกได้จำนวนหนึ่ง ตัดสินใจออกเดินทางโดยเรือไปทางตะวันตกของเกาะบริทิช เพื่อไปตั้งรกรากในแผ่นดินใหม่คืออเมริกา ในศตวรรษที่ 17 โน่น

..เรือเมย์ฟลาวเวอร์ของเหล่าพลีมัธ พิลกริมส์..

เรือที่พวกพิลกริมส์ตั้งใจว่าจะใช้เดินทางไปอเมริกานี้มีสองลำ ลำแรกเป็นเรือลำเล็กหน่อยชื่อว่า "สปีดเวลล์" (Speedwell) ตั้งใจจะรวบรวมผู้คนทั้งในบริเทนและบางส่วนจากประเทศฮอลแลนด์ด้วย ส่วนอีกลำชื่อว่า "เมย์ฟลาวเวอร์" (Mayflower) พวกเขาออกเดินทางจากเมืองเซาธ์แธมป์ตันเพื่อไปแสวงหาโลกใหม่ ช่วงแรกที่ออกเดินทางก็มีอุปสรรคขลุกขลักพอสมควร เรือสปีดเวลล์ต้องกลับมาซ่อมแซมให้พร้อมสำหรับเดินทางไกล ไปๆ มาๆ เรือสปีดเวลล์ก็เลยจำเป็นต้องจอดอยู่ที่ท่าเรือในบริเทน พวกพิลกริมส์ก็ต้องเดินทางไปด้วยเรือลำเดียวกันขนาด 180 ตัน ชื่อว่า เมย์ฟลาวเวอร์

..เส้นทางเริ่มแรกที่เรือสปีดเวลล์ และเมย์ฟลาวเวอร์ออกเดินทางพร้อมๆ กัน
หวังจะแล่นใบไปเป็นเพื่อนกันท่ามกลางท้องทะเลอันเวิ้งว้าง
ที่สุดแล้ว เมย์ฟลาวเวอร์ก็ต้องไปแต่เดียวดาย...

..จากเกาะบริทิช เรือข้ามมหาสมุทรไปยังโลกใหม่ ดูเหมือนใกล้
แต่ 65 วันในทะเลก็คงเป็นเวลาที่ยาวนานน่าดู...

..ปลายทางที่เคปคอด ทวีปใหม่ที่พวกเขาจะไปตั้งรกรากและเผยแพร่ศาสนา..

เรือเมย์ฟลาวเวอร์ มีอายุราว 12 ปี เป็นเรือที่ใช้งานในด้านการค้าขาย โดยเฉพาะการขนส่งไวน์ ในทริปนี้ เมย์ฟลาวเวอร์ออกเดินทางจากเมืองพลีมัธ วันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 1620 มีผู้โดยสารในเรือ 102 คน จุดแรกของการลงเรือออกเดินทางจากเมืองพลีมัธ ชื่อว่า "เมย์ฟลาวเวอร์สเต็ปส์" (The Mayflower Steps) ซึ่งยังคงมีอยู่ให้คนไปชมกันจนทุกวันนี้ ...

..เมืองท่าพลีมัธมองจากทะเล เมย์ฟลาวเวอร์สเต็ปส์อยู่เลยออกนอกกรอบรูปนี้ไปหน่อยนึง..

65 วันผ่านไป เรือเมย์ฟลาวเวอร์เดินทางฟันฝ่าพายุและคลื่นลมแรงจัดในมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างกล้าหาญ จนกระทั่งไปถึงโลกใหม่ที่กลายมาเป็น "อเมริกา" ในทุกวันนี้ ณ แหลมรูปคล้ายตะขอที่ชื่อว่า "เคป คอด" (Cape Cod) มลรัฐแมสซาชูเส็ตส์ (Massachusetts) ในปัจจุบัน ... ว่ากันว่าหินก้อนแรกที่พวกพิลกริมส์ย่างเท้าเหยียบบนโลกใหม่นี้ มีชื่อว่า "หินพลีมัธ" (Plymouth Rock) ยังมีให้เห็นอยู่ทุกวันนี้ (อยากดูต้องไปดูที่เคป คอด) แต่ก็มีความเชื่ออีกแนวหนึ่งว่า ไม่มีหรอกหินพลีมัธอะไรนั่นน่ะ (ก็นั่นดิ.. ชายหาดเคป คอดเนี่ยนะจะมีหินรอให้คนมาเหยียบ) ชาวคณะพิลกริมส์จากเรือเมย์ฟลาวเวอร์ ไปขึ้นบกที่เมืองท่าชื่อว่า "พรอวินซ์ทาวน์" (Provincetown) ในเคป คอดต่างหาก เอ้า ... ก็ต้องศึกษาและพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์กันต่อไปละเนอะ

..ภาพวาดจำลองเหตุการณ์พวกพิลกริมส์เหยียบย่างสู่โลกใหม่ "อเมริกา"..

พวกคณะบุกเบิกเหล่านี้ก็มาช่วยกันสร้างเมืองใหม่ที่นี่ ตั้งชื่อว่า "พลีมัธ" เช่นเดียวกับเมืองต้นทางของพวกเขา (คงเพื่อเป็นที่ระลึกนั่นเอง) เมืองพลีมัธแห่งมลรัฐแมสซาชูเสตส์นี้ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบอสตัน จากการที่พวกนี้เป็นคนจากทวีปยุโรปกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาจึงต้องทำงานหนักมากเพื่อปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตอยู่ในดินแดนโลกใหม่ไม่คุ้นเคย ต้องขุดดิน โค่นต้นไม้ สร้างบ้าน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร อีกทั้งยังต้องผจญกับอากาศที่เหน็บหนาวแสนทารุณ

เหตุการณ์ค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกพิลกริมส์ได้รับไมตรีจิตจากคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้อยู่แล้ว นั่นคือ ชาวอินเดียนแดง เผ่าวัมปาเนิก (The Native American Wampanoeg tribe) คนพื้นเมืองเหล่านี้ช่วยเหลือคณะผู้บุกเบิกในการปลูกพืช จนสามารถเก็บเกี่ยวได้ผลดี และพวกที่มาใหม่ก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองที่มีพืชผลให้บริโภคกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ต่อมา ก็ได้ถือเป็นประเพณีที่จะจัดงานเฉลิมฉลองเช่นนี้ในสหรัฐอเมริกาเป็นประจำ ในวันพฤหัสบดีที่สามของเดือนพฤศจิกายนของทุกๆ ปี จนถึงทุกวันนี้ เรียกว่า ประเพณีขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving holiday)

...เทศกาลขอบคุณพระเจ้า เป็นการเฉลิมฉลองความอยู่ดีกินดีในอเมริกา...

..บันทึกยามดึก..
..เข้าสู่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553..

จบไม่จบก็ไม่รู้ (น่าจะยังไม่จบดี) แต่ จขบ. ไม่รอดซะแล้ว
ไว้วันไหนใจคึกๆ จะมาว่ากันต่อเรื่องเมืองพลีมัธนี้อีกนะคะ
..สุขสันต์วันสีแดงโชติช่วงชัชวาล..วันตรุษจีน วันวาเลนไทน์..
ไปเที่ยวไหน ไปทำไร หรือนอนอยู่บ้าน ให้สำราญๆ กันทั่วหน้านะคะ..
...

: : บันทึกวันจันทร์ : :
..๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ..๑๒.๑๕ น.

เที่ยงกว่าแล้วล่ะ เพิ่งส่งเมล์งานอันนึงเสร็จ งานคีย์ข้อมูลก็ยังรออยู่ แต่ขอแว้บมาบันทึกในบล็อกซักนิดนึง ... ว่าจะเขียนบล็อกใหม่เรื่องดอกไม้ แต่ยังหาเวลานั่งเงียบๆ ไม่ได้เลย เมื่อวานก็วิ่งเข้าวิ่งออกทั้งวัน เลยสลบไปตั้งแต่สามทุ่มกว่าๆ ตื่นมาตีหนึ่ง คุณพ่อของลูกเพิ่งกลับมาจากไปรับลูกสาวที่ไปดูเดี่ยวโน้ตอุดม ... โห.. ดึกมากๆ ไม่รู้ยัยลูกสาวตื่นเช้ามาโรงเรียนวันนี้จะแอบหลับในห้องเรียนละเปล่า ...

เมื่อวาน วันอาทิตย์ที่เป็นวาเลนไทน์+ตรุษจีน ตอนสายๆ ติดรถคนข้างๆ ที่ไปส่งลูกเรียนเทนนิส เราขอไปร้านหนังสือที่ชิดลมนิดนึง เดี๋ยวนี้เชนร้านหนังสือจากฮ่องกง ชื่อ PAGE ONE มาบริหารสต๊อกหนังสือฝรั่งที่บีทูเอส แล้วนะ เราชอบเลย เพราะสมัยก่อน บีทูเอสจัดการหนังสือฝรั่งได้แย่มากๆ เดินเพลินๆ ได้หนังสือที่อยากได้มาสองเล่ม เล่มนึงเกี่ยวกับการจัดสวน อีกเล่มเกี่ยวกับคันทรีสไตล์ คนขายก็น่ารักมาก เห็นเราถามราคาแล้วทำคอย่น ก็เลยบอกว่าลดให้ 15% เอาไหม เราก็เอาซิคะ ... (ที่เขาลดให้ได้ เพราะมันไม่ใหม่แล้ว และเขาเห็นใจที่เห็นว่าเรามาบ่อยๆ เป็นลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ด้วยไง)

เสร็จแล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับมาเอ็มโพเรียม ที่ร้าน Kinokuniya มีแม็กกาซีนปี 2009 มาลดราคาเหลือเล่มละร้อย ได้มาเล่มนึง เกี่ยวกับสวนอีกเช่นเคยจากนั้น แว่บขึ้นไปกินส้มตำกับไก่ย่าง (ไม่ถูกเลย 125.- บาท น้ำไม่ซื้อเพราะเอาใส่ขวดมาจากบ้าน ..แฮ่ๆ ประหยัดไป 15.- บาท แน่ะ) แวะไปซื้อขนมปังให้สมาชิกในครอบครัว แล้วเดินข้ามถนนไปรอรถคนข้างๆ มารับที่ปากซอย 39 (ที่ต้องเดินไกลหน่อยเพราะสุขุมวิทขาเข้ารถติดมากกกก เลยต้องเดินไปอีกฝั่งเพื่อความสะดวกของรถที่จะมารับ .. เดี๋ยวตะแกยัวะรถติดแล้วเลยปล่อยเกาะเรา..) กลับมาพักขาที่บ้าน

ตอนเย็นๆ ห้าโมงครึ่ง ออกมาอีกรอบ คนข้างๆ กับเราพากันโหนรถไฟฟ้าไปส่งลูกที่พารากอน (ต้องเรียกว่าโหนเพราะรถแน่นเอี้ยด) ลูกสาวเราไปดูเดี่ยวแปด ของโน้ต อุดม กับเพื่อนและแม่ของเพื่อน ส่งลูกเสร็จเรากับคนข้างๆ ก็กลับมากินมื้อเย็นที่เกรย์ฮาวนด์ คาเฟ่ เอ็มโพเรียม (พารากอนเราไม่ค่อยคุ้น คนเยอะยังกับเจเจเลยกลับมากินแถวบ้านดีกว่า)

เกือบสองทุ่มแล้ว แต่ร้านหมาที่นี่ก็ยังคนเยอะ ที่นั่งที่เราชอบคือริมทางเดินไม่ว่างเลยต้องไปกินในร้าน ของกินที่สั่ง มี สลัดลาซานยา (เจ - ไร้เนื้อสัตว์) ผักขมอบชีสเจ (ถ้าไม่สั่งเจ มันจะมีไส้กรอกอิตาเลียนกับแฮมแทรกมาด้วย - เราไม่ชอบ) ปีกไก่ทอด คนข้างๆ สั่งข้าว-สะตอผัดกะปิ ที่จริงสั่งเปาะเปี๊ยะทะเลด้วยแต่หมดเลยไม่ได้กิน สั่งไวน์ด้วยแต่ไม่มา (คนเยอะเสิร์ฟไม่ทัน) เลยประหยัดไป 480.- บาท ตอนเช็ค เราลืมเอาบัตรสมาชิกมา เลยอดได้ส่วนลด 10% เลย

พูดถึงร้านโปรดของเราคือร้านหมาเนี่ย ที่เราชอบเพราะว่ามันมีอาหารอร่อยแต่ทำเป็นมังสวิรัติให้เลือกด้วย สันนิษฐานว่าลูกค้าที่ร้านนี้ส่วนใหญ่ชอบมังสวิรัติ เพราะเมนูไหนที่ขายไม่ดี เขามักจะเอาออกไปเสมอ แต่เมนูเจนี่ไม่เคยหายไปไหน เราเอง ถึงจะไม่ได้มังฯ อย่างเป็นทางการ แต่ก็ชอบกินมังฯ ทุกเมื่อที่มีโอกาส เพราะนอกจากสบายตัว ไม่แน่นท้องดีแล้ว ยังอร่อยแต้ๆ ด้วย ...

เดี๋ยวคืนนี้กลับไปว่าจะอัพบล็อกดอกไม้สุดเลิฟให้ได้ซักดอก...

..สุขสันต์วันสีเหลืองสดใสค่ะ..

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2553 12:41:16 น.

18 comments

Counter : 3774 Pageviews.

อ่านแล้วรู้สึกชอบเมืองพลีมัธตามที่คุณเขียนเลยล่ะ
ว่าแล้วก็ขออนุญาตแอคเป็นเฟรนลิงค์นะคะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:11:29 น.

สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ คุณแดง

ตกลงในใจแล้ว ว่าอีสเตอร์นี้จะไปCornwallกันค่ะ ลางานวันพฤหัส จะได้หนี traffic กะจะหาแค้มป์ไซท์แถว Falmouthค่ะ ซักสามคืน ตั้งตารอแล้ว อยากไปเที่ยวจัง

คุณแดงสบายดีนะคะ

โดย: ตา (ta/'o-o/'

) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:14:18 น.

สวัสดีเจ้าปี้แดงมารูน Mayflower หน้านี้เป็นสารานุกรมฉบับย่อได้เลยนะคะ :))

วันแห่งความฮัก มีความฮักทุกวันอยู่แล้วก็ขอให้มันเต็มอิ่มยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ อิอิอิ

a loveless world is a dead world เห็นด้วยก่อเจ้า อิอิอิ

โดย: prunelle la belle femme

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:26:37 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่แดง

รู้จักพลีมัธว่าเป็นทีมฟุตบอลครับ 555
จะว่าไปการดูบอลอังกฤษ
ก็ทำให้ผมรู้จักชื่อเมืองเกือบทุกเมืองในอังกฤษเลยนะครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:30:00 น.

ขอให้มีความสุขมากๆครับ

โดย: Dingtech

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:34:31 น.

โดย: นนนี่มาแล้ว

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:12:45 น.

สวัสดีค่ะคุณแดง

สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ
เชียงใหม่ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
อมก๋อย เป็นอำเภอที่น่ารักมาก
เส้นทางสวยงาม ป่าครึ้มขจี
ยิ่งถ้าช่วงหนาว...ที่ต้นไม้
ถูกห่มคลุมด้วยมอสสีเขียว
เหมือนสวมเสื้อกันหนาวเอาไว้
มีถนนอยู่ช่วงนึงสองข้างทาง
ต้นไม้แย่งกันขึ้นแน่นขนัด ให้ความรู้สึก
เหมือนเดินทางเข้าไปในเทพนิยาย
อาจมีเจ้าชาย เจ้าหญิง
หรือคนแคระรอเราอยู่ข้างหน้า
สร้างจินตนาการได้อีกมากมาย
ขอเพียงได้พาครอบครัวมาเที่ยวเชียงใหม่ หากสะดวกก็แวะมาพบกัน
รบกวนโทร.บอกล่วงหน้า ก็ดีค่ะ
เพราะหนิง-ปุ้ย เข้าร้าน อังคาร พฤหัส เสาร์ จะได้มั่นใจว่าได้ต้อนรับคุณแดง
แล้วพบกันค่ะ

โดย: หนิงค่ะ (Heart&Home

) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:48:30 น.

แวะมาทักทายวันหยุด
ขอให้มีความสุขในวันวาเลนไทน์นะคะ
และตรุษจีนด้วยค่ะ

โดย: โบจัง (ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ

) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:58:20 น.

โดย: หน่อยอิง

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:41:02 น.

ตกลงผมไมไ่ด้ไปแล้วครับพี่แดง
งานเยอะครับ
ลูกค้าเข้ามากมายมหาศาล
เลยบอกมาดามว่า
ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถพาเธอไปได้ 555

รอหลังเทศกาล ลูกค้าวาลง
จะพาไปแน่นอนครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:54:31 น.

อ่านตำนานแล้วเพลินๆ เลยค่ะพี่แดง ขนาดถึงไป
พิสูจน์กันถึงขนาดหินที่ไปเหยียบทางฝั่งกระโน้นด้วย
อ่านแล้วเหมือนฟังตำนานสมัยก่อนของชาง england
อื่นๆ ที่มีตำนานเกี่ยวกับเมืองสมัยก่อน เวลานั่งฟัง
ก็ต้องนั่งล้อมวงกันกับเด็กๆ ฟังกันเพลินเลยค่ะ
และคนเล่าก็ต้องมีทักษะในการเล่านิดหนึ่งนะค่ะจะได้
ไม่น่าเบื่อกันเลยสำหรับการฟังตำนานสนุกๆ แถมได้ความรู้
แทรกอีกเยอะเลยค่ะ

วันนี้ตรุษจีนและวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะวันไหนๆ
ก็แวะมาส่งความสุขให้กับพี่แดงเสมอๆ นะค่ะ

โดย: JewNid

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:12:57 น.

แวะมาอวยพรในวันแห่งความรักเช่นกันจ้า

สมหวังในทุกสิ่งที่หัวใจเรียกร้องนะค่ะ

โดย: tiensongsang

วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:31:35 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่แดง

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:29:59 น.

ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้เยอะเลย ^^

โดย: pim(พิม)

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:55:41 น.

มาส่งเทียบเชิญ ให้ลองไปอ่านนวนิยายสไตล์นักสู้

นำเสนอเรื่องราวของเด็กหนุ่มนักสู้บนสังเวียนมวยและสังเวียนชีวิต

ในเรื่อง...

"สังเวียนคน"

เรื่องราวดุเดือดถึงเลือดถึงเนื้อ

ขอเชิญติดตามชมได้แล้วครับ....

โดย: ลุงแว่น

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:26:18 น.

ดีจ้าแม่มารูน

แวะมาแต่ส่งเม้นท์ไม่ได้เลย กดแป้นซะเยอะ ไม่ส่งซะงั้น

พักผ่อนมากๆนะครับ

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:15:04 น.

หายห่วงไปได้เลยเจ้าปี้แดงเรื่องบล็อกป๊าดสะโก๊ด แค่รู้ว่าถึงโดยสวัสดิภาพก็พอแล้ว เอาไว้เมื่อไหร่เกิดอยากจะเอานางงามมาลงบล็อกค่อยอัพ^^ ส่งกันไปมาเป็นนิจอัพบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เบื่อไปซะก่อน นี่หนูว่าจะหาเวลาไปห้าง Ikea เผื่อจะเจออัลบั้มสวยเก๋เอามาเก็บภาพเก่า ๆ กะพีซีมั่ง ยังไม่มีกะใจไปเลยค่ะ บางทีมีเวลาแต่ดันไม่อยากไปซะงั้น

ปี้แดงมาคุยเรื่องอาหารเป็นชุดทำให้อยากกินปลาทูมาก T_T หิมะหยุดไปเกือบสองวันแล้วค่ะแต่ค่อยข้างหนาว เลยไม่ละลายสักที นี่เมื่อวานแดดก็ออกค่อนวัน วันนี้ก็อากาศดี แต่มองออกไปยังมีหิมะอยู่ค่ะ

Kinokuniya นี่ร้านหนังสือแนวญี่ปุ่นที่ห้างพารากอนแน่ ๆ เลย หนูไปเดินพารากอน ต้องไปถามยามว่าร้านนี้อยู่ตรงไหน 555 เดินหลงในห้าง บ้านนอกเข้ากรุงจริง ๆ

โดย: prunelle la belle femme

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:42:39 น.

whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

โดย: กฟ IP: 203.144.144.165 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:48:42 น.