เสาร์วันหนึ่งที่ "ร้านไก่อบโอ่ง (ต้นตำรับ)" บางพระ ชลบุรี
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและคำอวยพรดีดีที่มีให้กับคุณแม่นะคะ ตอนนี้แม่หายเป็นปกติแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นโรคคิดถึงลูกชายค่ะ เพราะตั้งแต่เรียนจบทำงานมาหลายปี เพิ่งจะย้ายแยกไปทำงานไกลบ้านก็คราวนี้นี่ล่ะ แต่วันก่อนแค่บอกแม่ว่า เดี๋ยววันนี้ลูกชายทั้งสองจะกลับบ้าน แม่หายเวียนหัวทันทีเลย ^^ และขอบคุณสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะออกนามที่ส่งทิปมาให้ด้วยนะคะ ได้รับตั้งหลายวันแล้ว แต่ลืมขอบคุณค่ะ แย่จัง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ทริปนี้เหตุเกิดเนื่องจากศุกร์วันหนึ่งคุยกับเพื่อนที่ออฟฟิศว่าเค้าจะพาหลานไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เลยบอกว่า อย่าลืมกินไก่อบโอ่งเผื่อด้วยนะ แต่ไม่ไหวล่ะ รอเพื่อนกินเผื่อไม่ไหว เช้าวันเสาร์ออกเดินทางมุ่งหน้าไปกิน "ไก่อบโอ่ง" ที่บางพระเองดีกว่า จริงๆ ในซอยที่มุ่งหน้าสู่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวนี้มีร้านขายไก่อบโอ่งอยู่หลายร้าน แต่ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยบ้าง เพราะทุกทีจะมากินแต่เจ้านี้เจ้าเดียวเลย "ไก่อบโอ่ง (ต้นตำรับ)" ด้านหน้าร้านจะเห็นมีโอ่งมังกรตั้งเรียงรายกันอยู่ และมีที่จอดรถสะดวกสบายอยู่ด้านหลังร้าน ราคาของไก่อบโอ่งแบ่งตามขนาด มีทั้งขนาดใหญ่ พี่บิ๊ก และซุปเปอร์บิ๊ก เข้าใจตั้งชื่อเนอะ ตอนมานั่งที่โต๊ะ เค้าก็จะเอาขนมถ้วยมาเสิร์ฟก่อนเลย จำไม่ได้แล้วว่าชุดละเท่าไหร่ ถ้ากินไม่หมดก็ให้เค้าใส่กล่องโฟมกลับบ้านได้ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่เป็นไร เป็น "ขนมถ้วยโบราณ" ที่มีกลิ่นหอม และหวานกำลังดี กินเพลินกันทีเดียวล่ะ จานนี้สั่งก่อนเป็นอย่างแรกเลย จะจกข้าวเหนียวก็ต้องคู่กับ "ส้มตำปลาร้าแซ่บๆ" นี่ล่ะ แต่ที่นี่ไม่มีปลาร้ามาเป็นต่อนๆ นะ เค้าใส่มาให้แต่น้ำปลาร้า แต่ก็แซ่บ นัวดีค่ะ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ "ไก่อบโอ่ง" แต่วันนี้ขอแค่ครึ่งตัวพอ จานนี้น่าจะเป็นขนาดซุปเปอร์บิ๊กแบบครึ่งตัว จานละ 70 บาท ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่อบ ลาบ หรือยำเท่านั้นนะ แต่ที่แน่ๆ ถ้วยนี้อร่อยเหาะจริงๆ ซดกันจนน้ำเกือบหมดถ้วย "ต้มยำปลาบู่" เค้าคงจะคิดราคาเป็นชิ้น เห็นเขียนไว้ว่า 4 ชิ้น 160 บาท เวลากินปลาบู่ต้องระวังนิดนึง เพราะก้างเยอะ แต่เนื้อนุ่ม และละเอียด จบจากมื้อนี้ไม่ได้ตรงขับรถเลยไปเที่ยวสวนสัตว์หรอก แต่กลับรถหมุนหัวไปทางสัตหีบแทน อยากไปนอนเล่นรับลมเย็นริมทะเลมากกว่า "อ่าวเตยงาม" ที่เลือกมาที่นี่ เพราะอยู่ในการดูแลของทหารเรือ ทำให้บริเวณนี้สะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบ ต้องทำการแลกบัตรก่อนเข้า ทหารจะถามว่า "มาทำอะไร" ก็แค่ตอบไปว่า "เข้าไปเที่ยวอ่าวเตยงาม" แค่นั้นพอ เลือกมุมดีๆ แล้วก็ปูเสื่อล้มตัวลงนอนทันที ถ้าใครไม่ได้พกอุปกรณ์มา เค้ามีทั้งเสื่อ และเตียงผ้าใบให้เช่า แต่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 20-30 บาท วันนี้นอนสบายดีจริงๆ แดดไม่ร้อน อากาศกำลังเย็นสบายเลย หลับไปร่วมๆ 2 ชั่วโมงได้ มีความสุขจริงๆ กินอิ่มแล้วนอน พักผ่อนกายา นอนๆ อยู่ได้ยินเสียงเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งตะโกนโหวกเหวกโวยวายใหญ่ ทำให้สะดุ้งตื่นมาดูว่ามีอะไรกัน ที่ไหนได้ น้องๆ เค้าตะโกนให้เพื่อนๆ รีบขึ้นมา เพราะฟ้ามืดครึ้มอย่างรวดเร็วมาก ดีนะที่มานอนใกล้ๆ น้องๆ กลุ่มนี้ ไม่อย่างนั้นได้มีการนอนตากฝนกันบ้างล่ะ เก็บเสื่อผืนหมอนใบขึ้นมาหลบบนรถได้แป๊บเดียว ฝนฟ้าก็เทกระหน่ำลงมา ไม่ไหวล่ะ อยู่นานไม่ได้ ต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด กลัวกิ่งก้านสาขาใบของต้นไม้ปลิวมากระทบกับรถ ขนาดตอนวิ่งมาขึ้นรถ ยังโดนลูกหูกว้างบินมากระแทกหัวไปลูกนึงด้วย ลมพัดแรงๆ แบบนี้ เห็นเรือน้อยยังลอยอยู่กลางทะเลน่ากลัวจัง แต่ชาวประมงเค้าคงจะชินกันแล้วล่ะ ตอนเย็นกลับมาที่ทะเลแถวบ้านกันต่อ วันนี้ว่าจะมาลองหาอะไรอร่อยๆ กินแถวสะพานปลาอ่างศิลาซะหน่อย ร้านนี้อยู่ตรงสะพานปลาอ่างศิลาพอดีเลย "เรือนอาหารทะเลทอง" ช่วงระหว่างรออาหาร ก็ออกไปซื้อกั้งดองมากินเล่น กั้งตัวโตๆ เห็นแล้วนึกถึงส้มตำกั้งดองเลยอ่ะ จานแรกของร้านนี้ "หอยตลับผัดฉ่า" เค็มๆ และไม่ค่อยหอมกลิ่นเครื่องเทศซะเท่าไหร่ "ปูม้านึ่ง" ครึ่งกิโล ตอนเค้ายกมาเสิร์ฟก็เป็นงงเหมือนกันนะ ปูม้า 2 ตัวนี้ถึงครึ่งกิโลด้วยเหรอเนี้ย "ยำมะม่วง" สั่งมากินกับปูม้า เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ไม่ค่อยเด็ดดวงเลย "ต้มข่าทะเล" ลืมบอกว่า ต้องการแบบถ้วย เจ๊เค้าเลยส่งมาให้ทั้งหม้อ ช่วงระหว่างกำลังกินข้าวกันอยู่ ได้ยินเสียงจุดพลุ เลยรีบวิ่งไปถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย ทำเหมือนไม่เคยเห็นพลุเลย ตลกตัวเองจัง ความคิดเห็นส่วนตัวกับร้านนี้ คือ ไม่ประทับใจอย่างยิ่ง และคิดว่าคงไม่กลับมาที่นี่อีก เนื่องจากโต๊ะข้างๆ เค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับราคาอาหารที่ทางร้านคิดมา เค้าบอกพนักงานให้ช่วยเรียกผู้จัดการ หรือคนดูแลร้านมาคุยกับพวกเค้าหน่อย แต่ผู้จัดการร้านไม่ยอมออกมา บอกว่า ลูกค้ามีปัญหาอะไร ก็ต้องเดินไปหาเค้าเองสิ เป็นงงกันเลยล่ะงานนี้
ช่วงนี้มีเทศกาลโหวตกันอีกแล้ว ครั้งนี้จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในหัวข้อ "กินเที่ยวทั่วไทย สไตล์บล็อกเกอร์" ซึ่งสามารถร่วมสนุกถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 โดยลงคะแนนได้ชั่วโมงละ 1 ครั้ง ขอแรงโหวตหน่อยนะคะ "เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา" จิ้มโหวตได้เลยจ้า
Create Date : 01 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 19:55:12 น. |
|
64 comments
|
Counter : 8710 Pageviews. |
|
|
น่าจะมาเป็นคนแรกเน๊าะ
พี่จะได้ประเดิมคนแรกทุกจานเลย อิอิ