หมี่หุ้น หมี่ฮกเกี้ยน โลบะ ปอเปี๊ยะสด หมูสะเต๊ะ อาโป๊ง โอ้เอ๋ว @ ภูเก็ต
ขอเริ่มต้นทริปภูเก็ตด้วยเรื่องของกินอร่อยๆ ตามสไตล์ที่ถนัดก่อนดีกว่า ขอออกตัวสักนิดนึงว่า ครั้งนี้มีเวลาอยู่ที่ภูเก็ตประมาณครึ่งค่อนวันเท่านั้น ก็เลยตะลอนกินได้ไม่เยอะเท่าไหร่ งานนี้ไม่ได้ฉายเดี่ยวเหมือนเคยนะจ๊ะ แต่ไปกันทั้งหมด 4 คนจ้า เริ่มต้นมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต "ลกเที้ยน" อยู่ตรงแยกระหว่างถนนเยาวราชและถนนดีบุกพอดิบพอดี ในนี้มีอาหารพื้นเมืองที่เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ "หมี่หุ้นกระดูกหมู" คล้ายๆ กับผัดหมี่ซี่อิ้วแถวบ้านเรา แต่หมี่หุ้นที่นี่จะเส้นกลมๆ รสชาติต่างกันนิดหน่อย โรยหน้ามาด้วยหอมเจียว และต้นหอมซอย เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปกระดูกหมู น้ำซุปเค้ามีรสหวานของกระดูกหมูด้วย ซดร้อนๆ คล่องคอดี "หมี่ฮกเกี้ยนผัดใส่ไข่" จริงๆ แล้วร้านขายหมี่ฮกเกี้ยนชื่อดังของเมืองภูเก็ตที่เค้าแนะนำกันคือที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์ แถวๆ หอนาฬิกา แต่ครั้งนี้ไปไม่ถึงตรงโน้น เลยลองชิมที่ร้านนี้ก่อนแล้วกัน หมี่ที่เอามาผัดคล้ายๆ กับผัดหมี่ตอนกินเจ เส้นหมี่เหลืองๆ กลมๆ อวบๆ ใส่ไข่ลวกมา 1 ฟอง กินตอนร้อนๆ จะอร่อยกว่า และไม่เลี่ยน ในเมื่อเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต ก็เลยสั่งไปทั้งหมด 3 ชาม ชามละ 40 บาท "หมูสะเต๊ะภูเก็ต" จานนี้รู้สึกว่าจะแพงไปหน่อย ไม้ละ 5 บาท มีทั้งหมด 26 ไม้ ปกติแถวบ้านไม้ละ 3.50 บาทเองอ่ะ ถ้าถามว่า อร่อยมั้ย ก็พอได้นะ แต่น้ำจิ้มเค้าไม่เข้มข้นเท่าไหร่ เมื่อก่อนได้ยินชื่อนี้แรกๆ ก็แปลกใจว่าคืออะไร แต่ตอนนี้รู้ล่ะ "โลบะ" ก็คือเครื่องในหมูที่ปรุงด้วยเครื่องพะโล้ เอาไปนึ่งจนได้ที่เสร็จแล้วก็เอามาทอดอีกครั้ง จนได้โลบะหอมๆ กินกับน้ำจิ้มข้นๆ หวานๆ ตอนแรกๆ ที่เค้ามาถามว่า จะรับ "ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน" มั้ย ก็บอกไปแล้วนะว่า "ไม่เอา" แต่นึกๆ ดู ลองสั่งมาชิมซะหน่อยจะเป็นไรไป เดี๋ยวจะไม่ครบเครื่องเรื่องกิน เค้ามีแบบชุดเล็ก 20 บาท และชุดใหญ่ 30 บาท จานนี้เป็นแบบชุดเล็ก ปอเปี๊ยยสดฮกเกี้ยนไม่เหมือนที่เคยกินจริงๆ ด้วย ตัวไส้ข้างในจะแตกต่างกัน อร่อยไปอีกแบบ เปิดตำรา "นิตยสารหนีกรุง" ฉบับที่ 5 ปี 2009 "ทุกคำที่กิน ล้วนคือประวัติศาสตร์ / ภูเก็ต" ยังมีอาหารการกินที่แนะนำไว้อีกตั้งเยอะ เดินย้อนหลังกลับมาหน่อยเจอซอยสุ่นอุทิศ ซึ่งในซอยนี้มีอาโป๊งแม่สุณี และโอ้เอ๋วแป๊ะหลี่ที่เค้าแนะนำเอาไว้ "อาโป๊งแม่สุณี" สองแรงแข็งขันช่วยกันหมุนกระทะที่ใส่แป้งลงไป ตอนไปสั่งเค้าบอกว่า ต้องรออีก 2 คิวนะ โธ่ๆๆๆๆ เห็นไม่มีคนยืนอยู่หน้าร้าน นึกว่าจะได้กินเลยซะอีก ทีแท้ก็มีคนมาสั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วนี่เอง หมุนกระทะให้แป้งแผ่ออกเป็นแผ่นกลมๆ ตรงขอบๆ จะบาง แต่ตรงกลางจะหนาหน่อย กลิ่นแป้งหอมกรุ่นชวนลิ้มลอง พอแป้งสุกแล้วจะมีสีเหลืองๆ หลังจากนั้นก็แคะออกมาม้วนๆ ราคาไม่แพง ชิ้นละ 3 บาท 7 ชิ้น 20 รสชาติเหมือนทองม้วน แต่จะกรอบและนุ่มกว่า ต้องเริ่มกินจากตรงปลายๆ ก่อน จะได้ไม่โดนมือบีบซะจนแตกหัก เดี๋ยวอดกินตรงส่วนกรอบๆ ส่วนอีกร้านที่อยู่ใกล้ๆ กัน คือ "โอ้เอ๋วแป๊ะหลี่" ตอนไปถึงถามเค้าว่า ขนมแบบนี้เรียกว่าอะไร เค้าก็ชี้ไปด้านหลังให้อ่านออกเสียงเอาเอง พอสั่งเรียบร้อยก็มานั่งใจเย็นๆ รอที่ฝั่งตรงข้าม โอ้ว!!!!! ว้าว!!!!!! น่ากินจัง โอ้เอ๋วใส่ถั่วแดง ไม่แพงด้วยนะ ถ้วยละ 10 บาทเอง โอ้เอ๋วเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายลูกจัน เอาเมล็ดของลูกที่แห้งมาแช่น้ำ แล้วเอาไปผสมกับเจี่ยกอ ทำให้โอ้เอ๋วเกาะตัวกันเป็นก้อนคล้ายๆ วุ้น แต่ไม่หวาน และไม่เหนียวเหมือนวุ้น อีกหนึ่งขนมขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต "เต้าส้อ" คล้ายๆ กับขนมเปี๊ยะนั่นล่ะ แต่เปลือกแป้งจะบางกว่า กรอบๆ นุ่มๆ มีทั้งไส้เค็มและไส้หวาน ส่วนมื้อเย็นตั้งใจจะไปกินอาหารทะเลอร่อยๆ ตามคำแนะนำของกูรูแห่งเมืองภูเก็ต "พี่ติณ (ปลายแป้นพิมพ์)" พี่ติณแนะนำมาหลายร้านเลย แต่ด้วยโรคขับรถหลงทางยังแก้ไม่หาย วนไปวนมาซะหลายรอบ ผลสรุปคือ หาไม่เจอสักร้าน จากที่คิดไว้ว่าจะไปกินข้าวเย็นที่ "ร้านครัวการบิน" หาดในยาง ไปๆ มาๆ มาโผล่ที่ "สโมสรวิทยุการบิน" ข้างๆ สนามบินภูเก็ตแทน ไม่หาแล้ว กลัวไม่ทันขึ้นเครื่องตอนสามทุ่ม ไหนๆ เข้ามาแล้วก็แวะฝากท้องที่นี่ล่ะ ไว้คราวหน้าค่อยแก้ตัวใหม่ ที่นี่เค้าทำอาหารเร็วมาก แป๊บเดียวก็ยกมาเสิร์ฟทั้งหมดที่เราสั่ง ตอนแรกๆ จะสั่งกรรเชียงปูผัดผงกระหรี่ แต่เค้าไม่มี เลยได้ "เนื้อปูผัดผงกระหรี่" มาแทน อืม...ก็ใช้ได้นะ เนื้อปูหวานดี เอาน้ำคลุกๆ ข้าวหน่อย กินเพลินเลย มาถึงแดนใต้ต้องนี่เลย "ใบเหนียงผัดไข่" ใบเหนียง หรือผักเหลียงของปักษ์ใต้รสชาติหวานมัน คล้ายๆ กับผักหวานที่รู้จักกันดี "ต้มยำปลากระพง" อือหือ!!!! เครื่องเคียงเพียบเลย ทั้งเขียวๆ ของต้นหอม และแดงๆ ของพริก สีตัดกันน่าดู ของซดน้ำเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ให้คล่องคอซะหน่อย ส่วนปลาก็มาซะชิ้นเบ้อเริ่มเลย อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของชาวภูเก็ตคือ "น้ำพริกกุ้งเสียบ" ถ้าอย่างนั้นต้องสั่งมาลองชิมซะหน่อย มีผักแนมมาให้เพียบเลย ตัวน้ำพริกแห้งๆ มีรสเผ็ดนิดหน่อย อร่อยไปอีกแบบ แค่นี้ก็อิ่มพุงกางไปหนึ่งวันแล้ว แต่เสียดายที่ยังไม่ได้ไปลองชิมอีกตั้งหลายอย่างแน่ะ ไม่ว่าจะเป็นโอวต้าว เสี่ยวโบ๋ย หมี่แป๊ะเถว หมี่ต้นโพธิ์ ขนมจีนปักษ์ใต้ และหอยชักตีน เอาไว้คราวหน้าถ้ามีโปรโมชั่นดีๆ จากแอร์เอเชียอีก ต้องรับไว้พิจารณาอีกรอบ ช่วงนี้มีเทศกาลโหวตกันอีกแล้ว ครั้งนี้จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ในหัวข้อ "กินเที่ยวทั่วไทย สไตล์บล็อกเกอร์"
ซึ่งสามารถร่วมสนุกถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 โดยลงคะแนนได้ชั่วโมงละ 1 ครั้ง
ขอแรงโหวตหน่อยนะคะ
"เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา"
จิ้มโหวตได้เลยจ้า
Create Date : 17 กันยายน 2553 |
Last Update : 17 กันยายน 2553 9:06:25 น. |
|
69 comments
|
Counter : 7033 Pageviews. |
|
|
เข้ามาแล้วทำให้รู้จักอาหารที่ไม่เคยรู้จักอย่าง โลบะ อาโป๊ง โอ้เอ๋ว ด้วยเลยนะคะ