ปิดท้ายทริปเชียงใหม่ช่วงวันแม่ที่ "ร้านเต้ยติ่มซำ" แต่ต้องรีบเอามาออกอากาศก่อน

เพื่อเป็นการขอบคุณในน้ำใจอันมากมายล้นเหลือของเจ้าภาพในมื้อนี้

ไม่ใช่คนอื่นคนไกล "พี่จิน (Jinny Tent)" แห่ง Bloggang นี่เอง

พอพี่จินรู้ว่าจะขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็ขอร้องแกมบังคับ และขู่เข็ญว่าต้องแวะมาที่ร้านให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นมีงอน

แถมยังซื้อของฝากให้หิ้วกลับลงมาอีก ทั้งแคปหมูไร้มัน มีมัน น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว กระเป๋าผ้า พวงกุญแจ

เตรียมลังไว้ให้น้องแพคของอย่างเรียบร้อย พร้อมโหลดขึ้นเครื่องได้เลย น่ารักจริงๆ

ถ้าได้ขึ้นเชียงใหม่เมื่อไหร่ จะแวะไปเยี่ยมติ่มซำอีกแน่นอน อ้าว! ไม่ใช่ จะแวะมาหาพี่จินอีกนะคะ

ขอบคุณจ๊าดนักสำหรับติ่มซำมื้อนี้ ทำเอาอิ่มแบบไม่ต้องกินข้าวไปอีก 3 มื้อเลย

ตอนอยู่บนรถยังบอกเพื่อนว่า เดี๋ยวดูสิว่าพี่จินจะจำได้หรือเปล่า

เพราะไม่เคยเจอกันเลย เคยคุยกันแต่ทางบล็อค และ FB อีกนิดหน่อย

แต่พอมาถึงหน้าร้าน พี่จินส่งยิ้มมาให้ก่อนเลย

จัดที่ทางให้นั่งเรียบร้อย พร้อมให้เด็กๆ ยกติ่มซำมาเสิร์ฟอีกยกใหญ่ ไม่ปล่อยให้น้องเสียเวลาไปยืนเลือกหน้าร้าน

เห็นแต่ละอย่างแล้วเรียกชื่อไม่ถูกเลย รู้แต่ว่าอร่อยทุกจาน และทุกเข่งเลย

"กุ้งกรอบ"

จานนี้แปลกดี เอาบะหมี่เส้นใหญ่มาพันรอบๆ กุ้งแล้วเอาไปทอด

ติดใจจานนี้ด้วยคน กรอบ อร่อย ติดดาว

ของทอดๆ แบบนี้ยกมาเหอะ ของโปรด จนเพื่อนบอกว่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหุ่นถึงได้เป็นแบบนี้

แต่จานนี้อร่อยจริงๆ นะ ยิ่งกินตอนร้อนๆ ทอดมาแบบกรอบๆ อร่อยแบบเต็มๆ คำกันเลย

"ปอเปี๊ยะทอด"

เจ้าของร้านเคยบอกไว้แล้วว่า ถ้าใครไม่ได้กิน 2 เมนูนี้ ถือว่ามาไม่ถึง "ร้านเต้ยติ่มซำ" นะ

"ซี่โครงหมูตุ๋น"

ตุ๋นมาแบบนิ่มๆ เข้าน้ำเข้าเนื้อ กินแล้วละลายในปาก น้ำซุปหวานนิดๆ อร่อยติดปลายลิ้น

เข่งนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่คล้ายๆ กับเกี๊ยวของเมืองจีน

ข้างในเป็นไส้หมู ได้กลิ่นขิงนิดๆ ด้วย

แบ่งกับเพื่อนคนละชิ้น เพราะถ้าเหมาคนเดียว เดี๋ยวไปต่อที่เข่งอื่นๆ ไม่ได้

ตามมติดๆ มาด้วย "ขนมจีบ" อีก 2 เข่ง

แต่ถ่ายรูปยังไงไม่รู้ ภาพออกมาเบลอสุดๆ ขนาดกินหมดไปหลายเข่งแล้วนะ

เข่งนี้พี่จินภูมิใจนำเสนอ ว่าแล้วก็ตักมาลองกันคนละชิ้น

"ก๋วยเตี๋ยวหลอด" ไส้เยอะมาก ครบเครื่องจริงๆ เอาซี้อิ้วดำราดซะหน่อยให้มันชุ่มๆ กินแล้วอยากกินอีก 

"เบคอนพันกุ้ง"

ชิ้นใหญ่มาก พันมากับเห็ดเข็มทอง แครอท ผักขึ้นฉ่าย แบ่งกับเพื่อนคนละครึ่ง จะได้อร่อยด้วยกัน

ลืมถ่ายรูป "ฮะเก๋า" มาได้ยังไง ขนาดพี่จินยกมาให้ 2 เข่งเลยนะเนี้ย

แต่เข่งนี้รสชาติก็คล้ายๆ กับฮะเก๋าเหมือนกัน แต่รูปทรงคนละอย่าง ไม่รู้จักชื่ออีกแล้ว

ซาลาเปา 2 เข่งนี้ พี่จินบอกว่า ไม่ต้องกินหรอก จะตัดกำลังกันซะก่อน เดี๋ยวห่อกลับบ้านให้

"ซาลาเปาหมูแดง" "ซาลาเปาไส้ครีม" และ "ซาลาเปาพุทราจีน"

ห่อกลับมาอุ่นให้ที่บ้านกิน ที่บ้านบอกว่า อร่อยดี แป้งนุ่มๆ ไส้เยอะๆ

"บะหมี่หมู"

เส้นบะหมี่นุ่มๆ เหนียวๆ แบบนี้เค้าเรียกบะหมี่ไข่หรือเปล่า กินแล้วไม่มีแป้งเลย

ส่วนหมูสับก็ทรงเครื่องมาด้วย

อีกหลายๆ เข่งที่เรียกชื่อไม่ถูก แต่ก็ได้ลิ้มลองทุกเข่งที่ยกมาเสิร์ฟ

ขนาดพี่จินบอกว่า ถ้าอิ่มก็ไม่ต้องฝืนกินก็ได้นะ

แต่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะเสียน้ำใจ ยกอะไรมาให้ เราก็ต้องจัดการให้หมด

แบบนี้ไม่ได้เรียกว่า "กินเก่ง" นะคะ แต่เค้า "ไม่อยากให้เสียน้ำใจ" ต่างหาก

อิ่มจากภาคของคราว มาต่อด้วยภาคของหวาน

"พุทราแปะก๊วย"

แปะก๊วยที่นี่เค้าเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน แกะเอง ต้มเองทุกเม็ด

ฉะนั้นเราต้องจัดการให้หมดถ้วย ให้สมกับน้ำพักน้ำแรงของคนทำซะหน่อย

อีกถ้วย "บัวลอยน้ำขิง"

เสียดายที่อิ่มตื้อไปกับติ่มซำทั้งหมด 16 เข่ง กับขนมหวานอีก 1 ถ้วย

บัวลอยน้ำขิงถ้วยนี้เลยต้องใส่ถุงกลับบ้าน

ก่อนจะร่ำลา ถ่ายรูปคู่กันหน้าร้านซะหน่อย

พลาดอย่างแรง......

ที่จริงน่าจะถ่ายรูปกันตั้งแต่ก่อนกินนะ จะได้ดูผอมกว่านี้

นี่ขนาดให้พี่จินบังซะครึ่งตัวแล้ว ก็ยังล้นเหลืออยู่ดี

เผื่อใครอยากมาลิ้มลองความอร่อยของติ่มซำสูตรต้นตำรับ และพบปะพูดคุยกับแม่ค้าใจดี

ตามแผนที่นี้มาได้เลยค่ะ

Create Date : 17 สิงหาคม 2553
Last Update : 17 สิงหาคม 2553 9:48:10 น.		102 comments
Counter : 4220 Pageviews.
Share Tweet