ฮาร์บิ้นหนาวมากกกกกกกกก (2)
หลายคนส่งกระแสเสียงมาว่า ตอนที่แล้วรูปน้อยเกินไป ยังไม่สะใจเลย วันนี้มาอัพบล็อคชวนหนาวกันต่อแล้วจ้า.... สารภาพตามตรงว่า ไปเที่ยวครั้งนี้ถ่ายรูปน้อยมาก ที่ถ่ายออกมาก็ไม่ได้เรื่อง ฉะนั้นรูปที่เอามาลงให้ดูกันส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือของพี่เต้ยค่ะ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- โปรแกรมทัวร์นี้ดีอย่างตรงที่ให้ปรับสภาพร่างกายที่เป่ยจิงก่อน 1 วัน หลังจากนั้นถึงบินต่อมาที่ฮาร์บิ้น สภาพถนนในเมืองฮาร์บิ้นส่วนใหญ่จะเป็น พื้นน้ำแข็ง บางครั้งของเก่ายังละลายไม่หมด ก็มีของใหม่มาเพิ่ม ฉะนั้นเวลาเดินต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และจะให้ดีต้องใส่รองเท้าที่สามารถเดินบนน้ำแข็งได้ บินจากเป่ยจิงมาถึงฮาร์บิ้นประมาณ 5 ทุ่ม ทางไกด์พาแวะไปซื้ออุปกรณ์กันหนาวกันก่อน ที่เตรียมมาจากบ้านเรายังไงก็ไม่พอแน่ๆ เป็นร้านเล็กๆ อยู่ข้างถนน วันนี้ละลายทรัพย์ที่นี่ไป 500 หยวน (2,500 บาท) ได้ลองจอห์นแบบหนา 1 ตัว กางเกงกันลม 1 ตัว รองเท้าเดินบนน้ำแข็ง 1 คู่ และแท่งถ่านหิน 1 อัน แนะนำกันเลยสำหรับ แท่งถ่านหินสำหรับพกพา(แท่งเขียวๆ แบบในป้ายโฆษณาซ้ายมือ) อันละ 10 หยวน ร้อนแรงดีจริงๆ ทำให้มืออุ่นขึ้นมาได้เลยในสภาพความหนาวเย็นขนาดติดลบ 30 กว่าองศาแบบนี้ ถ้าอยู่ที่ฮาร์บิ้น 2 วัน แนะนำให้มีติดตัวไว้ 3-4 แท่ง พอเริ่มเย็นก็ซุกไว้ในกระเป๋าก่อน เดี๋ยวก็ร้อนใหม่ แต่แปลกตรงที่ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วๆ ไป หรือร้านข้างถนนเลย ถ้าเจอควรซื้อไว้ก่อนดีกว่า และที่แนะนำอีกอย่างคือ รองเท้าที่สามารถเดินบนน้ำแข็งได้ เพราะความเย็นจะขึ้นมาจากเท้า ถ้าเราปล่อยให้เท้าเย็น จะเที่ยวไม่สนุก และทำให้ไม่สบายได้อีกด้วย รองเท้าคู่นึงประมาณพันบาท เรียกว่าคุ้มสำหรับการที่เราลงทุนมาเที่ยวไกลถึงที่นี่ สำหรับใครที่เตรียมลองจอห์นมาแล้ว อาจจะเพิ่มกางเกงกันลมอีกสักตัว กางเกงกันลมที่นี่หนากว่าของบ้านเรา แต่จริงๆ แล้วถ้าใส่กางเกงลองจอห์นอย่างหนา กับกางเกงกันลม แค่ 2 ตัวนี้ก็เอาอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่กางเกงหลายชั้น ให้เข้าห้องน้ำกันยากลำบาก ซื้อของกันเสร็จสรรพเรียบร้อย รถทัวร์ก็พามาส่งโรงแรม สองข้างทางจะมีประติมากรรมน้ำแข็งอย่างย่อมให้ดูด้วย เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่เทศบาลที่นี่ ลองทดสอบอุปกรณ์กันหนาวที่ซื้อกันมาซะหน่อย ว่าเป็นยังไงบ้าง คืนนี้อุณหภูมิประมาณ -31 องศา เดินเล่นกันแถวละแวกโรงแรมนั่นล่ะ ดึกแล้วไม่กล้าไม่ไหนไกล ที่แน่ๆ คือ ยังไม่ชินกับความหนาวเย็นของที่นี่ด้วย เห็นป้ายหน้าร้านเขียนว่ามีเนื้อย่างกับเกี๊ยวต้มขาย เลยลองเดินลงไปสำรวจชั้นใต้ดินกันหน่อย แค่เปิดประตูกินอาหารหอมๆ ก็ลอยขึ้นมาแล้ว ขนาดไม่หิวนะ ยังชวนอยากลองกันเลย แต่พอเข้าไปถึงในร้าน กลับตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่แทน คนที่นี่สูบบุหรี่กันดุจริงๆ เห็นอาหารหน้าตาแปลกๆ ก็เลยลองสั่งมาชิม มารู้เอาทีหลังว่า เส้นเหลืองๆ ที่รสอร่อยแบบนี้คือ ฟองเต้าหู้ ยังไม่แน่ใจในรสชาติของเนื้อแพะย่าง ก็เลยลองสั่งมาชิมก่อน 3 ไม้ แต่ปรากฎว่า อร่อยว่ะ เลยสั่งมาอีกทีเดียว 10 ไม้ไปเลย จริงๆ แล้วยังมีหอยหลอดผัดพริก กับเกี๊ยวต้มอีกอย่างละจาน อร่อยใช้ได้เลย ตอนกลางคืนหัวหน้าทัวร์แนะนำว่า ให้นอนเปิดหน้าต่างไว้สักนิด เพราะเรามาจากเมืองร้อน จะไม่ชินกับฮีตเตอร์ ถ้านอนอบอยู่ในนั้น ตอนเช้าจะทำให้เกิดอาการแสบตา และคอแห้งได้ สภาพบ้านเมืองที่มองออกมาจากหน้าต่างของโรงแรมที่พัก ดูไม่ค่อยน่าอยู่เลยนะ มีแต่ควันพวยพุ่งตลอดเลย ที่นี่เค้าใช้ถ่านหินมาเป็นเชื้อเพลิงกัน ควันที่ออกจากท่อไอเสียรถยนต์ก็จะเป็นแบบนี้กันทุกคัน ตลบไปทั้งเมือง โปรแกรมตอนเช้าคือ มาเล่นสกีที่สกีเซ็นเตอร์ เอ้อหลงซาน ซึ่งต้องนั่งรถออกจากตัวเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง ตอนที่แล้วเห็น "หมีพ่นควัน" กันไปแล้ว ตอนนี้มาดู "ขนตาน้ำแข็ง" กันอีกรูป ม้าที่เตรียมรอลากพวกเราไปท่ามกลางพื้นน้ำแข็งนี่ล่ะ มีให้เลือกทั้งรถม้า กับหมาลากเลื่อน แต่หมาลากเลื่อนแบบนี้นั่งได้แค่ 2 คน ไม่คุ้ม และเค้าก็ต้องมีคนมาจูงหมาอีกทีด้วยนะ พวกเราเลยเลือกใช้บริการม้าตัวโตแบบนี้ดีกว่า นั่งได้ 4 คน อบอุ่นดี จริงๆ แล้วบริเวณที่เรายืนอยู่ตรงนี้ หน้าร้อนคือทะเลสาปกว้างใหญ่นี่ล่ะ แต่พอฤดูหนาวกลายเป็นน้ำแข็ง นั่งโต้ลมกันไป สุดยอดความหนาวที่ไม่รู้จะบรรยายออกมายังไงเลย เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วยแอลกอฮอล์ที่พี่เต้ยเตรียมมาจากเมืองไทย แย่งมาจิบทีละกรึบ สรุปว่า ที่เตรียมมาไม่พอสำหรับทริปนี้ซะแล้ว เลยต้องซื้อเหล้าขาว 58 ดีกรีของเมืองจีนเพิ่ม ไม่รู้ที่หน้าแดงๆ นี่เป็นเพราะความหนาวเย็นของอากาศ หรือเป็นเพราะเหล้าที่ค่อยๆ ไหลลงสู่ลำไส้กันแน่ โดนบังคับให้กระโดดถ่ายรูปอีกแล้ว ตัวยิ่งหนักๆ กระโดดไม่ค่อยขึ้นอยู่ด้วย ถ่ายมากี่รูปๆ โดดเตี้ยกว่าคนอื่นเค้าเลย กิจกรรมที่นี่เราต้องจ่ายเงินเพิ่มเองทั้งหมด ไม่รวมอยู่ในโปรแกรม สโนว์สเลจนี่ก็เหมือนกัน เราต้องเดินขึ้นไปบนเขาเตี้ยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ไหลลงมาตามทางที่เค้าทำเอาไว้ จากนั้นก็จะเด้งขึ้นไปข้างบนอีกรอบ ก่อนที่จะไหลลงกลับมาสู่พื้นราบ อีกหนึ่งกิจกรรมที่พวกเราเลือกเล่นคือ สกี 2 ชั่วโมง 180 หยวน ถ้าต้องการครูฝึกอีกก็จ่ายเพิ่ม 180 หยวน/ คน ค่าครูฝึกแพงใช่เล่น เราไปเล่นกันเองก็ได้ แอบๆ ดูว่าคนอื่นเค้าเล่นกันยังไง แล้วก็จำมาใช้บ้าง ผลสรุปคือ ล้มลุกคลุกคลานกันไป กว่าจะพอเล่นได้ก็ตอนที่หมดเวลาแล้ว ไกด์ให้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง เพราะมีผู้ร่วมทริปคนอื่นๆ ที่เค้าไม่ได้เล่นรอพวกเราอยู่ เล่นกันพอหอมปากหอมคอ ทำให้หายหนาวไปได้บ้าง จากนั้นก็ขึ้นรถเตรียมตัวไปทานอาหารกลางวันกันต่อใกล้ๆ แถวนี้ล่ะ ตอนนี้มาฉายแค่ครึ่งวันแรกที่อยู่เมืองฮาร์บิ้นก่อนนะคะ ตอนต่อไปจะพาเที่ยวงานเทศกาลโคมไฟน้ำแข็งที่หนาวเหน็บ และเย็นยะเยือกค่ะ เสาร์-อาทิตย์นี้จะขึ้นไปดูคอนเสิร์ตนูโวที่เชียงใหม่ คงจะมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังกันต่อค่ะ แต่ไม่รู้เจ้าบ้านทั้ง 2 บ้านจะเบื่อเราหรือยังนะ ขึ้นเชียงใหม่บ๊อย..บ่อย...
Create Date : 25 มกราคม 2554 |
|
56 comments |
Last Update : 25 มกราคม 2554 14:03:40 น. |
Counter : 12619 Pageviews. |
|
|
|