งานยิ่งใหญ่ระดับโลก "World Expo 2010" Shanghai, China
ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอนแรกย้อนกลับมาอ่านได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ ประทับใจไทยแลนด์ "Thailand Pavilion @ World Expo 2010" (click!) เพราะคำว่า "ถ้าไม่เดือดร้อนเกินไปนัก น่าจะลองไปงาน World Expo ดูสักครั้งนะ" จำไม่ได้ว่าจากคุณพิสิทธิ์ หรือคุณวิษณุจากรายการข่าวเที่ยงคืนของทางช่อง 7 จึงทำให้ได้มาเยือนถิ่นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อีกครั้งจนได้ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- World Expo เป็นงานแสดงนิทรรศการขนาดใหญ่ของโลก โดยสำนักงานมหกรรมโลก (BIE) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้และวิทยาการแขนงต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากการจัดงานแสดงสินค้าทั่วไป จัดขึ้นครั้งแรกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 1/5/1851 และครั้งล่าสุดที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 1/5 - 31/10/2010 ครั้งนี้ไม่ได้เข้า China Pavilion เลย เพราะยอดคนจองเต็มไปจนถึงวันจบงานแล้ว แต่ไม่ต้องเสียดายไป เพราะของประเทศจีนเค้าไม่รื้อทิ้ง ยังสามารถไปเที่ยวชมในวันหลังได้ ตัวนำโชคสีฟ้าสดใสตัวนี้ชื่อ "海宝" (Hai Bao ไหเป่า) แปลว่า ขุมทรัพย์แห่งท้องทะเล มาจาก "人" หมายถึง คน แสดงถึงจิตวิญญาณของมนุษยชาติที่ต้องพึ่งพากัน ผม มีลักษณะคล้ายคลื่นในทะเล แสดงถึงที่มาของชีวิตและความเป็นเมืองเซี่ยงไฮ้ ใบหน้า แบบการ์ตูนที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรและความมั่นใจ ตา กลมโตสดใส แสดงถึงความมุ่งหวัง สีฟ้า สีแห่งความโอบอ้อมอารีและจินตนาการ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนที่กำลังมุ่งก้าวสู่อนาคตที่สดใส รูปร่าง ที่น่ารักน่าชังบ่งบอกถึงความสุขแห่งชีวิตเป็นสุขที่ดี กำปั้น โชว์นิ้วหัวแม่มือยกย่องและต้อนรับผู้คนจากทั่วโลก เท้า เปี่ยมด้วยพลัง ประเทศจีนสามารถจัดงานมหกรรมโลกเป็นผลสำเร็จทำให้ผู้คนจากทั่วโลกประทับใจ งานจัดขึ้นบริเวณสองฝั่งแม่น้ำหวงผู่เจียง ระหว่างสะพานหนานผู่ และสะพานหลูผู่ ก่อนการจัดงานครั้งนี้ ประเทศจีนได้รื้อถอนอาคาร และสิ่งก่อสร้างไปจำนวนมาก เพื่อทำเป็นพื้นที่จัดงาน World Expo นี้ขึ้นมา ประเทศจีนต้องการให้โลกได้บันทึกไว้ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีจำนวนประเทศเข้าร่วมมากที่สุด และจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุด คาดว่าสามารถดึงดูดคนเข้าร่วมงานนี้ได้ประมาณ 70 ล้านคน ณ วันนี้ (28/6/10, 21:00 น.) ซึ่งเปิดงานมาแล้ว 59 วัน มียอดผู้เข้าชมงานแล้วถึง 20,249,640 คน กฏเหล็กข้อหนึ่งของการเข้างาน World Expo คือ "ห้ามนำของเหลวทุกชนิดเข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดงาน" เค้ากลัวว่าจะมีการนำของเหลวแต่ละชนิดเข้ามาผสมทำเป็นระเบิดในงาน มีซุ้มน้ำดื่มให้บริการเป็นระยะๆ จะกดน้ำใส่ขวดก็ได้ไม่มีปัญหา แต่รสชาติแปลกๆ นิดนึงนะ หรือจะซื้อน้ำจากในงานก็ได้ ราคาไม่แพงมากมาย พอจะซื้อกินกันได้ อีกภาพหนึ่งที่เห็นชินตาคือ มีการพกเก้าอี้นั่งแบบพับได้ติดตัวมาด้วย เพราะระยะเวลารอเข้าแต่ละ pavilion นานมาก เอาเก้าอี้มานั่งซะเลย แต่ไม่ต้องเอามาจากบ้านก็ได้ บริเวณหน้างานจะมีคนมายืนขายกันเพียบ หรือบางจุดก็จะมีแจก บางคนอาจจะกลัวเรื่องการเข้าห้องน้ำ แต่วันนั้นเข้าไป 2 รอบไม่มีปัญหาอะไรมากวนใจเลย ไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ต้องทนดมกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย เพราะที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติ พอลุกขึ้นปุ๊บ น้ำก็จะไหลออกมาทันที ไม่ต้องเสียเวลากดน้ำ หรือราดน้ำกัน มีแผนที่ใหญ่โตตามจุดต่างๆ มองหาได้อย่างชัดเจน หรือถ้าหาไม่เจอถามน้องๆ นักเรียน นักศึกษาก็ได้ เค้าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยอธิบาย และบอกทางให้ แต่ไม่แน่ใจนะว่าพูดภาษาอังกฤษได้ระดับไหน พอดีวันนั้นคุยกันเป็นภาษาจีน เลยหมดห่วง ไม่ต้องกลัวหลง ภาพผู้คนเข้าแถวรอเข้าแต่ละ Pavilion แบบนี้ สามารถมองเห็นได้ทุกๆ ที่ เค้าจะมีประกาศออกมาอยู่เรื่อยๆ ว่า ตอนนี้ Pavilion ไหนบ้างที่คนเยอะ เข้าแถวกันมาแล้วกี่ชั่วโมง อย่างน้อยๆ ก็ 2 ชั่วโมง อย่างมากๆ ก็ 4-5 ชั่วโมงขึ้นไป แถวนี้กำลังรอเข้าของประเทศออสเตรเลีย เกรงว่าถ้ามัวแต่ไปเข้าแถวกับพวกเค้าอยู่ วันนึงคงไปไหนได้ไม่ไกลแน่ๆ เลยตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ว่า ถ่ายแต่รูปภายนอกแล้วกัน ถ้าอันไหนพอเข้าได้ถึงค่อยเข้า เค้าบอกว่า ถ้าวันนึงใครเข้าได้ถึง 5 Pavilion ถือว่าเก่งมาก...... สรุปว่าวันนั้นเข้าไปได้แค่ 2 Pavilion หลักๆ เท่านั้นเอง คือ ประเทศไทย และประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ยังเข้าประเทศอื่นๆ อีกนิดหน่อย อย่าง Uganda, Tanzania, Ethiopia, Namibia ประมาณนี้ล่ะ กิจกรรมยอดฮิตของนักเข้าชมงานคือ ตามล่าตราประทับของแต่ละประเทศ ซึ่งเค้าจะมี Expo 2010 Passport ขายด้วย บางที่จะมีวางเอาไว้ให้เราประทับเอาเอง บางที่เจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ จะเป็นคนประทับให้ อยากเห็นภาพมุมสูง ก็เลยเลือกขึ้นมาชมวิวบน Netherlands Pavilion เข้าแถวประมาณเกือบๆ 1 ชั่วโมง เค้าบอกว่าคันนี้เป็นรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ เห็นคนเยอะๆ แบบนี้ไม่ต้องกลัวเหยียบกันนะ เพราะพื้นที่จัดงานเค้ากว้างขวาง มีทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน ถ้าเดินกันไม่ไหว ก็มีรถบัสให้บริการฟรี และรถกอล์ฟที่ต้องเสียตังค์ ลืมบอกไปว่า ประเทศไทยของเราจัดอยู่ที่โซนบี ใกล้ๆ กับออสเตรเลียนั่นล่ะ งานนี้นอกจากการจัดนิทรรศการแล้ว ยังมีการแสดงต่างๆ อีกด้วย สาวๆ กลุ่มนี้คงกำลังเตรียมตัวไปเดินขบวนอยู่แน่ๆ เลย เห็นใส่ชุดแบบนี้กันมาเป็นกลุ่มๆ ตามประเทศเล็กๆ ที่จัดเป็นซุ้ม เค้าจะเอาสินค้าพื้นเมืองมาวางขาย บางประเทศมีคนท้องถิ่นที่พูดภาษาจีนได้มาคอยอธิบายอยู่ พูดได้แบบชัดเจนมาก ถ้าไม่มองหน้าไม่รู้เลยว่าไม่ใช่คนจีน อีกหนึ่ง Pavilion ที่มีคนเข้าแถวแบบยาวนานมาก... New Zealand Pavilion เห็นเค้าประกาศว่า ต้องเข้าแถวอย่างน้อยๆ 4 ชั่วโมง ในช่วงที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ เพราะที่นี่เค้ามีให้นั่งกระเช้าขึ้นไปชมบรรยากาศข้างบนด้วย และกระเช้าก็เลื่อนช้ามากๆ... คนเลยเยอะ เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน เอาภาพมาให้ชมแบบพอหอมปากหอมคอแค่นี้แล้วกันนะ งานนี้ยังจัดอีกหลายวัน ถ้าใครอยากไปสัมผัสสักครั้งหนึ่ง ยังพอมีเวลาค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าคนจะเยอะ เพราะยังไงคนก็ต้องเยอะแน่นอนอยู่แล้ว วันนั้น (12/6/10) มีผู้เข้าชมงานทั้งหมด 424,600 คน และตั้งแต่ 1/5 - 28/6 คนเยอะสุดในวันที่ 26/6 จำนวน 553,500 คน คาดว่าหลังจากนี้ต้องมีคนเข้าชมงานเยอะกว่านี้แน่นอน....
Create Date : 28 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 22:37:05 น. |
|
52 comments
|
Counter : 3536 Pageviews. |
|
|