ความทรมานคือพ่อที่เลี้ยงฉันมาเองตลอด เราสนิทกันมาก และพ่อก็จากไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 13 วันหลังจากที่ล้มป่วยกะทันหัน ทุกอย่างจบลง ฉันเดินต่อมากับแม่ น้องชาย และเด็กๆอีกสามคน
ปีนี้ ตุลาคมอีกแล้ว ผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง ที่เป็นคนที่ฉันตัดสินใจว่า "เอาล่ะวะ...ถ้าคราวนี้เจอะเจอคนดีที่ไม่ใช่ของเรา ก็ปิดฉากแมร่งซะเลย"
นาทีที่ตำรวจโทรฯมา ถามว่า "ภรรยาท่าน....รึเปล่าครับ" นาทีนั้นอกอวบๆของฉันสั่นขึ้นมาแปลกๆ มันไม่ใช่เสียงที่ดีเลย และฉันก็ไม่อยากฟัง และเมื่อทางตำรวจบอกว่า สามีของฉัน คนที่ไม่เคยทำให้ฉันต้องน้อยใจเลยแม้สักครั้งเดียวจริงๆประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ คำว่าหน้ามืด(แบบไม่ต้องตั้งครรภ์) มันก็เกิดขึ้นอีกหน
เป็นความเศร้าที่ฉันไม่สามารถไปดูแลพี่ชายได้ทัน พี่ชายเกิดอุบัติเหตุไกลกว่าที่ฉันจะไปถึงในทันทีทันใด และต้องผ่าตัด ที่สำคัญคืองานและครอบครัวที่ฉันทิ้งไปไม่ได้ ความทรมานเกิดขึ้นในทันที!
ฉันเลือกที่จะเดินหน้าประชุมต่อไป ณ เวลาที่หมอบอกว่า จะต้องผ่าตัด ฉันกัดฟันอดทน และมอบให้คนที่มีอำนาจเซ็นต์ชื่อแทนได้จัดการต่อไป เพราะฉันไม่สามารถผ่าตัดพี่ชายได้ ฉันต้องทำงาน ต้องยิ้มและตั้งสมาธิฟังรายงานทุกอย่างตามที่เป็นไป
นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันรู้จากข้อความของเพื่อนสนิทที่บอกว่า หมอพาพี่ชายเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว เหมือนมีก้อนอะไรก็ไม่รู้ติดอยู่ที่ลำคอ เหมือนมีแมงหวี่แมงวันมาตอมข้างๆหูตลอด ส่งเสียงงุ้งงิ้งๆ ฟังไม่รุ้เรื่อง ฉันกัดฟันจนฟันแทบคลอน พยายามสะบัดทุกอย่างออกไปจากความรู้สึกให้หมด แล้วท่องไว้
"ทำงานไปชษา เราอาจจะต้องใช้เงินมากกว่าที่คิด หนี้เราก็ต้องใช้ แบงค์ไม่ฟังหรอกว่าเราเจอวิกฤติอะไร และทุกคนก็มีวิกฤติของตัวเอง"
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเก่งอะไรนักหนา ฉันนั่งทำงานอย่างน้ำตาคลอๆ ไม่มีใครรู้ว่าฉันกำลังเจออะไร ยังยิ้มได้(แบบแกนๆ) ยังพยายามทานข้าวให้ได้(เพราะกรูต้องทานยา) และยังตอบคำถามได้ครบถ้วน สุดท้ายก็ทำงานไปจนเสร็จ
จนในที่สุด เมื่อการทำงานจบลงไม่นานนักฉันก็ได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทว่า "พี่ชายปลอดภัยแล้ว" อยากบอกว่า "กรูไม่เคยเหนื่อยแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แม่งงงงงลุ้นกว่าหวย ลุ้นกว่าบอลโลกที่แทงไว้ ลุ้นกว่าตอนเอ็นสะท้านเข้ามหา'ลัย เสียอีก" และมันก็ผ่านไปได้
ฉันเขียนบล็อคนี้หลังบล็อคอื่นๆ เหตุการณ์นี้ได้ผ่านไปร่วมสิบชั่วโมงแล้ว ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ราคายางไม่ได้ขยับขึ้นอะไรมากมาย ฉันไม่ได้ค่าชดเชยไร่ละพันกว่าบาทแบบที่รัฐบาลว่าอยู่ตอนนี้ (กรูไม่ได้ไปลงทะเบียนเกษตรกรเพราะฉะนั้นกรูไม่โอดครวญแน่ๆอย่าได้ห่วง) แต่ที่แน่ๆฉันเพิ่งไปดูพี่ชายมา เขายังหลับสนิท อาการแทรกซ้อนตอนนี้ไม่มี... และหวังว่าจะไม่มี
ตอนนี้ฉันยังไม่ร้องไห้ มีแต่น้ำตาคลอๆเท่านั้น ฉันไม่กล้าที่จะปล่อยน้ำตาไหลออกมาเพราะกลัวหน้าเยิน แต่ถ้ามันจะร่วง ฉันก็หวังว่ามันจะร่วงตอนที่เขามีแรงเพียงพอที่จะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาให้ฉัน (โห...แม่งงงงละครได้อีกนะกรู)...
ขอบพระคุณพื้นที่ดีๆที่ให้ได้ระบายค่ะ ...
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมจ้ะ
บล้อกทรงผมนั่นพี่ออนสนุกๆน่ะง
ไม่ได้ตั้งเป็นหน้าหลัก
ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาเล่นบล็อกเหมือนเดิมจ้ะ