จํ่วหัวอย่างนี้..."ไม่ได้"กำลังบอกว่าเราเป็นมะเร็งสักหน่อยนะคะ
รู้สึกละอายใจจริงๆที่ไม่ได้อัพบล็อกเสียนาน แถมบางเรื่องก้อนานเสียจนมันเก่าไปเสียแล้ว...ไม่อินเทรน แต่เราก้อแอบย่องๆไปเม้นให้เพื่อนๆอยู่นะ..บางทีก้อไปแอบดูแล้ววิ่งหนีมาเลย ไม่ได้เม้น
ฮ่าๆ เอานะ..ให้อภัยเอมหวานน้อยๆ ที่ กำลังปั่นๆ งานที่รัดติ้วๆ เพื่อ ไปรับปริญญาเดือนหน้า วันสงกรานต์..ค่าเที่ยวเทอมนี้ต้องอดออมอย่างมาก ...จริงๆอยากเล่าเรื่อง"ของเรา" มากกว่านี้ (เรื่องทำวีซ่าสองอาทิตย์ไวโอลีน,งานแต่งงานเพื่อน,ธุรกิจใหม่,บวชชีพราหมณ์) แต่เรื่อง"ของเขา" ก็คือ..เรื่องที่จะมาเล่าในวันนี้ เป็นเรื่องที่น่า เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวเหลือเกิน..คือ มะเร็ง
ตอนเด็กๆ จำได้ว่าอาม่า(ยาย)ป่วย ต้องมีถุงอะไรออกมาข้างนอก กินข้าวทางสายยาง..รู้แค่ว่า"กลัว"อาม่าที่มีถุงอันนั้นด้วย
ป.๒ ก็ได้ใส่ชุดขาวไปงานศพอาม่า..รู้แค่ว่า มัจจุราชลงชื่อว่า"มะเร็งลำไส้" พอโตขึ้นมาหน่อย สักป.๖ ก็เตรียมสอบเข้าม.๑ อากง(ตา) ก็ไปตรวจเจอเนื้อร้าย วิ่งหายาจีน คีโม และยาสมุนไพร สี่เดือนตอนเตรียมสอบที่เราไปเดินสวนลุมกับอากง เราเห็นอากงแก่และเหนื่อยง่ายมาก ชนิดที่ว่าสองเดือนเดือนละสิบปีเลย เพราะผมขาว ร่วง ผอม กินอะไรไม่ค่อยลง และผลข้างเคียงอื่นๆจากการทำคีโม เป็นสี่เดือนสุดท้ายท่ีเราได้เห็นน้องชาย ทำหน้าที่หลานคนหนึ่ง คือ บวชเณรให้อากง ตอนที่อากงเอาผ้าเหลืองอากงให้ก็น้ำตาไหลด้วย
คิดว่าเป็นปิตินะ..อนุโมทนากับน้องชาย มัจจุราชท่านนี้มาเร็วกว่าอาม่า เพราะ เป็นเวลาแค่สี่เดือนที่อากงจะอยู่กับพวกเรา มัจจุราช ทิ้งหลักฐานไว้ชื่อ "มะเร็งกระเพาะอาหาร"
ตอนนั้น..คุณหมอบอกว่า ทายาททุกคนที่อายุเกิน ๑ ปี ล้วนได้รับมรดกท่่ีีชื่อ..มะเร็ง..ครบทุกคน
อะไรกัน-++- ตอนนั้นเกลียด คุณมะเร็งมากเพราะทำให้คนที่เรารักสองคนตาย แต่ปี ๔๐ อากง(ปู่) ปกติไปวิ่งวันละ ๑๐ กิโลเมตรทุกวัน ตื่นเช้า ไม่สูบบุหรี่ กินเหล้าตามสังคม แต่ไม่ได้กินเป็นปกติ คือเรียกว่า ไม่มีความเสี่ยงที่ทำให้"เข้าข่าย"มรดกมะเร็งนี้เลย สองปี..ที่อากงต่อสู้กับคีโมเป็นสิบๆรอบ จากชายชราที่แข็งแรง ขนาดมีกล้ามน่อง ยกของสบายๆ กลายเป็นคนผอม และดูแก่กว่าอายุจริงมาก เริ่มเดินไม่ถนัด เริ่มเดินไม่ได้ เริ่มต้องนั่งรถเข็น เริ่มนั่งไม่ได้ จนสุดท้าย ต้องนอนอย่างเดียว อากงเองก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสักเท่าไหร่หรอก..เราว่า เพราะอากงยังไม่ได้ยิ้มและดุด่าเราเท่าไหร่เลย สองปีที่อากงสู้อย่างนักสู้สุดชีวิต..เจ้ามัจจุราช"มะเร็งลำไส้" เจ้าของเดียวกับมะเร็งของอาม่า ก็มารัับอากงชนิดที่ไม่มีใครตั้งตัวทัน
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เรื่อง"ของเรา" ก็กลายเป็นเรือ่ง "ของพวกเรา" เพราะ ถ้ามีกีฬาชักเย่อ ระหว่างชีวิต กับ มะเร็ง ที่ผู้โชคดีและครอบครัว ต้องช่วยกันดึง และยื้อกับมัจจุราช ถึงจะรู้ว่าโอกาสชนะจะน้อย เหมือนโนบิตะ ชักเย่อกับไจแอนท์ ::::::::::::::::::::::::::::::::::
ยิ่งเช้านี้ เราไปวัดมา..ก็อิ่มบุญดีนะคะ เอาบุญมาฝากๆค่ะ อนุโมทนา
ก้อมาเจอข่าวร้ายหน้าอีเมลล์ว่า เพื่อนรักขอองเรา แม่เค้า มะเร็งลามจากตับอ่อนท่ีเพ่ิงตัดทิ้ง มาตับ และคราวนี้โอกาสอยู่ต่อเหลือแค่ 6-24 เดือน เค้าบอกว่า..วันแม่ปีนี้เค้าไปซื้อการ์ดด้วยความรู้สึกที่เศร้าที่สุด
ปกติ ถ้าเพื่อนเปนคนไทย เราจะส่งซีดีหรือหนังสือธรรมะไปให้ แต่งวดนี้เพื่อนรักเป็นคนต่างชาตินี่สิ แถมไม่ใช่ชาวพุทธอีก
โจทย์ยาก แต่ก็ยังไม่ไม่เลิกความพยายาม..เจอจนได้
ใครที่มีเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นชาวต่างชาติ และเจ็บป่วย โดยเฉพาะมะเร้็งและคีโม ขอนำเสนอ หนังสือชื่อ วิปัสสนานุบาล ภาคภาษาอังกฤษ //www.dungtrin.com/vipassana/EngMain.htm
อันนี้เรื่อง การทำบุญให้แม่ที่กำลังป่วยอยู่ //www.kanlayanatam.com/english/file/Dhamma_Questions_and_Answers/Entries/2010/2/6_Merit_that_can_help_my_mother.html และสุดท้าย เรื่องธรรมชาติบำบัดมะเร็งที่วัดคำประมง ที่เราเคยเขียนบล็อกไว้ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chaaimwan&month=11-2009&date=26&group=18&gblog=18 หรือจะตามไปที่วัดออนไลน์ที่:: //www.khampramong.org/ English version:: //www.khampramong.org/khampramong_eng.html
เฮ้อ..เศร้า เพราะไม่รู้จะถึงคิวเราเมื่อไหร่ แต่มองในแง่ดี
เราเริ่มเปลี่ยนจาก "เกลียด" เป็น "เข้าใจ" กันบ้างละนะ
ข้อดีของการเปนมะเร็ง ๑.รู้วันตายคร่าวๆ..อันนี้ไม่ได้แช่ง แต่เป็นยาทำใจชั้นดีเลย เผลอๆ ทำให้เราดูแลตััวเองและสุดท้ายก็หายขาดไปเลย ๒.รู้จักร่างกายเรามากขึ้น ๓.รู้ว่า มีคนรักและหวังดีกับเรามากแค่ไหน ููู๔.รู้ว่า ความทรมาน เจ็บปวด ที่สุดเป็นอย่างไร และจะได้ไม่ไปยืดติดในความไม่เที่ยง ๕ ได้เตรียมตัว เหมือนเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว(เหมือนชื่อหนังสืออาจารย์ดังตฤณอีกเล่ม) ยามต้องเดินทางไกล
และถ้าเราเป็นญาติหรือคนรู้จัก การได้ดูแลคนเป็นมะเร็ง ก้จะทำให้เราได้รู้จักดูแลตัวเองไปด้วย และอีกอย่างหนึ่ง เราก็จะได้ทำหน้าที่..ที่พึงทำ กับผู้มีพระคุณของเรา
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: แต่เป็นเราก็คงยังทำใจไม่ได้อยู่ดี หึหึ ได้แต่สวดมนต์ แผ่เมตตาให้แม่เพื่อนรักคนนี้หาย ไวไว และชักเย่อชนะมะเร็งร้ายให้จงได้...
ขอบคุณกรอบจากคุณกุ้งที่น่ารักค่ะ Kungguenter //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kungguenter&month=02-2009&date=26&group=23&gblog=111
|
มะเร็งเป็นมัจจุราชยอดฮิตสำหรับคนไทยจริงๆ