BlogGang.com : : Deeproast : เขาค้อ รำลึก

เขาค้อ รำลึก

   สวัสดีครับทุกคนครับ วันนี้ตั้งใจจะ Up blog เรื่องที่ได้ไปเที่ยวรำลึกถึงความหลัง รำลึกอย่างไรอ่านให้จบนะครับ

   ทริปนี้ไปเที่ยว อ. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 4วัน 3คืน เป็นทริปที่สนุกมากทริปหนึ่งเลยทีเดียว เที่ยวแบบไม่ได้จองที่พักคำไหนนอนนั่นมีรถมีเต้นท์คนอีก 3 คน และเสบียงอาหาร พอเริ่มจะค่ำก็เข้าไปหาที่พักกางเต้นท์ทำกับข้าวกินกัน รู้สึกอิสระดี

   วันแรกของการเดินทางหลังออกจากรุงเทพช่วงสายๆเริ่มขึ้นเขาค้อช่วง 2 โมงเย็นกว่าๆ สักช่วงกลางทางมีฝนตกหนักปานกลาง พอให้ชุ่มฉ่ำกันเล็กน้อยครับ แถมยังมีรถติดบนเขาอีก เรื่องรถติดน่าจะเป็นธรรมดาของเทศกาลปีใหม่ของทุกปีที่นี่ แต่บนทางที่ชันบางช่วง รถติดอย่างนี้ทำให้รถบางคันถึงกับเสียจังหวะเดือดร้อนถึงรถคันหลังๆ ก็มีให้เห็นอยู่ พอขับไปถึงสี่แยกรื่นฤดีก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปหาที่พักเจอ บ้านไพรชมพู โดยบังเอิญครับเจ้าของต้อนรับเป็นอย่างดี คืนนั้นเรากางเต้นท์นอนและทำกับข้าวกินกันเอง มีนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆอากาศบนเขาค้อปีนี้ไม่ถึงกับหนาวมากครับ

ทะเลหมอกยามเช้าเห็นแล้วสดชื่น

บริเวณกางเต้นท์

ช่วงเช้าอากาศเย็นกำลังดีเห็นทะเลหมอกชัดเจน เห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขาข้างหน้า แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านทะเลหมอกเบื้องหน้าสวยจริงๆ ครับ

ตอนเช้าของวันที่สอง หลังจากเก็บของจากบ้านพัก ก็ขับรถออกมาที่แยกรื่นฤดี แวะร้านเขาค้อกาแฟสด

ร้านเขาค้อกาแฟสด

ภายในร้าน

เป็นร้านที่มีบริเวณกว้างขวาง น่านั่ง เหมาะแก่การถ่ายรูปดีครับ กาแฟ หอม รสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมดี มีกาแฟคั่วเป็นเมล็ดขายด้วยถุงละ 150 บาท (250กรัม) บริเวณสี่แยกรื่นฤดีมีร้านค้าอยู่หลายร้านทีเดียวมีร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งปลูกกาแฟ และคั่วเองมาประมาณ 15 ปี ตามคำบอกเล่าของเจ้าของร้าน ชื่อร้านกาแฟสดเขาค้อ (ชื่อคล้ายกันแต่อยู่คนละมุมสี่แยกนะ) ก่อนออกจากร้านผมขอซื้อสารกาแฟเพื่อมาลองคั่วชิมดูได้ผลเป็นอย่างไรไว้จะเอาลง Blog ในโอกาสต่อไปครับ ออกจากร้านกาแฟมุ่งหน้าสู่สถานีเกษตรที่สูงเขาค้อ ผ่านพระตำหนักเขาค้อ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปกางเต้นท์ที่นี่ และขึ้นไปดูไร่กาแฟที่นั่น แต่เปลี่ยนใจทีหลังครับ เลยดูแค่ไร่กาแฟและคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องกาแฟซึ่งคอยให้ความรู้และส่งเสริมการปลูกกาแฟให้กับเกษตรกรที่สนใจครับทำให้ได้รู้ถึงปัญหาของเกษตรกรที่นี่

แปลงปลูกกาแฟ ภายใต้ต้นไม้ใหญ่

เมล็ดกาแฟที่สุกแล้ว

พื้นที่ในส่วนรับผิดชอบของการส่งเสริมการปลูกกาแฟไม่ได้แค่ที่เขาค้อนะครับ อำเภอน้ำหนาวก็เป็นอีกที่ๆอยู่ในเขตการส่งเสริมของศูนย์นี้ จึงเป็นเหตุให้คืนนี้เราต้องไปนอนค้างกันที่น้ำหนาว ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่

น้ำตกศรีดิษฐ์

เครื่องชงกาแฟภูมิปัญญาชาวบ้านถ่ายที่ร้านในน้ำตกศรีดิษฐ์

ออกจากเกษตรที่สูง ก็ขับไปแวะเที่ยวไปเรื่อยครับ แวะน้ำตกศรีดิษฐ์ ออกจากศรีดิษฐ์ ก็แวะไร่ บี เอ็น ซึ่งเป็นสถานที่ทีเคยประทับใจในสมัยมาเที่ยวครั้งเรียน ปวช. ได้เห็นไร่ที่ปลูกไม้ผลไม้ดอก ได้เห็นผลผลิตต่างๆที่ได้จากไร่ ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของการทำเกษตรอย่างหนึ่งนะเป็นความชอบส่วนตัว

แปลงผักภายในไร่ บี เอ็น

หลังจากออกจากไร่ตั้งใจว่าจะแวะดื่มกาแฟที่ Coffee hill แต่ร้านปิดด้วยเหตุจำเป็นบางประการเลยได้แค่เข้าไปถ่ายภาพ ระหว่างเส้น พิษณุโลก-หล่มสัก ข้างทางมีร้านค้าของชาวบ้านขายผักผลไม้อยู่หลายจุดเลยจอดแวะซื้อเอาไว้ทำกับข้าวครับ

จุดขายสินค้าของชาวบ้าน

   จุดหมายปลายทางของคืนนี้คืออำเภอน้ำหนาวตามที่กล่าว ตั้งใจว่าจะไปแวะไร่กาแฟแถวนั้น เผื่อจะได้กาแฟรสชาติดีแหล่งใหม่ๆมาลิ้มลองครับ กว่าจะไปถึงอำเภอก็คำมืด คืนนั้นเราพักกันที่ ครัวศิลติ้งครับ เห็นชื่อไม่ใช่ร้านอาหารอย่างเดียวนะ มีที่กางเต้นท์ด้วย วิวโดยรอบถือว่าสวยงามทีเดียวครับ จะว่าไปแล้ว อำเภอน้ำหนาวเนี่ยดูมีความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มากทีเดียว

   วันที่สามของการเดินทาง ก่อนออกจาก ครัวศิลติ้ง ได้ซื้อสารกาแฟมาจำนวนหนึ่งไม่มากครับแค่อยากซื้อมาทดสอบรสชาติ แถบนั้นดู หลังจากนั้น ก็ขับแวะข้างทางไปเรื่อยครับ แวะถ้ำใหญ่น้ำหนาว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่น่าเที่ยวภายในแปลกดีครับได้เห็นหินงอกหินย้อยที่เพิ่งเริ่มก่อตัวใหม่ เจ้าหน้าที่ เล่าให้ฟังว่าเป็นถ้ำนี้ที่มีทางออกอีกด้านหนึ่งแต่ยังสำรวจไม่ถึง (เหตุที่บอกว่ามีทางออกอีกด้านหนึ่งนั้นเพราะนักธรณีวิทยามาสำรวจแล้วไม่มีก๊าซพิษภายในถ้ำ) แต่ล่าสุดมีผู้มาสำรวจชาวออสเตเรียรายงานว่ามีความลึกถึง 9 กิโลเมตร ซึ่งก็ยังไม่ถึงทางออกอีกด้านหนึ่งครับ หลังจากออกจากถ้ำคืนนี้ตั้งใจว่าจะขึ้นไปค้างบนภูทับเบิกกับเพื่อนทีเป็นคนท้องถิ่น แต่ต้องเปลี่ยนเป้าหมายเพราะเพื่อนติดภาระกิจด่วนครับเลยได้ไปกางเต้นที่เขาค้ออีกคืน ที่ สวนป่าหิมพานต์ ภายในบริเวณมีพื้นที่กว้างใหญ่มากแบ่งเป็นโซนต่างๆหลายโซนเข้าไปเสียค่าผ่านทาง 50 ต่อคน มีแผ่นพับบอกสถานที่เที่ยวภายในใครมีเวลามากหน่อยลองแวะขึ้นไปชมครับ น่าสนใจดีเหมือนกัน คืนนั้นบริเวณที่กางเต้นท์มีเต้นท์พวกผมอยู่เต้นท์เดียวรู้สึกเหงาไปอีกแบบคงป็นเพราะคนเริ่มทยอยกลับกันแล้ว พอถึงก็จัดแจงกางเต้นท์ทำอาหารกินกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นผักที่หาซื้อตามข้างทางที่ชาวบ้านนำมาขาย สดและอร่อยจริงๆครับสำหรับ ผัดผักเขาค้อมื้อนี้

   เช้าวันที่ 4 เป็นวันที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพในตอนบ่ายแล้วครับ รู้สึกไวจริงๆกับเวลา 3 คืน 4 วัน แต่ก็ทำให้พอได้ผ่อนคลายจากหน้าที่การงานไปได้บ้าง วันนี้หลังจากเที่ยวชมภายใน สวนป่าหิมพานต์ แล้ว ก็มุ่งหน้าไปทางพิษณุโลกเพื่อไปรำลึกความหลัง ที่เป็นจุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายกาแฟของผม นั้นก็คือร้านกาแฟสดจ่าทวีนั่นเองครับ ด้วยความคิดถึงความรู้สึกประทับใจเมื่อครั้งมาเที่ยวสมัยเรียน ปวช. ผมยอมขับรถไปกลับกว่า 100 ก.ม. เพื่อไปดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวจริงๆ ร้านปัจจุบัน ใหญ่กว่าร้านเดิมและถึงก่อนร้านเดิมเล็กน้อยมีป้ายใหญ่โตมองเห็นแต่ไกล

ป้ายหน้าร้าน

กล่องใส่กาแฟคั่ว มีให้เลือกหลายรส

เมนูกาแฟ

ป้ายในร้าน

นั่งอยู่สักพักก็เดินทางกลับ ระหว่างทางก็แวะไปเรื่อยครับ กว่าจะถึงกรุงเทพก็ ห้าทุ่ม รถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆเพราะรถเยอะมากๆซึ่งก็เป็นธรรมดาของเทศกาลปีใหม่ครับ
สรุปโดยรวมทริปนี้สนุกดีได้เที่ยวไปตามใจหลากหลายดี พยายามเล่าอย่างสรุปๆครับกลัวคนอ่านจะเบื่อซะก่อน