สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
=สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ^_^ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า=
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
24 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

'มุตตา' บนแผ่นฟิล์ม นาฏกรรมแห่งความไม่เดียงสา


หวนคืนสู่จอแก้วอีกครั้งสำหรับละครดังในอดีต อย่าง “แรงเงา”
ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ของเก่า” เอามาทำใหม่ ที่ได้อกได้ใจคอละครบ้านเราอย่างล้นหลามเช่นเดิม ขณะที่ตัวละครหลักของเรื่องอย่าง “มุตตา” นั้น พูดได้ว่า สร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมได้ดียิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพลักษณ์ในด้านความอ่อนหวานจนอ่อนแอ และแลดูไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์ของคน ไม่ได้ทำให้แค่พี่สาวของเธออย่างมุนินทร์เท่านั้นหรอกที่ไม่พอใจ แต่คนเชียร์อยู่หน้าจอก็อดไม่ได้ที่จะบดเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความหมั่นไส้แกมรำคาญตามไปด้วย ด้วยความรู้สึกว่า “มุตตาเอ๊ย ทำไมเอ็ง “อ๊อนนน...อ่อน” ได้ขนาดนั้น (ฟระ)?”
โดยพื้นฐาน ตัวตนของมุตตาที่เป็นเช่นนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งคือผลพวงแห่งการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง เธอถูกถนอมกล่อมเกลี้ยงราวกับไข่ในหิน ชนิดที่เกือบเรียกได้ว่า ถูกปิดหูปิดตาจากโลกภายนอก ดังนั้น เมื่อถึงวันที่ต้องเดินออกจากชายคาบ้าน ไปเผชิญโลก ผจญชีวิต ความคิดความอ่านที่ว่าจะ “ทันคน” นั้น จึงมีอยู่น้อยในตัวเธอ และหลายต่อหลายครั้ง ก็ทำให้เธอเพลี่ยงพล้ำตกเป็นเหยื่อของโลกและผู้คนอย่างเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่บทความที่จะมาวิเคราะห์ว่าเราจะจัดการกับมุตตาอย่างไรดี หากแต่จะบอกว่า หญิงสาวอย่าง “มุตตา” ไม่ได้มีแค่ใน “แรงเงา” หรือละครน้ำเน่าหลายต่อหลายเรื่องเท่านั้น หากแต่ในศิลปะแขนงที่เจ็ด อย่างภาพยนตร์ ก็มีคนอย่างมุตตาอยู่ด้วยเช่นกัน
1.Emmanuelle
สุดยอดความคลาสสิกของหนังอีโรติกในดวงใจหนุ่มๆ ที่ถ้าไม่เอ่ยถึง ย่อมถือเป็นความผิดบาปขั้นรุนแรง แม้ว่าล่าสุด นักแสดงสาวผู้เป็นตำนานซึ่งทำให้เอ็มมานูเอลกลายเป็นคัมภีร์แห่งสรวงสวรรค์ของหนุ่มๆ อย่าง “ซิลเวีย คริสเทล” จะเพิ่งเสียชีวิตไป แต่คุณูปการที่เธอได้สร้างไว้แก่วงการหนัง จะยังเป็นรอยจารึกที่วันเวลามิอาจลบเลือน คำถามก็คือ แล้วมันเกี่ยวกับมุตตาตรงไหน?

หนังเรื่องนี้ที่มีการสร้างติดต่อกันหลายภาค และหลากหลายเวอร์ชั่นจนงงไม่หมด หรือแม้กระทั่งสถานบำบัดความใคร่หลายแห่ง ยังหยิบยืมชื่อหนังเอาไปใช้ เพราะคำว่า “เอ็มมานูเอล” นั้น ท้ายที่สุด ก็เหมือนกับสัญลักษณ์แห่งความสุขสมทางกามารมณ์ เพราะเรื่องราวของมัน

หนังสร้างมาจากนิยายของนักเขียนอย่าง “เอ็มมานูเอล อาซอง” อันเป็นนามปากกาของ “มารยาท กระแสสินธุ์” ภรรยานักการทูตชาวฝรั่งเศส แน่นอนว่า นอกจากเนื้อหาด้านภาพที่เข้าขั้นติดเรทแบบถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณแล้ว ตัวเรื่องราวก็บอกเล่าถึงชีวิตของตัวละครหญิงสาวที่ดูอ่อนต่อโลกและมีความสงสัยใคร่รู้ว่าความรักคืออะไร เซ็กซ์คืออะไร เธอเก็บกดความรู้สึกนั้นไว้จนกระทั่งโอกาสเปิดทางให้ เธอก้าวสู่การผจญภัยทางกามารมณ์และความรักราวกับคนเก็บกดเป็นนักหนา ปล่อยตัวปล่อยใจให้ระเริงไปในรสรักอันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เจ็บปวด และบทเรียน

เอ็มมานูเอล บอกกับเราว่า การเก็บกดหรือกักกั้นมนุษย์มากๆ ไม่ว่าจะกักกั้นตัวเองหรือโดนคนอื่นคุมขัง ผลลัพธ์ของมันก็ดูเหมือนจะไม่ดีเอาซะเลย
2.The Story of O
มันมีเส้นแบ่งที่บางมากสำหรับผลงานเรื่องนี้ที่ยืนอยู่คาบเกี่ยวแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ระหว่างความเป็นศิลปะกับลามกอนาจาร (เช่นเดียวกับหนังที่เกิดในยุคเดียวกันอีกเรื่องอย่าง The Image) อย่างไรก็ตาม เพราะพฤติกรรมของหญิงสาวที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาใจชายคนรักจนตัวเองแทบจะไม่ต่างอะไรกับ “ทาส” ก็ชวนให้นึกว่า เธอก็เหมือนภาพสะท้อนบางมุมของหญิงสาวอย่าง “มุตตา” ซึ่ง “อะไรก็ยอม” และรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลลวงของเพศชายเอาซะเลย

และที่เลวร้ายไปกว่านั้น หญิงสาวในหนังซึ่งสร้างมาจากนิยายอีโรติกระดับคลาสสิกขึ้นหิ้งเรื่องนี้ ได้พาตัวเองถลำลึกลงไปในความสัมพันธ์อันสุดแสนประหลาดพิสดารโดยมีเนื้อหนังมังสาเป็นเดิมพัน และที่สำคัญ นอกจากมันจะข้องเกี่ยวกับลัทธิบ้าๆ อะไรสักลัทธิแล้ว มันยังมีมุมแห่งการยากจะยอมรับได้ด้วย เมื่อมันไปพัวพันกับเรื่องของความซาดิสต์และมาโซคิสต์
3.The Lover
ในแก่นแท้ของหนังเรื่องนี้ที่สร้างมาจากนวนิยายของนักเขียนชาวฝรั่งเศสอย่าง Marguerite Duras อาจจะพูดประเด็นที่ซีเรียสหลายอย่างหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแตกต่างทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมอันเป็นดั่งกำแพงหัวใจให้หนุ่มสาวหนึ่งคู่มิอาจสมปรารถนาในรักได้ อย่างไรก็ตาม ในบางมุมนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันมีความเป็น “มุตตา” แห่ง “แรงเงา” แฝงซ่อนอยู่

ตัวเรื่องนั้นย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1929 ณ เมืองไซง่อน ประเทศเวียดนามสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส หนุ่มสาวต่างสัญชาติสองคนได้พบกันบนเรือข้ามฟากแม่น้ำโขง และตกหลุมเสน่หาในกันและกันจนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งอายุมากกว่าหญิงสาวถึง 17 ปี ต้องการที่จะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนเป็นคู่รัก แต่สำหรับหญิงสาวที่น่าจะกล่าวว่าเป็น “เด็กสาว” กำลังเติบโตมากกว่า เพราะอายุเพียง 15 ขวบ และด้วยความไร้เดียงสา เธอกลับปรารถนาเพียงความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก รวมกระทั่งเงินทองของฝ่ายชาย และกว่าเธอจะเข้าใจในความหมายของความรักและชีวิต ก็ดูเหมือนว่าจะต้องผ่านพบบาดแผลความเจ็บปวดนานัปการที่เธอเองไม่เคยคาดมาก่อน
4.The Virgin Suicide
ถ้าจะกล่าวว่า นี่คือ “มุตตาบนแผ่นฟิล์ม” อย่างแท้จริงก็คงไม่น่าจะผิดเท่าไรนัก เพราะการฟูมฟักเลี้ยงดูของผู้ปกครองในหนังเรื่องนี้นั้น แทบจะไม่ต่างอะไรกันเลยกับบุพการีของมุตตาแห่งแรงเงา เพราะเลี้ยงลูกสาวอย่างดิบดีราวกับไข่ในหิน ริ้นไม่ให้ไต่ ผู้ชายไม่ให้ตอม

ผู้กำกับที่เคยทำหนังเหงาๆ อย่าง Lost in Translation มาก่อนหน้านี้อย่างโซเฟีย คอปโปล่า หยิบเอานิยายสุดปวดร้าวเรื่องนี้มาขึ้นจอเงิน เป็นเรื่องราวของ 5 สาววัยรุ่นครอบครัวเดียวกัน แต่ละคนมีอายุไล่กันมาตั้งแต่ 13 14 15 16 17 เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นด้วยการที่น้องคนเล็กพยายามทดลองลองฆ่าตัวตาย ก่อนจะทำได้สำเร็จ และกลายเป็นเรื่องที่ทั้งสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ตลอดจนเพื่อนบ้าน ครู นักเรียน ต่างให้ความสนใจใคร่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในบ้านหลังนั้น

แน่นอนว่า ถึงแม้เราจะมิอาจกล่าวโทษในความเคร่งครัดอย่างโหดกับการเลี้ยงดูลูกๆ ของพ่อแม่ แต่นั่นก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ว่า การเลี้ยงดูของพ่อแม่ (ในหนัง) คือพลังเชื้อเพลิงตัวสำคัญที่ผลักดันให้ชีวิตของเด็กสาวก้าวเข้าสู่โศกนาฏกรรมอย่างไม่น่าจะเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อลูกสาวคนหนึ่งไปงานปาร์ตี้แล้วดันไปมีเซ็กซ์กับไอ้หนุ่มคนหนึ่งจนกลับบ้านไม่ทันเวลาที่พ่อแม่กำหนด ก็คล้ายมีระเบิดลูกใหญ่บอมบ์ลงตรงกลางบ้าน เหล่า“มุตตาทั้งสี่” ยิ่งต้องตกอยู่ภายใต้กฎระเบียบอันเคร่งครัดของพ่อแม่จนมิอาจกระดิกแม้เพียงกระเบียดนิ้ว และดูเหมือนว่า ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าความสลดหู่กำลังทอดเงาคืบคลานปกคลุมบ้านหลังนี้อยู่เงียบๆ
5.An Education
จัดว่าเป็นหนังที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง อันว่าด้วยความใฝ่ฝันกับการพลิกผันของชีวิตที่จำต้องเลือก เด็กสาวมัธยมหน้าตาดีแถมเป็นเด็กเรียนเก่งคนหนึ่งฝันว่าจะต้องสอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่อ๊อกฟอร์ดให้ได้ แต่แล้วในเย็นวันฝนพรำวันหนึ่ง เธอก็ได้พบกับหนุ่มสูงวัยมากมายด้วยเสน่ห์และช่างเอาอกเอาใจ เด็กสาวรู้สึกหวั่นไหวไปกับความอ่อนหวานของชายคนนั้น และที่สำคัญ มันทำให้เธอรู้สึกว่า โลกที่เคยน่าเบื่อ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน กลายเป็นมีสีสันชีวิตชีวาขึ้นมา เธอตื่นเต้นกับช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับชายคนนั้น

อย่างไรก็ตาม คืนวันอันหอมหวาน ยังซ่อนอีกด้านที่น่าหวั่นใจ จากเด็กสาวหน้าห้องเกรดดี เธอปล่อยตัวปล่อยใจหลงใหลไปกับโลกที่เปี่ยมสีสัน ก่อนจะได้รับการ Education โดยโลกนอกรั้วการศึกษา และมันคือ “บทเรียน” ที่น่าศึกษาเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับเด็กสาวทั่วไปได้อย่างดี
                       ที่มา: //www.manager.co.th     24 ตุลาคม 2555







 

Create Date : 24 ตุลาคม 2555
1 comments
Last Update : 24 ตุลาคม 2555 11:31:19 น.
Counter : 2026 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ
เป็นเพื่อนคนแรกหรือคะ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก
มีความสุขในทุกๆวันนะคะ

 

โดย: pantawan 24 ตุลาคม 2555 22:21:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


bestyx
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]





เป็นคนเรียบง่าย สบาย ๆ ..คิดอะไรได้ช้า.. คิดไม่ค่อยทันคนอื่น...เขียนอะไรไม่ค่อยเป็น... เลยต้องหาสิ่งที่คนอื่นคิด สิ่งที่คนอื่นเขียน มาเก็บรวบรวมไว้อ่าน เพื่อให้ตนเองได้ฉลาดขึ้น เป็นคนที่ไม่ชื่นชอบหรือหลงใหลสิ่งใดเป็นพิเศษ ..แต่ก็ค้นหาหาไปเรื่อยๆ.. จนกว่าได้จะพบเจอ....แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งค้นหาก็ .."ยิ่งยาก".. ที่จะพบ เพราะโลกกว้างใหญ่เกินไปที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะเรียนรู้ได้หมด

Friends' blogs
[Add bestyx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.