"เศรษฐกิจพอเพียงก็เลี้ยงตัวได้"
|
|||
เครื่องปรับอากาศ สิ่งที่บางคนขาดไม่ได้ สาวน้อยหน้าตาน่ารักส่งยิ้มหวานให้ผมและโบกมือทักทาย ผมรีบส่งยิ้มตอบ หัวใจพองโตคับอก เดินปรี่เข้าไปหา แต่เธอกลับเดินถอยหลังหนีผม ผมรุกตามไปอย่างไม่ลดละแล้วส่งเสียงเรียก "เฮ้ย.." ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเอง แต่ได้ยินเสียงเพื่อนเรียกแทน พร้อมกับร่างกายที่ถูกเขย่าอย่างแรง "อะไรวะบาส ฝันกลางวันรึนี่" เพื่อนดึงผมของผมขึ้นมาจนใบหน้าผมเงยขึ้นจากโต๊ะ "หมดชั่วโมงแล้ว หลับเป็นตายเลยแก ฝันเห็นใครวะ วิลลิส แคริเออร์หรือเปล่า" ผมมองหน้าเพื่อนอย่างงง ๆ ใจกระหวัดนึกถึงสาวน้อยหน้าแฉล้มในฝัน หน้าเหมือนใครนะ นึกไม่ออก "ต้องขอบคุณวิลลิส แคริออร์ให้มาก ๆ นะโว้ยที่เขามีคุณูปการต่อแกว่ะบาส" เพื่อนพูดต่อ "ถ้าไม่มีเขา เราว่าแกตายเป็นกล้วยย่างนานแล้ว" ผมก็ยังงงที่เพื่อนมันบอก ตาคนนี้มาเกี่ยวข้องอะไรกับผมด้วย ไม่เข้าใจเลย เพื่อนคงเห็นนัยน์ตาสงสัยของผมจึงเฉลยว่า "จำไม่ได้หรือไงวะบาสที่อาจารย์บอกเราน่ะ มิสเตอร์วิลลิส แคริเออร์แกเป็นคนคิดประดิษฐ์เครื่องปรับอากาศ ที่ทำให้แกนอนหลับฝันหวานในห้องเลคเชอร์อย่างสุขารมณ์นี่ไง" ผมถึงบางอ้อตอนนี้เอง เจ้าเพื่อนคนนี้มันเรียนเก่งที่สุด มันจึงมีความจำแม่นยำกว่าผม แต่พอเพื่อนสะกิด สมองความจำของผมก็โลดแล่นทันที ในอดีตเมื่อปี ค.ศ. 1907 นักฟิสิกส์ชื่อ สจวต ดับบลิว แครมเมอร์ ได้ทำการควบคุมปริมาณความชื้นในสิ่งทอโดยการเพิ่มไอน้ำจำนวนหนึ่งเข้าไปในบรรยากาศ เขาเรียกกระบวนการทำงานนี้ว่า "การปรับอากาศ" แล้วเขาเสนอรายงานนี้ต่อสมาคมผู้ผลิตผ้าฝ้ายแห่งสหรัฐอเมริกา ต่อมาในราวปี ค.ศ. 1914 วิลลิส แคริเออร์ได้คิดสิ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อปรับอุณหภูมิที่ร้อนให้เย็นลง ทุกคนจึงเรียกสิ่งประดิษฐ์นี้ว่า เครื่องปรับอากาศ แคริเออร์มีพื้นเพเป็นเด็กบ้านนอกที่เกิดในรัฐนิวยอร์ก เขาเรียนดีจนสามารถสอบชิงทุนได้ไปศึกษาต่อในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล ที่นี่เขาสนใจในเรื่องระบบถ่ายเทอากาศและการทำความร้อนเป็นอย่างมาก เมื่อเรียนจบในปี ค.ศ. 1901 เขาจึงคิดค้นและติดตั้งระบบทำความเย็นให้แก่โรงพิมพ์ในเมืองบรูกลิน ซึ่งทำให้เกิดผลดีต่อโรงพิมพ์อย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา กระดาษมักจะบวมเนื่องจากความชื้นในอากาศที่ไม่แน่นอน ขณะเดียวกันเขาก็คิดเครื่องทำความร้อนเพื่อขจัดความชื้นในอากาศไปด้วย เรียกว่าเครื่องประดิษฐ์ของเขาสามารถเร่งอุณหภูมิให้สูงขึ้น หรือปรับอุณหภูมิให้ลดต่ำลงได้ตามต้องการ เครื่องปรับอากาศของเขาได้รับความนิยมมาก จนในปี ค.ศ. 1919 ห้างสรรพสินค้าแอบบราฮัม & สเตราส์ ในนิวยอร์กจึงเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ทำให้ห้างขายสินค้าได้ดี เพราะคนชอบความเย็นฉ่ำ แล้วต่อมาในปี ค.ศ. 1925 โรงภาพยนตร์ริโวลี ในนิวยอร์กได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศบ้าง และโหมโฆษณาถึงความเย็นฉ่ำชื่นใจขณะชมภาพยนตร์ ทำให้คนแห่กันไปชมภาพยนตร์มากขึ้น จากนั้นเป็นต้นมาเครื่องปรับอากาศของวิลลิส แคริเออร์ก็ได้รับการกล่าวขานและเผยแพร่ไปทั่วโลกจนกลายเป็นอุปกรณ์ประจำสำนักงานที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสถาบันของผม "ไปกินข้าวได้แล้วว่ะ เที่ยงกว่าแล้ว ไอ้พวกนั้นรอแกอยู่ข้างนอก" เพื่อนชวนผม ผมจึงใช้มือเสยผมอย่างลวก ๆ พอให้ดูดี แล้วก็เดินตามเพื่อนออกจากห้องเพื่อไปสมทบกับเพื่อนอีก 3 คนที่รออยู่ ตอนบ่ายผมตั้งใจว่าจะนั่งหลังห้อง แล้วแอบฝันหวานถึงสาวน้อยคนนั้นต่อ ไม่รู้ว่าเธอจะมาเข้าฝันผมอีกหรือไม่ โอ๊ะ โอ มาคนแรกเลย ดีใจจัง
โดย: นายนพ (i_am_np ) วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:13:00:05 น.
แหม....มีแต่สาระ เขียนแนวสบายๆ ดีออก (ของพี่ เขียนแนวโหด 555) ดีเนาะมีอาจารย์ + เพื่อนดี ฮี่ๆๆ ได้รู้อะไรดีๆ เยอะเลย
โดย: Due_n วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:16:13:33 น.
การนอนหลับในห้องเรียนติดแอร์โดยที่ ไม่มีใครสนใจ...นับเป็นความสุข...
โดย: bite25 วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:17:14:32 น.
พี่เป็นคนชักจะติดใจความสบายซะแหล่ว ไม่มีแอร์ และไม่ได้ห่มผ้า แล้วนอนไม่หลับ
ขอบคุณมิสเตอร์วิลลิส แคริเออร์ โดย: yyswim วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:0:59:10 น.
(น้องบาสเช็คหลังไมค์ด้วยครับ) โดย: yyswim วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:1:39:48 น.
บาสคะ แล้วตกลงนึกออกรึยังว่า สาวน้อยหน้าแฉล้มในฝันน่ะ หน้าเหมือนใคร..
ปล. ที่ถามชื่อดอกไม้ เดี๋ยวธัญไปค้นก่อนแล้วจะมาบอกทีหลังนะคะ.. ไปละ.. โดย: Thanvarath วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:12:50:40 น.
โหถึงขนาดนึกไม่ออกเลยเนอะคนเราเนี่ย ขนาดห้องเรียนยังฝันเห็นสาวอีกแสดงว่าวิชาที่เรียนน่าสนใจจิงๆๆเนอะ
โดย: ต่าย (rak_naja ) วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:23:31:02 น.
ยี่ห้อแคเรียร์แน่เลย เพราะเท่าที่รู้ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อแรกของโลกเลยนะ
โดย: ต่อตระกูล วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:8:49:02 น.
ต้องขอขอบคุณ คุณวิลลิส แคริเออร์ เหมือนกันคะ
เพราะเราเป็นคนที่ได้แชมป์ว่าขี้เซาที่สุดในเอก....นั่งเรียนห้องแอร์ทีไรเป็นต้องหลับทุกทีไป ..ก็มันง่วงนิคะ.....ใช่ป่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับเกร็ดความรู้ โดย: *-*topiw*-* วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:11:09:59 น.
คนคิดค้นนี่ก็หล่อด้วยดิ ฮาๆๆ ขอบพระคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆนะคะ โดย: กวิสรา วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:12:07:28 น.
อืม ความรู้ดีๆคับ
เฮ้อ อย่างงี้แล้วเวลานั่งเรียนผมแอบนั่งหลับในห้องแอรืดีก่า สบายเป้นไหนๆ โดย: mingky วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:14:55:30 น.
ดีครับ ไม่ได้มาทักทานยนานแล้ว สบายดีมั้ย
พี่สบายดีครับ พี่เอารูปมาฝาก จากต่างเมืองที่ไปมา ว่างๆ เข้าไปดูได้นะ แล้วจะมาทักอีก จากนิวยอร์ก ครับ สมรัชนะ โดย: โอม เสิร์ฟสำราญ สวรรค์บนเรือ (sochana9 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:23:07:28 น.
เดี๋ยวนี้ห้องเรียนทั้งมัธยมและมหาวิทยาลัยติดแอร์กันหมดแล้ว
อากาศมันร้อนมากขึ้นทุกปี ถ้าไม่มีแอร์ คงเรียนกันไม่ไหวแน่เลย แต่สมัยผมคลาสไหนได้เรียนห้องแอร์นี่ก็หรูสุดๆแล้วนะ อ้าว เผลอบอกวัยไปโดยไม่รู้ตัวครับ แต่อากาศดีๆที่ไม่ต้องใช้แอร์มันก็ชื่นใจกว่านะคัรบ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนหน้าหนาว ชอบสุดๆเลยครับ โดย: wls (winter love song ) วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:11:24:22 น.
คนๆนี้ตอนนี้คงอยู่ในสรวงสวรรค์ที่อุณหภูมิเย็นสบายเพราะทำให้ชาวโลกมีแต่ความสุข ฮิๆๆๆ
โดย: นายเบียร์ วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:0:35:43 น.
ห้องสีชมพู แอร์เย็น ๆ โอม นอนเปิดแอร์ เย็นๆ แล้วนอนห่มผ้า ...
วันก่อนเพื่อนเล่าให้ฟังว่า คำถามจากเด็ก ... "พี่ๆ พี่หนาวแล้วทำไมพี่ถึงเปิดแอร์หละ ถ้าพี่หนาวทำไมไม่ปิดแอร์ " เออ ...ถูกของลูกของหลาน จริง ๆ ... ทำให้อึ้งทึ่งคิดตั้งนาน ...ว๊าวววว คิดได้ไงเนี่ย... คิดถึงน้องชายครับ พี่โอม สวัสดีจาก ทะเลแคริบเบี้ยน และนิวยอร์ก ครับ ชอบเข้ามาอ่านบล๊อก บ้านนี้ ภาพสวย เรื่องดี ผมเซฟ ไว้แล้วไปอ่านที่เรือประจำ .. ว่างๆ ฝากเข้าไปบ้านผม ด้วยละกัน เอาภาพจากทั่วโลกมาฝาก ครับ... และขออนุญาตฝากพ็อกเก็ตบุ๊คของผมเล่มสองด้วย เรื่อง โต้คลื่นเม้าท์ เล่า(เรือ)สำราญ เร็วๆ นี้ ทุกแผง... ยินดีที่ได้รู้จัก จากสมรัชนะ ณ ต่างแดน... โดย: โอม เสิร์ฟสำราญ สวรรค์บนเรือ (sochana9 ) วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:22:57:53 น.
ใช่ครับ
ผมรู้สึกว่าทุกวันนี้ เราติดแอร์กันหมดแล้ว เราประดิษฐ์มันเพื่อลดความร้อน แต่กลายเป็นว่า มันทำให้โลกร้อนขึ้น โดย: BaLL182 วันที่: 1 กันยายน 2549 เวลา:21:49:47 น.
มาเยี่ยมอีกแล้ว โฮะโฮะ นึกว่าจะว่างเขียนเรื่องใหม่เพิ่ม โดย: yyswim วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:22:10:13 น.
|
basbas
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] สนใจเรื่องทั่วไป ใจชอบเล่นกีฬา แต่เรียนไฟฟ้าครับ All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |