เครื่องพิมพ์ดีดกำลังจะหายไป


ความจริงผมไม่ใช่คนดีเท่าไรนัก เพราะไม่ค่อยช่วยพ่อกับแม่ทำงานเลย พูดไปก็เหมือนแก้ตัว คือผมเรียนหนักและเรียนยากมาก เพื่อนผมบางคนสู้ไม่ไหวก็ drop ไปบ้าง ลาออกไปเรียนรามบ้าง ผมยังสู้ทนอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน

หลังวันแม่ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ผมจึงอยากทำอะไรให้แม่ชื่นใจบ้าง เลยไปแย่งน้องสาวล้างจาน แต่แม่บอกว่าผมมือหนักเดี๋ยวจานแตกหมด ถ้าอยากช่วยแม่ก็ไปเก็บของที่รก ๆ ในห้องเก็บของให้ดูดีขึ้นจะดีกว่า

แล้วในห้องเก็บของ ผมพบเครื่องพิมพ์ดีดเก่ายี่ห้อเรมิงตัน ทั้งหนาและหนักเครื่องหนึ่ง เลยยกไปให้พ่อดู พ่อบอกว่าเป็นของเพื่อนพ่อที่นำมาฝากไว้ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด แล้วเพื่อนก็หายไป ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีที่ไหน

เครื่องพิมพ์ดีดนี้ยังดีอยู่ ผมเลยขอพ่อเอาไปดู เพราะปัจจุบันไม่ค่อยเห็นใครใช้เครื่องพิมพ์ดีดกันแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แต่คอมพิวเตอร์ อ้อ...ผมเคยเห็นที่หนึ่งที่ยังใช้เครื่องพิมพ์ดีดอยู่ คือที่โรงพัก หรือสถานีตำรวจ

ผมไม่รู้ว่าใครคิดเครื่องพิมพ์ดีดขึ้นมา รู้แต่ว่าเครื่องพิมพ์ดีดภาษาอังกฤษใช้แพร่หลายในสหรัฐอเมริกานานมาแล้ว ต่อมา Edwin Mcfarland ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้เห็นความสำคัญของเครื่องพิมพ์ดีด จึงคิดที่จะดัดแปลงให้เป็นเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทย เขาได้ตัดสินใจไปเรียนในแผนกทำเครื่องพิมพ์ของโรงงานสมิทพรีเมียร์ ที่สหรัฐอเมริกา แล้วเขาก็พยายามประดิษฐ์พยัญชนะไทยเพื่อจะบรรจุลงในแป้นพิมพ์ให้ได้

แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าภาษาไทยมีทั้งสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ รวมแล้วมากกว่าภาษาอังกฤษเป็นเท่าตัว จึงทำได้ยากมาก ดังนั้นเขาจึงต้องตัดพยัญชนะออกไป 2 ตัว คือ ฃ กับ ฅ เพื่อให้แป้นพิมพ์น้อยลง และเครื่องที่ผลิตขึ้นนี้ยังโบราณมากคือเป็นแบบใช้นิ้วจิ้มทีละตัว

ต่อมาเมื่อเขาพ้นจากหน้าที่เลขานุการส่วนพระองค์ จึงได้มอบกรรมสิทธิ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยแก่น้องชาย คือ George. B. Mcfarland ให้คิดแก้ไขปรับปรุงต่อไป

George. B. Mcfarland นี้ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระอาจวิทยาคม เขาได้สานต่องานของพี่ชายโดยสั่งให้บริษัทสมิทพรีเมียร์ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยมาจำหน่าย ในปี พ.ศ. 2440 ปรากฎว่าได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นจำนวนมาก

ในเวลาต่อมาเขาได้มอบลิขสิทธิ์การขายเครื่องพิมพ์ดีดนี้แก่บริษัทเรมิงตัน ซึ่งบริษัทเรมิงตันได้พัฒนาจากเครื่องพิมพ์ดีดแคร่ตายและพิมพ์สัมผัส 10 นิ้วไม่ได้ ให้สามารถยกแคร่ เลื่อนแคร่ได้ และสามารถพิมพ์ระบบสัมผัสได้ ซึ่งยุคแรก ๆ นี้เครื่องพิมพ์ดีดยี่ห้อเรมิงตันเฟื่องฟูมาก

ในปี พ.ศ. 2467 พระอาจวิทยาคม ได้ร่วมมือกับนายสวัสดิ์ มากประยูร ซึ่งเป็นวิศวกรออกแบบ และนายสุวรรณประเสริฐ เกษมณี ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายวิชาการ วิเคราะห์วิจัยหาพยัญชนะที่ใช้บ่อยที่สุดเพื่อนำมาใส่ในแป้นพิมพ์ดีด ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานง่ายขึ้น และกระทำได้เป็นผลสำเร็จในปี พ.ศ. 2474 เรียกว่าแบบ "เกษมณี" และใช้แบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ในเวลาต่อมามีคนวิจัยคิดค้นการวางตัวอักษรบนแป้นพิมพ์ที่ทำให้พิมพ์ง่าย สะดวก รวดเร็วขึ้นเรียกว่าแบบ "ปัตตะโชติ" แต่ไม่ได้รับความนิยม แบบปัตตะโชติจึงเลิกใช้ไป

ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ดีดจะวางตัวอักษรบนแป้นพิมพ์แบบเกษมณี แต่เครื่องพิมพ์ดีดก็กำลังจะถูกเครื่องคอมพิวเตอร์กลืนหายไปจากวงจรธุรกิจ เหมือนกับเครื่องรับสัญญาณแบบติดตามตัวที่ถูกโทรศัพท์มือถือกวาดจนตกขอบเวทีไปแล้วนั่นเอง

ผมจึงเอาเครื่องพิมพ์ดีดเรมิงตันของเพื่อนพ่อไปซ่อมจนใช้การได้ วันดีคืนว่างผมก็มาหัดพิมพ์กับน้องสาว โดยจิ้มดีดกันคนละมือ นับว่าเป็นกิจกรรมในครอบครัวอย่างหนึ่งที่ไม่เปลืองค่าไฟฟ้า แต่เปลืองผ้าพิมพ์ที่หาซื้อได้ยากเหลือเกินครับ



Create Date : 18 สิงหาคม 2549
Last Update : 18 สิงหาคม 2549 11:39:49 น.
Counter : 4296 Pageviews.

20 comments
  
เราก็เคยเรียนพิมพ์ดีดตอนม.ปลายค่ะ
โดย: immyjang วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:12:03:32 น.
  
เรื่องพิมพ์ดีด นำมาพูดเปรียบเทียบกับความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ดี

จากคัดและเขียนด้วยมือ มาเป็นพิมพ์ดีด มาเป็นพิมพ์ดีดพกพาใส่กระเป๋า มาเป็นพิมพ์ดีดไฟฟ้า มาเป็นคอมพิวเตอร์pc รุ่นwordต่ำๆ แล้วเปลี่ยนแปลงจนเป็นโน๊ตบุ๊คและพัฒนาซอร์ฟแวร์จนถึงถึงรุ่นxp แต่ยัง ..ยังจะต้องเปลี่ยนแปลงต่อไป
โดย: yyswim วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:14:28:13 น.
  

The machine illustrated, however, is a Remington Model 7, introduced in 1897. It is identical to the American Model 6, save for the extra keys needed for the Scandinavian and German letters Å, Ä, Ö and Ü. Production was discontinued in 1914.
Like its predecessors, it has an "understrike mechanism" which means that the first few lines of writing were hidden from sight. For immediate reference, it was equipped with a hinged carriage and lifting lever (see illustration below). It was not until the advent of the Model 10 in 1908 that Remington could offer a "visible writer."





มีรูปอีกครับกรุณาเช็คหลังไมค์

โดย: yyswim วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:15:53:27 น.
  

Remington Model 6




โดย: yyswim วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:15:56:51 น.
  
ไม่เคยใช้พิมพ์ดีดเลย
โดย: ดนย์ วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:23:22:04 น.
  
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปน่ะครับ...เด็กสมัยนี้จะรู้จักเครื่องพิมพ์ดีดรึเปล่าก้อไม่รู้
โดย: ตับแข็ง ทีม (ตับแข็ง TEAM ) วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:23:48:53 น.
  
ขอบคุณครับที่ทุกท่านเข้ามาเยี่ยมผม

ผมมีรูปเครื่องพิมพ์ดีดมาให้ดู

รูปทั้งหมดได้รับความอนุเคราะห์จากพี่สิน yyswim ขอบคุณครับ











โดย: basbas วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:13:34:05 น.
  
แล้วพี่สิน yyswim ก็หารูปมาให้ดูกันอีก น่าสนใจทั้งนั้นเลย ผมคิดว่าทุกท่านไม่เคยเห็นเหมือนผม เราคงเกิดไม่ทันนะครับ

ขอบคุณพี่สิน yyswim มากครับ

แต่นี่เป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่มีแป้นตัวอักษรไทย
(ไม่ทราบยี่ห้อ..นำภาพมาจากเว๊ปพันติ๊บ)





โดย: basbas วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:13:37:26 น.
  
เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า Brather พี่สิน yyswim นำมาฝากครับ คิดว่าบางท่านอาจเคยเห็น

โดย: basbas วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:13:38:50 น.
  
หา...มีคนกำลังจ้องขโมยเครื่องพิมพ์ดีดเหรอครับ... อ้อ เพราะตกรุ่นนี่เอง ไม่เที่ยงๆ

เหอๆ นึกถึงตอนหัดพิมพ์ดีด ผมเคยสงสัยว่า นายเกษมณี กับปัตตะโชตินี่เป็นใครก็เพิ่งจะได้คำตอบก็วันนี้อะครับ เอิ๊ก
โดย: bite25 วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:14:43:11 น.
  
ตอนอยู่ม.5 (2539) ได้เรียนวิชาพิมพ์ดีด
น่าเบื่อมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่ก็ถือว่าโชคดี เพราะทุกวันนี้ที่พิมพ์ได้คล่องแคล่ว ก็มาจากวิชานี้แหละ
โดย: นายกาเมศ (นายกาเมศ ) วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:21:05:57 น.
  
ตอนเรียนชอบพิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ

ตอนนี้ก็ยังชอบพิมพ์ถูก ๆ ผิด ๆ
โดย: Thanvarath วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:9:35:54 น.
  
ดีจังเลยได้รู้ที่มาของเครื่องพิมพ์ดีด ตอนมัธยมก็ได้เรียนเหมือนกัน แต่พิมพ์ไม่เคยคล่อง จนบัดนี้ก็ยังไม่คล่องเหมือนเดิม

ขอบคุณนะคะที่ไปให้กำลังใจเรื่องของแม่
โดย: ซออู้ วันที่: 21 สิงหาคม 2549 เวลา:12:33:12 น.
  
ตอนแรกเข้าใจว่า Add basbas ไว้แล้วนะนี่ พอจะหาไม่มี ก็เลยต้องมา add อย่าเพิ่งน้อยใจละกันนะคะ

(ยังเหมือนเดิมจ๊ะ)
โดย: Thanvarath วันที่: 21 สิงหาคม 2549 เวลา:13:24:13 น.
  
ขยันโพสดีเนอะ คนเราเนี่ย ช่วงนี้เรียนไม่หนักหรอ
โดย: ต่าย (rak_naja ) วันที่: 21 สิงหาคม 2549 เวลา:23:57:34 น.
  
จะหัดพิมพ์พิมพ์ดีดต้องเริ่มที่
ฟ ห ก ด ไม้เอก สระอา ส ว ค่ะ
อุอุ
โดย: immyjang วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:12:48:49 น.
  
ยังไม่เคยพิมพ์ดีดจริงๆ จังๆ เลยอ่ะ ขยันจริงๆ ทั้งหาข้อมูลและเขียนบทความ อย่ลืมเอาสาระดีๆ มาอีกนะ (อย่าลืมไปเรียกพี่ด้วย 55)
โดย: Due_n วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:17:44:40 น.
  
คุณบาสคะ

ธัญแวะมาชวนคุณบาสไปชมดอกไม้ค่ะ ไปเลยนะคะ

ดอกไม้...แสนรัก
โดย: Thanvarath วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:17:47:12 น.
  
โอ๊ะ โอ ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย
โดย: นายนพ (i_am_np ) วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:20:31:58 น.
  
ผมคงโชคดีที่สมัยเรียน ปวช ได้เรียนเจ้าพิมพ์ดีด

จำได้ว่าเวลาผิดที ลำบากมาก สมัยนี้มีคอม กด backspace ก็จบ
โดย: BaLL182 วันที่: 1 กันยายน 2549 เวลา:21:53:55 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

basbas
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สนใจเรื่องทั่วไป
ใจชอบเล่นกีฬา
แต่เรียนไฟฟ้าครับ
สิงหาคม 2549

 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
MY VIP Friend