"เศรษฐกิจพอเพียงก็เลี้ยงตัวได้"
|
|||
ใครเป็นเจ้าของรองเท้าสกอล์ล พ่อผมไม่ค่อยสบาย พอตอนเย็นที่ผมกลับจากเรียนจึงพาพ่อไปหาหมอที่คลินิกที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนัก พออกจากคลินิกผมก็โมโหสุดขีด เพราะปรากฎว่ารองเท้าแตะคู่เก่งของผมหาย เป็นรองเท้าสกอล์ลที่ผมชอบใส่นักหนา อุตส่าห์เก็บเงินวันละเล็กวันละน้อยเพื่อซื้อรองเท้าที่มียี่ห้อเอาไว้ใส่อวดเพื่อนอวดสาวบ้าง ที่ไหนได้ นักเลงมือดีฉกเอาไปเสียแล้ว ในที่สุดผมก็ต้องเดินเท้าเปล่ากลับบ้าน พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรผม บอกว่าเจ้าหัวขโมยมันคงอยากได้ของดีไปใส่บ้าง ถือว่าทำบุญก็แล้วกัน แต่น้องสาวผมซิกลับมาต่อว่าผมยังกับว่าผมทำรองเท้าของเธอหายยังงั้นแหละ ผมจึงต้องเล่าที่มาของรองเท้าสกอล์ลให้แม่ตัวดีฟังว่า รองเท้าสกอล์ลนี้ถือว่าเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นยี่ห้อแรกของโลกหรือไม่ แต่รู้ว่าคนที่คิดผลิตภัณฑ์นี้คือ วิลเลียม สกอล์ล ชาวอเมริกัน เขาเกิดในปี ค.ศ. 1882 แถบตะวันตกกลางของสหรัฐอเมริกา ครอบครัวของเขาเป็นเกษตรกร มีสมาชิกมากถึง 15 คน เขาจึงมีหน้าที่ซ่อมรองเท้าให้กับทุกคน โดยนำด้ายมาเคลือบขี้ผึ้งให้เหนียวทนทานก่อนจะนำไปเย็บรองเท้า วิลเลียม สกอล์ล เป็นคนมีฝีมือในการเย็บรองเท้ามาก พ่อแม่จึงส่งเขาไปเป็นลูกมือฝึกหัดกับช่างทำรองเท้าในตัวเมือง หลังจากนั้นเขาก็ไปหาประสบการณ์เกี่ยวกับการทำรองเท้าที่นครชิคาโก และที่นี่ทำให้เขาตระหนักถึงภัยร้ายแรงที่เกิดจากเท้า คือตุ่มหนังหนาแข็งบนนิ้วเท้า ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ที่เป็นโรคนี้อย่างยิ่ง แล้วสกอล์ลได้รับรู้ว่าคนทั่วไปไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อเท้าของตนเองมากนัก มักละเลยอวัยวะส่วนนี้ ด้วยความที่เป็นคนใฝรู้ใฝ่เรียน และต้องการเรียนรู้สรีระที่เกี่ยวกับเท้าของคน สกอล์ลจึงสมัครเรียนโรงเรียนแพทย์ภาคค่ำแห่งนครชิคาโก ส่วนกลางวันก็เป็นพนักงานขายรองเท้า แล้วเขาก็ศึกษาสำเร็จเป็นแพทย์เมื่ออายุได้ 22 ปี ในปี ค.ศ.1904 เมื่อเรียนจบแล้ว สกอล์ลจึงจดทะเบียนลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์เพื่อเท้าชนิดแรกคือแผ่นรองรับน้ำหนักบริเวณส่วนโค้งของอุ้งเท้า ชื่อ "ฟุต - อีสเตอร์" ปรากฎว่าแผ่นรองเท้านี้ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง เพราะช่วยรักษาสุขภาพของเท้าได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นเขาได้เปิดหลักสูตรการรักษาและป้องกันโรคเท้าขึ้น เป็นการศึกษาทางไปรษณีย์ ปรากฎว่าได้รับความสนใจมาก สกอล์ลได้ให้คำแนะนำว่าคนควรเดินวันละ 2 ไมล์ ในลักษณะศีรษะตรง อกเชิด นิ้วเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า และควรสวมรองเท้าวันละ 2 คู่ เพื่อให้รองเท้าแต่ละคู่แห้ง จะได้ปราศจากเชื้อโรค สกอล์ลมีคติประจำใจว่า "เข้านอนหัวค่ำ ตื่นแต่เช้า มุงานหนัก หมั่นโฆษณา" ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเท้าของเขาจึงได้รับความนิยมตลอดมา ในปี ค.ศ. 1916 สกอล์ลได้เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ในการประกวดเท้าซินเดอเรลลา เพื่อเสาะหาสตรีที่มีเท้ารูปร่างลักษณะสมบูรณ์ที่สุด มีผู้หญิงเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก และเขาได้นำเท้าของผู้ที่ชนะการประกวดเป็นแม่แบบในการผลิตรองเท้าสกอล์ลอันโด่งดัง ทำให้รองเท้าสกอล์ลมีชื่อติดตลาดไปทั่วโลกในเวลาต่อมา น้องสาวของผมฟังแล้วจึงยอมรับว่า ดร.สกอล์นี่เก่งเรื่องรองเท้าและเรื่องเท้าจริง ๆ ผมเลยหายหงุดหงิดได้บ้าง พอจะเดินเข้าห้อง น้องสาวเลยเรียกไว้ "อะไรอีกล่ะ ถ้าจะว่ากันละก็ ไปห่าง ๆ เลย" ผมส่งเสียงดัง เพราะอารมณ์เสียดายรองเท้ายังมีอยู่ "พี่บาสเสียดายรองเท้ามากแค่ไหน" น้องสาวถาม "มากซิ ถามได้" น้องสาวผมทำท่าทางอึดอัด ผมดุเข้าให้ เธอเลยบอกความจริงมาว่า "รองเท้าพี่บาสไม่ได้หายไปไหนหรอก ไบเอาไปให้เพื่อนยืมใส่" "อะไรนะ ยายไบ เอาไปให้เพื่อนยืมหรือ ทำได้ไง" ผมรู้สึกว่าเลือดขึ้นหน้า แต่พอเห็นหน้าน้องสาวเหมือนคนจะร้องไห้ มือที่จะเขกหัวแม่ตัวดีจึงลดลง น้องสาวผมบอกว่าเพื่อนไม่มีรองเท้าดี ๆ ใส่ เห็นว่าของผมสวยดี แล้วเท้าเท่า ๆ กัน เขาใส่ได้ เลยให้น้องสาวแอบไปหยิบมาเฉย ๆ จากหน้าคลินิก เพราะรู้ว่าถ้าขอยืมตรง ๆ ผมคงไม่ให้ ก็แน่ละซิ รองเท้าผมยังใหม่อยู่นี่นา "พรุ่งนี้คืนชัวร์" เธอรับปากเสียงหนักแน่น ผมไม่ค่อยเชื่อน้องสาวเท่าไรนัก เพราะที่รับปากนั้นต้องบวกเวลาขึ้นไปอีก 7 - 15 วันทุกครั้ง เอ ไม่รู้ว่าใส่รองเท้าเบอร์ไร อิอิ
เผื่อใส่เบอร์เดียวกันวันหลังยืมมั่ง คิคิคิ โดย: กวิสรา วันที่: 6 สิงหาคม 2549 เวลา:20:14:48 น.
ขอบคุณนะคะ
สำหรับประวัติความเป็นมา ของร้องเท้าสกอล์ล รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามคะ... ขอให้คะแนนออกมาดีๆ นะคะ จะคอยเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องแผลนะคะ ตอนนี้ใกล้จะหายดีแล้ว (หวิดเสียโฉม เลยเรา) โดย: *-*topiw*-* วันที่: 7 สิงหาคม 2549 เวลา:15:42:21 น.
ขอให้ได้รองเท้าคืนไวๆละกันครับ
รองเท้าสกอล ผมก็เคยมีคู่นึงตอนสมัยเรียนปีหนึ่ง อยู่ที่หอพัก เพื่อนยืมใส่กลับบ้าน เพราะรองเท้ามันขาด แล้วมันก็หายไปกับสายลม ห้องที่เฉพาะพนักงานไฟฟ้า ขอเข้าด้วยได้ป่ะคับ อิอิ... บังเอิญ พ่อทำงานการไฟฟ้า เป็นวิศวะไฟฟ้า ขอลูกพนักงานไฟฟ้าเข้าไปดูได้มั้ยคับ เหอๆๆๆๆ โดย: นายกาเมศ วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:21:10:20 น.
"เข้านอนหัวค่ำ ตื่นแต่เช้า มุงานหนัก หมั่นโฆษณา" ชอบครับแปลกดีตรงที่ว่าหมั่นโฆษณานี่ครับ
คุณบาสน้อยสาวคุณนี่ร้ายพอตัวนะครับ ให้คุณเดินเท้าเปล่ากลับมาได้ทำกันได้ลงคอ เอิ๊ก ผมพยายามโพสต์มาหลายครั้งแล้วแต่ระบบเน็ตของผมไม่ดีโพสต์ไม่ติดสักทีคราวนี้ไม่รู้จะติดป่าวเนี่ย โดย: bite25 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:18:28:48 น.
พี่ชาย กะน้องสาว คู่นี้เขาสนิทกัน น่ารักดี
แต่เอ น้องสาวเอาสกอล์ล คู่เก่ง ไปให้ใครยืม? ชักสงสัย ต้องสนิทกว่าพี่Bas ชัวร์ โฮะโฮะ โดย: yyswim วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:16:54:03 น.
รักในหลวงพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง
รักบ้านเมืองจงน้อมใจให้สร้างสรรค์ ใส่สีเดียวแล้วใจเดียวกลมเกลียวกัน รักเช่นนั้นชาติของตนจึงพ้นภัย ขอบคุณครับ โดย: ดนย์ วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:22:50:41 น.
เป็นเรื่องเป็นราวอีกตามเคย ได้ความรู้ ได้บรรยากาศดีครับ
ตอนนี้ใส่ยี่ห้อนี้อยู่เหมือนกัน คู่ที่สอง คู่นี้ 3 ปีแล้ว สภาพย่ำแย่เต็มที แต่ใส่สบายครับ โดย: ต่อตระกูล วันที่: 14 สิงหาคม 2549 เวลา:23:51:34 น.
แหม ช่างเป็นสัพภัญญูเหลือเกินนะคะ
ช่วงนี้เรียนหนักหรือคะ หายเงียบไปเลยอ่ะ โดย: Thanvarath วันที่: 15 สิงหาคม 2549 เวลา:16:17:56 น.
ไม่มีวันใดเศร้านัก
ความงาม ความรัก ความเหงา เป็นเพียงทางเดินที่เรา ก้าวเท้าเรียนรู้หัวใจ ----------------------- แวะมาทักทายจ้า ขอให้มีความสุขหลายๆๆเน้อเจ้า+ ป่านนี้ได้รองเท้าคืนแล้วมั้ง คิคิ โดย: กวิสรา วันที่: 15 สิงหาคม 2549 เวลา:23:20:36 น.
เข้ามาเยี่ยมด้วยคนคร้าบ (แม้จะนานๆ ทีก็เหอะ) ตอนนี้ก็ใส่อยุ่อ่ะ ยี่ห้อนี้ เอิ๊กๆ
โดย: Due_n วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:13:47:58 น.
|
basbas
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] สนใจเรื่องทั่วไป ใจชอบเล่นกีฬา แต่เรียนไฟฟ้าครับ All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอบคุณนะครับ อาหารอร่อยดีครับ