หนีสาดน้ำ ไปเดินชมคลื่น นอนอืดริมทะเล ตะเวนหาของกินที่ชะอำกันเถอะ : ภาค 2
อากาศตอนนี้ร้อนค่อดดดดดดดด...........................
ร้อนซะจนไม่อยากจะขยับตัวทำอะไรให้เหงื่อตกกีบเลยล่ะค่ะ เราโชคดีที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ แต่ก็โชคร้ายที่ห้องนอนเราไม่ได้ติดแอร์ เลยทำให้ต้องหอบสมบัติไปอาศัยนอนห้องคนโน้นคนนี้ที่เค้ามีแอร์ เฮ้ออออ.............. เอาไว้เด๋วติดแอร์ที่ห้องมั่งดีกว่าเนอะ
แต่พอมาดูบิลค่าไฟแล้วก็ต้อง เฮ้ออออออ...............อีกรอบ อาศัยนอนห้องชาวบ้านเค้านะดีแล้ว จะได้ไม่เปลืองไฟไปมากกว่านี้
แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่า ยังมีคนอีกตั้งเยอะแยะที่เค้าร้อนเหมือนเรา บางคนก็อาจจะร้อนกว่า แล้วก็อาจจะลำบากกว่าเราด้วยเนอะ เพราะงั้นทำใจร่ม ๆ เย็น ๆ แล้วก็ปะแป้งเย็น กับเปิดพัดลมเบอร์แรงสุด จากนั้นก็มาอัพบล๊อกแก้ร้อนดีกว่า อิอิ...
******************************
= 12 เมษายน 2555 : ตอนเย็น =
ต่อจากตอนที่แล้ว... หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ยกขบวนกันไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กับรีสอร์ทนี้ ชื่อร้าน ครัวเคียงคลื่น ร้านนี้บรรยากาศดีมากเพราะอยู่ติดกับชายทะเลเลยค่ะ ตอนที่ไปกินข้าวน้ำกำลังลง ทำให้ลงไปเดินเล่นที่ชายหาดได้ด้วย
พอไปถึงก็จัดการสั่ง ๆ ๆ รอซักพักอาหารก็มา จานแรกกับข้าวประจำทริป ปูม้านึ่ง ที่นี่แกะก้ามปูให้ด้วยค่ะ ถูกใจคนขี้เกียจแกะปูอย่างเรามากกก......
แต่พอสั่ง กุ้งอบเกลือ แทนที่จะได้กุ้งทะเลกลับได้กุ้งก้ามกรามมาแทนซะงั้น แต่ก็เอาเหอะ ไซส์ใหญ่ใช้ได้ แถมยังสดซะอีกด้วย เพราะงั้นพวกเราไม่เกี่ยงค่ะ
จานถัดมาเป็น ปลาแรดทอด กับ หมูแดดเดียว 2 จานนี้สั่งให้น้องปราณ เพราะเค้าแพ้อาหารทะเล น่าสงสารเนอะ แต่ไม่ยักกะแพ้น้ำทะเล เพราะเห็นเล่นมันได้ทั้งวันเลยยย......
จากนั้นก็เป็น ข้าวผัดปู หอยตลับผัดใบโหระพา ปลาหมึกน้ำดำ แล้วก็ ปูนิ่มทอดกระเทียม โห.......เห็นรูปแล้วน้ำลายย้อยเลย ขนาดเราโพสต์เองก็ยังย้อยเลยน่ะเนี่ย...
ส่วนพ่อเราเกิดอยากกินยำถั่วพลู ก็เลยได้ ยำถั่วพลูทะเล มาซะนี่ หน้าตาดูไม่ค่อยจะเหมือนกับที่เคยกิน แต่ก็รสจัดจ้าน อร่อยดีค่ะ
จานสุดท้าย แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว แต่ที่นี่เรียกว่า ไข่ปลาริวกิว ไข่เม็ดเป้งมาก แถมมีกระเพาะติดมาด้วย แต่ว่าจานนี้เราค่อนข้างผิดหวังอะค่ะ เพราะรสชาติไม่กลมกล่อม แถมยังคาวอีก น้องชายเรายังบ่นเลยว่าสงสัยแม่ครัวจะฝีมือตก หรือไม่ก็เปลี่ยนแม่ครัว เพราะเค้าเคยมากินที่นี่แล้วอร่อยกว่านี้เยอะเลย
มื้อนี้เบ็ดเสร็จจ่ายไปทั้งหมด 2000.- ถ้วน ๆ อิ่มสบายท้องกันเลยเชียว
เสร็จจากกินข้าวเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่ Santorini Park ซ้ำอีกรอบ เพราะไปตอนกลางวันแล้วเดินกันไม่ไหว แดดร้อนมาก ก็เลยขอมาเดินตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ ดีกว่าค่ะ ได้บรรยากาศสวย ๆ ไปอีกแบบนึง
คณะพรรคยิ้มร่า เพราะอากาศสบาย ๆ ไม่ต้องสู้กับแดดร้อนจนแทบละลาย
ชิงช้าสวรรค์ยามค่ำคืน ขึ้นไปแล้วตอนลงก็ลงมาทางนี้ได้ด้วย
เราได้ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ด้วยค่ะ เสียค่าบัตรคนละ 120 บาท นั่งไปประมาณ 4 รอบ เสียวดีเหมือนกัน เพราะตอนถ่ายรูปหมุนไปหมุนมาแล้วชิงช้ามันแกว่งอ่ะ
พอลงมาข้างล่างพวกเด็ก ๆ ก็มาเล่นขี่เจ้านี่กันค่ะ ค่าบัตร 120 บาท ขี่ได้ 40 นาที ก็เลยซื้อบัตร 1 ใบ แล้วให้ปริมกับปราณผลัดกันขี่คนละรอบ
ส่วนเราก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ที่นี่นอกจากจะมีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน แล้วก็ตุ๊กตาสัตว์ให้ขี่เล่นแล้ว ก็ยังมี ลูกบอลที่ให้คนเข้าไปวิ่งข้างในกับ ไอ้ลูกดึ๋ง ๆ ที่ให้คนเข้าไปนั่งแล้วก็ดีดให้เด้งขึ้นเด้งลงด้วย ค่าบัตรก็คนละ 120 บาท แต่ของพวกนี้เราไม่กล้าเล่นอ่ะค่ะ ใจมันป๊อด ป๊อดดด......
บรรยากาศของ Santorini ยามค่ำคืน
มีแม้กระทั่งห้องน้ำของหมา ๆ ด้วย
แวะกินไอติมซะหน่อย ร้านนี้จะถูกกว่าร้านที่เรากินตอนกลางวัน แต่เป็นไอติมคนละแบบกัน เรากินไอติมช็อคโกแล็ตกับชาไทย รสชาติเจ้มจ้นมั่ก ๆ
ร้านไอติมที่เรากินตอนกลางวัน ร้านเสื้อยืดน่ารัก ๆ และทางเข้าของ Santorini ยามค่ำคืน
จบทริปวันแรกอย่างเหน็ดเหนื่อย สนุก อิ่มและมีความสุข ส่วนวันพรุ่งนี้พวกเราก็วางแผนกันว่าจะไปเที่ยวหัวหินค่ะ จะอิ่มอร่อย และสนุกกันขนาดไหนก็ขอได้โปรดรอตอนต่อไปนะคะ
วาฬใหญ่ขอลาไปนอนแว้วววว.............
Create Date : 29 เมษายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 30 เมษายน 2555 0:21:19 น. |
Counter : 3054 Pageviews. |
|
|
|
ตามมาเที่ยวต่อ
ค่าบัตรรู้สึกว่าตั้งราคาเหมือนกันหมด คือ 120 บาทเน้อ