๑๓ - My Preciose Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋ ; ปราปต์ - โชคร้ายที่แสนมีค่า -


M y P r e c i o u s B a d  L u c

ด ว งแ บ บ นี้ ไ ม่ มี จู๋

นวนิยายโดย :ปราปต์

สำนักพิมพ์ : พิมพ์คำ

พิมพ์ครั้งที่๑ : กันยายน ๒๕๖๐

ราคา : ๓๔๐ บาท

จำนวนหน้า : ๔๘๐ หน้า


รายละเอียด

น้องกี้เป็นสตรีสุดสตรอว์พึ่งพระทุกสำนัก เจ้าทุกศาสนา

และบ้าหมอดูประหนึ่งติดกัญชา เพื่อช่วยให้ชีวาดีเฟ่อ

ถึงเข้างานสาย ชิ่งลาบ่าย อ้างเหตุสารพัด

เพื่อดอดไปเข้าวัด อัปชะตาให้ดีขึ้น

แต่เธอก็ไฟต์ชนะหัวหน้างานทุกแมตช์เพราะเส้นสายแฟนหนุ่ม

เมื่อสัมพันธ์ส่อสัญญาณว่าจะถูกเท สาวแอ๊บจึงร้อนใจ

ต้องกัดฟันดึงอีตาโชคบดี กิ๊กเก่ามาช่วยปัดรังควานตามคำแนะนำของพ่อหมอ

ที่บอกว่าเขาเป็น ‘ทูตสวรรค์’ สำหรับน้องกี้!

..

ทุกอย่างคงไปได้สวย ถ้ากิ๊กเก่าจะยังสิวเขรอะ ไม่ใช่หล่อระเบิดระเบ้อเหมือนอย่างตอนนี้

แถมยังฉุดให้เธอตาสว่างว่ากำลังอยู่กลางโลกเน่าๆไม่ใช่สรวงสวรรค์อย่างที่เธอเคยเข้าใจ

..

ปฏิบัติการใหญ่จึงอุบัติ คือ หางานใหม่ ล่าไลก์ และได้แฟนเลอเลิศ

ภารกิจนี้ ต่อให้เจ้าสำนักไหน แก้บนยังไง แอ๊บสนั่นเท่าไร

น้องกี้ก็ไม่มีเกี่ยง!

บันทึกหลังอ่าน

ปราปต์คือนักเขียนเจ้าของสมญา “แดน บราวน์แห่งสยามประเทศ” ด้วยผลงานนวนิยายสืบสวนสอบสวนสมัยสงครามโลกครั้งที่สองอย่าง “กาหลมหรทึก” ที่โด่งดังและดีเยี่ยมถึงขั้นเข้ารอบซีไรต์ นำมาซึ่งผลงานตามมาอย่าง นิราศมหรรณพ ห่มแดน ฯลฯ

ซึ่งทั้งสามเรื่องที่เราพูดมาต่างเป็นแนวลึกลับ สืบสวนสอบสวน ในฐานะคนที่ตามงานของเขามาตลอด เราเชื่อว่านักอ่านคนอื่นๆ คงรู้สึกเหมือนเราว่านิยายสืบสวนคือสไตล์ คือลายเซ็นของปราปต์

แต่แท้จริงแล้วเขาเคยเขียนนิยายรักมาก่อนที่จะเขียนสืบสวนนะ และ “My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” ผลงานเล่มใหม่ของปราปต์ก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ให้คนอ่านรู้ได้ชัดเจนว่า นิยายรัก คอเมดี้ ฮากระจาย ปราปต์ก็ “เอาอยู่”

“My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” คือนิยายที่เราอ่านจบอย่างรวดเร็ว ความสนุก ความทึ่ง หลายสิ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดการอ่าน ทำให้เราบอกกับตัวเองว่าจะต้องรีวิวเรื่องนี้ให้ได้!

สิ่งแรกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ในนิยายของปราปต์คือสำนวนภาษา ผู้เขียนมีสำนวนภาษาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชนิดที่ว่าไม่เปิดนามปากกาก็รู้ว่าปราปต์เขียน มีการหยิบนำสารพัดคำมาร้อยเรียงให้คล้องจองในประโยค เป็นเสน่ห์ของเขาที่เราอดทึ่งไม่ได้ สังเกตง่ายๆ ก็จากคำโปรยปกหลัง

“น้องกี้เป็นสตรีสุดสตรอว์พึ่งพระทุกสำนัก เจ้าทุกศาสนา

และบ้าหมอดูประหนึ่งติดกัญชา เพื่อช่วยให้ชีวาดีเฟ่อ

ถึงเข้างานสาย ชิ่งลาบ่าย อ้างเหตุสารพัด

เพื่อดอดไปเข้าวัด อัปชะตาให้ดีขึ้น

แต่เธอก็ไฟต์ชนะหัวหน้างานทุกแมตช์เพราะเส้นสายแฟนหนุ่ม”

ปกหลังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ในนิยายเราพูดเลยว่าสำนวน “สวิงสวาย” มาก ลูกเล่นในสำนวนของผู้เขียนทำให้เราอดที่จะทำอมยิ้มหรือขำก๊ากไม่ได้พี่จะเอาฮาไปถึงหนาย แต่ก็เป็นเสมือนดาบสองคม เพราะเรารู้สึกว่าในช่วงแรกต้องปรับตัวและตั้งสติพอสมควรกว่าที่จะอ่านได้ไหลลื่น ช่วงแรกการดำเนินเรื่องไม่เร็วมาก ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ผู้เขียนค่อยๆ ทำให้เรารู้จักนางเอกและค่อยๆ คุ้นชินกับสำนวน ซึ่งถ้าผ่านช่วงแรกไปได้สำหรับเราคือสนุกจนติดลม

“My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” คือนิยายตลก ! แค่ได้ยินชื่อเรื่อง เราก็รู้สึกทึ่งและขำกับหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว ความคอเมดี้นอกเหนือจากสำนวนยังรวมถึงมุกตลกที่ผู้เขียนสอดแทรกไว้ตลอดทั้งเรื่อง

หลายมุกที่ทำให้เราฮา ขำ บางทีก็ขำในความกล้าของผู้เขียน กล้าที่จะเล่นมุก…แบบนี้ก็ได้เหรอ ยกตัวอย่างที่พอจำได้นะ

“สัก เต็ง รัง นี่พี่จะมาไม้ไหน”

“…ยิ่งกว่าซีพี ยิ่งกว่าโฟร์ซีซัน เพราะใส่ไข่ใส่สีเก่งกว่าใคร…”

มากกว่ามุกตลก ความฮาในเรื่องนี้ยังเกิดจากบุคลิก คาแรคเตอร์ของนางเอกอย่าง “นางสาวลัคนา สำลี” หรือ “น้องกี้” ผู้หญิงที่เอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัว เจ้าแผนการ มั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองสวย คิดว่าตัวเองเก่ง (แอ๊บ)ทำตัวดี พูดจาอ่อนหวานกับทุกคน ยึดถือดวงชะตาเป็นสรณะ นอกจากทำให้เราขำแล้ว ยังทำให้เราคิดว่าคนแบบนี้มันต้องโตมาแบบไหนกันนะ!

เอาเป็นว่าทั้งสำนวน ทั้งบทสนทนา ทั้งคาแรคเตอร์นางเอก ใครอ่านแล้วไม่ขำ (สักนิด) ก็ให้มันรู้ไป

“My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” คือนิยายรัก ! เพราะปราปต์สร้างตัวละครที่ผิดปกติอย่างน้องกี้ที่เป็นนางเอกของเรื่อง โลกในนิยายเรื่องนี้จึงสมดุลขึ้นเพราะมีตัวละครที่สุดแสนจะปกติ ดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปมากที่สุดในเรื่องอย่าง “โชคบดี” พระเอกของเรานั่นเอง

จากกิ๊กเก่าแก่เรียนสิวเขรอะของน้องกี้ สู่ผู้ชายหล่อล่ำมาดแมนแอนด์แฮนด์ซั่ม

จากไอ้โชคบ่ดี สู่คุณโชคบดีที่พ่อหมอทำนายว่าคือ “ทูตสวรรค์” ของน้องกี้

ถ้าตามอ่านตั้งแต่ต้น เหมือนว่าคนที่หวั่นไหวก่อนจะเป็นน้องกี้ ที่แสดงอาการชัดเจนว่ามีใจให้คุณโชค ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย จะบอกว่าคุณโชคคือทูตสวรรค์ของน้องกี้ก็ได้ เพราะเขาเป็นเหมือนเทวดาที่คอยนำทางให้น้องกี้ จากที่มืดมนอนธการ ค่อยๆ ที่แสงไฟริบหรี่ จนในที่สุดก็ถึงทางสว่าง

“เธอไม่ต้องทำเพื่อให้ใครมารัก เพราะเธอมีดีมากพอ มากพอที่ควรจะเชื่อในตัวเอง”

“ไม่มีอะไรอันตรายเท่าเธอแล้วละ”

ความช่วยเหลือที่มาพร้อมกับความปากร้าย วาจาเหน็บแนม (แต่คนอ่านอย่างเราช้อบชอบ) ซึ่งเราก็รู้สึกเหมือนน้องกี้ว่าถึงเขาจะปากร้าย แต่สิ่งที่คุณโชคทำ สิ่งที่คุณโชคให้กับน้องกี้ มันเป็นสิ่งที่น้องกี้ไม่เคยได้รับ ไม่เคยสัมผัสได้จากใครมาก่อน แม้กระทั่งคนในครอบครัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้องกี้จะหลงรักผู้ชายคนนี้

ที่ชวนให้คนอ่านอย่างเราหาคำตอบ คืออะไรที่ทำให้คุณโชครักผู้หญิงอย่างน้องกี้ อะไรที่ทำให้คุณโชคเห็นสิ่งดีๆ ในตัวน้องกี้ แล้วนำมาซึ่งความรักต่างหาก…คำตอบอยู่ท้ายเล่ม ความรู้สึกหลังอ่านจบ คือมันอิ่มใจ มันอมยิ้มกับความรู้สึกของผู้ชายอย่างคุณโชค จนทำให้ “My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” เป็นนิยายรักที่ถ่ายทอดความรักของพระนางได้สมบูรณ์จนคนอ่านอิน

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง อุ้มสมบอกได้เลยครับว่าคุณโชคคือผู้ชายที่คู่ควรแก่การให้ผู้หญิงสักคนมารัก แต่คนดีๆ อย่างเขาก็รักผู้หญิงประหลาดอย่างยัยน้องกี้ไปแล้ว!

อ้อ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือช่วงที่เรื่องเริ่มสนุก วางไม่ลง พระนางมีเหตุต้องพลัดพรากจากกัน ไมได้เจอกันตัวต่อตัวนานพอสมควร แต่เรายังสัมผัสได้ถึงความเป็นนิยายรัก ความโรแมนติกปนฮาของคนสองคน คือเอาเข้าจริงคุณโชคได้ความมารยาจากน้องกี้ไปเยอะเหมือนกันนะ เราชอบมากๆ สำหรับโมเมนต์ที่สองคนหาทางติดต่อกันถึงแม้จะไม่เจอหน้ากัน

และที่ยิ่งกว่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดในนิยายเรื่องนี้ที่เราตกผลึกได้

“My Precious Bad ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” คือนิยายสะท้อนสังคม ! นิยายเรื่องนี้เป็น ๑ ใน ๖ เรื่องที่ได้รางวัล Good Plot Season2 พลอตเด่นเป็นละคร ภายใต้โจทย์ “สะท้อนสังคม”

ข้อความที่ผู้เขียนหยิบยกมาพูดถึงตั้งแต่ย่อหน้าแรกของคำนำ คือข้อความของคนดังท่านหนึ่งที่เป็นกระแสทางโซเชียล

“”ประเทศเฮงซวย จะอีก ๕๐ ปีหรืออีก ๑,๐๐๐ ปี ก็ไม่เจริญขึ้นหรอก ยิ่งกูดิ

คือข้อความที่สรุปสาระสำคัญของเรื่องที่ปราปต์ต้องการสื่อได้ดีเยี่ยม

สโคปของเรื่องไม่ได้ใหญ่ถึงขั้นระดับประเทศ เพียงแค่พูดถึงบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่ง ซึ่งมาถึงจุดที่น้องกี้อยากลาออก อยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ มีคุณภาพมากกว่านี้ ไม่อยากจมปลักกับบริษัทแย่ๆ ไร้คุณภาพเช่นนี้

แต่น้องกี้คงลืมนึกไปว่าการที่ที่ใดที่หนึ่งจะดี จะแย่ ปัจจัยสำคัญก็คือคนในที่นั้นๆ

บริษัทแอ๊กซ์ยังมีซีอีโอที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ยอมรับแม้กระทั่งคนเก่งๆ ที่เป็นเพศที่สาม

บริษัทแอ๊กซ์ยังมีหัวหน้าที่ไม่เที่ยงธรรม

บริษัทแอ๊กซ์ยังมีพนักงานมนุษย์ป้าที่เอาแต่ใจตัวเอง จ้องหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

บริษัทแอ๊กซ์ยังมีพนักงานที่ไม่มีวุฒิภาวะ ใช้โซเชียลเป็นช่องทางจิกกัด หาเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้ง

และ

บริษัทแอ๊กซ์ยังมีพนักงานอย่างน้องกี้ ที่ใช้เส้นสายแฟนหนุ่มเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด น้องกี้ที่บ้าดูดวง ชนิดที่ว่าเห็นหมอดูดีกว่างานตรงหน้า

แล้วอย่างนี้ คุณภาพของที่ไหน ไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพในตัวคนในที่นั้นๆ หรือ?

ไม่เพียงแค่ตีแผ่เรื่องราวการทำงาน เรื่องราวของมนุษย์เงินเดือน การสมัครงาน การสัมภาษณ์งานในปัจจุบันเท่านั้น แต่ปราปต์ยังตีแผ่เรื่องราวของครอบครัว การเติบโตของน้องกี้ได้อย่างลึกซึ้ง

เราค่อยๆ ซึมซับเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ ค่อยๆ ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจกับเธอ “ครอบครัว” คือสิ่งที่หล่อหลอมให้คนเติบโต หล่อหลอมความคิด นิสัย การกระทำ เห็นได้ชัดทั้งจากครอบครัวของน้องกี้ และครอบครัวของคุณโชค ที่ทำให้ทั้งสองคนต่างกัน ต่างกันจนน้องกี้มองเห็นเส้นขนานข้างหน้า ต่างกันจนน้องกี้ไม่อยากสร้างความเดือดร้อน ไม่อยากเป็น “ตัวซวย” สำหรับคุณโชค…อีกแล้ว

เอาล่ะสิ…เปิดเรื่องด้วยคอเมดี้ แต่อ่านไปอ่านมาอาจน้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัว

น้ำตาซึมกับครอบครัวของน้องกี้ ครอบครัวที่มีแค่แม่ น้องกี้ และน้องสาวเธอ ครอบครัวที่เคยตราหน้าน้องกี้ว่า “เกิดมาชง”

ซาบซึ้ง อึ้ง ทึ่งไปกับครอบครัวคุณโชค กว่าจะเป็นคุณโชคในทุกวันนี้ ผู้ชายคนนี้ผ่านอะไรมาเยอะ และครอบครัวคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณโชคได้รู้จักคำว่า “ประสบความสำเร็จ”

มากกว่านั้น ปราปต์ยังทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า “เวรกรรม” ในอีกมิติหนึ่ง เวรกรรมที่ไม่ได้หมายถึงชาติที่แล้วส่งผลยังชาตินี้ เวรกรรมที่ไม่ได้หมายถึงตอนเด็กหักขากบแล้วโตมาจะขาหัก

แต่ปราปต์ทำให้เราเข้าใจในนิยายคำว่าเวรกรรม ที่สอดคล้องกับทฤษฎีที่ว่า “ทุกอย่างล้วนเป็นเหตุเป็นผล” ทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น สิ่งที่เราประสบพบเจอจะดีหรือแย่ ล้วนเกิดจากการกระทำของเรา ไม่ได้เกี่ยวกับโชคชะตาฟ้าลิขิต ไม่ได้เกี่ยวกับดวงใดๆ เลย ดีใจที่น้องกี้คิดได้ และเอาใจช่วยให้เธอพบกับทางสว่างเร็วไว

ท้ายสุดสุดท้าย แก่นเรื่องของนิยายเรื่องนี้ก็คือชื่อนิยายภาษาอังกฤษนั่นแล “My Precious Bad” ชีวิตของใครสักคนจะดีจะแย่ ไม่ได้อยู่ที่ดวงซวยดวงจู๋ แต่อยู่ที่ “สองมือ” ของใครคนนั้น สองมือที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่ชีวิตตัวเอง หรือจะหยิบยื่นยาพิษเข้ามาในชีวิตตัวเอง…อยู่ที่เราทั้งสิ้น

แม้ประสบเรื่องร้ายในชีวิต หากเลือกในสิ่งที่ดี ทำในสิ่งที่เหมาะ ต่อให้จะโชคร้าย จะดวงซวยแค่ไหน…มันก็เป็นโชคร้ายที่แสนมีค่า

ยังมีตัวละครตัวหนึ่งที่อยากพูดถึง พูดแค่สั้นๆ ว่าชอบ คือตัวละครที่เป็นคู่ปรับตัวฉกาจ เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อของสาวแอ๊บอย่างน้องกี้ เราชอบตัวละครตัวนี้มาก เป็นอีกตัวละครที่สร้างสีสัน ที่ทำให้เรื่องนี้สนุกมากขึ้น ตัวละครที่ไม่ใช่นางร้าย แต่เป็น “นายร้าย” ต่างหาก! ร้ายกาจ เจ้าเล่ห์จนต้องบอกต่อเลยครับ

ชมมาเยอะแล้ว ข้อเสียที่ขัดอกขัดใจเราก็มีไม่มาก พอจะมองข้ามไปได้ เรื่องสำนวนที่สวิงสวาย มุกตลกที่อิงจากโฆษณา ดารา ละคร หรืออะไรที่เป็นกระแสในปัจจุบัน ซึ่งนักอ่านที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารอาจมึนงงหรือไม่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่เราอยากให้เพิ่มเติมคือช่วงท้ายเรื่อง สิ่งที่ค้างคาในความรู้สึกเราคือบทสรุปของตัวละครประกอบที่สำคัญในเรื่อง ทั้งครอบครัวแฟนของน้องกี้ ทั้งตัวคู่ปรับน้องกี้ หรือตัวละครอื่นๆ ไม่ต้องถึงขั้นบทสรุปก็ได้ เพียงแค่เราอยากรู้ว่าชีวิตของเขาเป็นอย่างไรต่อไป ดำเนินไปในทิศทางใด ซึ่งการสรุปหรือบอกเล่าเรื่องราวตัวละครประกอบในช่วงท้ายเรื่อง ปราปต์ทำไว้ดีมากในเรื่อง กาหลมหรทึก จึงเป็นสิ่งที่เราอยากให้เพิ่มในเรื่องนี้

เป็นนิยายดีอีกเรื่องที่แนะนำ

เพราะพรหมลิขิต รักนี้จึงไม่พึ่งโชค

มาเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นสิ่งที่มีค่ากันเถอะครับ

อุ้มสม

๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐




Create Date : 21 ตุลาคม 2560
Last Update : 21 ตุลาคม 2560 2:41:27 น.
Counter : 2460 Pageviews.

1 comments
  
เคยอ่านแต่ กาหลมหรทึก ซึ่งก็ชอบพอสมควร
แต่ถ้าแนวนี้อาจจะชอบมากๆ ก็เป็นได้
เพราะมันเรียลดี บางทีก็แอบสะใจ
ถ้านิยายสะท้อนสังคมออกมาตรงจุด ก็โดนใจหลายๆคนเป็นแน่ครับ
ต้องไปหามาลองอ่านดูบ้างละ อิอิ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
โดย: ruennara วันที่: 31 ตุลาคม 2560 เวลา:3:47:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ้มสม
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 231 คน [?]



แฟนเพจ "อุ้มสม"
ตุลาคม 2560

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
26
27
28
29
31
 
 
All Blog