รักก็คือรัก ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น#คือรัก ดวงตะวัน
|
||||||
๑๗ - ทฤษฎีจีบเธอ ; JittiRain - ถ้าคิดจะจีบใคร
การกระทำและหัวใจสำคัญกว่าทฤษฎี - ท ฤษ ฎี จี บ เ ธ อ ถ้าคิดจะจีบใคร
การกระทำและหัวใจสำคัญกว่าทฤษฎี นวนิยายโดย : JittiRain สำนักพิมพ์ : everY พิมพ์ครั้งที่1 : ตุลาคม 2560 ราคาเล่มละ : 419 บาท จำนวนหน้า : 562 หน้า .
รายละเอียด เวลาหรือสถานการณ์ไหนบ้างที่ทำให้คุณอยากสบถคำว่าบัดซบออกมาที่สุด ใช่ตอนที่กำลังเดินอยู่ข้างถนนแล้วโดนรถสักคันเหยียบน้ำกระเซ็นใส่คุณมั้ย หรือเป็นตอนที่ไปดูหนังสักเรื่องด้วยความคาดหวังแล้วพบว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า สำหรับผม มันคือตอนที่รู้ตัวว่าเผลอให้ใจกับใครบางคน ทุ่มเทไปทั้งหมดที่มี แต่คนคนนั้นดันเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ไม่เคยหันกลับมามองผมเลย ตื่นเช้ามาได้เจอหน้าและใกล้ชิดกันทุกวันเพื่อเห็นมันหิ้วสาวกลับไปห้องทุกคืน คุณรู้มั้ยว่ามันเป็นสถานการณ์ที่โคตรไม่โอเคแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะต้องสบถอีกกี่คำ เปิดเพลงเศร้าและยืนใต้สายน้ำจากฝักบัวย้อมใจสักกี่ครั้ง พรุ่งนี้ความลับก็ยังคงเป็นความลับ ผมทำได้เพียงปิดปากเงียบและแอบรักข้างเดียวต่อไป ทั้งหมดก็เพราะเราเป็นเพื่อนกัน (ไม่ได้อีกแล้ว!)
บันทึกหลังอ่าน . ปีนี้เป็นปีที่เราอ่านนิยายวายจบไปหลายเรื่อง มากกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา (แต่ก็ยังถือว่าน้อยนิด ถ้าเทียบกับหนุ่มวายสาววายตัวจริงเสียงจริง) แต่การอ่านนิยายวาย แนวชายรักชายบางเรื่อง สำหรับเราแล้วก็ถือเป็นงานดี มีคุณภาพ พอกับนิยายรักชายหญิงเลยละ
ทฤษฎีจีบเธอ เรื่องนี้ก็เช่นกัน . เราอ่าน ทฤษฎีจีบเธอ ด้วยความคาดหวัง เพราะมีนักอ่านรอบตัวหลายคนมาก-ก-ก-ก ที่แนะนำเรื่องนี้ ทั้งเรื่องได้กลิ่นอายดราม่าแบบที่เราชอบ ทั้งเรื่องสำนวนภาษาของ JittiRain ผู้เขียนที่บิลด์อารมณ์ได้ดี อ่านแล้วอิน ซึ่งพออ่านจบแล้วก็ไม่ผิดหวัง เป็น นิยายรัก อีกเรื่องที่น่าหยิบมาพูดถึง . ว่าด้วยเรื่องราวความรักของ ค่าย กับ เติร์ด สองหนุ่มนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ปีสาม จุดเริ่มต้นจากการที่ฝ่ายนายเอกคือเติร์ดรู้สึกดีกับเพื่อนสนิทของตนเองมากกว่าคำว่าเพื่อน ซึ่งก็คือค่าย หนุ่มหล่อที่มีสาวมาติดพันมากมาย แอบรักเพื่อนสนิทว่าเศร้าแล้ว เป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ชอบผู้ชาย เป็นเพื่อนสนิทที่มีสาวๆ มาให้เลือกมากมาย และเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่เคยรักใครจริงนอกจากตัวเอง นั่นยิ่งทำให้เติร์ดไม่สามารถบอกความในใจให้ค่ายรู้ได้ . เนื้อหาหลักของเรื่อง ไม่รวมตอนพิเศษ มี 18 ตอน ซึ่งเราขอแบ่งเป็น 3 พาร์ต . พาร์ตแรก (1-6) เติร์ดเป็นผู้เล่า เรื่องราวรักข้างเดียวที่ยากจะเผยใจ นำมาซึ่งความขัดแย้งต่อหัวใจตัวเอง และต่อคนที่เติร์ดรัก สิ่งที่ค่ายทำกับเติร์ด มันเจ็บจนยากจะลืม ยากที่แม้แต่จะกลับมาเป็นเพื่อนกัน
มันก็ไม่มีทางเหมือนเดิม . พาร์ตสอง (7-12)ค่ายเป็นผู้เล่า เมื่อค่ายคิดว่าตัวเองรักเติร์ด เมื่อค่ายเลือกที่จะทำตามหัวใจมากกว่าเหตุผล แต่เมื่อนั้น
คือช่วงที่เติร์ดบอกกับตัวเองว่าจะต้องตัดใจจากค่ายให้ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องเจ็บปวดกับเรื่องเดิมๆ การจะที่ค่ายจะจีบเติร์ดจึงไม่ใช่เรื่องง่าย . พาร์ตสาม (13-18) เติร์ดเป็นผู้เล่า ความไม่แน่ใจในตัวค่าย ค่ายรักเขาจริงหรือ หรือแค่เห็นเป็นของแปลกใหม่ ถ้าเติร์ดกลับไปรู้สึกกับค่ายแบบเดิม นั่นหมายความว่าความเสียใจ ความเจ็บปวดกับเรื่องของค่ายจะวนลูปกลับมาเหมือนเดิมหรือเปล่า? มันยากที่เติร์ดจะตัดสินใจ . สามพาร์ต ให้อารมณ์ ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งสามพาร์ตร้อยเรียงเป็นหนึ่งเดียว ทำให้นิยายรักเล่มหนาเรื่องนี้สนุก และชวนติดตาม แค่เรื่องราวการแอบรักของผู้ชายคนหนึ่ง การพิชิตใจคนที่เคยชอบเราของผู้ชายอีกคนหนึ่ง แต่กลับทำให้เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นนิยายเล่มหนาที่น่าติดตาม ไม่มีจุดไหนน่าเบื่อ หรือเดดแอร์สำหรับเรา . เสน่ห์ของ JittiRain ที่ทำให้เราชอบมาก และไม่ลังเลในการหยิบเรื่องอื่นๆ ของผู้เขียนมาอ่าน คือสำนวนภาษา การบรรยายอารมณ์ ความรู้สึกของคนแอบรัก ที่ให้ความรู้สึกหน่วง เศร้า เหงา ซึน ใช้ถ้อยคำธรรมดา แต่มีชั้นเชิง มีลูกเล่น ทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมตามได้ไม่ยาก . ยกตัวอย่างเช่นซีนนี้เลย . มึงไม่ต้องทำดีกับกูขนาดนี้ก็ได้เว้ย ถ้ามึงจะรักใครก็เลือกได้เลย ไม่กลับไปแล้ว กลับไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเจ็บอีกเท่าไหร่ สูญเสียอีกมากแค่ไหน เพราะขนาดคนที่ร่าเริงมาตลอดอย่างผมยังสูญเสียภูมิต้านทานของตัวเองไปจนหมด หากวันนี้มันเลือกแล้ว ก็ไม่มีเหตผลที่จะหลอกตัวเองอีก โอเค ไอ้ค่าย
กูรักมึง
แฟนมึงน่ารักดีนะ กูรักมึง
ขอบใจ กูรักมึง แต่พูดออกไปไม่ได้เลย
. ให้ตายเถอะ เราหลงรักสำนวน และชั้นเชิงการบิลด์อารมณ์ดราม่าของผู้เขียนจริงๆ . แต่เดี๋ยวก่อน ! เรื่องนี้ก็ไม่ใช่นิยายแนวดราม่า หนักหน่วงทั้งเล่ม ทฤษฎีจีบเธอ ยังมีความน่ารัก ความคอเมดี้ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนอ่านได้จากการเล่าเรื่อง บทสนทนาและการกระทำของทั้งพระนางและตัวประกอบ แต่ขึ้นชื่อว่า การแอบรัก ยังไง้ยังไง มันก็ต้องมีความเจ็บปวดตามมานั่นแล . พูดถึงเรื่องสำนวนของผู้เขียน ที่ถึงแม้เราจะชอบมาก แต่เราก็มองว่าสำนวนของผู้เขียนเป็นเหมือนดาบสองคม เพราะมีบางจุดที่อาจจะทำให้คนอ่านบางคนไม่ชอบ . ทั้งเรื่องบทสนทนาที่มีลูกเล่น น่าสนใจ ชวนอ่านก็จริง แต่บทสนทนาส่วนใหญ่ในเรื่อง ตัวละครสองตัว (โดยเฉพาะค่ายกับเติร์ด) จะคุยกันยาว แล้วไม่มีคำบรรยายนอกเครื่องหมายคำพูดมาคั่น ให้ถ้าอ่านเร็วๆ อาจมึนงงได้ว่าใครพูดประโยคนี้ ใครพูดประโยคนั้น แต่ก็ยังให้อภัยได้ . แต่อีกจุดหนึ่งที่เรามองว่านักอ่านที่อ่านนิยายรักชายหญิง หรืออ่านงานเขียนนักเขียนรุ่นใหญ่มามากอาจจะรับไม่ได้คือเรื่อง คำสรรพนาม คำหยาบในเรื่อง ที่เจอทั้งบทสนทนาและบทบรรยาย ด้วยความที่ ทฤษฎีจีบเธอ บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อีกทั้งการเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 ทำให้มีคำหยาบ คำสบถมากมายปรากฏในเรื่อง เช่นคำว่า เหี้ย คำนี้เจอเยอะมาก ไม่แนะนำสำหรับนักอ่านที่รับไม่ได้ เพราะอาจจะอ่านเรื่องนี้ด้วยความขัดหูขัดตาขัดใจ แล้วไม่มีความสุขแน่ๆ แต่สำหรับเรา ด้วยความที่ยังเป็นวัยรุ่น และสบถคำหยาบกับเพื่อนสนิท (จริงๆ) ค่อนข้างบ่อย ทำให้เรารับได้ แต่ก็แอบอยากให้ลดลงบ้าง โดยเฉพาะบางช่วงที่มีคำว่า ฆ_ย (แต่ก็มีน้อย) ซึ่งเรารู้สึกว่าผู้เขียนมีความโดดเด่นเรื่องสำนวนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคำหยาบพร่ำเพรื่อ คนอ่านอย่างเราก็ยังชอบและอินกับเรื่องราวของผู้เขียนอยู่ ถ้าตัดออกไปบ้าง ก็จะทำให้เรื่องนี้มีความงดงามทางวรรณศิลป์มากขึ้น เพราะคอดราม่าอย่างเรา ถูกใจโทนเรื่อง อารมณ์ในนิยายเรื่องนี้มาก . ตั้งแต่เริ่มอ่าน เรารู้สึกว่านอกจากเรื่องสำนวนแล้ว การลำดับเรื่อง การเล่าเรื่องของผู้เขียนก็ยังมีเสน่ห์ ชวนให้ติดตาม ทำให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ของค่าย เติร์ด และเพื่อนในกลุ่มอีกสองคนตั้งแต่เริ่มต้น คือสนิทกันมาก รู้ใจกันมาก (แต่ค่ายไม่เคยรู้ใจเติร์ด) ซึ่งมันยากที่เติร์ดจะเผยใจให้ค่ายรู้ . สำหรับใครที่ชอบอ่านนิยายไปด้วย ฟังเพลงที่เข้ากับเนื้อเรื่องเพื่อบิลด์อารมณ์ตัวเองไปด้วย ช่วงแรกที่เติร์ดแอบรักค่าย เราแนะนำให้ฟังเพลง ความลับ ของ พอร์ช ประกอบ จะยิ่งอินและเข้าใจความรู้สึกของเติร์ดมาก . ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกินจะเก็บ ซ่อนความรักเอาไว้ และความลับในใจของเธอมีฉันอยู่บ้างไหม โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ . ช่วงแรกที่สองหนุ่มทะเลาะกันรุนแรง เราก็รู้สึกว่าผิดทั้งคู่ โดยเฉพาะค่าย เป็นพระเอกนี่น่าตี น่าเตะ น่าต่อย และหน้าโง่มาก! การกระทำของค่ายที่เป็นจุดพีค เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เติร์ดผิดใจกับค่ายอย่างรุนแรง เป็นเรื่องที่ทำให้เราเข้าใจเติร์ด และไม่แปลกใจที่เติร์ดจะโกรธ จะเสียความรู้สึกกับค่ายจนไม่สามารถกลับไปแม้แต่จะเป็นเพื่อน เหมือนเดิม ได้ . ส่วนเติร์ด ก็ออกแนวงี่เง่า น่ารำคาญอยู่บ้าง เพราะในความเป็น เพื่อน ค่ายไม่เคยทำหน้าที่เพื่อนต่อเติร์ดได้บกพร่องหรือทำไม่ดี แต่ที่พอจะให้อภัยเติร์ดได้ก็เพราะส่วนใหญ่เจ้าตัวก่อเรื่อง โพล่งออกมาไม่ทันได้คิดเพราะเมา อีกอย่างช่วงพาร์ตแรกเติร์ดเป็นคนเล่าเรื่อง ถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็ยังเข้าใจเติร์ด . พาร์ตสองพาร์ตสามนี่เริ่มดราม่าที่ตัวค่ายแล้ว เรียกได้ว่านายเอกเรื่องนี้ใจแข็งมาก อารมณ์คนเจ็บมาเยอะ ไม่อยากกลับไปเจ็บเหมือนเดิมแล้ว ค่ายเลยต้องใช้พลัง ใช้ความพยายามในการเอาชนะใจเพื่อนสนิทอย่างเติร์ดมาก โดยเฉพาะดราม่าเรื่องทริปไปเที่ยวประจวบ ซึ่งเป็นอะไรที่ตลกร้ายมาก ตอนแรกเราขำ แต่สุดท้ายก็อดที่จะสงสารค่ายไม่ได้ ต่อให้ค่ายจะโง่ จะร้าย จะทำตัวน่าเกลียดแค่ไหน พอมาถึงจุดที่เจอกับเหตุการณ์นั้น พระเอกของเราก็เรียกคะแนนความน่าสงสารได้ท่วมท้น . สิ่งที่ทำให้นิยายเล่มนี้หนาปึก คือรายละเอียดปลีกย่อยที่ใส่มาแล้วเรื่องมีความสมบูรณ์ไม่ใช่การยัดเยียด ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของสี่หนุ่มแก๊งโหด ความสัมพันธ์ของกลุ่มนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ การทำละครเวที ชีวิตในมหาวิทยาลัย กิจกรรมต่างๆ ทำให้ ทฤษฎีจีบเธอ กลายเป็นเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่มีผู้คนอีกมากมายเข้ามาในวงจรชีวิตของทั้งคู่ . ทั้งนี้ทั้งนั้น ทฤษฎีจีบเธอ ยังบอกเล่าประเด็นความรักได้อย่างน่าสนใจและทำได้ดี เพราะ ความรักไม่ได้จำกัดแค่หญิงต้องคู่กับชาย ความรักก็คือการตกหลุมรัก การรู้สึกดี และอยากใช้ชีวิตกับใครสักคน การเปรียบเทียบความรักกับการดูหนังสักเรื่อง (เข้ากับสังคม ชีวิตของตัวละครในเรื่อง ที่เรียนนิเทศศาสตร์) หนังแนวที่เราไม่ชอบ ไม่เคยคิดจะดูสักครั้ง บางครั้งอาจเป็นหนังที่ใช่ เป็นหนังที่ถูกใจเราที่สุด และที่สำคัญที่สุด คือการจะรักใครสักคนต้องใช้ทั้ง สมอง และ หัวใจ . ร่างกายของคนเรามีกลไกการป้องกันตัวของตัวเอง เหมือนมนุษย์ไงที่มีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ทนความเจ็บปวดได้ไม่เท่ากัน ความเสียใจจากการเฝ้ารอเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้สมองได้รับบาดเจ็บ ทนได้แสดงว่ารอได้ แต่ถ้าทนไม่ได้นั่นคือร่างกายรับไม่ไหว ตอนนั้นแหละที่มึงจะรู้ว่าควรรอต่อไป หรือตัดใจซะ . ทำไมต้องใช้สมองวะ คนเราไม่ได้ใช้หัวใจในการตัดสินเหรอ . เอาอย่างนี้นะ ถ้าสมมติมีคนจ่อปืนมาที่มึง สมองสั่งการให้มึงวิ่งหนีและมีชีวิตรอด แต่หัวใจไม่ใช่อย่างนั้น มันแค่สั่งการให้สูบฉีดเลือดเร็วขึ้น ขณะที่เท้ามึงยังยืนอยู่ที่เดิมเพื่อรอให้กระสุนปลิวมาเจาะ . ดังนั้นสมองจึงสอนให้มึงรู้จัก เอาตัวรอด จากความเจ็บปวด ขณะที่หัวใจแค่สอนให้มึง รู้จัก กับความเจ็บปวดเท่านั้น . นี่คือคำสอนของตัวละครสำคัญอีกตัวในเรื่องอย่าง พี่เชนทร์ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครให้คำปรึกษา ที่คอยช่วยเหลือค่ายกับเติร์ดมามาก ช่วยให้สองหนุ่มเห็นทางสว่าง ทางที่ความรักของทั้งคู่จะสมหวังและมีความสุข แต่ในขณะเดียวกันวีรกรรมของพี่เชนทร์ที่ทำกับค่าย จนสร้างความวุ่นวายไปถึงเติร์ดและลามไปถึงคนอื่นมันก็น่าตื้บจริงๆ (แต่เราขำนะ ฮา
) . ชอบตอนพิเศษเรื่องของคู่รอง ที่เป็นเสมือนความสัมพันธ์แบบลับๆ เปิดเผยมาทีนึง ทำเอาคนอ่านอย่างเราคาดไม่ถึง ส่วนเรื่องของค่ายกับเติร์ดในตอนพิเศษ ที่เติร์ดบังคับให้ค่ายเปลี่ยนสรรพนามเวลาเรียนเติร์ด อันนี้มองว่าเป็นการกระทำที่เยอะไป ก็เป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว จะเปลี่ยนให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไม ดูไม่สมเหตุสมผล ไม่สมกับที่เป็นเติร์ดเลย . ถ้าชมทั้งบ่น แต่ ทฤษฎีจีบเธอ ก็เป็นนิยายรักอีกเรื่องที่เราชอบ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับนักอ่านที่มองข้าม มองผ่าน หรือรับได้กับคำหยาบ คำสบถในเรื่อง และชอบเรื่องราวดราม่าที่มาจากการแอบรักเพื่อนสนิทตัวเอง
เรื่องนี้ทำได้ดี . เหนือสิ่งอื่นใด เรารู้สึกว่าการที่ค่ายได้รักเติร์ด มันคือการที่ค่ายได้เห็นความงดงามของความรัก มันไม่ใช่แค่รักที่มีความใคร่นำหน้า แต่เป็นรักที่บริสุทธิ์ รักที่เป็นรักจริงๆ . แต่การจะได้มาซึ่งความรักนั้น ขอเพียงแค่มีการกระทำที่ซื่อสัตย์ และจริงใจ ย่อมสำคัญกว่าทฤษฎีใดๆ ในโลกนี้ .
อุ้มสม 14 พฤศจิกายน 2560 น
รีวิวดีจังค่ะ ว่าจะอ่านคั่นกู หรือว่าจะเบนมาเล่มนี้แทนดี
โดย: hiroko
![]() |
อุ้มสม
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() แฟนเพจ "อุ้มสม" Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
สงสัยดีงาม เดี๋ยวพี่ลองบ้างงง