Letter to My Daughter: Maya Angelou
Mom, I love you ♥
Letter to My Daughter: Maya Angelou (2008)
Maya Angelou นักเขียนและกวีผู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมายเขียนหนังสือสนุกๆเล่มนี้เป็นจดหมายถึง ลูกสาวทุกคน ที่เธอกล่าวถึงว่า
แม่ได้ให้กำเนิดลูกชายแท้ๆหนึ่งคน แต่แม่มีลูกสาวนับพัน ลูกสาวของแม่มีทั้งผิวดำ ผิวขาว เป็นชาวยิว เป็นมุสลิม ชาวเอเชีย ชาวสเปน ชนเผ่าอเมริกันพื้นเมือง และอีกมากมาย ลูกของแม่บางคนอ้วน ผอม สวย หรือหน้าตาธรรมดา ลูกอาจรักผู้ชายหรือรักผู้หญิงด้วยกัน ลูกมีการศึกษาหรืออ่านเขียนไม่ได้... แม่เขียนจดหมายนี้เพื่อลูกทุกคน และนี่คือสิ่งที่แม่อยากจะบอกลูกสาวของแม่...
จดหมายบอกเล่าเรื่องราวในเล่มไม่ได้เป็น แม่สอนลูก แต่เป็นการที่ผู้เขียนหยิบยกประสบการณ์ที่ตัวเองเคยผ่านร้อนผ่านหนาวทุกข์สุขต่างๆมาเล่าให้ฟัง บางตอนก็ทำให้ฉันลงไปหัวเราะกลิ้งอยู่กับพื้น แต่บางตอนก็ทำให้น้ำตาเปื้อนกระดาษไปหลายหยดพอดู
ฉันชอบที่ผู้เขียนยอมรับในความเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้เพอร์เฟคของตัวเองแถมยังเอาเรื่องที่เธอเคยทำผิดพลาดในชีวิตมาเขียนเล่าให้พวกเราได้อ่านกันอย่างฮา
จดหมายฉบับที่ฉันชอบมากคือเรื่อง Senegal... ขออนุญาตคุณแม่มายาหยิบมาเล่าต่อให้เพื่อนๆฟังนะคะ
แม่มายารู้จักนักแสดงสาวชาวเซเนกัลชื่อ Samia ณ กรุงปารีส ซาเมียแต่งงานกับชาวฝรั่งเศสและเป็นหนึ่งในกลุ่มศิลปินอินเทรนด์ผู้มักจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์โดยเธอจะปรากฏตัวในชุดสวยหรูหราเสมอ วันหนึ่งซาเมียก็ชวนแม่มายามาดินเนอร์ที่บ้านของเธอ
แม่มายาเดินเข้าไปในงานเลี้ยงที่มีผู้คนหลากหลายไฮโซและสังเกตว่าแขกทุกคนยืนเบียดกันอยู่ริมผนัง พอก้มลงมองดูที่พื้นแม่มายาเลยเห็นว่ากลางห้องอาหารมีพรมเปอร์เซียผืนใหญ่ปูอยู่ ทำให้แม่นึกถึงชาวอียิปต์บางคนที่ไม่อนุญาตให้คนรับใช้เดินเหยียบพรมเป็นอันขาด มีหรือที่แม่มายาจะทนอยู่เฉยได้ ทันทีหลังจากนั้นแม่ก็ทำเป็นอยากชมภาพเขียนที่แขวนไว้อีกฟากหนึ่งของห้องแล้วเดินดุ่มๆเหยียบพรมผืนแพงไปพร้อมรอยยิ้มสะใจบนหน้า เมื่อหันไปมองแขกคนอื่นก็เห็นว่าทุกคนยิ้มเจื่อนๆกลับมา แม่อยากจะแสดงให้ทุกคนรู้เหลือเกินว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน ไม่ใช่ทาสที่ห้ามแตะต้องสิ่งของเจ้านาย
พอแม่มายาก้าวเท้าออกจากพรม แม่บ้านของซาเมียก็รีบออกมาพับพรมผืนนั้นเก็บทันทีพร้อมกับนำพรมผืนใหม่ที่สวยพอกันมาปูที่เดิม แม่โกรธจนเกือบจะพูดอะไรออกไป แต่แล้วแม่บ้านก็นำจานชามและอาหารที่เตรียมไว้ออกมาวางบนพรมผืนใหม่
จากนั้นซาเมียในชุดสวยเดินออกมาพร้อมสามีและกล่าวกับแขกว่าวันนี้พวกเขาได้ทำอาหารชื่อดังของเซเนกัล เพื่อเป็นเกียรติแก่พี่สาวจากอเมริกา ซาเมียผายมือมาทางแม่ สำหรับพี่มายา แองเจลู
แม่มายาเพิ่งรู้ตัวว่าได้เดินเหยียบย่ำบนพรมที่ถือเป็นที่นั่งรับประทานอาหารไปเสียแล้ว
เล่าเรื่องแม่มายาแล้วก็ขอเล่าเรื่องแม่ของตัวเองบ้าง
ตั้งแต่จำความได้ฉันไม่เคยเรียกแม่ว่าแม่ แต่เรียกว่า หม่ะ (ไม่มีคำออกเสียงตายตัว ผวนวรรณยุกต์ได้ตามสถานการณ์ว่ากำลังอ้อนหรือกำลังทะเลาะกัน) และฉันก็ไม่คิดว่าหม่ะเป็นแม่...ฟังดูเหมือนลูกเลว แต่หม่ะก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นแม่เหมือนกัน ตอนเด็กๆยังเคยสอนให้ฉันเรียกตัวเองว่า พี่หม่ะอยู่จนเกือบติด โชคดีที่ไหวตัวเลิกทัน ปัจจุบันนี้เวลาเจอใครก็จะแนะนำตัวเองว่า เป็นพี่สาวค่ะ เอามือป้องปากแล้วก็หัวเราะโฮะๆๆ
หม่ะไม่เคยตีฉันกับน้อง ตอนเด็กๆพวกเราไม่ชอบกินนม หม่ะก็เลยชงโอวัลตินใส่ขวดให้กิน หวาน มัน อร่อย...และไร้คุณค่าทางโภชนาการโดยสิ้นเชิง เป็นปาฏิหาริย์ทางวิทยาศาสตร์ที่โตเรียนจบปริญญามาแปะฝาบ้านได้ แต่คิดอีกที...ฉันสูง 150 cm นี่หว่า
แต่ความสูงไม่ใช่ปัญหาสำหรับลูกของหม่ะ ตอนอยู่อนุบาลเวลามีการแสดงประจำปี อาจารย์ประจำชั้นจะได้รับของขวัญขอบคุณล่วงหน้า และลูกเตี้ยของหม่ะก็จะได้ยืนเอ๋อๆอยู่หน้าเวทีคนแรกเสมอ โดยมีหม่ะในชุดเสริมไหล่เซ็นต์เซย่า(สมัยนั้นยุค80)ผมตั้งกระบัง แต่งหน้าฟูลออพชั่น เอามือป้องปากหัวเราะโฮะๆกับผู้ปกครองที่นั่งข้างๆว่าเด็กข้างหน้านั่นลูกเดี๊ยนเองเค่อะ
อยู่ประถมไม่อยากไปโรงเรียน แกล้งทำเป็นไอค่อกแค่กๆ แล้วเดินไปบอก หม่ะ ไม่สบาย ไม่ไปโรงเรียนได้มั๊ย... หม่ะปราดสายตามองหนึ่งวิโดยไม่ต้องเอามือมาจับหน้าผากวัดอุณหภูมิ แล้วก็บอกว่า ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป จนตอนหลังไม่ต้องแกล้งไอ อยากหยุดก็หยุดได้เลย จนเด็กประถมเริ่มห่วงอนาคตตัวเองจนกลายเป็นเด็กเนิร์ดไปในที่สุด
มาถึงตอนวัยรุ่นเริ่มอยากเปรี้ยว แอบไปเจาะหูที่ห้าง... ข้างละสี่รู รวมกันเบ็ดเสร็จเป็นแปดรู เดินย่องเข้าบ้านไม่ให้ป๊ากับหม่ะเห็น แต่ก็ไม่พ้นสายตาเหยี่ยว เย็นวันนั้นหม่ะไม่พูดกับฉัน... วันต่อมาก็เดินคอตกไปโรงเรียนด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง คิดว่ากลับมาบ้านจะไปขอโทษหม่ะ
หม่ะยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว...พร้อมกับหูที่เจาะมาข้างละสี่รูเหมือนกัน แถมใส่เพชรวูบวาบไฮโซ เสียงหัวเราะ โฮะๆๆ ในวันนั้นยังติดหูอยู่จนถึงวันนี้
(ปล. สุดท้ายหูอักเสบทั้งแม่ทั้งลูก ต้องเอาตุ้มหูออก ตอนนี้หม่ะเลยใส่ตุ้มหูธรรมดา แต่ฉันไปเจาะเพิ่มมาเป็นห้า ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าแม่ตัวเองจะไปเจาะจมูกเจาะสะดือเกทับซะ)
หม่ะไม่เคยสอน ไม่เคยตี ไม่เคยดุ... ตอนนี้สุขภาพไม่ดีหมอห้ามกินเหล้า ไม่งั้นก็คงตั้งวงที่บ้านกันทุกวัน
ตอนที่ฉันเพิ่งทำงานใหม่ๆ มีปัญหาเรื่องงาน เคยถูกรังแก เครียด จิตตก... กลับบ้านมาร้องไห้กับหม่ะ
หม่ะไม่ได้โอ๋ แต่หม่ะก็กอดฉัน แล้วก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่ถูกหม่ะด่า
ร้องไห้ทำไม! อย่ามาทำตัวเป็นลูกแมว!
...จำไว้นะ แกเป็นลูกเสือ
หม่ะจ๋า เค้ารักหม่ะที่สุดในโลกเลย โฮะๆๆๆ *เอามือป้องปาก สะบัดผม*
Create Date : 10 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 15:25:18 น. |
|
30 comments
|
Counter : 2688 Pageviews. |
|
|
ถ่ายที่ Disneysea เลยมีหูมิ้กกี้ใส่