"I hope we're all ready to leave the phenomenal world, and enter into the sublime?" - The Secret History
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
A density of soul: กำเนิดทายาทราชินีแวมไพร์...และค่าของวิญญาณที่ใครมิอาจตัดสิน




“เธอเคยบอกฉันเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเรียกว่าแสงสว่างกลางความมืด

เกี่ยวกับการที่ชีวิตเราไม่ได้ดีหรือเลว แต่เป็นส่วนผสมของทั้งสองอย่าง

และบางครั้งเรื่องดีๆก็โผล่ขึ้นมาท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย แต่มันก็ยังไม่ทำให้เรื่องร้ายเหล่านั้นหายไป

มันปกป้องเราไม่ได้หรอก เพราะมันก็แค่แสงสว่างเท่านั้น

แต่สิ่งที่เธอไม่ได้บอกฉันก็คือบางครั้งคนบางคนก็เป็นแสงสว่างนั้นได้

ยังมีบางคนในโลกนี้ที่ควรได้รับการปกป้องไว้แม้ว่าคนอื่นๆจะตัดสินว่าเขาเหล่านั้นส่องแสงที่ประหลาดอัปลักษณ์ลงบนสิ่งที่ไม่สมควรก็ตาม

เธอได้เป็น...และจะเป็นแสงสว่างกลางความมืดของฉันตลอดไป
ฉันรักเธอ

เมเรดิธ”









ฉันยอมถูกประณามหยามเหยียดจากชาวโลกเพราะอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยเหตุผลแรกและเหตุผลเดียวคือผู้เขียนเป็นทายาทอสูรผีดูดเลือดของเจ้าแม่แอนน์ ไรซ์แห่ง Interview with the vampire แค่เห็นนามสกุลก็ไม่ต้องอ่านหลังปก จะออกมาเป็นตำราอาหารก็ช่าง มีชื่อไรซ์แปะอยู่คงมีสูตรเด็ดแบบเลือดๆบ้างแหล่ะน่า...


แต่เทพเจ้าแวมไพร์มีจริง นักเขียนเป็นอาชีพที่สืบทอดกันทางดีเอ็นเอ พออ่าน A density of soul จบ ฉันก็มีอีกหนึ่งไรซ์เพิ่มขึ้นในดวงใจค่ะ ดีจัง ไม่ต้องจำชื่อนักเขียนโปรดเพิ่ม จริงอยู่ว่าคนมากกว่าครึ่งคงซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะชื่อแม่เป็นเจ๊ดัน แต่ Christopher Rice ก็พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ลูกคนดัง แต่เป็นนักเขียนหนุ่มที่มีฝีมือคนหนึ่ง

รีวิวนี้อาจจะยาวไปหน่อย ก็หนังสือเล่มโปรดทั้งที









เรื่องย่อหลังปก (พยายามแปลให้เมโลดราม่าสุดชีวิต ช่วยขำกันหน่อย พี่น้องเอ๊ยย)


ชีวิตของกลุ่มเพื่อนสนิทสี่คนในเมืองนิวออร์ลีนส์ได้เปลี่ยนไปคนละทิศละทางเมื่อพวกเขาเข้าเรียนไฮสคูล.. เมเรดิธ แบรนดอน สตีเฟ่น และเกร็กซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนซี้ที่แทบไม่เคยแยกจากกันกลับเปลี่ยนแปลงไปด้วยแรงริษยา ตัณหาซ่อนเร้น และความโกรธคลั่ง จนในที่สุดโศกนาฏกรรมที่พรากสองชีวิตไปอย่างทารุณก็ทำลายทุกสิ่งที่พวกเขาเคยมีร่วมกันไปอย่างไม่มีวันหวนคืน


ห้าปีหลังจากนั้นกลุ่มคนทั้งสี่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อหนึ่งในโศกนาฏกรรมนั้นกลายเป็นการฆาตกรรม.. ความลับที่ถูกเก็บงำไว้จึงถูกเปิดเผย และความโหดร้ายของชีวิตไฮสคูลก็ผันแปรเป็นความรุนแรงที่พร้อมจะทำลายเมืองทั้งเมืองลงได้


---------------------------


อ่านหลังปกแล้วอาจจะดูดราม่ามากๆ ไม่รู้ตอนนี้ช่องเจ็ดซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วยัง แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าเรื่องนี้มีดีกว่าแค่นามสกุลตัวใหญ่ๆหน้าปกและคำโปรยเน่าๆหลังปก ไรซ์คนลูก.. เกือบเผลอ ฉันเรียกว่าน้องคริสโตเฟอร์ดีกว่าจะได้พ้นเงาแม่ซะที..


ดูเหมือนน้องคริสโตเฟอร์จะตั้งใจให้หนังสือเล่มแรกนี้เป็นอัตชีวประวัติของตัวเองกลายๆ เพราะเนื้อเรื่องเกือบทั้งหมดดำเนินอยู่ในโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย แถมยังเป็นเมืองนิวออร์ลีนส์ที่เขาเติบโตมา ที่สำคัญน้องคริสโตเฟอร์ก็เพิ่งจะ come out มาหมาดๆเสียด้วย












รีวิวเรื่องนี้มีเนื้อหา Alternative love (ชายรักชาย) นะคะ บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบ


Consider yourself warned. If you flame me, I will flame you back so bad, you’d wish you hadn’t learned how to type!

++SPOILER WARINING!!++ MIDDLE TO SEMI-HIGH LEVEL



หนังสือเล่มนี้ทำให้ฉันต้องกัดฟันกรอดๆและบางตอนก็โกรธจนแทบอยากร้องไห้ไปกับชะตากรรมของสตีเฟ่นผู้เป็นพระเอกของเรื่อง ถึงสตีเฟ่นจะเป็นตัวละครที่คงทำให้ใครหลายๆคน (Including yours truly - -“) หมั่นไส้ไม่น้อย แต่ก็ทำใจให้เกลียดไม่ลงเพราะคนอะไรจะโชคร้ายโดนกลั่นแกล้งทั้งแบบเด็กๆรังแกกันจนถึงการกระทำที่ต่ำช้าป่าเถื่อนที่สุดเท่าที่คนเขียนจะขีดชีวิตให้คาแรกเตอร์หนึ่งได้


“ความผิด”ของสตีเฟ่นมีแค่อย่างเดียวคือการที่เขาชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้น


ผู้เขียนบรรยายภาพชีวิตไฮสคูลได้โหดร้ายมาก ตั้งแต่สตีเฟ่นเข้าเรียนปีแรกก็โดนแกล้งอย่างเบาะๆเช่นถูกเอากระดาษเขียนด่ามาแปะหลัง (เด็กฝรั่งก็เล่นมุกนี้) และการกลั่นแกล้งก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนฉันอ่านไปก็จิตตกไป ที่โหดร้ายที่สุดคือการที่ “เพื่อน” สมัยเด็กนิ่งดูดาย ไม่เข้ามาช่วยเหลือ มิหนำซ้ำยังมีส่วนในการรังแกอีก ไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กไทยมีการกลั่นแกล้งในโรงเรียนรึเปล่า แต่จำได้ว่าตอนอยู่มัธยมแล้วเพื่อนผู้ชายแกล้งกันพวกผู้หญิงก็จะเข้าไปห้าม ไม่มีปล่อยให้ใครโดนแกล้งเป็นหมาหัวเน่าอยู่คนเดียว เฮ้อ หรือว่าสมัยเราจะแก่ไปแล้ว แค่ต่อยๆกันก็แล้วก็จบเรื่อง เคยอ่านข่าวว่าเดี๋ยวนี้แกล้งกันทาง social networking อย่าง my space จนเด็กถึงกับฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้ในเรื่องยังมีประเด็น Hate crime ต่อชาวเกย์ อ่านแล้วโมโหกรอดๆ (จขบ.นี่อินและขี้โมโหจริงๆ)


แต่ขอหน่อยเถอะ...ด้วยความหมั่นไส้นายสตีเฟ่น


ขึ้นเรื่องมาก็หล่อกว่าใครเพื่อน ผมบลอนด์ยาว ตาสีฟ้า รูปร่างผอมเพรียว...จะไม่ให้หมั่นไส้ได้ยังไงยะ (เนอะ อออ.)


ที่สำคัญยังได้หนุ่มหล่อนักฟุตบอลไปครองอีก เอา excerpt ติดเรทมาเป็นตัวอย่าง...ที่จริงมีตอนที่เขียนดีกว่านี้ ซึ้งกว่านี้ โหดกว่านี้ อีกหลายบท แต่คนแปลอยากแปลตอนนี้ด้วยความชอบส่วนบุคคล! ห้ามเถียง! โฮะๆๆ
ที่ชอบน้องคริสโตเฟอร์ก็เพราะสำนวนห้วนๆสั้นๆ understatement นี่แหล่ะค่ะ





--------------------------------


แปลจากตอน The falling impossible


“เจฟฟ์จอดรถฮอนด้าริมฟุตบาท ไฟหน้ารถส่องให้เห็นโขดหินที่ทอดยาวลงไปในแม่น้ำด้านล่าง ทั้งคู่นั่งลงบนฝากระโปรงรถและจ้องมองไปที่สายน้ำ

เห็นได้ชัดว่าสตีเฟ่นไม่เคยดื่มเบียร์มาก่อนเพราะเขาค่อยๆจิบราวกับกำลังดื่มจากแก้วไวน์อย่างนั้น เจฟฟ์ต้องกลั้นหัวเราะเพราะรู้ดีว่าสตีเฟ่นจะหาว่าเขาเยาะเย้ย

“ฉันเคยเป็นเพื่อนกับพวกนั้น” จู่ๆสตีเฟ่นก็พูดขึ้น

“ใคร?”

“เมเรดิธ แบรนดอน เกร็ก...”

เจฟฟ์ได้แต่พยักหน้า

เจฟฟ์รู้สึกได้ว่าเบียร์ทำให้สตีเฟ่นเริ่มเมา “แบรนดอนกลัวนาย” เขาพูดเสียงเกือบกระซิบ

สตีเฟ่นหันขวับมามองด้วยสายตาดุดัน สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มแสยะอย่างเสียดสี

“เชื่อฉันสิ...” เจฟฟ์กล่าวต่อ “นายไม่มีทางเกลียดใครได้มากขนาดนั้นหรอกนอกซะจากว่านายจะกลัวเขา”

เจฟฟ์ได้ยินเสียงกระป๋องเบียร์ถูกเขวี้ยงทิ้งและจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกตัวว่าสตีเฟ่นกำลังเดินลงไปตามฟุตบาท บางอย่างในหัวเจฟฟ์บอกว่า ไม่ว่าสตีเฟ่นกำลังจะไปที่ไหน อย่าปล่อยให้เขาไปเด็ดขาด เจฟฟ์กำลังก้มลงหยิบกระป๋องเบียร์ที่ตกอยู่กับพื้นตอนที่เขาเห็นว่าสตีเฟ่นได้หยุดเดินห่างจากตัวรถไปไม่กี่เมตร สตีเฟ่นเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ามืดครึ้มยามราตรี... และแล้วเจฟฟ์ก็เห็นสิ่งเดียวกัน

สิ่งแรกที่เขาคิดคือเป็นไปไม่ได้

แสงสะท้อนจากเสาไฟฟ้าที่อยู่ไกลออกไปส่องให้เห็นเกล็ดสีขาวลอยล่องในอากาศ แลดูเหมือนฝูงผีเสื้อกลางคืน เจฟฟ์ยื่นมือออกไปและรู้สึกได้ถึงความชื้นกลางฝ่ามือ

“หิมะ” สตีเฟ่นพูดขึ้นพลางอ้าแขนออกและเงยหน้าขึ้น เขาหลับตาแน่นและหัวเราะออกมา

ในเสี้ยวขณะนั้นเจฟฟ์เชื่อจริงๆว่าสตีเฟ่นคือคนที่ทำให้หิมะตก ไม่ใช่สิ เขาคือเทวทูตที่โอบกอดด้วยหิมะ... ร่างสูงโปร่งที่อ้อมแขนโอบรับสิ่งเหลือเชื่อที่ตกลงจากฟากฟ้า



Warning: PG13...โอย คนแปลจะเป็นลม... เพื่อเห็นแก่หนุ่มๆที่หลงเข้ามาอ่าน เดี๋ยวเลือดสาดจันทร์สยองและคุณผู้ชายท่านอื่นจะเป็นลมตามไปด้วย ตอนที่เหลือไฮไลท์อ่านเอาแล้วกันนะคะจะได้ไม่ประเจิดประเจ้อ^^


เจฟฟ์ค่อยๆเอื้อมมือรวบเอวสตีเฟ่นจากด้านหลัง เขาไม่ได้กอดสตีเฟ่นจนกระทั่งสตีเฟ่นเงยหน้าขึ้นช้าๆและลืมตา สายตาทั้งคู่พร่ามัวด้วยหิมะ เจฟฟ์รู้สึกว่าสตีเฟ่นเกร็งไปขณะหนึ่งก่อนที่เขาจะเอนหลังลงให้ร่างของเจฟฟ์รับน้ำหนักตัวไว้

เจฟฟ์แนบปากลงที่ต้นคอสตีเฟ่นพร้อมลมหายใจร้อนผ่าว เขาไม่ขยับตัวขณะที่สตีเฟ่นเคลื่อนศีรษะมาด้านหลังจนพิงอยู่กับไหล่ของเขา

ริมฝีปากล่างของเขาสัมผัสกับปากของสตีเฟ่น เกือบครึ่งนาทีผ่านไปกว่าที่สตีเฟ่นจะอ้าปาก... และชั่วขณะใหญ่ๆที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนลมหายใจกัน

เด็กหนุ่มทั้งสองรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าการได้สูญหายไปในตัวอีกคนหนึ่งและได้เป็นอิสระจากตัวเองนั้นเป็นเช่นไร



โฮะๆๆ หัวเราะสะใจ เพื่อนบล็อกนักแปลคนไหนรับงานติดเรทมา ส่งให้อปอช.แปลได้นะคะ รับรองจะใส่สีตีไข่ให้อย่างดี ประมาณว่า... “เธอเงื้อมือจะตบหน้าท่านชี้ค แต่เขาก็คว้ามือเรียวบางของเธอไว้ (ทำไมนางเอกต้องมือเรียวบางทุกคนฟร่ะ อป.พิมพ์ด้วยอุ้งตีนแมว) เธอเห็นประกายปรารถนาในสายตาเขา ท่านชี้ครวบร่างบางมากอดไว้ (เออ ทุกอย่างของนางเอกมันต้องบาง) ก่อนที่จะบดขยี้ริมฝีปากของเขาลงบนปากบางนั้น (บาง บางเข้าไป) ทั้งคู่ล้มตัวลงบนเตียง... กา กา กา... พระอาทิตย์ขึ้น ตื่นมาเป็นตอนเช้า”




Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 8:43:18 น. 40 comments
Counter : 1571 Pageviews.

 
^
(คิดในใจเสียงดัง)

อออ.อ่านแล้ว... ไหน...ไม่เห็นมีอะไรเลย


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:48:42 น.  

 
Dark tone ทั้งเรื่อง

^
^
แต่ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ทำไมอ่าน blog นี้จบปุ๊บ หัวเราะก๊ากปั๊บ


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:11:17 น.  

 



Morning เอา Expresso มาฝาก


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:36:25 น.  

 
กร๊ากกกกกกกกกกกก

เออนะ ทำไมบาง

ไม่มีงี้มั่งเหรอ
"หญิงร่างยักษ์เงื้อมือจะตบหน้าท่านชี้คมนุษย์ขน แต่เขาก็คว้ามืออวบอ้วนของเธอไว้ เธอเห็นประกายปรารถนาในสายตาเขาผ่านเงาหนวดเคราดกดำราวกับป่านอรวีเจียนวู้ด ท่านชี้ครวบร่างตันๆ ของเธอมากอดไว้ ก่อนที่จะบดขยี้ริมฝีปากของเขาลงบนปากคู่หนานั้น ทั้งคู่ล้มตัวลงบนเตียงขนาดซุปเปอร์คิงส์ไซส์ เสียงดังสนั่นประหนึ่งรถพ่วงสองคันล้มดังสะท้านไปทั่วทะเลทราย... กา กา กา... พระอาทิตย์ขึ้น ตื่นมาเป็นตอนเช้า

ว่าแต่จะมีใครซื้อมั้ยนะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:56:24 น.  

 
^
ไม่ดาร์กนะ สีรุ้ง
เพศไหนก็ได้ ถ้าคนไทยรักกัน *เบือนหน้าไปโอ๊ก

ขึ้นเรื่องมาก็หล่อกว่าใครเพื่อน ผมบลอนด์ยาว ตาสีฟ้า รูปร่างผอมเพรียว...จะไม่ให้หมั่นไส้ได้ยังไงยะ
ช่าย ทำให้คิดถึงที่ดูสัมภาษณ์ Ed Norton กับ Liv Taylor ตอนโปรโมท Hulk แล้ว Liv บอกว่าเวลาคุณ Ed ถอดเสื้อใครๆ ก็จะหันมามองว่าช่างเป็นเรือนร่างที่สวยงาม นึกถึงนังสตีเฟ่นทันที (คำว่านังแต่ไม่ได้รังเกียจนะคะ คือถ้าไม่ชอบอะไร เราจะไม่แตะเลย เรียกนังนี่เอ็นดูนะ) ก็เธอแสนจะ submissive ขอใช้คำฝาหรั่งนะ

spoil มากจนไม่ต้องอ่าน

คิดถึงตอนที่แฟนคนนึงบอกว่า "เราเลิกกันเถอะเพราะเธอไม่ dominant พอสำหรับชั้น" คิดดูสิ ขนาด "เธอ"ยังบอกว่าไม่ dominant แล้วสตีเฟ่นจะ submissive ขนาดไหน

ความผิดอีกอย่างคือ นอกจากจะพึงใจเพศเดียวกัน เธอยังได้พวกหน้าตาดีไปครอบครองโดยแทบไม่ต้องกระดิกนิ้วด้วย เพราะเขามาหาเธอเอง อยากจะกรี๊ด -*-

ชอบแฟนคนแรกมากกว่า น่ารักดี ไม่ค่อยชอบคนสุดท้าย (เพราะมันไม่ตาย ฮา) ไม่รู้ทำไมสิ ตอนอ่านไปเห็นหน้าคนนี้เป็นคนที่ทำให้สตีเฟ่นเจ็บหลัง *ม้วนเล็กน้อย


แต่พี่ว่าหน้ายับไปนิดนึงนะ

เม้นท์ยาวพอยัง เดี๋ยวกลับมาใหม่ ฮี่ๆ


โดย: อออ (อั๊งอังอา ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:01:33 น.  

 
ู^
^
ก๊ากกกก
มันก็กลายเป็นเรื่องตลกมากกว่าเรื่องรักชวนฝัน


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:15:21 น.  

 
^
^
version หมีชิมิ 3 'Or?
เราว่ามันเป็น "รักชวนขำ" มากกว่าอ่ะ ดันมาอ่านตอนเคี้ยวแซนวิชพอดี ขำจนแทบสำลัก



โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:47:03 น.  

 
^
เวอร์ชั่นหมีขำก๊าก ถูกต้องแล้ว TBH
จำได้ว่าเคยเห็นนิยายรักชวนฝันแบบที่นางเอกอวบมาก แต่จำไ้ม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร - -

ฺBook slut กร๊าก ถูกทุกข้อ


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:10:42 น.  

 
^
ยานแม่ถึงอออ.

เจ็บหลังเดี๋ยวก็หาย หุๆ

^
รูปนี้หน้าไม่ค่อยยับนะ (วันนี้มันวันอะไรเนี่ย ทำไมทุกคนดูหื่นๆ =_= ตกกลางคืนจะกลายเป็นแวมไพร์กันไปหมดรึเปล่า)

Photobucket


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:07:10 น.  

 
ทำไมเรื่องนี้ไม่มีแคสติ้งฟระ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:39:20 น.  

 
แบบ ช/ช ดูแล้วขนลุกซู่ไงไม่รู้

เรื่องนี้มีเงามืดๆเน้นผูกปมไว้ตอนเด็ก แล้วลากมาคลายอีกที ยังดูไม่โหดเท่าไหร่(มั้ง)
ตอนทะเลาะกะเพื่อนตอนมัธยมเหรอ ก็ต่อยกันซักพักก็จบแล้ว ง่ายดี เป็นเพื่อนกันต่อ
ขอผ่านเพราะเรื่องเป็น AL กัวอ่านแล้วขนลุกสู้ เอ้ย ซู่

ช่วงสุดท้ายเขียนได้ติดเรทดีจิง ไม่สันทัดสุดๆ เห็นที่หมีเขียนไว้ยิ่งฮา เอามั่ง ถ้ามีเวอร์ชั่นบากิคงเป็นงี้

"เธอตวัดขาหลังหมายจะฟาดให้เข้าคางท่านชี้ค แต่เขาก็หยุดเท้าอันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อของเธอไว้ด้วยปลายนิ้ว เธอเห็นประกายสัญชาตญาณสัตว์ป่าในสายตาเขา ท่านชี้คกระชากร่างแข็งแกร่งของเธอมารัดติดไว้ด้วยกล้ามเนื้อปิศาจ ก่อนที่จะบดขย้ำริมฝีปากของเขาลงบนปากสั่นๆของเหยื่อนั้น ทั้งคู่ล้มตัวลงกลางพงไพร ... กา กา กา... พระอาทิตย์ขึ้น ตื่นมาเป็นตอนเช้า"


โดย: dingadinga วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:14:20 น.  

 
^
^
กร๊ากกกก เวอร์ชั่นบากิ


อป - ไปรษณีย์เอาหนังสือมาส่งแล้วนะ
แต๊งกิ้วเมี้ยวๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:19:24 น.  

 
^
กร๊ากกก ด้วยคน

แมวดิงก้า - นั่นมันพิคเคิ่ลแล้วไม่ใช่ท่านชี้ค (เอ๊ะ แต่มีกล้ามเนื้อปีศาจข้างหลัง หรือว่าจะเป็นยูจิโร่หว่า)


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:01:53 น.  

 
ู^
ูู^
กร๊ากกก

อป กลางคืนอาจเป็นแวมไพร์แบบ Blood last vampire


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:07:52 น.  

 
คะ คะ คะ คุยเรื่องอะไรกันนี่

ฝากบอกสตีเฟนกับหนุ่มๆของอปอชด้วยนะว่าฉากวี้ดวิ้วถูก "จำเลยรักทะเลทรายเถื่อน" กับ "ยัยบ้ากล้าม กับนายล่ำบึ้ก" ขโมยซีนไปหมดแล้ว -_-"


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:36:38 น.  

 
ด่วนน ขอเวอร์ชั่นเลือดสาดจันทร์สยอง เอาแบบภาคผู้กำกับหนังคนโปรดนะตะเอง

หง่ะ ไม่ต้องเอาท่าน Ingmar เหรออะไรอาร์ตเฮาส์มานะ เดี๋ยวชี้คกับนางเอกมองหน้ากันสามชั่วโมง ใบไม้ร่วงแล้วร่วงอีก หมาเดินผ่านหนึ่งตัว ไม่ต้องตบจูบกันพอดี

เวอร์ชั่นคาซาบลังก้า ท่านชี้คมีเงาบังหน้าครึ่งนึง "ทะเลทรายมีอยู่ทั่วโลก ทำไมนังนี้ต้องหลงมาในถิ่นตรูด้วยฟะ" แล้วก็ตบจูบแบบนัวร์ๆ


โดย: ยานแม่ถึงBloodyMonday (apple_cinnamon ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:48:27 น.  

 
มิน่า ปกหนังสือมีนามสกุลใหญ่โตมโหฬารจริงๆ ที่แท้ก็เป็นทายาทเจ้าแม่แวมไพร์นี้เองงง ^^

อ่านเรื่องย่อหลังปกนี้มัน misleading จริงๆครับ ให้ความรู้สึกเหมือนดูโปสเตอร์ "รักแห่งสยาม" แล้วเข้าไปดูแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ 55+

พออ่านบทที่แปลมาให้อ่านแล้ว น่าจะดูละเมียดละมัยดีนะครับ ก่อนที่ทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนเป็น...ฉากม้าหิน โอ้ววว ไม่เป็นลมแต่ตกกะใจแทน 55+ (แต่ถ้าให้อ่านก็อ่านได้นะ แหะๆๆ พอได้ดู Shortbus แล้ว อะไรๆก็เบสิคไปหมดล่ะ 55+)

เห็นอปอช.ให้เม้นท์เวอร์ชั่นของเรา ก็เลยแต่งเวอร์ชั่น Evil Dead ซะเลย “เธออ้าปากหวังที่จะปล่อยอ๊วกสีเขียวน้ำทะเลใส่หน้าของแอช แต่เขาก็คว้าเลื่อยไฟฟ้าขึ้นมาบั่นหัวเธอได้ทันท่วงที ระหว่างที่หัวกำลังทำการสละยานแม่ เธอก็เห็นประกายตาที่มุ่งมั่นของเขา แอชหยิบหัวอันบอบบางที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศมากอดไว้ ก่อนที่จะบดขยี้ริมฝีปากของเธอด้วยปืนลูกซอง หรือที่เขาเรียกติดปากว่า "บูมสติ๊ก" ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืน ทั้งคู่ล้มตัวลงในหลุมศพ... กา กา กา... พระอาทิตย์ขึ้น เผยให้เห็นแอชและร่างอันไร้ศรีษะของเธอ”

Evil Dead 2: Dead by Dawn (555+)


โดย: เลือดสาดจันทร์สยิว เอ้ย สยอง... IP: 58.137.81.98 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:33:12 น.  

 
เห็นว่าแคสติ้ง เจฟฟ์ กันไปแล้ว ผู้กำกับ BdMd ขอเป็นป๋าดัน (อีกครั้ง)ให้กับนักแสดงคนนี้ รับบทเป็น สตีเฟ่น...Joseph Gordon-Levitt ^^





โดย: BloodyMonday วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:46:57 น.  

 
“เธอเงื้อมือจะตบหน้าท่านชี้ค แต่เขาก็คว้ามือเรียวบางของเธอไว้ เธอเห็นประกายปรารถนาในสายตาเขา ท่านชี้ครวบร่างบางมากอดไว้ ก่อนที่จะบดขยี้ริมฝีปากของเขาลงบนปากบางนั้น ทั้งคู่ล้มตัวลงบนเตียง...
^
^
^
//กล้องแพนไปที่โคมไฟ

วันหลังรีวิวนิยายติดเรทเลยนะ
จะรีบมาก่อนพวกอิป้าๆ ข้างบน

=)


โดย: hunjang วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:59:21 น.  

 
^
^
ใครบอก กล้องต้องทำหน้าชัดหลังเบลอ
เจาะซูมแจกันดอกไม้
สักพักดอกไม้ก็เขย่าๆ กึงๆๆๆ
แล้วมันก็หล่น... แผละ... ร่วงจากก้าน อะเจ๊ยยยย


ตัดฉากมาที่นังบอบบางนั่นนั่งสูบบุหรี่ปลายเตียง
ส่วนท่านชี้คกัดผ้าห่ม ร้องไห้กระซิกๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:34:27 น.  

 
ดราม่าจริงๆ
แต่น่าอ่านมาก


โดย: grappa วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:40:49 น.  

 
^
^
เออ ใช่ๆ ฉากดอกไม้ร่วงจากแจกันที่หมีเขียนล่าสุดเนี่ย พี่เคยอ่านเจอในการ์ตูนรันม่า 1/2 จำความฮาได้จนถึงทุกวันนี้

แต่ชอบที่บรรยายท่าทางท่านชีคกับนังบาง 2 บรรทัดท้ายที่สุด ดีนะที่อ่านตอนที่ปากว่างๆ ไม่ได้ทาน/ดื่มอะไร ไม่งั้นสงสัยสำลัก/ติดคอตาย


โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:49:04 น.  

 
อ๊างงงงงงงง

แอบอ่านที่ต้องไฮไลท์นิดโหน่ย (แต่ไม่อ่านตรงที่บอกสปอยล์) อ๊างงงงง



สรุปแล้วแม่-ลูกตระกูลข้าวนี้ ทำอาหารอร่อยใช้ได้ชิมิคะ



เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้กินทาคุมิ คิดถึงไข่หวาน (รู้สึกดีเล็กน้อยที่ไข่หวานหมดวันที่เราไม่ได้ไป กร๊ากกกก) คิดถึงของหวานที่นั่น อ๊างงงง


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:45:31 น.  

 
เอ็นทรี่นี้ ไฮไลท์เค้าอยู่ที่คอมเม้นท์จริงๆ

แต่ละเวอร์ชั่นก็นะ... ทีแรกกะว่าจะแต่งแนวโหดๆ จิตๆ อ้าว คุณ BdMd ตัดหน้าไปซะแล้ว งั้นผมแต่งแบบนี้ก็แล้วกัน

“เธอเงื้อมือจะตบหน้าท่านชี้ค แต่ท่านชี๊คเงื้อมือขึ้นสู้พร้อมถลึงตากลับ เธอเห็นประกายริษยาในแววตาของเขา ในขณะที่เธอชะงักเพราะเกิดความลังเลใจ ท่านชี้คก็คว้าข้อมือพร้อมกับกระชากร่างของเธอเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างกระชากผมเธอจนใบหน้าหงาย ท่านชี๊คจ้องมองเธออยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะเหวี่ยงร่างเธอขึ้นไปบนเตียง สะบัดบ๊อบ และหันหลังเดินจากไป ไม่ใยดีกับร่างแบบบาง ที่นอนสะอึกสะอื้นร่ำไห้อย่างน่าเวทนา”

มันจะออกทะเลไปใหญ่แล้วมั้งนี่... 5555++


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:09:37 น.  

 
^
"ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าหล่อนดังปัง ท่านชี้คก็สะบัดบ๊อบ หันมาพูดช้าๆชัดๆว่า ฝันไม่เถอะย่ะ นังชะนี!"

แง๊วว เวอร์ชั่นคุณแฟนผมน่ากลัวที่สุดเลย


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:09:52 น.  

 
น่าอ่านจังค่ะ มาจดไว้ก่อน มีโอกาสต้องอ่านให้ได้

สำหรับ ' แมวน้อยอยากนิพพาน ' หวานเย็นไม่มั่นใจว่าใครจะร้องไห้เพราะฉากสุดท้ายบ้างหรือเปล่า แต่หวานเย็นไม่ร้องไห้ เพราะรู้ดีว่าวาสนาจากไปอย่างเป็นสุข เลยไม่ร้องค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:16:48 น.  

 
^
^
เอริ่ม นี้มันใกล้จะเป็นแบบกระทู้ของ "หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ" ในพันติ๊บแล้วนะ 55+

BTW, I think this flick might serve your appetite (craving for the taste of Jared Leto, an emo boy 55+)



Plot
Film takes place in the year 2092, a time when Mars is a vacation spot. Nemo Nobody is a 120-year-old man who is the last mortal among humans who have become immortal due to scientific advances. He is a man who discovers that if he makes no choices, he gets to enjoy the fruits of all possible realities. When Nemo is on his deathbed, he reviews the three possible existences and marriages he might have experienced.

ปอลอ. นอกจากตัวหนังที่ไซไฟจ๋าแล้ว เราก็ยังชอบไอเดียชิ้นหนึ่งจริงๆ โดยเฉพาะการที่เขาค้นพบว่า "การตัดสินใจไม่เลือกเลยอะไรในชีวิต เขาก็จะได้ลิ้มรสความหอมหวานของสิ่งเป็นไปได้มากมาย ที่รอตัวเองอยู่ในอนาคต"


โดย: BloodyMonday วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:17:01 น.  

 
^
หนังคุณเลือดสาดจันทร์สยอง (ชอบชื่อไทย 555) น่าสนจัง เป็นหนังฝรั่งเศสเหรอคะ


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:04:48 น.  

 
อ่านว่าชไวเกอร์อ่ะ ว่าแต่ไปขุดมาจากไหนเนี่ย

ฝากเยี่ยมเบบี๋แพนด้าด้วย อย่าเอาไปทำอาหารซะก่อนล่ะ เกิ๊กกกก


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:51:12 น.  

 
^
^
เป็นหนัง multi-nation ครับ ผกก.คือคนเบลเยี่ยม ถ่ายทำที่เบลเยี่ยมและแคนาดา แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักและภาษาฝรั่งเศสเป็นรอง (ทำหยั่งกับตัวเองดูแล้ว แหะๆ)

พูดถึงปีนี้แล้ว ก็ยังมีหนังไซไฟบริหารเซลล์สมองให้ดูกันอีกเรื่องนะครับ นั้นก็คือ Moon ที่เล่าถึงนักบินอวกาศที่อยู่ในอวกาศคนเดียวนานนนนนเกินไปหน่อย... เอาไว้จะพูดถึงในคราวต่อไป ^^ (พูดเสมือนกับเป็นบล็อคตัวเอง 555+)


โดย: BdMd IP: 124.120.63.108 วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:02:20 น.  

 
โอย ขำคุณแพนด้าสุดๆเลยค่ะ 555


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:25:10 น.  

 
อปอช. เม้นท์ที่ 2 นี่คิดเหมือนกันเลยอ่ะคะ
มืดๆ หม่นๆ แต่ว่ารีวิวซะเราขำๆ ฮาๆ ... ตามสไตล์
อปอช.ของแท้เลยจ้ะ


โดย: JewNid วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:03:05 น.  

 
สวัสดีค่า

อ๊าย ๆๆๆ >////<
จริงด้วยค่ะ อะไร ๆ ของนางเอกก็ต้องบาง...
แต่ เอ...ริมฝีปากอวบอิ่มก็มีนะคะ



โดย: Lavinia วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:58:14 น.  

 
เอ๊ะ รู้สึกว่าเราคุยแบบ unrated กันตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ 555+

เอริ่ม จะบอกว่าไลท์เซเบอร์ (เรียกว่าไลท์สเปียร์ดีกว่าไหม -,.-') ของพี่มาร์คก้ามปูนั้นถูกทำขึ้นมานะครับ (เลยไม่นับ หุหุ) คือถ้ามันขนาดนั้นจริงๆ เราว่าพี่มาร์คแกเดินผิดเส้นทางแล้วล่ะ 55+

เอนี่เวย์ ถือวิสาสะลงตย.หนัง (อีกแล้ววว) เรื่อง Vampire Girl Vs. Frankenstein Girl นะครับ เพื่ออปอช.อยากติดตามผลงานของผกก.คนนี้แบบจริงจัง ^^ ปอลอ. ขอเตือนว่าตัวอย่างนี้เข้าข่าย NSFW (not safe for work) นะ...



It’s a duel to the death between schoolgirl vampires, reanimated corpses and a Dr. Frankenstein who teaches science and has a lab underneath the gym. The movie is filled with bizarro send-ups of Japanese culture, Chinese culture and the shallow Japanese obsession with African American culture.


โดย: BloodyMonday วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:14:57 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ค่าคุณอป.

อ่านคอมเม้นท์แล้วฮาแตกมากเลยค่ะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว เอาอีกๆๆๆ


โดย: arcoiris วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:43:30 น.  

 
เราไม่ค่อยได้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเลยอะค่ะ


โดย: fonkoon วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:22:44 น.  

 
แปะเพลงไม่ได้ งั้นก็แปะคอนเสิร์ต unplugged ซะเลย หุหุ หน้าพี่ Bret Michaels นักร้องนำ นี้ดูแล้วคล้ายกับ Axl Rose เลยเน๊อะ ^^





โดย: BloodyMonday วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:32:02 น.  

 
^
มีเค้าๆ

somebody bring back the 80's!!!

axl Pictures, Images and Photos


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:40:08 น.  

 
มารีเควสแบบนี้ก็ต้องสนองด้วย Mother of all rock ballad ซะแล้ว 555+

Steelheart ถือว่าเป็นวง glam metal รุ่นสุดท้ายก่อนที่จะโดน grunge ยึดครองตลาดยุค 90 ไปจนหมด ซึ่งความพิเศษของวงนี้ก็อยู่ที่เสียงร้องระดับ super falsetto ของนักร้องนำ Michael Matijevic (เผลอๆเสียงของ Axl ยังขึ้นไม่ถึงขนาดนี้เลยนะ หุหุ ^^)






อ่านเจอแฟนเพลงคนหนึ่ง ได้บรรยายเสียงเค้าเอาไว้แบบจนเห็นภาพเลยว่า Miljenko voice is like the lemon slice floating in super-premium vodka poured straight up from the freezer into chilled crystal...it hurts so, so good!


โดย: BloodyMonday วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:28:14 น.  

 
^จิ้มไปยาวๆ ไม่ใช่พิคเคิ่ลหรอก เค้าจินถึงยูจิโร่นั่นแหละ พิคเคิ่ลไม่มีอารมณ์โรแมนติคแบบนี้แหงๆ (เรื่องมันโรแมนติคตรงไหน)

ว่าแต่พอเลื่อนมาอ่านของคนอื่นเรื่อยๆ อื่ม เอ่อม ไปซะแล้ว
ขอไว้อาลัยสงบนิ่งครึ่งนาที...

ช่วงของยุค 80 ฟังแต่เทปของพี่ชายแฮะ จนมาคลั่งบีเทิ่ลส์ ก็ลืมวงเมทัลร็อคไปชั่วขณะ

^
ขอจิ้มไปอีกทีที่ คห 34 ของคุณจันทร์เลือดสาด น่าดูมากเมี๊ยวว หาแบบเต็มได้อย่างไร (แล้วจะมีซับมั๊ยอ่ะ)


โดย: dingadinga วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:12:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apple_cinnamon
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




forbidden fruit...




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539
ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


my love...
PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


LATEST BLOG
Quarter Share: กะลาสีอวกาศ






is reading:
Photobucket
Friends' blogs
[Add apple_cinnamon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.