เราอ่านเรื่องนี้ในจังหวะใกล้ๆ กับการ์ตูนเจ้าหญิงจันทราอะ เลยไม่ค่อยซาบซึ้งกับเล่มนี้ มาโฮกเพราะ "เถ้าถ่านแห่งวารวัน" มากกว่า ร้าวราน ร้าวราน

ตอนดูหนัง remains of the day ก็เศร้าเหมือนกันค่ะหมี ชอบแอนโทนี่ ฮ็อปกินส์ ตีบทแตกกระจุย

ยังไม่ได้อ่าน อยาก(มีเวลา)อ่าน

ชอบใจคนลอก ให้เรามีเรื่องอัพบล็อก ฮ่าๆๆๆ ยังคงไม่อัพเรื่องงานหนังสือต่อไป

อ่านเรื่องย่อแล้วสงสัยนิดหน่อยค่ะ คนแต่งเป็นคนญี่ปุ่น แต่ทำไมชื่อนางเอกดูฝรั่งจัง

ส่วนเรื่องโคมรักเมื่อวันวานนี่เดาความลับค่อนข้างยากนะ พอแพรรู้แล้วถึงกับอึ้งไป 10 วินาทีเลยค่ะ

เคยคิดจะอ่านเรื่องนี้อยู่หลายทีแต่สุดท้ายก็ไม่ได้อ่านสักที เห็นหลายคนชมจังเลย

เรื่อง MiddleSex นี่ แอบเครียดเหมือนกันเพราะยาวเหลือเกิน ถ้าไม่ได้อ่านในร้านกาแฟมีหวังไม่จบแหงๆ

twilight แป๊บเดียวก็จบแล้ว

อืมม จำเนื้อเรื่องของ Remains... ไม่ได้แล้วครับ แต่ก็จำได้ตรงที่มันเป็นภาพยนตร์พีเรียดของ เจมส์ ไอวอรี่ย์ ที่ชอบเรื่องหนึ่งเลย ^^ (แต่ช่วงนี้แกหายจากเรดาร์ไปเลยแฮ่ะ)

ส่วน Twilight นวนิยายแวมไพร์ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ ก็คงรอภาพยนตร์เลยเหมือนกันครับ (เห็นหนังสือหนาเหมือนคัมภีร์ก็เลยถอย แถมอาจจะเกิดความหมั่นไส้และทนการบรรยายความงดงามของ เอ็ดเวิร์ด ไม่ได้ 55+)

ส่วนเล่มนี้.......ก็คงบอกได้แต่ว่าไม่ใช่แนวที่อ่านครับ (แต่ถ้าทำเป็นภาพยนตร์ก็คงสนใจมากขึ้น แหะๆๆ)

อิสมาเอล เมอร์แชนท์ ครับ ที่เสียชีวิตไปแล้ว (รู้สึกว่าเรื่องสุดท้ายที่ co กันน่าจะเป็น The White Countess นะครับ) ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวอีกเลย พอมุ่งหน้าไปที่ imdb ก็เห็นเรื่องล่าสุดคือ The City of Your Final Destination ที่เรายังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย (แต่ดาราดังๆรวมตัวกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเหมือนกันแฮ่ะ)

Day of the Dead ไม่เสี่ยงไปดูในโรงครับ (แต่เห็นแบบนี้ แค่แผ่นก็ไม่รู้ว่าจะมีแรงใจดูรึเปล่า 55+) ลุงโรเมโร่เค้าคงไม่สนใจแล้วละครับ ไล่รีเมคก็ไล่ไป เพราะแกก็มุ่งหน้าทำ dead series ออกมาอีกเรื่อยๆอยู่แล้ว (ซึ่งตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำ Island of the Dead ซึ่งเป็นชื่อที่ยังไม่เป็นทางการอยู่)

แผนภาคต่อของ Blade Runner อ่านผ่านตาเหมือนกันครับ เห็นนักเขียนสองคนที่เขียนบทเรื่อง Eagle Eye ได้เขียนดราฟท์เอาไว้ แต่จนบัดนี้ข่าวก็ยังเงียบสนิทอยู่ (ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็คงเป็นไปได้ยาก) ส่วนต้นฉบับนั้น ถ้าคุณอบเชยยังไม่ได้ดู ขอแนะนำอย่างรุนแรงครับ แนะนำให้ดูเวอร์ชั่นที่ออกมาล่าสุด (The Final Cut) เพราะเราว่าเป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วล่ะ ^^

"เจ้าหญิงจันทรา" เป็นเรื่องของชิมิสึ เรโกะ (คนเขียน moon child อะ)

ลองไปดูที่นี่เน้อ //www.animenewsnetwork.com/encyclopedia/manga.php?id=4360 กลัวสปอยล์ เรื่องมันพล็อตคล้ายกับเนเวอร์เล็ทมีโกเลย (เฉพาะตอนต้นของเจ้าหญิงจันทรานะ ตอนหลังๆ จะเริ่มออกไปแนวไซไฟ)

+ แหะๆ จะบอกคุณน้องแอมว่า วรรณกรรม เป็น 1 ในสิ่งที่พี่ 'เอ๊าท์' มากๆ เลยอ่ะครับ (เมื่อก่อนตอนเด็กๆ อ่านอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังชอบและอยากจะอ่าน แต่ไม่มีโอกาสได้อ่านนานมากแล้ว) ... ดังนั้น ถ้าคุยเรื่องวรรณกรรม พี่คงไม่ค่อยมีข้อมูลมาเสวนาด้วยเท่าไหร่เน้อ

+ ทุกวันนี้ ที่ยังอัพเดทข้อมูลอยู่ทุกสัปดาห์ จะเหลือ (เวลา) แค่หนัง (ค่อนข้าง) ชนโรง กับนิตยสารบนแผง (และอาจรวมถึงผลฟุตบอล และการท่องเที่ยว) เท่านั้นแหละครับ ... อีกหลายอย่าง อย่างวรรณกรรม, การ์ตูน, เกมส์ ฯลฯ ได้แต่ละทิ้งไปด้วยความเสียดาย เพราะไม่มีเวลาในชีวิตเหลือพออ่ะครับ แหะๆ

+ พี่ยังไม่เคยดู The remains of the day เลยจ้า ไว้มีโอกาสจะลองหามาดูครับ

+ ก็ยินดีที่ได้รู้จัก (ตัวเป็นๆ - ก่อนจะรู้จักกันผ่านบล็อก) นะครับผม

แง้ว ทำตาปิ๊งๆ แบบเจ้าเหมียวรองเท้าบู๊ทก็ยอมโดนหลอก

แวะมาทักทายค่ะ อ่านประตูที่ปิดตายจบรึยังคะ ถ้าสนุกเดี๋ยวไปซื้อมาอ่านมั่ง

กลับลำปางละน้า โฮก

Guardian คอยจ้องมองเหล่าเด็กๆจากหน้าต่างตึกสูง

ได้อารมณ์ดีจังนะครับ หนังสือเล่มนี้ผมไม่เคยอ่าน แต่ The remains of the day ดูแล้ว ซึ้งแล้ว เช่นกันฮะ

อยากอ่านแต่ไม่มีเงินซื้อเล่มภาษาอังกฤษค่ะ รอมีโอกาสได้ไปร้านมือ 2 จะแวะไปดูอีกรอบ

อ่านรีวิวแล้วผูกใจรักริอยากอ่านด้วย 3 ประโยค

1. แต่เขาอยากจะ “จดจำ” ความทรงจำของเธอไว้เป็นของตัวเอง
2. นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอรู้ถึงอำนาจของอดีต
3. ร้องไห้ให้กับอดีตที่ไม่ยอมปล่อยเธอไป

ประโยคแรกน่าสนใจตรงที่ผู้ชายคนนึงจะอยากได้ความทรงจำของหญิงสวาวอีกคนไปเป็นของตัวเองทำไม?
อ่านแล้วโรแมนติกแบบมีเลสนัยดีเหลือเกิน 555+

ประโยค 2 ...อ่า...พละพลังอำนาจของอดีตมันมากมายมหาศาลนัก และจากเรื่องย่อๆ หนังสือเล่มนี้คงจะเน้นย้ำจุดนี้ได้อย่างน่าอ่าน

ประโยคสุดท้าย ...อดีตใจร้ายทำไมไม่ปล่อยเธอไป! 555+
ไม่หรอกครับผมชอบสำนวนของประโยคนี้ และอยากจะรู้เล็กๆว่า เรื่องราวที่ทำให้คุณร้องไห้...จะเป็นยังไงนะ ^^

ปล
เมื่อไหร่ผมจะรีวิวหนังสือได้เนื้อ ได้น้ำ และได้อารมณ์ชวนให้อยากอ่านแบบนี้มั่งนะ
ผมรีวิวทีไร ยาวเป็นหางเว้า แถมอ่านจบแล้วมึนๆ ว่าตกลงพูดถึงหนังสือหรือเปล่าทุกที 555+

ช่วงนี้เราห่างหายจากนิยายต่างประเทศ
หันมาคลั่งวรรณคดีไทยแทน...
อ่านแล้ว อ่านอีก...

อ่านแล้วใจละลายจริงๆ

วันหยุดที่ผ่านมาป่วย แย่จริงๆครับ T-T (งานหนังสือที่แปลนเอาไว้ก็ไม่ได้ไป)

Demons นี้หนังของ Lamberto Bava (ลูกชายของเจ้าพ่อหนังสยองขวัญจากอิตาลี Mario Bava) รึเปล่าครับ อืมม รสนิยมนี้แปลกดีจริงๆ 55+ (ของเราต้องผสมความฮาเข้าไปด้วย อย่าง Evil Dead ซีรี่ย์นี้ก็ใช่เลย ^^) ส่วนเพลง White Wedding นี้ของ Billy Idol ใช่ไหมครับ ถ้าใช่นี้ก็เข้ากับธีมเลย เพราะเอ็มวีของเขาก็เกี่ยวกับซอมบี้เหมือนกัน (ซึ่งก็ดูแปลก และสมกับเป็นยุค 80's จริงๆ...)

มีเพลงไหนแนะนำของ
อดัม โคเฮน บ้างคะ
อยากลองฟัง

คุณจีระนันท์ นั้นเป็นนักต่อสู้ตัวจริงค่ะ
น่าสนใจค่ะ

มีแปลมั้ยนี่

เราอ่านรีเมนฯ แล้ว แต่อ่านเวอร์ชั่นแปลไทยนะ

อ่านแล้ว..อยากอ่าน แต่..ง่า..มีแปลไทยมั้ยอ้ะ

evil dead the musical น่าสนใจจังครับ แต่พวกมิวสิเคิลนี้ ถ้าไม่อัดลงดีวีดี เราเองก็คงไม่มีโอกาสได้ดูแหละ T-T (ไม่รู้คุณอบเชยเคยดู Spamalot รึเปล่า คืออยากกกดูมากเลยครับ)

พูดถึงหนังที่อแด๊ปเป็นมิวสิเคิล The Fly ของ โครเนนเบิร์ค ก็น่าดูนะครับ ที่น่าดูก็เพราะว่า โครเนนเบิร์ค เป็นผู้อำนวยการสร้างเองซะด้วย (มันจะแปลกแค่ไหนหนอ...) ^^

Hey, I have some recommendation for you ^^

They already made documentary in a vein of Bigger Stronger Faster* for women (which I haven't seen it yet), it's called "America the Beautiful", which is about the guilt some women feel because they don't look like the models in fashion magazines.

Anyway, I will excerpt some words in Roger Ebert's review for you...

"...The Roberts doc focuses on Gerren Taylor, who at 12 achieved fame as a child who looked like an adult fashion model. A year later, she was dropped by those who cast for runway models, but she tried to make a comeback. At 13..."

Isn't that terrifying? I mean what kind of the world we live in? Everybody want to be Kate Moss like you said, but they don't even consider their figure. Why can't people satisfy in what they are? Answer, because what's good in oursleves, right? (oh, humanity)

Note to self: Get off work NOW, I'm too serious to do anything le haha+

น่าอ่านจังค่ะ

ปกเค๊าก็สวย...นิ่งแอบเหงา

แหงะ งานหนังสือรอบนี้มีขายแต่นิยายเศร้ากันเหรอเนี่ย

ขออนุญาตแอดเป็นเพื่อนด้วยคนนะคะ

++++++++++++++++

เราก็ชอบปกญี่ปุ่นนะคะ ที่เป็นรูปถ่ายไม่ใช่ภาพวาดหนะคะ เราว่ามันสวย ดูครีเอทดี
แต่ปกของบลิสเราเองก็ชอบนะคะ มันสื่อความหมายออกมาได้ดีอะคะ

ตอนแรกทีเห็นรูปคนเขียนนี่ เราเองก็ไม่เชื่อเหมือนกันคะ เพราะหล่อเกิน 55

ถ้าออกมาเป็นเวอร์ชันหนังโรง เราคนหนึ่งหละที่ขอผ่าน ไม่อยากน้ำตาท่วมโรง แหะๆ

ตอนถ่ายสดผมได้ดูเหมือนกันครับ 555+ ดูกี่ทีก็ยังตลกอยู่...

วันนี้ไปดู Tropic Thunder มา ก็.....ไม่เลวนะครับ เป็นหนังตลก/แอ็กชั่นที่มีไอเดียเข้าท่า แต่ดูเหมือนว่าทีมงานในกองถ่าย จะรู้สึกสนุกกว่าคนนั่งชมอีกนะเนี่ย เอาไว้จะเขียนถึง (แบบไม่ยาว) ในวันสองวันนี้นะครับ ^^

สงสัยจะอ่านหนังสือเพลิน

แพรมาทวงให้อัพบล็อกค่ะ

สวัสดีค่ะ

ถือเป็นโอกาสเลยนะคะแวะเข้ามาหลังจากที่เมื่อวาน
ได้เจอกันตัวเป็นๆ และก็เมื่อกี้แวะเข้าบล็อกเห็นเม้นท์
ของแอมพอดีค่ะ เลยแวะมาทักทายกันบ้างทางนี้
และขอเป็นเพื่อนบล็อกด้วยเลยนะคะ


อ่านรีวิวหนังสือหลายเล่มจากบล็อกก่อนแล้วเหมือนว่า
ถูกกระตุ้นอย่างแรงอยากให้อ่านหนังสือกันอีก
เพราะว่าเกือบปีมาแล้วไม่ค่อยได้อ่านอะไรจริงจังเลย
จะหยิบแต่พ็อคเก็ตบุ๊คมาอ่านเล่นๆ ทำนองว่าชีวิตเครียดๆ
เลยอยากคลายเครียดด้วยหนังสือที่อ่านบ้าง
เลยเลือกเอาพ็อคเก็ตบุ๊คมาเกลาใจ เลยได้ห่างหาย
จากหนังสือแนวนี้ไปบ้าง แต่ก็ร่ำๆ ว่ามาอ่านแล้ว
เหมือนจะถูกกระทุ้งสีข้างให้อ่านอีกจัง


เหลือบมองหนังสือขวามือ เห็นงานของ Donna Tartt
เรื่อง Secret History เราอ่านแล้ว จำไม่ได้แน่ว่าสองปีก่อนหรือว่า
นานกว่านั้น เลยทำให้เราหยิบอีกหนึ่งผลงานของเธอ
มาอ่านต่อ เรื่อง The Little Friend เรื่องนี้ต้องบอกว่า
อาถรรพ์มาก เพราะว่าหยิบมาอ่านได้ไม่เกิน 30%
ก็ต้องวางแล้ว .. กลายเป็นว่าจากหนังสือเล่มหนาๆ ใหม่ๆ
ที่ซื้อมาจาก NL ก่อนย้ายมาเมืองไทย ตอนนี้เยินด้วยเพราะ
ถือไปถือมา แทนการเยินเพราะอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกน่ะคะ ...
แฮ่ๆ อายจัง

เข้ามาทักทายกันไว้ก่อนครับ โฮะๆ
ว่าแต่ โปรเจกต์วานวานย้ายบ้านไปอยู่
//wan-wan.exteen.com
ทราบใช่ไหมครับ

ขากลับ เหนื่อยนิดหน่อย แต่อร่อยจัง 55+

สวัสดีอีกรอบ

เอ..จำไม่ได้ว่าแอ๊ปเปิ้ลอบเชย (ให้เรียกงี้ใช่ปะ ) บอกเรายังหว่าว่าเล่มนี้มีแปลเป็นไทยมั้ย แหะๆ



แก้วที่มีฟองนั่นน้ำเปล่าจ้ะ แหมๆๆๆ ไม่กินของมึนเมากลางวันแสกๆ นะเฟ้ย อิอิ


ส่วนที่การบินไทย..มันหมดโปรฯ ถูกไปแล้วอ้ะ ต้องรอโปรใหม่อีกทีก่อนเน้อ

James Franco ja~

ไม่อยู่กทม.เหรอครับ น่าเสียดายเลยเนอะ เพราะไม่ได้ดู World Film Fes. ส่วน PE เราว่า เจมส์ เขาก็ครีเอตลักษณะตัวละคร ที่เขาเล่นขึ้นมาเองได้อย่างเยี่ยมยอดเลยนะครับ เป็น สปิโคลี่ ของศตวรรษนี้ได้เลย ^^

เห็นด้วยเรื่อง โอเชี่ยน แอนด์ โค ครับ เพราะเห็นข่าวว่าระหว่างถ่ายทำ เหล่านักแสดงก็ปาร์ตี้กันตลอดเวลาเลย ส่วน RDJ ปี 2008 นี้เป็นปีของเขาจริงๆครับ ก็อย่ากลับไปเป็น RDJ คนช่วงกลางยุค 90s ล่ะกัน (แบบที่ต้องขออนุญาติเรือนจำออกมาถ่ายหนัง -*-)

สวัสดีอีกรอบเด้อ

ฝนก็ตกเป็นระยะนะ แต่ไม่หนักเท่าไหร่ (หรืออยู่ในอาคารเลยไม่รู้ก็ไม่รู้)

อืมม์..อย่าถามหาน้ำมีฟองบ่อยๆ จิ

มันเสียภาพลักษณ์ของเจ้านะ จะบอกให้ หุๆ

^
^

คนข้างบนพูดถึงน้ำอะไรคะเนี่ย
ทำไมจู่ๆ เราเกินอยากดื่มมาซะงั้น
วันนั้นเพราะขับรถ เลยอดเลย ..ไม่งั้น
เสร็จเรา ..


อ่านเรื่องแนว Secret history มาแล้ว ได้อ่านเรื่อง Middel SEx ไป
หรือยังอ่ะคะ เล่มนี้เป็นเรื่องแรกที่มีความรู้สึกว่า
เราอ่านแบบว่าเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยไม่พักอ่ะคะเพราะว่า
อยากรู้มากว่าเรื่องราวมันจะยังไงต่อ เลยกลายเป็นว่า
ช่วงที่อ่านแนวนี้ โหยหาการอ่านแบบนี้แบบติดหนึบๆ เลยคะ