It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
ปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ ..ปารีส

ทริปนี้เราจะไปเที่ยวฝรั่งเศสกัน สำหรับการท่องเที่ยวในฝรั่งเศสถือว่าอยู่ในขั้น 5 ดาว เพราะเดินทางสะดวกและสบายใจไร้กังวลใดๆ เนื่องจากสามารถขับรถเที่ยวเองก็ได้ มีถนนหนทางดีมาตรฐานยอดเยี่ยมทั่วประเทศ มีป้ายบอกทางชัดเจน เพื่อเตือนให้คนขับรถรู้ว่าอีกไกลแค่ไหนจะพบทางออกข้างหน้า แยกลงไปเมืองอะไร และยิ่งใกล้ทางออกก็ยิ่งมีป้ายเตือนถี่ยิบ เรียกว่าไม่พลาดออกจากถนนสายหลักที่ขับอยู่อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้การท่องเที่ยวทางรถไฟก็ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กัน เนื่องจากการรถไฟของฝรั่งเศสมีการจัดการดีเยี่ยม แถมแต่ละเมืองยังสามารถบริหารจัดการเองได้ด้วย สำหรับการท่องเที่ยวครั้งนี้ผมกับเพื่อนเลือกใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษความเร็วสูง TGV (เตเจเว-Train เ Grande Vitesse) กันครับ โดยไปซื้อตั๋วรถไฟของ France Rail Pass ที่บริษัท ดีทแฮล์ม แทรเวิล ในเมืองไทย ซึ่งเป็นตัวแทนการขายตั๋วรถไฟในยุโรป ที่นี่เราสามารถขอคำปรึกษาได้ว่าจะใช้กี่วันถึงจะเหมาะสมและซื้อตั๋วให้เสร็จจากเมืองไทยไปเลย สะดวกและประหยัดกว่าไปซื้อที่ปารีส

โปรแกรมของเราเริ่มต้นที่ปารีส โดยมีจุดหมายไปเที่ยวแถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ (Loire) ซึ่งมีปราสาทมากมาย หรือที่เรียกกันว่าปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ (Chโteau de la Loire) ที่นี่มีชื่อเสียงมาก และจากปารีสไปเที่ยวเองได้ไม่ยาก เพราะมีรถไฟบริการทั้งด่วนพิเศษและธรรมดา ที่นี่เป็นแหล่งอาหารอร่อย ไวน์รสเลิศ และที่พักก็มีมากมายให้เลือกหลายแบบ ทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงโรงแรมมาตรฐานทั่วๆ ไป หรือจะพักในปราสาทก็ได้ในราคาที่ไม่แพงเวอร์


ถ้าไม่อยากนั่งรถไฟ อยากเที่ยวไปแวะไปเรื่อยๆ ก็ใช้วิธีขับรถไปเองก็สนุกดี ตลอดทางจะผ่านสวนเกษตรสวยๆ มากมาย บางครั้งได้เลาะเลียบแม่น้ำลัวร์อันสุดแสนโรแมนติกอีกด้วย หากไม่อยากใช้บริการของ TGV คุณก็สามารถใช้บริการของรถไฟสายธรรมดาซึ่งราคาไม่แพง ราวสองชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ

แม่น้ำลัวร์อยู่ตอนกลางของประเทศ เป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศส คือ 1,013 กิโลเมตร ไหลหล่อเลี้ยงไร่องุ่นให้งอกงามในหลายแคว้นและผ่านที่ราบเชิงเขาอันกว้างใหญ่ ทำให้มีป่าสมบูรณ์เขียวชอุ่ม และเป็นแหล่งพื้นที่เกษตรกรรมผืนใหญ่ของฝรั่งเศสทีเดียว

ในอดีตมีบรรดากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง และขุนน้ำขุนนางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10-20 พากันไปสร้างปราสาทอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งปราสาทส่วนใหญ่เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองและก็มีมากที่สร้างให้เหล่านางสนมอยู่ ปัจจุบันบริเวณทั้งหมดของปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2000

จากสถานีแกร์ เดอ ลียง (Gare de Lyon) กลางกรุงปารีส เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองบลัวส์ (Blois) เมืองนี้มีปราสาทที่มีชื่อเสียงคือ Chโteau de Blois สร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-17 เดิมใช้เป็นวังเก่า ตำแหน่งที่ตั้งจึงสวยงาม มีสนามกว้างมาก และสวนป่าที่ใช้สำหรับล่าสัตว์ ตัวปราสาทประกอบด้วยปราสาท 4 หลังต่างสไตล์ มีทั้งโกธิก เรเนสซองส์ อิตาเลียน และเฟรนช์คลาสสิกสไตล์ ภายในปราสาทมีห้องโล่งๆ ขนาดใหญ่ และบันไดวนที่ออกแบบพันเป็นเกลียว เมื่อเดินขึ้นลงไม่สามารถมาบรรจบกันได้ ทั้งๆ ที่เห็นกันอยู่แต่เจอกันไม่ได้




เมื่อชมปราสาทเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเดินเล่นในเมืองซึ่งมีขนาดเล็กน่ารัก เสร็จแล้วก็ขึ้นรถไฟไปเมืองตูร์ (Tours) (ใช้เวลาเดินทางจากบลัวส์ไปตูร์ประมาณ 35 นาที) เพื่อเที่ยวปราสาทเชอนงโซ (Chโteau de Chenonceau) ที่สถานีรถไฟผมซื้อบริการทัวร์ชมปราสาท ที่นี่มีรถรับส่งและให้เวลาชมนานพอสมควร ราคาก็มาตรฐานและไว้ใจได้ ดูเสร็จพากลับมาส่งที่สถานีรถไฟ หรือจะให้ไปส่งที่พักของเราก็ได้ถ้าต้องการค้างเอาบรรยากาศต่ออีกสักคืน (ผมค้างที่นี่หนึ่งคืน)

ปราสาทเชอนงโซนั้นเดิมเป็นของขุนนาง แต่ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงวัตถุโบราณ พรมแขวนผนังขนาดใหญ่ ภาพเขียน ส่วนด้านนอกรอบๆ ปราสาทเป็นสวนดอกไม้และสวนผลไม้ ซึ่งเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ว่ากันว่ามีคนเข้าชมมากเป็นอันดับสองรองจากพระราชวังแวร์ซายส์เลยทีเดียว





ไม่ไกลจากปราสาทเชอนงโซเท่าใดนักมีปราสาทชอมบอร์ด (Le Chโteau de Chambord) ซึ่งเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดในลุ่มแม่น้ำลัวร์ และแห่งนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนไทย เพราะเป็นปราสาทที่พระวิสุทธิสุนทร (เจ้าพระยาโกษาปาน) อัครราชทูตกรุงสยามในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเคยพำนักเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2229 ในฐานะผู้เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส

จุดเด่นคือทางขึ้นปราสาททำเป็นบันไดวน (The Double Staircase) เพื่อเวลาขึ้นลงจะได้ไม่สวนกันและใช้ในการหลบหนีฉุกเฉินช่วงเกิดสงคราม แต่เมื่อบ้านเมืองสงบสุขก็กลายเป็นที่เล่นซ่อนหาของคนในปราสาท เพราะบันไดกว้างสามารถเดินพร้อมกันได้หลายคน หากขึ้นไปบนชั้นสามและออกไปที่ดาดฟ้าจะเห็นปล่องระบายควันและยอดปราสาท ส่วนที่ริมระเบียงจะเห็นสวนป่าไปไกลสุดสายตาและถนนที่ทอดยาว หากบังเอิญไปเที่ยวตรงกับเวลาการจัดการแสดงแสงสีเสียงพอดีก็ถือเป็นบุญตา เพราะทั้งวังจะถูกฉายด้วยแสงอย่างสวยงาม น่าตื่นเต้น ชวนให้นึกถึงความหลังช่วงที่ปราสาทกำลังคึกคักที่สุด เช่น งานเลี้ยง การแต่งตัวหรูหรา การเดินทางด้วยรถม้า และเสียงดนตรีคลาสสิก

สิ้นสุดการเดินทางชมปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ ผมก็จะพาคุณไปกินอาหารฝรั่งเศสในร้านบ้านๆ ธรรมดาๆ แต่รสเลิศ รวมถึงปั่นจักรยานสำรวจเมือง บวกกับอากาศที่เย็นชื่นใจ ขับขี่ไปใต้ร่มไม้ อยากแวะที่ไหนก็ได้แวะ หิวก็กิน เมื่อยก็นั่งพักริมแม่น้ำลัวร์ ชมนกชมไม้ ให้อาหารเป็ด ถือว่าเป็นทริปที่คลาสสิกครบรสมากเลยครับ



Gourmet & Cuisine ฉบับ 121 ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553
Click :TOP


Create Date : 14 ตุลาคม 2553
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 8:36:54 น. 0 comments
Counter : 4407 Pageviews.

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12


Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.