พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
24 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

เอซุส โอพีบีจี ชูแนวคิด Home Solution 2.0 ลุยตลาดไอทีปี56

เอซุส โอพีบีจี ชูแนวคิด Home Solution 2.0 ลุยตลาดไอทีปี56


เอซุส ประกาศรุกตลาดปี 2556 ของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพีบีจี)  เผยไฮไลต์สินค้าใหม่ภายใต้แนวคิด “Home Solution 2.0”  ที่เน้นตอบสนองเทรนด์การใช้สมาร์ทดีไวซ์ที่เพิ่มขึ้นในยุค Cloud Enabled  Era ควบคู่กับการเพิ่มคู่ค้าและศูนย์บริการทุกจังหวัด  ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 1,800 ล้านบาทและยอดจำหน่ายโตขึ้น 10%...

นาย มนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม  บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  สำหรับผลประกอบการรวมถึงรายได้จากกลุ่มธุรกิจเดสก์ท็อปพีซี  ที่ได้นำมาทำตลาดในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2556  โดยเราสามารถสร้างการเติบโตด้วยส่วนแบ่งการตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดสก์ ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีอยู่ในระดับที่ดีมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของตลาดพีซีคอมเมอร์เชียล  เนื่องจากมีปัจจัยด้านบวกที่ทำให้เราสามารถสร้างฐานตลาดลูกค้าองค์กรและ หน่วยงานราชการต่างๆ มากมาย  โดยสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์ จาก 100 % ของเอซุสจะอยู่ที่ประมาณ 80 ต่อ 20%

จาก ผลประกอบการในปี 2555 ที่ผ่านมา  เอซุสยังคงมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมาเธอร์บอร์ดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างราย ได้สูงสุดกว่า 60% ตามมาด้วยวีจีเอการ์ด 25%  และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดคืออุปกรณ์เครือข่ายแบบไร้สายที่ ประมาณ 175%  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้บริโภคในตลาดที่หันมาให้ความสำคัญกับการ เข้าถึงระบบเครือข่ายที่น่าเชื่อถือ  รวมถึงนวัตกรรมอันล้ำหน้าด้านเน็ตเวิร์กกิ้งโซลูชั่นของเอซุสที่สามารถเข้า มาควบรวมการต่อเชื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ จากศูนย์กลางเครือข่ายภายในบ้านหรือ  Backbone device ซึ่งก็ คือ เราท์เตอร์ผ่านทางการควบคุมด้วยเดสก์ท็อปพีซี  หรือสมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างสะดวกสบาย

ผจก.ประจำประเทศไทย  กลุ่มโอพีบีจี บ.เอซุสเทคฯ สำหรับในปี 2556 นี้  ทางกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีได้แบ่งหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ออกเป็น 7 กลุ่มหลักๆ  ด้วยกัน ประกอบด้วย 1) กลุ่มสินค้ามาเธอร์บอร์ด 2) กลุ่มสินค้ามัลติมีเดีย  3) กลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายและอุปกรณ์ต่อพ่วง 4)  กลุ่มสินค้าประกอบสำเร็จรูป (เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวัน) 5)  กลุ่มจอภาพดิสเพลย์ 6) กลุ่มสินค้าออพติคอลไดร้ฟว์ และสตอเรจ (OMAP) 7)  กลุ่มบอร์ดเวิร์กสเตชั่นและเซฟเวอร์  ซึ่งเป็นการจัดหมวดสินค้าภายใต้ความรับผิดชอบของกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีให้มี ความสะดวก และเหมาะสมกับการบริหารจัดการด้านการตลาดยิ่งขึ้น  โดยเราได้วางนโยบายการตลาดผ่านแนวคิดที่เรียกว่า ‘Home Solution 2.0’  โดยต่อยอดแนวคิดด้านการตลาดในปีที่ผ่านมา

ใน ส่วนของการเชื่อมต่อของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจของโอพีบีจี  โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่ม DIY ที่เอซุสเป็นเจ้าตลาดอยู่  ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยี  ในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ  ทั้งภายในบ้านและอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์แบบพกพา บนระบบ  Cloud Service  ในรูปแบบ Private Cloud หรือระบบคลาวด์ส่วนตัวของเอซุส  ที่ช่วยเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริโภคสามารถจัดการไฟล์คอนเทนต์ที่เก็บไว้ได้ ด้วยตนเอง รวมถึงการแบ่งปันสู่บุคคลอื่นๆ ผ่านทางฟีเจอร์ ‘ASUS AiCloud’  ที่มีบนสมาร์ทดีไวซ์ชื่อดังต่างๆ  โดยระบบนี้จะเปลี่ยนเราท์เตอร์ให้กลายเป็นศูนย์กลาง (Backbone)  ของการใช้งานทางด้านอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายภายในบ้านและนอกบ้าน  รวมถึงวงเครือข่ายอุปกรณ์พกพาที่ลงทะเบียนไว้  ผ่านการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้ในความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีบีบอัดขนาดของ ไฟล์และรับส่งข้อมูลใหม่ล่าสุด Wi-Fi 802.11ac

นอกจากนี้  มาเธอร์บอร์ดจากเอซุสยังมีฟีเจอร์ ‘WiFi Go! และ Remote  Go!’ที่สร้างการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ บนฮาร์ดดิสก์ของเครื่องพีซี  ไม่ว่าจะเรียกดูจากอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก โดยฟีเจอร์ต่างๆ  เหล่านี้  ช่วยสร้างระบบอันเป็นส่วนตัวและให้ความปลอดภัยสูงสุดอย่างไร้ขีดจำกัดที่ไม่ ว่าสมาชิกคนไหนในบ้านก็สามารถเป็นผู้ดูแลระบบเองได้อย่างง่ายดาย  ด้วยแนวคิดใหม่นี้  เอซุสได้ปฏิวัติความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ  ในแบบเวอร์ชั่น 2.0 ได้อย่างแท้จริง  เราจึงเชื่อว่าแนวคิดด้านการตลาดในแนวคิด “Home Solution 2.0” นี้  จะสามารถตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย  ตั้งแต่ผู้ใช้งานระดับโปรเฟสชันนอล ผู้ใช้งานด้านเกมมิ่ง  เอ็นด์ยูสเซอร์ทั่วไป รวมไปถึงผู้ใช้งานมัลติมีเดีย เพื่อความบันเทิงต่างๆ”

นาย มนต์ธีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของเรา  ในปีนี้เราได้เพิ่มทีมงานที่เข้ามาดูแลในส่วนการตลาดเพิ่มขึ้น  เนื่องจากเรามีกลุ่มสินค้าภายใต้ความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น  และเรายังคงสานต่อการทำตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์และความประทับใจจาก ลูกค้า ด้วยนวัตกรรมและดีไซน์ รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ  ไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา  แต่จะเน้นมูลค่าเพิ่มจากความแตกต่างและฟีเจอร์พิเศษให้กับผลิตภัณฑ์  สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายในปีนี้  ได้เพิ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและ มัลติมีเดีย คือ บริษัทเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SIS  ซึ่งจะช่วยให้ช่องทางการจัดจำหน่ายของเรามีความครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น

ผจก.ประจำ ประเทศไทย กลุ่มโอพีบีจีฯ กล่าวถึงบริการหลังการขายว่า  เอซุสยังได้เพิ่มจำนวนศูนย์ซ่อมผ่านทางพันธมิตรต่างๆ  เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการซ่อมให้รวดเร็วขึ้น  รวมถึงการเปิดบริการงานซ่อมเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้สินค้าซีรีส์พรีเมี่ยมเกม มิ่งจากแบรนด์ ROG โดยเฉพาะ ด้วยบริการ “ROG Plus”  ที่จะช่วยยกระดับการบริการให้เหล่าสมาชิกรู้สึกเป็นคนพิเศษ  โดยมุ่งเน้นการสร้างความสะดวกรวดเร็วในการซ่อมแซม เพราะสินค้า ROG  ผ่านช่องทางเฉพาะที่ไม่ต้องเข้าคิวรอร่วมกับสินค้าของเอซุสทั่วไป  โดยบริการใหม่นี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้

นาย มนต์ธีร์ กล่าวถึงนวัตกรรมสินค้าที่เป็นไฮไลต์ในปี 2556ว่า  จากที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในงานมหกรรมแสดงสินค้าระดับโลก CES 2013  ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา  โดยสินค้าจากเอซุสในส่วนของโอพีบีจีได้กวาดรางวัลยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรมและ ดีไซน์อย่างมากมาย อาทิ จอแสดงภาพ ‘ASUS Designo Series MX279H’ ขนาด 27  นิ้ว ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงระหึ่มระดับสเตอริโอไฮไฟ B&O ICEPower  จากความร่วมมือระหว่างทีมพัฒนาเทคโนโลยีระบบเสียงของเอซุสกับบริษัทยักษ์ ใหญ่อย่าง Bang & Olufsen

ส่วนไลน์อัพสินค้าอันโดดเด่นที่พร้อม ลงสู่ตลาดประเทศไทยในปี 2556 นี้  ประกอบด้วยสุดยอดกราฟฟิกการ์ดรุ่นลิมิทเต็ด เอดิชั่น ‘ROG ARES II’  ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dual AMD HD 7970 GHz Edition GPUs,  เครื่องแปลงสัญญาณดิจิตอลอะนาล็อก ‘ASUS Xonar Essence One MUSES Edition’  และเซตหูฟังที่จะทำให้เสียงกระหึ่มเพื่อเพิ่มอรรถรส,  คอมแพ็คมาเธอร์บอร์ดรุ่นจิ๋วแต่แจ๋ว ‘ASUS E2KM1I-DELUXE Mini-ITX’,  ออลอินวันพีซี ‘ASUS Transformer AiO’  เครื่องแรกในโลกที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 และจอถอดได้ขนาด 18.4  นิ้ว ใช้งานเป็นแท็บเล็ตระบบแอนดรอยด์ได้, เครื่องมีเดียสตรีมเมอร์ ‘ASUS  Qube Google TV’ คุณภาพระดับไฮเดฟฟินิชั่น, จอแอลซีดีระดับโปรเฟสชันแนล  “ASUS PA249Q ProArt” และ ‘VG248QE Fast Gaming monitor’  สำหรับคอเกมขาระห่ำ รวมถึงเราท์เตอร์ไร้สายแบบพกพาเครื่องเล็กที่สุดในโลก  ‘ASUS WL-330NUL Pocket Router’  ที่ให้การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบออนเดอะโกที่สมบูรณ์แบบแก่ผู้ใช้งานที่เดิน ทางบ่อยๆ”

ผจก.ประจำประเทศไทย กลุ่มโอพีบีจีฯ กล่าวด้วยว่า  ด้วยความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์  รวมถึงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศไทยในหมวดสินค้ามาเธอร์บอร์ด  เราจะยังคงนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลออกสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีหวังว่าในปี 2556 นี้  เราจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากผลิตภัณฑ์ในหมวดต่างๆ ได้มากขึ้น  พร้อมสร้างการเติบโตของรายได้รวมภายในสิ้นปีประมาณ 10%  และรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์  มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ดได้อย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท.




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2556
0 comments
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2556 2:28:06 น.
Counter : 2365 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.