กูเกิลคว้าที่ 2 ติดอันดับบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในโลก จากที่เคยครองอันดับ 1 แต่ขยับลงมาอยู่อันดับ 4 เมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ SAS, NetApp ไมโครซอฟท์ ล้วนติดอยู่ใน 25 อันดับ เผยบริษัทที่ติดอันดับ ล้วนแล้วแต่มีโครงการใจดี มีน้ำใจกับพนักงาน
ซีเอ็นเอ็นมันนี่จัดอันดับบริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก ผลปรากฏบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ SAS คว้าที่หนึ่งไปครอง ขณะที่กูเกิล ยักษ์ใหญ่ เสิร์ชเอ็นจิ้น ได้อันดับที่ 2 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว
ซีเอ็นเอ็นมันนี่ ซึ่งจัดอันดับบริษัทน่าทำงานที่สุดในโลก 25 แห่ง ระบุ กูเกิลเป็นสถานที่ซึ่งช่วยเหลือพนักงานเป็นอย่างดี โดยมีระบบให้คำแนะนำหรือโค้ชที่น่าประทับใจ
กูเกิลมีโครงการที่ใช้ชื่อว่า CareerGuru หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพ ซึ่งมีพนักงานอาวุโสระดับผู้นำ มีหน้าที่ให้คำแนะนำพนักงาน หรือทำหน้าที่ราวกับเป็นโค้ชนักกีฬา โครงการดังกล่าวมีอยู่ในออฟฟิศของกูเกิล 14 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนั้น ในแผนกเอ็นจิเนียร์หรือวิศวกร กูเกิลยังมีโครงการที่ใช้ชื่อว่า EngAdvisers หรือวิศวกรรมชี้แนะ ซึ่งจะเป็นเวทีที่เหล่าวิศวกรของกูเกิลสามารถซักถาม ถกเถียงในประเด็นที่มีข้อข้องใจกับวิศวกรอาวุโสกว่าได้ โดยภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมานั้น ได้รับความสนใจจากวิศวกรกูเกิลแล้วกว่า 900 ราย
ณ ปัจจุบัน ใบสมัครจากผู้ที่ต้องการเข้าทำงานกับกูเกิล มีมากกว่าตำแหน่งงานที่มีถึง 61 เท่าทีเดียว
ขณะที่บริษัทซอฟต์แวร์ SAS ซึ่งครองอันดับ 1 และขยับจากอันดับ 2 เมื่อปีที่ผ่านมานั้น ได้คะแนนจากการเปิดกว้างของผู้บริหาร ซึ่งพนักงานทุกตำแหน่งสามารถเข้าถึงได้
โดย SAS จะมีโครงการซึ่งใช้ชื่อว่า Conversations Over Coffee ซึ่งพนักงานทุกระดับทุกคนจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมเดือนละครั้ง เพื่อสนทนากับจิม กู้ดไนท์ ซีอีโอ ซึ่งเป็นเจ้าภาพของงาน
ในวงสนทนาดังกล่าว พนักงานสามารถพูดคุยเรื่องอะไรก็ได้แบบไม่มีข้อจำกัด ภายใต้บรรยากาศดังกล่าว ทำให้พนักงานของ SAS ลาออกน้อยมาก
ขณะที่ NetApp ผู้ประกอบการดาต้าสตอเรจ ได้อันดับ 3 โดยได้คะแนนจากโครงการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแนะนำตัวแก่บรรดาเหล่าผู้บริหาร
ส่วนบริษัทในอันดับถัดๆมา ได้แก่ ไมโครซอฟท์ ซึ่งติดอันดับ 5 จากโครงการที่ช่วยสนับสนุนผู้หญิงที่สนใจในงานด้านเทคโนโลยี ที่ใช้ชื่อว่า DigiGirlz Day event ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนไฮสคูลผู้หญิง ถกเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีกับพนักงานของไมโครซอฟท์ได้
ขณะที่บริษัทไอทีอื่นๆที่อยู่ในลิสต์ ได้แก่ Autodesk Intel และ Cisco เป็นต้น.