ผนึก 3 องค์การมหาชน ซิป้า สรอ. และ สพธอ.วางยุทธศาสตร์เสริมเขี้ยวเล็บอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ รับมือเออีซี ขณะที่ ซิป้า ตั้งเป้าดึงระบบซอฟต์แวร์เพิ่มศักยภาพองค์กร ลดต้นทุนเพิ่มมูลค่า คิดเป็นเศรษฐกิจโดยรวมกว่า 4-5แสนล้านบาท...
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ร่วมกันแถลงข่าวการวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาศักยภาพในภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย เพื่อรับมือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในอนาคต
นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการ ซิป้า กล่าวว่า ในปี 2556 วางแผนทิศทางการดำเนินการเป็น 3 ระยะ ได้แก่ แผนระยะสั้น สานต่องานตามวัตถุประสงค์เดิมของปีงบประมาณ 2555 พร้อมปรับแนวทางการบริหารงานภายในให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ซิป้า แผนระยะกลาง เน้นสร้างตลาดภายใน ออกมาตราการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ด้านต่างๆ และร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน และแผนระยะยาว คือ การทำตลาดต่างประเทศ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน สร้างบุคลากร และส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์เข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ ยังเน้นการบริหารงาน 4 ด้าน 1.พันธกิจตามวัตถุประสงค์ 2.นโยบายของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที 3.ทำตามกรอบนโยบายของรัฐบาล และ4.ยุทธศาสตร์ของอาเซียนไอซีทีมาสเตอร์
ผอ.ซิป้า กล่าวต่อว่า ระบบซอฟต์แวร์ ที่ซิป้าทำอยู่นั้น จะเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรที่ประกอบธุรกิจนั้น อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่า ในขณะเดียวกันเมื่อต้นทุนลด สัดส่วนของกำไรก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนตัวมองว่า รูปแบบดังกล่าวจะสามารถเพิ่มมูลค่าของธุรกิจโดยรวมได้ประมาณ 3% ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ระบบซอฟต์แวร์จะช่วยให้เงินหมุนเวียนในประเทศมีประมาณ 4-5 แสนล้านบาท
ด้าน นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. กล่าวว่า สพธอ.หน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ความมั่นคงปลอดภัย มาตรฐานที่สนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การวิจัยและพัฒนา จนถึงการเสนอแนะนโยบาย และกฎหมายที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนสมาร์ทไทยแลนด์ โดยในปี2556 ได้รับงงบประมาณจำนวน 300ล้านบาท
ขณะที่ อาเซียนได้กำหนดเป้าหมายทั้งด้านการเป็นตลาด และฐานการผลิตเดียวกัน การไปสู่ภูมิภาคที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกัน และการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก ซึ่งการดำเนินงาน ของสพธอ.วางแผนเพื่อให้สามารถผนวกและสอดคล้องกับแผนงานอาเซียน ทั้งในระดับกระทรวงฯ และระดับประเทศ
ส่วน นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. กล่าวว่า ในปี 2556 ได้รับงบประมาณจำนวน 1,500 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายขยายเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ หรือ จิน (GIN) เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 หน่วยงาน ขึ้นระบบคลาวน์คอมพิวติ้งภาครัฐมากกว่า 130 ระบบ พัฒนาระบบซอฟต์แวร์พื้นฐานของภาครัฐให้ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ได้ หรือเรียกว่า ซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิส (Software As A Service: SaaS) มีบริการเสริมในด้านต่างๆ บนคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับภาครัฐ โดยจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้าน
รองผู้อำนวยการ สรอ. กล่าวด้วยว่า พร้อมกันนี้ สรอ.ยังร่วมมือกับซิป้าจัดทำซอฟต์แวร์พื้นฐานในระบบราชการให้เป็นแบบซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิส และสร้างกัฟเวิร์นเมนท์ แอพลิเคชั่น เซ็นเตอร์ (Government Application Center) ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะสร้างแนวทางใหม่ให้กับตลาดซอฟต์แวร์ไทยในตลาดราชการอย่างมาก และผนึกกำลังกับ สพธอ.ผลักดันโครงการเฉพาะด้าน กับการร่วมในส่วนของการสร้างระบบบูรณาการข้อมูลและ อี-เซอร์วิส โดยจะทำให้เกิดระบบการบริหารงานภาครัฐ เกิดการบูรณาการที่นำไปสู่การให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น.