Amor Vincit Omnia . . . 'Cause Love Conqures Alls

AmoreVincitOmnia
Location :
กรุงเทพฯ France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Nice to see you smiling when you are reading this



I am nerdier than 74% of all people. Are you a nerd? Click here to find out!
Leave Me a Message Though
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add AmoreVincitOmnia's blog to your web]
Links
 

 
How (not) to do research . . . from my perspective

มีคนสงสัย กันเยอะเลยทีเดียวเกี่ยวกับการทำ "วิจัย / วิทยานิพนธ์"

หลายๆคนมักมีคำถามว่า . . . จะทำเรื่องอะไรดี

หลายๆคนที่มีหัวเรื่อง ก็จะถามว่า . . . ทำแบบนี้ มันจะดีมั้ย

ผมคิดว่า คำถามเหล่านี้ เกิดจากความไม่เข้าใจ ว่า ทำไมต้องทำวิจัย (ทำไมเราถึงต้องทำวิจัย/วิทยานิพนธ์ . . . นอกเหนือไปจากว่า เป็นข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ว่าต้องทำ) . . .

-----------------------------------------------------------

ถาม : งานวิจัย คืออะไร?
ตอบ : งานวิจัยคือ "การตั้งคำถามที่ดี คำถามที่น่าสนใจ และตอบคำถามนั้นอย่างน่าเชื่อถือ"

แล้วคำถามที่ดีคืออะไร? คำถามที่สนใจคืออะไร?

เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า "คำถามที่ดี ทำให้เราเสร็จงานไปครึ่งนึง" . . . ยังเป็นจริงเสมอครับ สำหรับการทำงานวิจัย

คำถามที่ดี คือคำถามที่ชัดเจน ระบุชัดเจนว่าเราจะศึกษาอะไร และมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร . . .

คำถามที่น่าสนใจคือ คำถามที่จะทำให้เกิด "ประโยชน์" จากการทำวิจัยนั้น ซึ่งอาจจะเสนอความคิดใหม่, เสนอทางออกใหม่สำหรับปัญหาเดิมๆ, เสนอคำตอบ สำหรับคำถามที่ไม่มีคนตอบได้อย่างชัดเจนมาก่อน, เสนอคำตอบ วิธีการตอบที่ลึกซึ้ง หรือ ครอบคลุม สิ่งต่างๆ ได้ดีกว่างานเก่า เป็นต้น . . .

การตอบคำถามอย่างน่าเชื่อถือ คือ การตอบคำถามที่ มีวิธีการตอบ (methodology) และมีขอบเขตในการตอบ (ขอบเขตในการศึกษา / scope of study) ที่ชัดเจน และรัดกุม ซึ่งจะสอดคล้องกับ วิธีการศึกษา ที่เราตั้งใจเอาไว้ . . .

มีคำถามที่น่าสนใจคือ . . . วิธีการตอบคำถาม / methodology อย่างไร แบบใด จึงจะเป็นวิธีการที่ดี . . . โดยส่วนตัวแล้ว ผมมีเกณฑ์คร่าวๆไว้ เพียงแค่ "ชัดเจน, ยอมรับได้ และมีความสอดคล้องของเหตุผล . . . clear, acceptable and logically consistent"

กล่าวคือ ถ้าวิธีการตอบคำถามของผู้วิจัย ไม่ชัดเจน จะทำให้ผู้อ่าน ผู้ใช้งานวิจัยดังกล่าว จะไม่สามารถเห็นประโยชน์ และเข้าใจ งานวิจัยนั้น . . . วิธีการตอบคำถาม ก็ควรที่จะ "เป็นที่ยอมรับได้" กล่าวคือ วิธีการตอบถามที่คุณใช้ ควรเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้อ่านในระดังหนึ่ง/มีกลุ่มคน ที่ยอมรับวิธีการของคุณ . . . ถ้าวิธีการตอบคำถามไม่มีความสอดคล้องในเชิงตรรกะ จะทำให้ งานวิจัยนั้น เป็น "ขยะ" ไปได้ . . .

โดยคร่าวๆแล้ว . . . แนวคิดข้างต้น จะนำมาสู่ส่วนประกอบพื้นฐานต่างๆใน งานวิจัย/วิทยานิพนธ์ คือ

1. แรงจูงใจในการทำวิจัย/ศึกษา (ทำไมถึงทำเรื่องนี้ แรงจูงใจของผู้ทำวิจัยคืออะไร อะไรคือคำถามที่น่าสนใจสำหรับ งานวิจัยนี้)

2. วัตถุประสงค์ในการทำวิจัย/ศึกษา (เมื่อทำงานวิจัยเรื่องนี้แล้ว จะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอบคำถามอย่างชัดเจน และตรงประเด็น ในเรื่องใดบ้าง)

3. วิธีการศึกษา (methodology) (การตอบคำถาม/ปัญหาในงานวิจัยดังกล่าว จะใช้วิธีการตอบแบบใด มีความชัดเจนเพียงใด มีความน่าเชื่อถืออย่างไร)

4. ขอบเขตการศึกษา (การวิจัย หรือการตอบปัญหา ดังกล่าว จะครอบคลุมมากน้อยเพียงใด อะไรคือสิ่งที่อยู่ในการพิจารณา และอะไรคือสิ่งที่ "ไม่อยู่" ในการพิจารณา . . . แน่นอนครับ เราไม่สามารถครอบคลุมทุกอย่างได้)
-----------------------------------------------------------

ข้อควรระวังในการทำงานวิจัย . . . (ในความคิดของผมนะครับ)

(ข้อควรระวัง : ผู้เขียนมีประสบการณ์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ "social science" อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับสายวิทยาศาสตร์นะครับ)

ข้อควรระวัง 1. อย่าถือเอาเครื่องมือ เป็นสรณะ

อันนี้เป็นอันที่ผมพบมากที่สุดเลยครับ . . . หลายๆคน มักจะรู้สึกหวือหวา และรู้สึกท้าทายในการใช้เครื่องมือยากๆ ไปจับ ไปวิเคราะห์ คำถามที่ "หามาจนได้" ด้วยความรู้สึกว่ามัน "เท่ห์" ซะเหลือเกิน . . .

ยกตัวอย่างเช่น หลายๆคน มักจะ fancy อยากเขียนบทความที่ใช้ ทฤษฎีเกมขั้นสูง หรือ เครื่องมือ พวก dynamic programming/numerical method มาประยุกต์ใช้กับปัญหา "ที่หามาได้" . . .

วิธีการนี้ ก็เหมือน ตัดเสื้อ แล้วหาคนมาใส่ให้ได้ . . . ซึ่งเป็นสิ่งที่ "แปลกๆ" ใช่มั้ยครับ . . . และจากประสบการณ์ ที่เคยคุย เป็นที่ปรึกษาให้หลายๆคน สิ่งที่พบหลังจากนั้นคือ ผลงาน หรือบทความที่ได้ มักจะไม่ค่อย "เข้าท่า" แนวคิดมักแปลกๆ หรือ ผลสรุปมันแปลกๆ (ไม่เป็นไปตามเหตุผล ความเข้าใจตามธรรมชาติ) หรือ ผลที่ได้มักจะเป็นจริงในเฉพาะ กรณี "แคบๆ" ซึ่งแทบจะไม่สามารถหาความเชื่อมโยงกับความจริงได้เลย . . . กล่าวคือ ไม่มีประโยชน์ที่จะเขียนบทความแบบนั้นเลย

ข้อสังเกตคือ ถ้าคุณเริ่มจะเขียนบทความใดๆ โดยตั้งต้นด้วย เครื่องมือที่จะใช้ โดยไม่ได้คิดถึง "ปัญหา" จริงๆที่คุณสนใจ . . . แสดงว่า คุณยังไม่รู้จัก เครื่องมือนั้นดีพอ . . . สิ่งที่คุณควรทำ ก็คือ การศึกษาเครื่องมือนั้นให้ดีขึ้น แล้วก็ทำแบบฝึกหัดที่ใช้เครื่องมือนั้นนะครับ ไม่ใช่เขียนบทความที่ใช้เครื่องมือนั้น เพราะสิ่งที่คุณต้องการจริงๆก็คือ ความรู้ ความสามารถในการใช้เครื่องมือนั้นต่างหาก

ข้อควรระวัง 2. อย่าทำของซ้ำ อย่าเป็น second edition ของคนอื่น

ผมว่าข้อนี้เป็นความท้าทายทีเดียวครับ . . .

ลองคิดดูว่า ถ้ามีคนมาอ่านงานของคุณแล้วเค้าบอกว่า "เฮ้ย. . . เคยมีคนทำเรื่องนี้มาก่อนแล้วนี่ นี่ไง อยู่ที่ journal นี้ เดือนนั้น ปีนั้น . . . อ๋ออ แต่งานของคุณก็ดีนะ เอามาใช้กับข้อมูลที่เรามี ก็ดีนะ" . . . คุณจะรู้สึกอย่างไรครับ? . . . (แต่วิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นในไทย มักจะมีลักษณะนี้นะ . . . วิธีการเดิม ข้อมูลใหม่ แล้วก็เล่าเรื่องเดิมๆ มี imlication เดิมๆ)

ถ้าคุณเจอปัญหาว่า ไม่รู้จะทำเรื่องอะไรดีที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องไปลอกแนวคิดของคนอื่น . . . ฟังคำพูดของ Robert Wilson ดูนะครับ ". . . the problems encountered by practitioners provide a wealth of topics." . . . ผมคิดว่า สิ่งที่ควรทำ คือ การอ่าน literature มากๆ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสนใจ แล้วหา "จุดอ่อน" หรือ "ช่องว่าง" ของเรื่องนั้น แล้วคุณก็ "แก้ปัญหา" หรือ "เติมเต็ม" สิ่งนั้น

ข้อควรระวัง 3. อย่าทำงานวิจัย ที่ เรารู้คำตอบตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว โดยวิธีการ/แนวคิด ไม่มีอะไรใหม่

ง่ายๆเลยนะครับ . . . ถ้าคุณต้องการตอบคำถามในงานวิจัยบางอย่าง แล้ว คุณมีคำตอบแบบเดียวกับที่ งานในอดีตที่คนอื่นทำเอาไว้ โดยที่คุณไม่สามารถเสนอ หรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆเลย . . . คุณค่า ของงานวิจัยของคุณคืออะไรล่ะครับ? คงไม่มีใครอยากอ่านงานวิจัยเรื่องใหม่ ที่ตอบคำถามเดิม ด้วยวิธีการเดิมๆ ใช่มั้ยครับ . . . คงเสียเวลาคนอ่านน่าดู

ข้อควรระวัง 4. อย่าดึงความสนใจคนอ่านด้วย fancy words ใน ชื่อเรื่อง . . . ดึงความสนใจ ที่ abstract แทน

อันนี้ ผมพบในนักวิจัย/นักศึกษา ที่มีไฟแรงในการทำงานวิจัย/วิทยานิพนธ์ . . . เป็นสิ่งดีที่มีความกระตือรือร้น ในการทำงานวิจัยนะครับ . . . แต่ขอฝากไว้นิดนึงละกัน ว่า อย่าให้มีคำ "แปลกใหม่แบบ ที่ไม่เคยมีคนใช้มาก่อน" ในชื่อเรื่อง งานวิจัยของคุณเลย ถ้าคุณไม่สามารถสร้าง "สิ่งใหม่ๆ" ได้อย่างแท้จริง . . .

หลายคนนิยมใช้ fancy words ใน ชื่อเรื่องที่จะดึงความสนใจ ของผู้อ่าน ทำให้ผู้อ่านอยากทราบว่า บทความ หรืองานวิจัยดังกล่าว จะเกี่ยวกับอะไร มีอะไรใหม่ตามที่ชื่อเรื่องเขียนเอาไว้ . . . ถ้าคุณไม่มีอะไรที่ "ใหม่ อย่างน่าประทับใจ และแปลกใจ (ในทางที่ดี)" จริงๆ คนอ่านจะรู้สึกว่า ถูกหลอก และเสียเวลาในการอ่านบทความของคุณ หรือแม้กระทั่งอ่านแค่ abstract ของคุณ . . . สิ่งที่เขาจะจำคือ ชื่อของคุณ . . . ในทางที่ไม่ดี

ถ้าคุณต้องการจะสร้างความน่าสนใจ และคิดว่า บทความของคุณมีความน่าสนใจจริงๆ . . . ให้เขียนใน abstract นะครับ . . . อย่าเขียนอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ใน title . . . ปลอดภัยกว่ากันเยอะเลยครับ
-----------------------------------------------------------

มีแนวคิดง่ายๆ ที่พูดต่อๆกันมา แล้วก็น่าคิดนะครับ "ถ้าไม่แตกต่าง ก็ต้องทำให้ดีขึ้น" . . . แล้วก็ "don't write what you don't know" . . . ผมว่า มันยังเป็นจริงเสมอนะครับ

ขอให้สนุกกับการทำ dissertation / thesis นะครับ



Create Date : 25 ธันวาคม 2549
Last Update : 25 ธันวาคม 2549 15:47:04 น. 16 comments
Counter : 648 Pageviews.

 







MeRrY ChRiStMaS
มีความสุขมาก ๆน่ะค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:20:48:09 น.  

 
โอ้

ได้ความรู้มากเลยครับ เพิ่มรอยหยักในสมองได้ดีจริงๆเลย

สวัสดีปีใหม่ครับ


โดย: gelgloog (gelgloog ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:13:08:52 น.  

 
มาทักทายปีใหม่นะครับ

บทความนี้ ยอดเยี่ยมมากครับ


โดย: POL_US วันที่: 6 มกราคม 2550 เวลา:15:42:26 น.  

 
ดีครับบทความของคุณเยี่ยมเลย


โดย: ขอคุณมากครับ IP: 58.8.76.134 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:14:32:26 น.  

 
พี่เขียนเก่งจังเลยค่ะ ^^
แวะมาเยี่ยมนะคะ ไม่ได้ทักทายกันนานแล้วเนอะ..... =D


โดย: +~%Chocolate Republic%~+ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:48:14 น.  

 
I forwarded this blog to many friends of mine. Most of them were impressed with your writing though.... (myself included).

Keep up your good works krub!! :)


โดย: A.T. (amatuer translator ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:48:37 น.  

 
มาเยี่ยมครับ


โดย: Epinephrine วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:53:48 น.  

 
We'd have chosen UMich if we could afford it!! :)

Too bad (but not that bad), right?

My wife got a Fulbright scholarship.... It's really honored to eeveryone....

But, the scholarship cannot cover tuition&fee and living expenses at UMich and Ann Arbor....

Just like that... No perfect world... Luckily, there were choices... :)


โดย: A.T. (amatuer translator ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:12:02 น.  

 
ขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เข้ามาทักทาย นะครับ . . .

คุณ gelgloog . . ยินดีครับ

พี่ Pol_us . . . ขอบคุณครับ เป็ฯกำลังใจให้เขียนเรื่องอื่นอีก ครับผม

น้อง "Choco" . . . หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเรื่องเรียนในอนาคตนะครับ

พี่ AT . . . ขอบคุณมากครับ ทั้งกำลังใจ และการแนะนำให้คนอื่นมาอ่าน . . . ผมอยากได้มุมมอง ของคนในวงการ สุขภาพ หมอ เภสัช ฯลฯ เหมือนกันครับผม . . . ขอบคุณที่แนะนำนะครับ (อยากตัวเจอเป็นๆจัง ทั้งครอบครัวเลย . . . )

คุณ Epinephrine . . . (ชื่อมาจากตัวยา artificial adrenarine ใช่ป่าวครับ?) ของคุณที่มาเยี่ยมครับ . . . ขออนุญาต add blog เลยนะครับ . . . หวังว่า ในอนาคต คงจะได้พึ่งพา มุมมอง และประสบการณ์นะครับ



โดย: AmoreVincitOmnia วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:00:20 น.  

 
I'm glad seeing your blog turning to this page....

Personally, problems and choices are inevitable in life. Problems are always challenging me to solve them.... Choices are another kind of challenges defying me to take a path.

Both of them need wisdom to get through.

I believe you have tons of it.

Take good care,
A.T.


โดย: A.T. IP: 129.82.96.71 วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:10:09:14 น.  

 
Thank you so much krub p' AT.



โดย: AmoreVincitOmnia วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:19:32:03 น.  

 
I just added two more blogs;

1. Can we quote SpongeBob? and
2. Pang Tong and Zhuge Liang

I think you may have some thoughts about it....

Not academic... just a silly thought.


โดย: A.T. (amatuer translator ) วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:4:02:34 น.  

 
ม า เ ยี่ ย ม ค่ ะ


โดย: อาราลียะ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:0:11:35 น.  

 
Since your name was mentioned, so I would like you to stop by the following url;

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amatuertranslator&month=04-2007&date=11&group=1&gblog=33

Have a great day,
A.T.


โดย: A.T. (amatuer translator ) วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:23:47:06 น.  

 
สวัสดีคะ

แวะเข้าทักทาย ชอบแบล๊คกราวน์จัง^^


โดย: Hana IP: 210.86.222.12 วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:2:50:02 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับ ที่ทำให้ความโง่ของกระผมมันออกจากกึ๋นสมอง
เย้เย้


โดย: james smit IP: 115.67.252.226 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:30:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.