โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
ชาใส่เครื่องเทศ... เครื่องดื่มอันโปรดปรานของฉันกับคุณค่าของเครื่องเทศ

24 มีนาคม 2552

นมัสเตค่ะ
กลับมานี่ไม่ค่อยขยันเลยแฮะเรา วันนี้เลยเอาของชอบมาโพสเล่นๆดีกว่า 555 นั่นคือเรื่องของ ชา ค่ะ ตอนนี้..เวลาที่ฉันอยู่บ้าน ทั้งเช้าและบ่ายก็จะต้มชานมใส่เครื่องเทศดื่มเป็นประจำค่ะ อย่างน้อยก็วันละถ้วย เฮ้อ... เวลาดื่มแล้วจะมีความสุขมากๆ วันไหนถ้าไม่ได้ดื่มชาหรือกาแฟก็จะรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน และก็มักจะโดนครูหรือเพื่อนๆเหน็บแนมว่า ต้องฝึกตัดการติดความสุขจากรสชาตินะ(ปรัตยาหาระ) ทำเอาเราหน้าแตกเล็กน้อย ในฐานะที่เป็นครูสอนโยคะแต่ดันติดรสชาติซะได้

เรามาเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ

จาย (चाय ) เป็นคำในภาษาฮินดี โดยทั่วๆไปจะแปลว่าชาค่ะ แต่ถ้าเราพูดคำนี้กับชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนอินเดียนะคะ จะเป็นอันที่รู้กันว่าชาถ้วยนั้นต้องใส่เครื่องเทศด้วยค่ะ แต่ถ้าในอินเดีย...บางร้านที่ใหญ่ๆหน่อย ฉันจะต้องเน้นไปว่า มาซาล่าจาย ไม่งั้นก็ได้ชานมธรรมดาแน่นอน

ในโลกตะวันตกนั้นกาแฟเป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ ในอินเดียนั้นก็เรียกว่าร้านจายหรือแผงขายชานั้นมีทุกหัวถนนเช่นกัน แต่ราคาถูกกว่ากันเยอะ ราคาชานมแก้วเล็กๆนั้น...ข้างถนนขายไม่เกินแก้วละ6รูปี แต่ตามร้านภัตตาคารอาจจะมีราคาถ้วยละ15-25รูปีเช่นกัน แต่....ก็ถือว่ายังถูกนะ ฉันไม่อยากจะบ่นเลย วันก่อนเผลอไปเข้าร้านกาแฟสัญชาติไทยร้านหนึ่งที่เมืองทองธานี เจอราคาโกโก้ปั่นแก้วเล็กราคา100 บาทเข้าไป ทำเอาเดินออกแทบไม่ทันแน่ะ แม้ว่าฉันจะนิยมทานชา-กาแฟสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเกินแก้วละ60บาท(แบบปั่น) ก็เป็นอันว่าบอกลากันไปเลย ทานกาแฟยกล้อข้างถนนก็ได้ ไม่ว่ากัน หรือไม่ก็ทานที่บ้าน เฮฮาสบายใจกว่ากันเยอะ

การชงจายนั้นมักจะต้มใบชาในน้ำเดือดมากกว่าที่จะใช้น้ำร้อนชงธรรมดาแบบที่เราปฏิบัติกัน เพราะว่าจะทำให้ได้คาเฟอีนเทียบเท่ากับการต้มกาแฟเช่นกัน

จายในอินเดียนั้นมักจะใช่ใบชาอัสสัมกัน เพราะถือว่าเป็นสถานที่ต้นกำเนิดในการปลูกชาของอินเดีย และขอบอกว่าชาอัสสัมนั้นหอมและรสชาติดีอย่าบอกใครเลยทีเดียว ฉันเห็นราคาใบชาอัสสัมในห้างของเมืองไทยแล้วก็แทบสลบตรงนั้นเลย หนนี้ฉันจึงไม่พลาดที่จะขนใบชาอัสสัมมาจากอินเดียแบบที่เรียกได้ว่า... มีพอดื่มไปทั้งปีเลยทีเดียว

ใบชาและการชงชานั้นยังเป็นเรื่องเล็ก เพราะหลายๆคนคงสงสัยว่าแล้วเครื่องเทศที่ใส่ในชานั้นมันมีอะไรดีกันแน่

สมุนไพรหรือเครื่องเทศในจายหรือที่เราเรียกว่า มาซาล่าจายนั้น โดยส่วนใหญ่มักจะให้รสเผ็ดร้อน มีฤทธิ์ขับลม จุกเสียด แน่นท้อง ช่วยย่อยอาหาร และผ่อนคลายกล้ามเนื้อช่องท้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นขิง กระวาน ซินนามอน พริกไทยดำ กานพลู ลูกจันทร์เทศ และยี่หร่า

น่าแปลกใช่มั๊ยล่ะ... เราอาจจะนึกสงสัยว่าประเทศอินเดียนั้นก็ร้อนจะแย่อยู่แล้ว ยังทานอะไรที่ทั้งร้อนและยังให้รสชาติเผ็ดร้อนอีกเนี่ย

สมุนไพรเหล่านี้ก็น่ามหัศจรรย์ แม้ว่าเราดื่มไปแล้วอาจจะรู้สึกร้อนวูบขึ้นมา แต่หลังจากนั้นร่างกายเราก็จะเย็นลง เราจะรู้สึกเย็นลง ไม่เหมือนกับการดื่มน้ำเย็นหรือน้ำปั่น ที่มักจะทำให้เรารู้สึกว่าอากาศรอบตัวเรากลับร้อนขึ้นเรื่อยๆ(ถ้าเราไม่ได้เอามันไปดื่มในห้องเย็นนะ อิอิ) นี่จึงเป็นเหตุหนึ่งที่คนอินเดียชอบชาใส่เครื่องเทศ และแม้กระทั่งนมก็มีฤทธิ์เย็นเช่นกัน

แต่ข้อที่ควรระมัดระวังก็มีเช่นกันนั่นคือ ไม่ควรดื่มตอนที่ท้องว่างมากๆ เพราะสมุนไพรหลายตัวก็จะเพิ่มการหลั่งของน้ำดี เพื่อช่วยในการย่อยอาหารนั่นเอง อาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารบ้างในคนที่มีปัญหาโรคกระเพาะอยู่แล้ว ซึ่งก็เช่นเดียวกับกาแฟที่จะเพิ่มน้ำย่อยในกระเพาะเช่นกันค่ะ

เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะใส่สมุนไพรชนิดใดมากน้อยตามแต่ชอบก็ได้ จากนั้นก็ไม่ยากเลย

ฉันก็เพียงแค่ต้มใบชากับน้ำให้เดือด ...น้ำสัก200ซีซี.กับชา1ช้อนชาครึ่ง(ตามชอบ) และใส่เครื่องเทศรวมลงไปประมาณ1/2 ช้อนชาหรือ3/4 (อันนี้ก็ตามชอบเช่นกัน)


พอเดือดจนได้น้ำชาสีเข้มแล้ว เราก็เติมนมลงไปต้มให้เดือดอีกที ปริมาณนมนั้นอาจจะเติมในอัตราส่วน1/2 หรือ1/4ของชาหนึ่งถ้วยที่เราต้องการนั่นก็หมายถึงน้ำเท่ากับนมนั่นเองละค่ะ จากนั้นก็กรองเอากากออกเท่านั้นเองค่ะ


ในอินเดียนั้นนมก็ค่อนข้างจะถูกเพราะเขาจะผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่านมเป็นวัตถุดิบเริ่มต้นของอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งในอินเดีย... นั่นก็คือ กี หรือเนยอินเดียนั่นเอง ซึ่งกว่าจะได้เป็นกีออกมา100 กรัม เราก็ต้องใช้นมในปริมาณที่เยอะพอดู

เป็นไงค่ะ ว่างๆลองทำดูสิคะ คุณอาจจะหันมาติดชาแทนแบบฉันก็ได้นะ

Hari Om



Create Date : 24 มีนาคม 2552
Last Update : 24 มีนาคม 2552 21:14:07 น. 2 comments
Counter : 1384 Pageviews.

 
ขอบคุณนะคะสำหรับวิธีการชงจายคะ พอดีเลยคะกำลังอยู่ในช่วงทดลองชงสำหรับขายให้กลับลูกค้ากลุ่มมุสลิมอยู่คะ ถ้าสนใจเรื่องชาสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะที่ชาระมิงค์คะwww.ramingtea.com จิ๊บคะ 053242292


โดย: ๋ำJeebjib IP: 118.172.99.21 วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:16:52:05 น.  

 
สมัยทำงานกับคนอินเดียเมื่อเกือบ 10ปีก่อน ได้มีโอกาสทานชา(แขก) คือติดใจและประทับใจมาก เพราะปกติเป็นคนชอบกินชานมอยู่แล้ว ยิ่งได้กลิ่นหอมๆ ของเครื่องเทศแล้วยิ่งรู้สึกดีเหมือนได้ผ่อนคลายด้วย ไม่รู้คิดไปเองรึปล่าว

วันนี้เห็นภาพแล้วยิ่งทำให้นึกถึงรสชาดที่ได้สัมผัส คงไม่มีโอกาสได้กินแบบครบสูตรอีกแว้วคร่า....

ว้า... อยากทานจัง จำได้ว่าแม่ครัวที่ทำให้นายใส่อัลมอนด์ด้วย ยิ่งหอมยิ่งมัน อร่อยมักๆ


โดย: Cherry (MySassyShihtzu ) วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:21:32:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.