|
เ รื่ อ ง เ ล่ า มั น ๆ เ พื่ อ สุ ข ภ า พ ที่ ดี ข อ ง ช า ว โ ย ค ะ ตอนที่ 2
ภาคต่อเรื่องมันๆ เรื่องมันๆยามเช้า 555 ได้อ่านประโยชน์อันมากมายของกีไปแล้ว อยากจะเสริมอีกนิดค่ะ กีมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายเย็นลงค่ะ ต่างจากน้ำมันอื่นๆที่ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น สามารถใช้รักษาและสมานบาดแผลภายนอกหรือในกระเพาะอาหารได้ และถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายก็ให้ทานกีหนึ่งหรือสองช้อนชาในตอนเช้าและตามด้วยน้ำอุ่นจัดทันทีจะช่วยกระตุ่นการทำงานของลำไส้ แต่ถ้ามีปัญหาไขมันเกินหรือน้ำหนักเกินคุณก็ต้องระวังให้มากหน่อยนะคะ ทั้งนี้เรื่องข้างต้นยังไม่ใช่ประเด็นของวันนี้ค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงชนิดของกีค่ะ เนยใสหรือกีที่มีขายในท้องตลาดจะมีอยู่สองชนิดคือ 1. ทำจากนมวัว 2. ทำจากนมควาย ปัจจุบันเนยใสจากนมควายได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากความนั้นให้นมมากกว่าวัว มันจึงหาได้ง่าย แต่คนอินเดียที่มีฐานะดีหน่อยก็จะใช้เนยใสจากวัว เพราะปัจจัยความแตกต่างหลายๆข้อ 1. วัวเป็นสัตว์ที่มีร่างกายอุดมด้วยไขมัน ในขณะที่ร่างกายของความจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ดังนั้นนมที่ออกมาจึงไม่มีไขมันดีๆที่เราต้องการ 2. เนยใสจากวัวจะอยู่ในรุปของเหลวที่อุณหภูมิร่างกาย ในขณะที่เนยใสจากความจะแข็งกว่าเล็กน้อย 3. ควายจะทานอาหารทุกอย่างแม้ว่าอาหารนั้นเกือบจะเน่าเสีย แต่วัวจะหันหน้าหนีกลิ่นเน่าเหม็นเหล่านั้นและไม่ทานของค้างเก่า ทำให้กลิ่นควายนั้นรุนแรงกว่าวัว 4. ธรรมชาติของควายมีความก้าวร้าวและดื้อดึงทำให้เนยใสที่ออกมามีความหนัก ทึบ เชื่องช้าเป็นตมัส แต่ธรรมชาติของวัวนั้นรักความสงบและอ่อนโยนทำให้เนยใสที่ออกมามีความเป็นสัตวิก เบา สงบและบริสุทธิ์ เราสามารถสังเกตุความแตกต่างระหว่างเนยใสจากวัวและเนยใสจากควายได้โดย เนยใสจากควายจะเป็นสีขาว ขณะที่เนยใสจากวัวเป็นสีเหลือง นอกจากนี้การใช้เนยใสจากวัวจุดตะเกียงหรือโคมไฟในวัด แสงที่ได้จะสวยงามและสดใสกว่าแสงอื่นๆ และแสงไฟจากการเผาไหม้ของเนยใสยังช่วยปัดเป่าสิ่งที่ชั่วร้ายออกไปอีกด้วย น่าทึ่งใช้มั๊ยคะกับภูมิปัญญาแบบดั้งเดิมของโลกเรา ยังมีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับเนยใสอีก แต่คงต้องครั้งหน้าแล้วละค่ะ ^^ หริโอมตัสสัส -/|-
Create Date : 21 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 21 ธันวาคม 2555 10:17:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 759 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง
ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ
วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย) ที่ Yoga Vidya Gurukul ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549
ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว
ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D
ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร ก็ติดต่อมาได้นะคะ Tel.+66 (0)85 1420201
|
|
|
|
|
|
|