Little drops of water, Little grains of sand Make the mighty Ocean, and the pleasant land. Little deeds of kindness, Little words of love Help to make Earth Happy, Like the Heven above.
Group Blog
 
All Blogs
 
ไอติม บลูเบอรี่

ข้อดีของการทำขนมเอง คือ เรารู้แน่ชัดว่าเรากินอะไรเข้าไปบ้าง อะไรทำให้อ้วนบ้าง แต่ข้อเสียคือ วัตถุดิบเหลือบานเบอะ ครั้นจะทำเมนูเดิมบ่อยๆก็กินกันจนเบื่อ

เพราะเมื่อวานซืนทำบลูเบอรี่ชีสพายไปในบล๊อกที่แล้ว แต่ยังมีหน้าบลูเบอรี่เหลืออีกเพียบ บลูเบอรี่ที่กวนมาเรียบร้อยแล้วแบบนี้ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี เลยหยิบตำรามาพลิกๆดูไปเจอะไอติม ดูแล้วว่าอุปกรณ์ที่มีอยู่ในบ้าน น่าจะพอทำได้ ร้อนๆแบบนี้ กินไอติมเย็นๆก็ดีเหมือนกันเนอะ

วัตถุดิบที่ใช้
1.บลูเบอรี่ ชามนี้มาจากบลูเบอรี่กระป๋องแบบสำเร็จ ซึ่งเหลือจากการทำพายในบล๊อกที่แล้ว
2.นมสดพร่องมันเนย ใช้ 2 ถ้วย
3.เนย 2 ช้อนโต๊ะ(ที่จริงควรใช้เนยจืด แต่ไม่มีเลยเอาเนยเค็มแทนแล้วกัน แล้วยกเลิกการเติมเกลือซะ)
4.น้ำตาลทรายขาว ใช้ 1 ถ้วยครึ่ง

สัดส่วนนี้ ได้ไอติมทั้งหมด 4 ลูก (เล็กๆ)



วิธีทำ

เอานม น้ำตาล และเนยใส่หม้อไปตั้งไฟอ่อนๆแค่พออุ่นๆ ตอนแรกใส่เนยลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ชิมแล้ว เออ...อร่อยดีแฮะ รสชาติเหมือนน้ำราดข้าวโพดอบเนยของโปรด ด้วยเหตุนี้เราจึงใส่เนยลงไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ รวมเป็นใส่เนย 2 ช้อนโต๊ะ



คนจนส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นยกลงรอให้เย็น แต่เราขี้เกียจรอ เลยเอาไปหล่อน้ำเย็นซะ



จากนั้นเอาใส่เครื่องปี่น แล้วค่อยๆเติมบลูเบอรี่ลงไปทั้งน้ำละเนื้อ จนได้สีและรสชาติที่ชอบ แล้วก็ปั่นๆจนละเอียด



ตอนสมัยเรียน หลังจบขั้นตอนนี้ ก็เอาเข้าเครื่องปั่นไอติมได้เลย แต่เนื่องจากเราไม่มีเครื่องปั่นไอติม และไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ได้ทำหม้อน้ำแข็งเอาไว้ ก็เลยต้องใช้น้ำแข็งก้อนใส่ไปแทน พอทนๆ



เอาหม้อผสมของเราใส่ในหม้อน้ำแข็งอีกที แล้วก็ใช้แรงงานแขนเราเนี่ยหล่ะ ตีๆๆๆไป จากนั้นก็เอาเข้าช่องแข็งในตู้เย็น ผ่านไป 2 ชม ก็เอาออกมาตีซ้ำ ที่จริงมันควรจะทำเรื่อยๆ แต่ตีจนเมื่อยแขนแล้ว ก็เลยตีแค่ 2 รอบ แล้วใส่ช่องแข็งยาวมาจนเช้า...........สาธุ.........ขอให้มันแข็งทีเถ๊อะ


ตื่นเช้ามา หลังจากสำรวจดูว่า ไอติมแข็งตัวสมใจแน่แล้ว เราก็เริ่มทำเยลลี่กัน

ทำเยลลี่
วัตถุดิบ ได้แก่ น้ำ 1 ถ้วยครึ่ง เจลลาติน 6 แผ่น และบลูเบอรี่ที่กั๊กเอาไว้เล็กน้อย จากการทำไอติมข้างบน



ตักแต่น้ำบลูเบอรี่เหนียวๆ ใส่ลงไปผสมกับน้ำในหม้อ แล้วเอาไปอุ่นที่เตา จากนั้นเติมเจลลาตินลงไป

ข้อควรระวัง ตักแต่น้ำ อย่าตักเนื้อบลูเบอรี่ลงไปนะคะ ไม่งั้นเยลลี่ขุ่นๆ ไม่สวยนะ



ด้วยความที่ไอติมของเราหวานมาก และเยลลี่ที่ดี ควรมีรสเปรี้ยวนำ เราจึงใส่น้ำส้มคั้นลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ



นำวุ้นตักใส่ถ้วย แล้วหย่อนบลูเบอรี่ลงไปตรงกลาง วันนี้เราใส่แค่ 2 เม็ด จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชม เยลลี่ก็จับตัวกันพอดี



ตอนนี้พร้อมทั้งไอติมและวุ้นแล้ว เย้ๆ



ตักไอติมใส่ลงไป ในถ้วยวุ้น 1 ลูก เอาบลูเบอรี่ จิ้มข้างบน 2 เม็ด พร้อมเสริฟแล้วค่ะ




สรุปรายงานการทำไอติมบลูเบอรี่วันนี้

1.ไอติมละลายเร็วไปหน่อย คงเพราะอากาศบ้านเรามันร้อน แถมตู้เย็นมันก็ไม่ได้เย็นจัด
2.เนื้อผลไม้น้อยไปหน่อย(แหงสิ ทำจากของเหลือนินา) งวดหน้าควรจะเติม บลูเบอรี่ลงไปเป็นเม็ดๆหลังจากปั่นเสร็จ จะได้มีเนื้อผลไม้ให้กินด้วย
3.วันนี้ลืมเติมเจลลาตินตอนทำไอติม(อีกแล้ว) คราวหน้า อย่าลืมๆๆๆๆๆ
4.สุดท้ายรสชาติ พ่อกับแม่ ชิมแล้วเค้าว่าอร่อยนะ แค่นี้ก็ดีใจแระ



Create Date : 07 พฤษภาคม 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 19:16:45 น. 7 comments
Counter : 1779 Pageviews.

 
อยากหม่ำมั้ง อิอิ ^0^


โดย: aimer@ IP: 119.46.9.118 วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:24:26 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:42:02 น.  

 
ดีจังค่ะ มีวิธีทำไอติมแบบไม่ต้องใช้เครื่อง จะได้ลองทำมั่ง หน้าตาไอติม บลูเบอรี่น่าทานค่ะ


โดย: Ananas99 วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:23:46 น.  

 
น่าทานมากๆเลยคะ


โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:29:49 น.  

 
แวะมากินไอติม


โดย: wiwan (wiwan K ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:27:13 น.  

 


โดย: ceacar salad วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:36:58 น.  

 
ดีจังค่ะ ทำต่อยอดไปเรื่อย ๆ
ไม่ทิ้งของอร่อยไปง่าย ๆ


โดย: ซามอ วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:45:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vitamin_C
Location :
Pasadena United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีค่ะ อากาศดี ก็อารมณ์ดีเนอะ .......^-^

คิดถึงบ้านที่เมืองไทยเป็นที่สุด
ถ้าไม่นับห้องสมุดๆเจ๋งๆกับพิพิธภัณฑ์ดีๆ กับอาหารหลากหลายเชื้อชาติให้กินได้ไม่ซ้ำทุกวันแล้วหล่ะก็ เมืองไทยชนะขาดในทุกกรณี ว่าแต่เมื่อไหร่ ห้องสมุดกับพิพิธภัณฑ์ของบ้านเราจะพัฒนาซักทีน้อ....


ถึงแม้ว่าบล๊อกนี้จะไม่ค่อยมีสาระ แต่เนื้อหาและข้อความทั้งหมด
รวมไปถึงรูปภาพที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ถ่ายเอง ถือเป็นลิขสิทธิ์ ของสำนักพิมพ์บางกอกสาส์น จำกัด
ห้ามผู้ใดนำไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาติจากเจ้าของบล๊อก หรือ จากกองบรรณาธิการ

หากมีข้อสงสัยใดๆ กรุณาติดต่อหลังไมค์
หรือ
กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น 966/10 ซ.พระราม6 19 ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี กทม 10400
โทร 02-6137140
Email vitavitac@gmail.com
Friends' blogs
[Add Vitamin_C's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.