Group Blog
 
All blogs
 

Chocolate Almond Thins..ช็อกโกเลตอัลมอนด์.. บาง..กรอบ

ช็อกโกเลต อัลมอนด์ แผ่นบาง กรอบ...และอร่อย



สูตร..เอามาจากหนังสือนี้



มีอัลมอนด์ฝานบาง เหลืออยู่พอควร เอาไปทำ มาการอง macaroon ก็แล้ว มัน ออกมาเป็น maca-wrong ตลอด กาซิก กาซิก
กระโปรงจะบานย้วย ขาจะกุด บ้างไรบ้าง
จนในที่สุดเมื่อทำไม่สำเร็จ ก็บอกตัวเอง แบบ องุ่นเปรี้ยวว่า ไม่ทำก็ได้
เพราะมันเป็นขนมที่หวานมากๆ กินแล้วอ้วนนะ
เอ่อ แต่ความจริงทำไม่สำเร็จต่างหาก
ฮ่าๆ ไปกินฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอดก็ได้
เปิดๆดูหนังสือเล่มนี้แล้ว อืม..ใช้อัลมอนด์เยอะพอควรด้วย แถมทำไม่ยากอีกต่างหาก



ส่วนผสม

-อัลมอนด์หั่นบาง (almond flake) 1 ถ้วยตวง
-แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
-ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1/8 ช้อนชา
-น้ำตาลทราย 90 กรัม
-ไข่ทั้งใบ 1 ฟอง
-ไข่ขาว 1 ฟอง
-เนยจืดทิ้งให้อ่อนตัว 30 กรัม



วิธีทำ

-อบอัลมอนด์ ที่ 170 องศา c สัก 10 นาที แล้วพักไว้ อบไว้ก่อนล่วงหน้าก็ได้








สูตรนี้ ใช้ตะกร้อมือก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องตี เนยจืดอ่อนตัว ถ้าจะใช้เป็นเนยละลายก็ได้เช่นกัน

จะได้ส่วนผสม ออกมาเป็นแบบนี้



สิ่งที่ต้องเตรียมเผื่อไว้ก็คือ ถาด อบ มีสัก 3-4 ถาดก็ดี เพราะ แต่ละครั้งอบใช้เวลาเร็วมาก
แค่ 5-6นาทีเอง จะได้ไม่ต้องให้เตาว่างอยู่นาน

ทางที่ดีถ้ามีถาดมากพอ เตรียมส่วนผสมที่จะอบ ให้ครบหมดทุกถาดก่อนก็ได้ ค่อยเปิดเตา
เพราะสูตรนี้ไม่มีผงฟู ไม่ต้องการการฟูฟ่อง ของขนม ไม่จำเป็นต้องรีบเอาเข้าเตา

ใช้ช้อนตวง ขนาด 1/2 ช้อนชา ตักส่วนผสม แล้วเกลี่ยให้เป็นวงกลม ขนาดประมาณ 5-6 ซม.



ถ้ากลัวว่าจะได้ขนาดไม่เท่ากัน ตัด พลาสติกแข็ง เอามาวางทาบ แล้วเกลี่ยแบบนี้ก็ได้



แต่ ชอบแบบนี้ มันเร็วดี
(อาจจะใช้ วงกลม ที่ตัดคุกกี้ก็ได้ แต่ตอนแรกหาไม่เจอ)





จากนั้นก็เอาอัลมอนด์มาโรยหน้า



ทำแบบนี้ สัก 3 ถาดแล้วค่อยเปิดเตาอบก็ได้

อ่อ..ลืมบอก ถาดอบ ถ้าไม่มี แผ่นรองอบ แบบ non stick ก็ใช้ ถาดเปล่า
ทาเนยบางๆ ทับไปมาสัก 3-4 ครั้ง ขนมที่ได้จะบาง อาจจะแซะยากนิดนึงถ้าเนยไม่ลื่นพอ



และไม่ควรใช้ กระดาษปู ถาด แบบนี้ เพราะ แซะแกะแทบไม่ออก
ถาดนี้เลยแกะได้ 3 แผ่นเอง เสียดาย



เตรียมได้ สัก 2-3 ถาด ก็เปิดเตาที่ 160 องศา c

พออุณหภูมิได้ที่ต้องการก็เอา เข้าอบ ไฟล่าง 6 นาที





ถ้าดูในเตาจะเห็นว่าขนมจะเหมือนมีฟองปุดๆ เสมอทั้งแผ่น คือสุกแล้วล่ะ

เอาออกมา ใช้ สเปตูล่า ช่วยแซะ



วางผึ่งบนตะแกรง



แล้วค่อยเอา ถาดต่อไปเข้าอบ

จะเห็นว่า พี่ใช้ถาดและแผ่นอบ หลายแบบมาก ได้เอาออกมาใช้กับสูตรนี้ทั้งหมด

อันที่อบกับ silpat แซะออกง่ายสุด

รองลงมาก็อันที่เป็นแผ่นสีน้ำตาลบางๆ ที่ใช้ได้หลายๆครั้ง

ส่วนถาดแบบ nonstick (ในรูปที่ใช้พลาสติกวงกลม ทาบ) ก็ไม่ต้องทาเนยทับ
ก็ใช้ได้ดี แต่ต้องรีบ แซะออกแทบทันที
ไม่งั้นก็ติดตรงขอบๆเล็กน้อย เพราะขอบขนมจะค่อนข้างบาง
แบบถาดที่ทาเนยเช่นกัน ต้องรีบแซะออก อย่ารอเย็น


เมื่อผึ่งบนตะแกรง ก็ผึ่งแค่หายร้อน ไม่ต้องเย็นสนิท
ก็เก็บเข้ากล่องปิดฝาให้สนิท
ไม่งั้นโดนความชื้นในอากาศจะไม่กรอบ



ทำไปชิมไป เหลือถ่ายรูปไม่เท่าไหร่ อิอิ



ถ้าทำขนาด ที่พี่ทำ ขนาด5-6 ซม. จะได้ประมาณ 80 อัน

เวลาทำอาจจะ มือเป็นระวิงหน่อย
มีผู้ช่วย ก็ดี ช่วยกันเกลี่ย ละเลง โรยหน้าขนม
จะได้มีเวลา ที่เตาว่าง ไม่นาน
หากทำไม่หมดในครั้งเดียว ก็เก็บเข้าตู้เย็นเอามาทำต่อวันต่อไปก็ได้

มาหม่ำกัน
ชอบขนาดนี้ พอดีคำเดียว ขนมกรอบๆ ชิ้นใหญ่กัดหลายคำ ขนมร่วงอีก
(อิอิ..เป็นคนกินไม่ค่อยเรียบร้อย)

กินเพลิน บางกรอบ อร่อย






 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2553 17:58:41 น.
Counter : 6180 Pageviews.  

Siam tea cookies –คุกกี้ชาไทย

Siam tea cookies –คุกกี้ชาไทย



ตอนอ่านหนังสือของ Keiko Ishida มีสูตร คุกกี้ชาเขียว
นึกอยากให้ ชาไทยตรามือบ้านเรามีแบบ เป็นผงชา ที่ไม่ต้องกรองกากจัง
จะได้ทำตามสูตรนี้ได้



สูตรต้นฉบับนี้มีแค่น้ำมันพืช แป้ง ผงชา อัลมอนด์ป่น ไม่มีน้ำตาลแบบแห้ง ใช้ความหวานจากน้ำเชื่อมสองชนิด คือ maple syrup และ brown rice syrup
ซึ่งไม่มีทั้งคู่...แป่ว
แต่อยากทำสูตรนี้มาก ก็เลยคิดว่าเอาไงดี
ชาก็ต้องกรองกาก น้ำเชื่อมก็ไม่มี ก็เลยทำเป็นน้ำเชื่อมชาไทยซะเลย

น้ำเชื่อมชาไทย

-ชาตรามือ 4 ช้อนโต๊ะ อยากได้เข้มๆ ก็เลยใช้เยอะหน่อย
-น้ำร้อน 100 ซีซี
-แช่ชาไว้ สัก20 นาที
-กรองกากออก ให้ได้น้ำชาเข้มๆ 50 ซีซี
-ใส่น้ำตาลทราย ลงไป 60 กรัม คนให้ละลาย



พอดีตอนทำถึงขั้นตอนนี้ มีธุระด่วน ต้องละมือไว้แค่ขั้นตอนนี้
เสร็จธุระก็ยังยุ่งๆ ยังไม่ได้ทำ เลยเอาเข้าตู้เย็นไว้
แล้วก็ลืมเมนูนี้ไปแล้ว
จนผ่านไป 3 วัน อยากใช้ถ้วยตวงใบนี้ นึกขึ้นมาได้ว่า ยังทำเมนูนี้ไม่เสร็จ

น้ำเชื่อมชา สีเลยเข้มมาก



มาดูส่วนผสมทั้งหมดกัน

ส่วนผสมคุกกี้ชาไทย

-แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
-ผงฟู 1 หยิบมือ
-อัลมอนด์ป่นละเอียด 50 กรัม
-เกลือ 1 หยิบมือ
-น้ำเชื่อมชาไทยประมาณ 50 ซีซี(วีธีทำด้านบน)
(น้ำชาเข้มๆ 50 ซีซี+น้ำตาลทราย 60 กรัม)
-น้ำมันพืช(ใช้น้ำมันคาโนล่า) 25 กรัม

วิธีทำ

-วอร์มเตา ที่ 150 องศา c
-ร่อนแป้ง ผงฟู และ อัลมอนด์ เข้าด้วยกัน
-ใส่น้ำมันคาโนล่า และน้ำเชื่อมชา และเกลือ ในชามผสม คนให้เข้ากัน
-เอาส่วนของแห้ง แป้งที่ร่อนแล้ว ลงไปผสมในอ่างผสม
-ใช้มือผสมให้เข้ากันเร็วๆ นวดเล็กน้อยแค่พอเข้ากัน
-ปั้นเป็นก้อน ห่อพลาสติกไว้ เอาเข้าตู้เย็น สัก 20-30 นาที

ตอนผสมเป็นแป้งโด กลิ่น ชาไทยหอมมาก โด ก็รสชาติเข้าที



เอาโด ออกมาคลึง ให้เป็นแผ่น หนาสัก ครึ่งเซนติเมตร
ใช้ที่ตัดคุกกี้ ตัดออกมา

เลือกใช้แบบใบไม้ จะได้เข้ากับ หน้าหนาว ใบไม้เริ่มร่วง อิอิ



-ปูประดาษไขที่ถาด วางคุกกี้โดที่ตัดแล้ว
-เอาเข้าเตาอบ 10-12 นาที
-ที่ทำจะอบไฟล่าง 10 นาที ไฟบน-ล่าง ที่่2 นาทีหลัง
-เอาออกมาพักให้เย็น บนตะแกรง



คุกกี้นี้เป็นคุกกี้ กึ่งกรอบ กึ่งนิ่ม เวลาอบ อย่าอบนานเกิน ระวังจะแห้งกรอบ



กลิ่นชาไทย ก็พอได้กลิ่น รสชาติไม่หวานมาก อัลมอนด์มีส่วนทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น รสชาไทยก็พอได้รสอยู่ ยามเคี้ยวกลืน สีเข้มดี.. ชอบๆ


เป็นคุกกี้อีกรสชาติหนึ่งสำหรับคนชอบคุกกี้รสแปลกใหม่ และสำหรับคนชอบชาไทย ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เก็บไว้ใน คอลเลคชั่น อิอิ






 

Create Date : 31 ตุลาคม 2553    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 13:53:20 น.
Counter : 8158 Pageviews.  

มะยมมัฟฟิ่น- Mini Mayom Muffin



ชอบกินมะยมเชื่อม สุดสัปดาห์ที่แล้วมีคนซื้อมาฝาก และซื้อเองด้วยโดยมิได้นัดหมาย ก็เลยเหลือพอควร



ตอนนั้นฝนตก นึกอยากอบขนม ชอบกลิ่นขนมอบให้อวลไปทั่วบ้านในวันที่
ฝนพรำๆ

สูตรดัดแปลงจากหนังสือของ Keiko Ishida



จากสูตร Blueberry crumble muffins

แต่ใช้มะยมเชื่อม แทน บลูเบอรี่

แล้วก็อยากทำเป็นขนาดเล็ก เลยใช้พิมพ์มัฟฟิ่นเล็ก

ส่วนผสมสำหรับมะยม มัฟฟิ่น

ใช้พิมพ์ขนาดเล็ก จะได้ 12 ชิ้น ถ้าพิมพ์ขนาดปกติ จะได้ 6 ชิ้น

ประกอบด้วย 3 ส่วน

1 มะยมเชื่อม

-มะยมเชื่อมแกะเม็ดออกแล้ว1 ถ้วยตวง



ตอนแรกว่าจะไม่อบมะยม แต่ ตอนแกะเม็ดรู้สึกว่า ส่วนน้ำ มันเยอะจัง เลย อบให้แห้งซะนิดหนึ่ง

2 crumble topping




ส่วนนี้ในสูตรเดิม ไม่ได้ใส่เกลือ เติมเองไปนิดหน่อย
ได้ลดเค็มปะแหล่มๆ เป็น crumble topping ที่อร่อยดี.. ชอบๆ

3 มัฟฟิ่น

-แป้งเค้ก 120 กรัม
-ผงฟู 1 ช้อนชา
-เนยจืด(อุณหภูมิห้อง) 50 กรัม
-น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม
(brown sugar)
-น้ำตาลทราย 20 กรัม
-ไข่ (ขนาด 65 กรัม) 1 ฟอง
-นมสดจืด..เย็น 60 กรัม

วิธีทำ

-เตรียมพิมพ์มัฟฟิ่น 12 ชิ้น ใส่ในถาดหลุม
-วอร์มเตา ที่ 180 องศา C
-ร่อนแป้ง กับ ผงฟูเข้าด้วยกัน
-น้ำตาล ทั้งสองชนิด ผสม คนให้เข้ากัน

-ใช้เครื่องตีส่วนผสม ตีเนย ให้นุ่ม
-ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละช้อน ตีต่อ จนส่วนผสม นุ่ม ฟู เบา
-ใส่ไข่ ตีให้เข้ากัน
-ใสแป้ง สลับกับนม ใส่แป้ง 3 ครั้ง นม สองครั้ง สลับกัน
-คนให้พอเข้ากัน อย่าคนนาน
-ใส่มะยมอบที่คลุกแป้ง คนให้พอเข้ากัน
-ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ ประมาณ ¾ ของพิมพ์
-ใส่ มะยม ส่วนที่ไม่ได้อบ ที่แบ่งไว้ก่อน ถ้วยละ 3-4 ชิ้น
-โรยทับด้วย crumble topping




-นำเข้าอบ ประมาณ 18-20 นาที
-เอาออกจากเตา วางให้เย็น บนตะแกรง

แต่ กินตอนอุ่นๆ อร่อยดี



มัฟฟิ่นนี้ไม่หวานมาก(แอบลดน้ำตาลลง อย่างละ 10 กรัม คริ คริ) ได้รสสัมผัส หนึบๆ หวานๆของมะยม และกลมกล่อม เค็มปะแหล่มๆของ crumble topping
ส่วนตัว คิดว่า มะยมเชื่อม รสชาติคล้ายๆเชื่อรี่เชื่อม ที่อยู่ในกระป๋อง



มัฟฟิ่นขนาดเล็กๆ ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีที่ว่าง ไว้ให้ขนมอย่างอื่นอีกบ้าง อิอิ

ถ้ากินไม่หมด เวลาจะกินอีกครั้ง อุ่นกับไมโครเวฟอีกครั้ง แล้วกิน กับชา หรือกาแฟ ก็ยังอร่อย






 

Create Date : 30 ตุลาคม 2553    
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 23:05:49 น.
Counter : 2326 Pageviews.  

Never- Fail Cupcakes

Never- Fail Cupcakes
เห็นชื่อสูตรนี้แล้วสะดุดตามาก
อะเจ้ย..เค้ากล้าตั้งชื่อสูตรแบบนี้เหรอ
ลองทำดู ครั้งแรกสำเร็จ ก็คิดว่า อาจจะฟลุกๆ
ก็เลยลองทำครั้งที่สอง และครั้งที่สามคือครั้งนี้ก็ตามมา
เพราะ มันไม่ยากจริงๆ
เทียบกับ ความง่ายของสูตร กับ ผลลัพท์ที่ออกมามันโอเคมากเลย





เอามาจากลิ้งค์นี้นะคะ

Cupcakes by the dozen

ตอนที่เปิดเจอช่วงนั้นเพราะไปรับประทาน crepe cake ที่ร้านหนึ่งมา
เลยคิดอยากมาทำเองบ้าง
แฮ่ๆ ..เป็นคนชอบเค้กที่เป็นชั้นๆ layer cake
แต่ไปๆมาๆยังไม่ได้ทำ crepe cake ที่ต้องการเลย มาเจอ มาทำ คัพเค้กที่เค้าโฆษณาว่า ทำแล้ว ไม่เคยทำให้ผิดหวัง อันนี้แทน


ส่วนผสม

ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผงโกโก้ ½ ถ้วย
เนยสด ½ ถ้วย ทิ้งให้อ่อนตัวที่อุณหภูมิห้อง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1½. ถ้วย
บัตเตอร์มิลค์ ½ ถ้วย
(ใช้นมสด ½ ถ้วย ผสมน้ำมะนาว 1½ช้อนชา คนๆให้เข้ากันแทน)

วานิลลา 1 ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ถ้วย
เกลือ ½ ช้อนชา
น้ำร้อน ½ ถ้วย.

*ต้นฉบับใช้ เนยขาว (shortening) แต่ใช้ เนยสดแทน และ แทน sour cream ด้วยbutter milk





วิธีทำ ง่ายมาก

-เตรียมถ้วยกระดาษ ใส่ในพิมพ์ ทาเนยที่ก้น พอให้กระดาษเกาะพิมพ์
-อุ่นเตาไว้ที่ 180 องศา c

-ใส่ทุกอย่างเรียงตามลำดับ ไปในโถผสม
จุดสำคัญ คือ ใส่ น้ำร้อน เข้าไปหลังสุด เมื่อทุกอย่างอยู่ในโถ

ที่ตัวเองทำ จะไม่ถึงกับเรียงลำดับ ขนาดนั้น

-เมื่อเตรียมของทุกอย่างพร้อม
ก็ทำน้ำให้ร้อน โดยใส่น้ำเข้าไมโครเวฟ ไฟกลาง 45 วินาที

-ใสไข่ ใส่เนย ของแห้ง ตามด้วย บัตเตอร์มิลค์
จากนั้นก็เอา หัวใบพายคนๆให้พอเข้ากัน เพราะตอนตีส่วนผสมจะได้ไม่ฟุ้งกระจายมาก
-ติดหัวใบพายเข้ากับเครื่องตี
-เปิดความเร็วต่ำสุดตีส่วนผสม
-จากนั้นก็เทน้ำร้อนลงไป ตอนที่เครื่องยังตีด้วยตวามเร็วต่ำ
-ตีต่อไปความเร็วต่ำสัก 1 นาที
(ก่อนใส่แอบ วัดอุณภูมิน้ำร้อนดู ประมาณ 63-65 องศา C จากการทำ 3 ครั้ง
หรือ กะดูจากเอานิ้วจุ่ม ก็ยังพอทนได้ ไม่ต้องร้อนจี๋)

-แล้วก็เปลี่ยนเป็นความเร็วกลาง 3 นาที
-หยุดครื่อง เอาออกมา ใช้พายปาดส่วนผสมในโถให้เข้ากันเนียนๆ อย่างรวดเร็ว

-เทใส่พิมพ์ ประมาณ ¾ พิมพ์
-สูตรนี้จะได้ 12 ถ้วยพอดี
-เอาเข้าเตา อบไฟล่าง ประมาณ 18-20 นาที
-เชคสุก โดยเอาไม้จิ้มฟันจิ้ม ไม่ติดส่วนผสมก็โอเค

เสร็จแล้ว




เนื้อที่ได้จะนุ่มๆ ไม่ถึงกับแน่นมาก แต่ก็ไม่ใช่ประเภทเนื้อเบา
รสชาติก็ ไม่หวานจัด กลมกล่อมในแบบของเค้กช็อกโกเลตที่เข้าที

อันนี้ใส่ Hershey’s kiss ไปด้วย




แบบแต่งหน้า




ปกติไม่ค่อยชอบกิน butter cream ที่แต่งหน้าเค้ก
แต่ คัพเค้กมันก็ต้องมีหน้าตาบางแหละ...เนอะ
ฮ่าๆ...จริงๆแล้ว แต่งหน้าเค้กไม่เป็นมากกว่า




แต่ถ้าจะกิน ชอบแบบหน้าเกลี้ยงๆมากกว่า หรือ แค่โรยน้ำตาลไอซิ่งนิดหน่อย

สูตรนี้ Never-Fail สมชื่อ
ชอบตรงที่ ใส่ทุกอย่างลงไปทีเดียว
แม้กระทั่ง ของแห้งไม่ต้องร่อนให้เข้ากันก็ได้
ตอนทำ ลองทำทั้งแบบ ร่อนของแห้ง รวมกัน ก่อน และไม่ต้องร่อนรวมกัน
ผลลัพท์ไม่ต่างกันเลย
ชอบจริงๆ สูตรง่ายๆแบบนี้





 

Create Date : 12 ตุลาคม 2553    
Last Update : 12 ตุลาคม 2553 0:53:16 น.
Counter : 1762 Pageviews.  

Siam tea cheesecake.. ชาไทยชีสเค้ก

Siam tea cheesecake ชาไทยชีสเค้ก



สำหรับคนชอบชีสเค้ก เค้กนี้ก็เป็นอีกรส ให้ลิ้มลอง
ปกติชอบชีสเค้ก อบบ่อยเหมือนกัน เพราะเพื่อนฝูงชอบ
ก็จะเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก หรือไม่ก็ไวท์ช็อกโกเลตชีสเค้ก

วันก่อนโน้น ตอนที่ ตุ๋นคัสตาร์ดทำ ไอศกรีมรสชาตรามือ

ในเตาอบ ก็กำลังอบ white chocolate cheesecake
ทำให้คิดได้ว่า น่าจะลองทำชีสเค้กรสชาไทย ชาตรามือนี่แหละ

เพิ่งสังเกตเห็นตอนถ่ายรูปว่า เป็นของ บริษัท Siam tea
เลยตั้งชื่อ เป็น Siam tea cheesecake ซะเลย




ตอนอบก็ลุ้น ว่ามันจะออกมาเป็นไง
เช้ามาเปิดเตา
ว้าววว หน้าตาไม่เลว





ไม่ได้รับประทานกับมะเฟืองนะ มะเฟืองต้นที่บ้าน มันฝาด และอมเปรี้ยว
แต่ตอนถ่ายรูป เหลือบไปเห็นมะเฟือง ร่วงเกลื่อนใต้ต้น ที่หน้าบ้าน
เลยไปเด็ดมาประกอบฉาก เห็นสีมันอยู่ในโทนเดียวกัน ฮ่าๆ
และอันที่อยู่ในรูปเด็ดจากต้น ไม่ได้ เก็บจากที่ร่วง



อบในพิมพ์ 1 ปอนด์ ตัดแบ่ง ออกมาไม่ค่อยสวยเนอะ
ทุกทีเวลาทำชีสเค้กทำแต่กับพิมพ์ 2 หรือไม่ก็ 3 ปอนด์




ส่วนผสมและวิธีทำ

ไม่มีรูปวิธีทำนะคะ

-เตรียมเตาอบ อบแบบ ใช้ถาดรองน้ำ วางถาดไว้ล่างสุด ใส่น้ำไว้
อุ่นเตาไว้ที่ 150 องศา C
-ใช้พิมพ์ 1 ปอนด์ แบบ ที่ถอดก้นได้ (spring form pan)
เอาฟอยล์หุ้ม พิมพ์ ให้ถึง เกือบขอบๆ หุ้ม สักสองชั้น กันเหนียว เผื่อ ฟอยล์ขาด
เพราะบางยี่ห้อ บางมาก อาจฉีกขาดง่าย


ส่วนประกอบ

สำหรับ crust

-ใช้โอริโอ้คุกกี้ 100 กรัม บดละเอียด
-เนยสดละลาย 45 กรัม
คลุกเคล้า กับ โอริโอ้ที่บดละเอียด
เอาไปกรุในพิมพ์
ถ้าชอบ ครัสที่บางกว่านี้ก็ ลดลงลงเอาตามใจชอบ
ส่วนตัวจะชอบ อบครัสไว้ก่อน ล่วงหน้า ด้วย ไฟ สัก 160 องศา ประมาณ 12 นาที แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
มันจะหอมดี..ชอบ

ส่วน ประกอบ ชีสเค้ก

-cream cheese 250 กรัม
(ใช้ ฟีลาเดลเฟีย ครีมชีส)
-นมข้นหวาน ½ ถ้วยตวง
(ประมาณ ½ กระป๋อง ที่ขายกัน)
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
-นมข้นจืด 100 ซีซี
-ชาตรามือ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ


-อุ่น นมข้นจืด ใส่ ชาตรามือ ลงไป ทิ้ง ไว้สัก 15นาที
ใช้ผ้าขาวบางกรอง และ บีบออกให้ได้มากที่สุด
ตอนนี้แหละ ชาดูดนมไว้ หายไป เกือบครึ่ง
เบ็ดเสร็จ ได้ นมที่มีชาผสมอยู่ ประมาณ 60 ซีซี
-ตีครีมชีส ด้วยหัวใบพาย ใช้ความเร็วต่ำ จน นุ่ม
-ใส่ไข่ ตีต่อให้เข้ากัน
-ค่อยๆริน นมข้นหวานใส่เข้าไปช้าๆ ขณะที่เครื่องยังตีอยู่
-ตามด้วย นมข้นจืด ที่มีชาผสมอยู่
- ตีส่วนผสมต่อด้วยความเร็วต่ำอีก 10-15 นาที ดูให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนียน
ส่วนผสม จะค่อนข้างเหลว
-จากนั้นเทลงในพิมพ์ ที่กรุโอริโอ้ไว้
-นำเข้าเตาอบ วางบนถาดที่มีน้ำที่ร้อนแล้ว

ต้องใส่น้ำไว้ให้พอ เพราะจะใช้เวลาอบนาน
ถ้ารู้สึกว่า ตอน วอร์มเตา น้ำงวดลงไป
ตอนวางพิมพ์ส่วนผสมเสร็จ ก็เติมน้ำในถาดเพิ่มเติมได้ในตอนนี้
อบไฟล่าง นาน 50 นาที
ปิดเตา ปล่อยให้ เค้ก กรุ่นๆ อยู่ในเตาจนเช้า
หรือ 4-6 ชม.

ส่วนตัวจะชอบอบชีสเค้กโดยวิธีนี้ หน้าจะได้แตกน้อยที่สุด

เวลาอบเลยชอบอบกลางคืน
เริ่มตีส่วนผสม หลัง นั่งย่อยอาหารมื้อเย็นสักพัก
ก็จะเริ่มอบ ประมาณ 2 ทุ่ม พออบเสร็จ ปิดเตา
แล้วมาเปิดเตา เอาเค้กออกตอนเช้าไปเลย

เอาเข้าตู้เย็น จะทำให้ ตัดแบ่งง่าย

มาหม่ำกัน
จะเป็น ชีสเค้กที่ หวานมันกำลังดี ไม่หวานมาก
ไม่ได้กลิ่นชาไทยหรอกนะ เพราะ จะสู้พี่ชีส เค้าไม่ได้ อิอิ
แต่ได้รสชาติของของชาไทยที่คุ้นเคยเต็มคำ โดยเฉพาะเวลากลืนเนี่ย
โอว..ใช่เลย..มันชาไทยเลยล่ะ




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2553    
Last Update : 12 ตุลาคม 2553 10:42:45 น.
Counter : 9122 Pageviews.  

1  2  3  

ร่ำอักษรา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




..
Friends' blogs
[Add ร่ำอักษรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.