Chocolate Almond Thins..ช็อกโกเลตอัลมอนด์.. บาง..กรอบ
ช็อกโกเลต อัลมอนด์ แผ่นบาง กรอบ...และอร่อยสูตร..เอามาจากหนังสือนี้มีอัลมอนด์ฝานบาง เหลืออยู่พอควร เอาไปทำ มาการอง macaroon ก็แล้ว มัน ออกมาเป็น maca-wrong ตลอด กาซิก กาซิกกระโปรงจะบานย้วย ขาจะกุด บ้างไรบ้างจนในที่สุดเมื่อทำไม่สำเร็จ ก็บอกตัวเอง แบบ องุ่นเปรี้ยวว่า ไม่ทำก็ได้เพราะมันเป็นขนมที่หวานมากๆ กินแล้วอ้วนนะ เอ่อ แต่ความจริงทำไม่สำเร็จต่างหาก ฮ่าๆ ไปกินฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอดก็ได้เปิดๆดูหนังสือเล่มนี้แล้ว อืม..ใช้อัลมอนด์เยอะพอควรด้วย แถมทำไม่ยากอีกต่างหากส่วนผสม-อัลมอนด์หั่นบาง (almond flake) 1 ถ้วยตวง-แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ-ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ-เกลือ 1/8 ช้อนชา-น้ำตาลทราย 90 กรัม-ไข่ทั้งใบ 1 ฟอง-ไข่ขาว 1 ฟอง-เนยจืดทิ้งให้อ่อนตัว 30 กรัมวิธีทำ-อบอัลมอนด์ ที่ 170 องศา c สัก 10 นาที แล้วพักไว้ อบไว้ก่อนล่วงหน้าก็ได้สูตรนี้ ใช้ตะกร้อมือก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องตี เนยจืดอ่อนตัว ถ้าจะใช้เป็นเนยละลายก็ได้เช่นกันจะได้ส่วนผสม ออกมาเป็นแบบนี้สิ่งที่ต้องเตรียมเผื่อไว้ก็คือ ถาด อบ มีสัก 3-4 ถาดก็ดี เพราะ แต่ละครั้งอบใช้เวลาเร็วมากแค่ 5-6นาทีเอง จะได้ไม่ต้องให้เตาว่างอยู่นานทางที่ดีถ้ามีถาดมากพอ เตรียมส่วนผสมที่จะอบ ให้ครบหมดทุกถาดก่อนก็ได้ ค่อยเปิดเตาเพราะสูตรนี้ไม่มีผงฟู ไม่ต้องการการฟูฟ่อง ของขนม ไม่จำเป็นต้องรีบเอาเข้าเตาใช้ช้อนตวง ขนาด 1/2 ช้อนชา ตักส่วนผสม แล้วเกลี่ยให้เป็นวงกลม ขนาดประมาณ 5-6 ซม.ถ้ากลัวว่าจะได้ขนาดไม่เท่ากัน ตัด พลาสติกแข็ง เอามาวางทาบ แล้วเกลี่ยแบบนี้ก็ได้แต่ ชอบแบบนี้ มันเร็วดี (อาจจะใช้ วงกลม ที่ตัดคุกกี้ก็ได้ แต่ตอนแรกหาไม่เจอ)จากนั้นก็เอาอัลมอนด์มาโรยหน้าทำแบบนี้ สัก 3 ถาดแล้วค่อยเปิดเตาอบก็ได้อ่อ..ลืมบอก ถาดอบ ถ้าไม่มี แผ่นรองอบ แบบ non stick ก็ใช้ ถาดเปล่าทาเนยบางๆ ทับไปมาสัก 3-4 ครั้ง ขนมที่ได้จะบาง อาจจะแซะยากนิดนึงถ้าเนยไม่ลื่นพอและไม่ควรใช้ กระดาษปู ถาด แบบนี้ เพราะ แซะแกะแทบไม่ออก ถาดนี้เลยแกะได้ 3 แผ่นเอง เสียดายเตรียมได้ สัก 2-3 ถาด ก็เปิดเตาที่ 160 องศา cพออุณหภูมิได้ที่ต้องการก็เอา เข้าอบ ไฟล่าง 6 นาทีถ้าดูในเตาจะเห็นว่าขนมจะเหมือนมีฟองปุดๆ เสมอทั้งแผ่น คือสุกแล้วล่ะเอาออกมา ใช้ สเปตูล่า ช่วยแซะวางผึ่งบนตะแกรงแล้วค่อยเอา ถาดต่อไปเข้าอบจะเห็นว่า พี่ใช้ถาดและแผ่นอบ หลายแบบมาก ได้เอาออกมาใช้กับสูตรนี้ทั้งหมดอันที่อบกับ silpat แซะออกง่ายสุดรองลงมาก็อันที่เป็นแผ่นสีน้ำตาลบางๆ ที่ใช้ได้หลายๆครั้งส่วนถาดแบบ nonstick (ในรูปที่ใช้พลาสติกวงกลม ทาบ) ก็ไม่ต้องทาเนยทับก็ใช้ได้ดี แต่ต้องรีบ แซะออกแทบทันทีไม่งั้นก็ติดตรงขอบๆเล็กน้อย เพราะขอบขนมจะค่อนข้างบางแบบถาดที่ทาเนยเช่นกัน ต้องรีบแซะออก อย่ารอเย็นเมื่อผึ่งบนตะแกรง ก็ผึ่งแค่หายร้อน ไม่ต้องเย็นสนิทก็เก็บเข้ากล่องปิดฝาให้สนิทไม่งั้นโดนความชื้นในอากาศจะไม่กรอบทำไปชิมไป เหลือถ่ายรูปไม่เท่าไหร่ อิอิถ้าทำขนาด ที่พี่ทำ ขนาด5-6 ซม. จะได้ประมาณ 80 อันเวลาทำอาจจะ มือเป็นระวิงหน่อยมีผู้ช่วย ก็ดี ช่วยกันเกลี่ย ละเลง โรยหน้าขนมจะได้มีเวลา ที่เตาว่าง ไม่นานหากทำไม่หมดในครั้งเดียว ก็เก็บเข้าตู้เย็นเอามาทำต่อวันต่อไปก็ได้มาหม่ำกัน ชอบขนาดนี้ พอดีคำเดียว ขนมกรอบๆ ชิ้นใหญ่กัดหลายคำ ขนมร่วงอีก(อิอิ..เป็นคนกินไม่ค่อยเรียบร้อย)กินเพลิน บางกรอบ อร่อย
Siam tea cookies คุกกี้ชาไทย
Siam tea cookies คุกกี้ชาไทยตอนอ่านหนังสือของ Keiko Ishida มีสูตร คุกกี้ชาเขียวนึกอยากให้ ชาไทยตรามือบ้านเรามีแบบ เป็นผงชา ที่ไม่ต้องกรองกากจังจะได้ทำตามสูตรนี้ได้สูตรต้นฉบับนี้มีแค่น้ำมันพืช แป้ง ผงชา อัลมอนด์ป่น ไม่มีน้ำตาลแบบแห้ง ใช้ความหวานจากน้ำเชื่อมสองชนิด คือ maple syrup และ brown rice syrupซึ่งไม่มีทั้งคู่...แป่วแต่อยากทำสูตรนี้มาก ก็เลยคิดว่าเอาไงดีชาก็ต้องกรองกาก น้ำเชื่อมก็ไม่มี ก็เลยทำเป็นน้ำเชื่อมชาไทยซะเลยน้ำเชื่อมชาไทย-ชาตรามือ 4 ช้อนโต๊ะ อยากได้เข้มๆ ก็เลยใช้เยอะหน่อย-น้ำร้อน 100 ซีซี-แช่ชาไว้ สัก20 นาที-กรองกากออก ให้ได้น้ำชาเข้มๆ 50 ซีซี-ใส่น้ำตาลทราย ลงไป 60 กรัม คนให้ละลายพอดีตอนทำถึงขั้นตอนนี้ มีธุระด่วน ต้องละมือไว้แค่ขั้นตอนนี้เสร็จธุระก็ยังยุ่งๆ ยังไม่ได้ทำ เลยเอาเข้าตู้เย็นไว้แล้วก็ลืมเมนูนี้ไปแล้ว จนผ่านไป 3 วัน อยากใช้ถ้วยตวงใบนี้ นึกขึ้นมาได้ว่า ยังทำเมนูนี้ไม่เสร็จน้ำเชื่อมชา สีเลยเข้มมากมาดูส่วนผสมทั้งหมดกันส่วนผสมคุกกี้ชาไทย-แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม-ผงฟู 1 หยิบมือ-อัลมอนด์ป่นละเอียด 50 กรัม-เกลือ 1 หยิบมือ-น้ำเชื่อมชาไทยประมาณ 50 ซีซี(วีธีทำด้านบน)(น้ำชาเข้มๆ 50 ซีซี+น้ำตาลทราย 60 กรัม)-น้ำมันพืช(ใช้น้ำมันคาโนล่า) 25 กรัมวิธีทำ-วอร์มเตา ที่ 150 องศา c-ร่อนแป้ง ผงฟู และ อัลมอนด์ เข้าด้วยกัน-ใส่น้ำมันคาโนล่า และน้ำเชื่อมชา และเกลือ ในชามผสม คนให้เข้ากัน-เอาส่วนของแห้ง แป้งที่ร่อนแล้ว ลงไปผสมในอ่างผสม-ใช้มือผสมให้เข้ากันเร็วๆ นวดเล็กน้อยแค่พอเข้ากัน-ปั้นเป็นก้อน ห่อพลาสติกไว้ เอาเข้าตู้เย็น สัก 20-30 นาทีตอนผสมเป็นแป้งโด กลิ่น ชาไทยหอมมาก โด ก็รสชาติเข้าทีเอาโด ออกมาคลึง ให้เป็นแผ่น หนาสัก ครึ่งเซนติเมตร ใช้ที่ตัดคุกกี้ ตัดออกมาเลือกใช้แบบใบไม้ จะได้เข้ากับ หน้าหนาว ใบไม้เริ่มร่วง อิอิ-ปูประดาษไขที่ถาด วางคุกกี้โดที่ตัดแล้ว-เอาเข้าเตาอบ 10-12 นาที -ที่ทำจะอบไฟล่าง 10 นาที ไฟบน-ล่าง ที่่2 นาทีหลัง-เอาออกมาพักให้เย็น บนตะแกรงคุกกี้นี้เป็นคุกกี้ กึ่งกรอบ กึ่งนิ่ม เวลาอบ อย่าอบนานเกิน ระวังจะแห้งกรอบกลิ่นชาไทย ก็พอได้กลิ่น รสชาติไม่หวานมาก อัลมอนด์มีส่วนทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น รสชาไทยก็พอได้รสอยู่ ยามเคี้ยวกลืน สีเข้มดี.. ชอบๆเป็นคุกกี้อีกรสชาติหนึ่งสำหรับคนชอบคุกกี้รสแปลกใหม่ และสำหรับคนชอบชาไทย ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เก็บไว้ใน คอลเลคชั่น อิอิ
มะยมมัฟฟิ่น- Mini Mayom Muffin
ชอบกินมะยมเชื่อม สุดสัปดาห์ที่แล้วมีคนซื้อมาฝาก และซื้อเองด้วยโดยมิได้นัดหมาย ก็เลยเหลือพอควรตอนนั้นฝนตก นึกอยากอบขนม ชอบกลิ่นขนมอบให้อวลไปทั่วบ้านในวันที่ฝนพรำๆสูตรดัดแปลงจากหนังสือของ Keiko Ishidaจากสูตร Blueberry crumble muffinsแต่ใช้มะยมเชื่อม แทน บลูเบอรี่แล้วก็อยากทำเป็นขนาดเล็ก เลยใช้พิมพ์มัฟฟิ่นเล็กส่วนผสมสำหรับมะยม มัฟฟิ่นใช้พิมพ์ขนาดเล็ก จะได้ 12 ชิ้น ถ้าพิมพ์ขนาดปกติ จะได้ 6 ชิ้นประกอบด้วย 3 ส่วน1 มะยมเชื่อม-มะยมเชื่อมแกะเม็ดออกแล้ว1 ถ้วยตวงตอนแรกว่าจะไม่อบมะยม แต่ ตอนแกะเม็ดรู้สึกว่า ส่วนน้ำ มันเยอะจัง เลย อบให้แห้งซะนิดหนึ่ง 2 crumble topping ส่วนนี้ในสูตรเดิม ไม่ได้ใส่เกลือ เติมเองไปนิดหน่อยได้ลดเค็มปะแหล่มๆ เป็น crumble topping ที่อร่อยดี.. ชอบๆ3 มัฟฟิ่น-แป้งเค้ก 120 กรัม-ผงฟู 1 ช้อนชา-เนยจืด(อุณหภูมิห้อง) 50 กรัม-น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม (brown sugar)-น้ำตาลทราย 20 กรัม-ไข่ (ขนาด 65 กรัม) 1 ฟอง-นมสดจืด..เย็น 60 กรัม วิธีทำ-เตรียมพิมพ์มัฟฟิ่น 12 ชิ้น ใส่ในถาดหลุม-วอร์มเตา ที่ 180 องศา C-ร่อนแป้ง กับ ผงฟูเข้าด้วยกัน-น้ำตาล ทั้งสองชนิด ผสม คนให้เข้ากัน-ใช้เครื่องตีส่วนผสม ตีเนย ให้นุ่ม -ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละช้อน ตีต่อ จนส่วนผสม นุ่ม ฟู เบา-ใส่ไข่ ตีให้เข้ากัน-ใสแป้ง สลับกับนม ใส่แป้ง 3 ครั้ง นม สองครั้ง สลับกัน-คนให้พอเข้ากัน อย่าคนนาน-ใส่มะยมอบที่คลุกแป้ง คนให้พอเข้ากัน-ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ ประมาณ ¾ ของพิมพ์-ใส่ มะยม ส่วนที่ไม่ได้อบ ที่แบ่งไว้ก่อน ถ้วยละ 3-4 ชิ้น-โรยทับด้วย crumble topping-นำเข้าอบ ประมาณ 18-20 นาที-เอาออกจากเตา วางให้เย็น บนตะแกรงแต่ กินตอนอุ่นๆ อร่อยดี มัฟฟิ่นนี้ไม่หวานมาก(แอบลดน้ำตาลลง อย่างละ 10 กรัม คริ คริ) ได้รสสัมผัส หนึบๆ หวานๆของมะยม และกลมกล่อม เค็มปะแหล่มๆของ crumble toppingส่วนตัว คิดว่า มะยมเชื่อม รสชาติคล้ายๆเชื่อรี่เชื่อม ที่อยู่ในกระป๋องมัฟฟิ่นขนาดเล็กๆ ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีที่ว่าง ไว้ให้ขนมอย่างอื่นอีกบ้าง อิอิถ้ากินไม่หมด เวลาจะกินอีกครั้ง อุ่นกับไมโครเวฟอีกครั้ง แล้วกิน กับชา หรือกาแฟ ก็ยังอร่อย
Never- Fail Cupcakes
Never- Fail Cupcakesเห็นชื่อสูตรนี้แล้วสะดุดตามากอะเจ้ย..เค้ากล้าตั้งชื่อสูตรแบบนี้เหรอลองทำดู ครั้งแรกสำเร็จ ก็คิดว่า อาจจะฟลุกๆก็เลยลองทำครั้งที่สอง และครั้งที่สามคือครั้งนี้ก็ตามมา เพราะ มันไม่ยากจริงๆเทียบกับ ความง่ายของสูตร กับ ผลลัพท์ที่ออกมามันโอเคมากเลยเอามาจากลิ้งค์นี้นะคะCupcakes by the dozenตอนที่เปิดเจอช่วงนั้นเพราะไปรับประทาน crepe cake ที่ร้านหนึ่งมา เลยคิดอยากมาทำเองบ้างแฮ่ๆ ..เป็นคนชอบเค้กที่เป็นชั้นๆ layer cakeแต่ไปๆมาๆยังไม่ได้ทำ crepe cake ที่ต้องการเลย มาเจอ มาทำ คัพเค้กที่เค้าโฆษณาว่า ทำแล้ว ไม่เคยทำให้ผิดหวัง อันนี้แทนส่วนผสมไข่ไก่ 1 ฟองผงโกโก้ ½ ถ้วยเนยสด ½ ถ้วย ทิ้งให้อ่อนตัวที่อุณหภูมิห้องแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1½. ถ้วยบัตเตอร์มิลค์ ½ ถ้วย(ใช้นมสด ½ ถ้วย ผสมน้ำมะนาว 1½ช้อนชา คนๆให้เข้ากันแทน)วานิลลา 1 ช้อนชาเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชาน้ำตาล 1 ถ้วยเกลือ ½ ช้อนชาน้ำร้อน ½ ถ้วย. *ต้นฉบับใช้ เนยขาว (shortening) แต่ใช้ เนยสดแทน และ แทน sour cream ด้วยbutter milk วิธีทำ ง่ายมาก-เตรียมถ้วยกระดาษ ใส่ในพิมพ์ ทาเนยที่ก้น พอให้กระดาษเกาะพิมพ์-อุ่นเตาไว้ที่ 180 องศา c-ใส่ทุกอย่างเรียงตามลำดับ ไปในโถผสมจุดสำคัญ คือ ใส่ น้ำร้อน เข้าไปหลังสุด เมื่อทุกอย่างอยู่ในโถที่ตัวเองทำ จะไม่ถึงกับเรียงลำดับ ขนาดนั้น-เมื่อเตรียมของทุกอย่างพร้อมก็ทำน้ำให้ร้อน โดยใส่น้ำเข้าไมโครเวฟ ไฟกลาง 45 วินาที-ใสไข่ ใส่เนย ของแห้ง ตามด้วย บัตเตอร์มิลค์จากนั้นก็เอา หัวใบพายคนๆให้พอเข้ากัน เพราะตอนตีส่วนผสมจะได้ไม่ฟุ้งกระจายมาก-ติดหัวใบพายเข้ากับเครื่องตี-เปิดความเร็วต่ำสุดตีส่วนผสม-จากนั้นก็เทน้ำร้อนลงไป ตอนที่เครื่องยังตีด้วยตวามเร็วต่ำ-ตีต่อไปความเร็วต่ำสัก 1 นาที(ก่อนใส่แอบ วัดอุณภูมิน้ำร้อนดู ประมาณ 63-65 องศา C จากการทำ 3 ครั้งหรือ กะดูจากเอานิ้วจุ่ม ก็ยังพอทนได้ ไม่ต้องร้อนจี๋)-แล้วก็เปลี่ยนเป็นความเร็วกลาง 3 นาที-หยุดครื่อง เอาออกมา ใช้พายปาดส่วนผสมในโถให้เข้ากันเนียนๆ อย่างรวดเร็ว-เทใส่พิมพ์ ประมาณ ¾ พิมพ์-สูตรนี้จะได้ 12 ถ้วยพอดี-เอาเข้าเตา อบไฟล่าง ประมาณ 18-20 นาที-เชคสุก โดยเอาไม้จิ้มฟันจิ้ม ไม่ติดส่วนผสมก็โอเค เสร็จแล้ว เนื้อที่ได้จะนุ่มๆ ไม่ถึงกับแน่นมาก แต่ก็ไม่ใช่ประเภทเนื้อเบารสชาติก็ ไม่หวานจัด กลมกล่อมในแบบของเค้กช็อกโกเลตที่เข้าที อันนี้ใส่ Hersheys kiss ไปด้วย แบบแต่งหน้า ปกติไม่ค่อยชอบกิน butter cream ที่แต่งหน้าเค้กแต่ คัพเค้กมันก็ต้องมีหน้าตาบางแหละ...เนอะฮ่าๆ...จริงๆแล้ว แต่งหน้าเค้กไม่เป็นมากกว่าแต่ถ้าจะกิน ชอบแบบหน้าเกลี้ยงๆมากกว่า หรือ แค่โรยน้ำตาลไอซิ่งนิดหน่อย สูตรนี้ Never-Fail สมชื่อชอบตรงที่ ใส่ทุกอย่างลงไปทีเดียวแม้กระทั่ง ของแห้งไม่ต้องร่อนให้เข้ากันก็ได้ตอนทำ ลองทำทั้งแบบ ร่อนของแห้ง รวมกัน ก่อน และไม่ต้องร่อนรวมกันผลลัพท์ไม่ต่างกันเลยชอบจริงๆ สูตรง่ายๆแบบนี้
Siam tea cheesecake.. ชาไทยชีสเค้ก
Siam tea cheesecake ชาไทยชีสเค้กสำหรับคนชอบชีสเค้ก เค้กนี้ก็เป็นอีกรส ให้ลิ้มลองปกติชอบชีสเค้ก อบบ่อยเหมือนกัน เพราะเพื่อนฝูงชอบก็จะเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก หรือไม่ก็ไวท์ช็อกโกเลตชีสเค้กวันก่อนโน้น ตอนที่ ตุ๋นคัสตาร์ดทำ ไอศกรีมรสชาตรามือในเตาอบ ก็กำลังอบ white chocolate cheesecakeทำให้คิดได้ว่า น่าจะลองทำชีสเค้กรสชาไทย ชาตรามือนี่แหละเพิ่งสังเกตเห็นตอนถ่ายรูปว่า เป็นของ บริษัท Siam teaเลยตั้งชื่อ เป็น Siam tea cheesecake ซะเลยตอนอบก็ลุ้น ว่ามันจะออกมาเป็นไงเช้ามาเปิดเตา ว้าววว หน้าตาไม่เลวไม่ได้รับประทานกับมะเฟืองนะ มะเฟืองต้นที่บ้าน มันฝาด และอมเปรี้ยวแต่ตอนถ่ายรูป เหลือบไปเห็นมะเฟือง ร่วงเกลื่อนใต้ต้น ที่หน้าบ้านเลยไปเด็ดมาประกอบฉาก เห็นสีมันอยู่ในโทนเดียวกัน ฮ่าๆและอันที่อยู่ในรูปเด็ดจากต้น ไม่ได้ เก็บจากที่ร่วงอบในพิมพ์ 1 ปอนด์ ตัดแบ่ง ออกมาไม่ค่อยสวยเนอะทุกทีเวลาทำชีสเค้กทำแต่กับพิมพ์ 2 หรือไม่ก็ 3 ปอนด์ส่วนผสมและวิธีทำไม่มีรูปวิธีทำนะคะ-เตรียมเตาอบ อบแบบ ใช้ถาดรองน้ำ วางถาดไว้ล่างสุด ใส่น้ำไว้อุ่นเตาไว้ที่ 150 องศา C-ใช้พิมพ์ 1 ปอนด์ แบบ ที่ถอดก้นได้ (spring form pan)เอาฟอยล์หุ้ม พิมพ์ ให้ถึง เกือบขอบๆ หุ้ม สักสองชั้น กันเหนียว เผื่อ ฟอยล์ขาดเพราะบางยี่ห้อ บางมาก อาจฉีกขาดง่ายส่วนประกอบสำหรับ crust-ใช้โอริโอ้คุกกี้ 100 กรัม บดละเอียด-เนยสดละลาย 45 กรัม คลุกเคล้า กับ โอริโอ้ที่บดละเอียดเอาไปกรุในพิมพ์ถ้าชอบ ครัสที่บางกว่านี้ก็ ลดลงลงเอาตามใจชอบส่วนตัวจะชอบ อบครัสไว้ก่อน ล่วงหน้า ด้วย ไฟ สัก 160 องศา ประมาณ 12 นาที แล้วทิ้งไว้ให้เย็นมันจะหอมดี..ชอบส่วน ประกอบ ชีสเค้ก-cream cheese 250 กรัม (ใช้ ฟีลาเดลเฟีย ครีมชีส)-นมข้นหวาน ½ ถ้วยตวง (ประมาณ ½ กระป๋อง ที่ขายกัน)-ไข่ไก่ 1 ฟอง-นมข้นจืด 100 ซีซี-ชาตรามือ 3 ช้อนโต๊ะวิธีทำ-อุ่น นมข้นจืด ใส่ ชาตรามือ ลงไป ทิ้ง ไว้สัก 15นาที ใช้ผ้าขาวบางกรอง และ บีบออกให้ได้มากที่สุดตอนนี้แหละ ชาดูดนมไว้ หายไป เกือบครึ่งเบ็ดเสร็จ ได้ นมที่มีชาผสมอยู่ ประมาณ 60 ซีซี-ตีครีมชีส ด้วยหัวใบพาย ใช้ความเร็วต่ำ จน นุ่ม -ใส่ไข่ ตีต่อให้เข้ากัน-ค่อยๆริน นมข้นหวานใส่เข้าไปช้าๆ ขณะที่เครื่องยังตีอยู่-ตามด้วย นมข้นจืด ที่มีชาผสมอยู่- ตีส่วนผสมต่อด้วยความเร็วต่ำอีก 10-15 นาที ดูให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนียนส่วนผสม จะค่อนข้างเหลว-จากนั้นเทลงในพิมพ์ ที่กรุโอริโอ้ไว้-นำเข้าเตาอบ วางบนถาดที่มีน้ำที่ร้อนแล้วต้องใส่น้ำไว้ให้พอ เพราะจะใช้เวลาอบนานถ้ารู้สึกว่า ตอน วอร์มเตา น้ำงวดลงไปตอนวางพิมพ์ส่วนผสมเสร็จ ก็เติมน้ำในถาดเพิ่มเติมได้ในตอนนี้อบไฟล่าง นาน 50 นาทีปิดเตา ปล่อยให้ เค้ก กรุ่นๆ อยู่ในเตาจนเช้าหรือ 4-6 ชม. ส่วนตัวจะชอบอบชีสเค้กโดยวิธีนี้ หน้าจะได้แตกน้อยที่สุดเวลาอบเลยชอบอบกลางคืนเริ่มตีส่วนผสม หลัง นั่งย่อยอาหารมื้อเย็นสักพักก็จะเริ่มอบ ประมาณ 2 ทุ่ม พออบเสร็จ ปิดเตาแล้วมาเปิดเตา เอาเค้กออกตอนเช้าไปเลยเอาเข้าตู้เย็น จะทำให้ ตัดแบ่งง่ายมาหม่ำกันจะเป็น ชีสเค้กที่ หวานมันกำลังดี ไม่หวานมากไม่ได้กลิ่นชาไทยหรอกนะ เพราะ จะสู้พี่ชีส เค้าไม่ได้ อิอิแต่ได้รสชาติของของชาไทยที่คุ้นเคยเต็มคำ โดยเฉพาะเวลากลืนเนี่ยโอว..ใช่เลย..มันชาไทยเลยล่ะ