ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เยือนบึงกาฬ เที่ยววัดภูทอก เงียบสงบงดงาม

ภูทอก


เที่ยว "บึงกาฬ" ในวันฝนพรำ (คู่หูเดินทาง)

จังหวัดบึงกาฬ...เป็น จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีทั้งน้ำตก ภูเขา แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อาจเพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไกลถึง 751 กิโลเมตร ทั้ง ๆ ที่แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬมีอยู่มาก เช่น วัดอาฮงศิลาวาส, แก่งอาฮง, วัดสว่างอารมณ์, ตลาดนัดไทย-ลาว, บึงโขงหลง, เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, น้ำตกเจ็ดสี เป็นต้น

แต่ไฮไลท์เด็ดสุดที่เราไม่อยากให้คุณพลาดเลย คือการไปเยี่ยมชม "วัดภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เหมาะแก่การบำเพ็ญธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเงียบสงบ สวยงามด้วยธรรมชาติแวดล้อม แฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ทางธรรม โดยมี "พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ" เป็นผู้ก่อตั้ง

วัดภูทอก อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล ภูทอกมี 2 ลูก คือ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม

ภูทอก


จุดเด่นของภูทอกก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก แบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม จากชั้น 1 – ชั้นที่ 7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมแบบสะพานเวียนรอบเขา ซึ่งจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ ในแต่ละย่างก้าว

โดย ในชั้นที่ 5 ถือว่าเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด จะมีศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ และเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนด้วย พื้นที่สะอาดกว้างขวาง ดูแล้วร่มเย็นมาก เหมาะสำหรับการนั่งสวดมนต์ปฏิบัติธรรมสำหรับนักแสวงบุญ หรือผู้ที่ใฝ่หาความสงบ ตลอดตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายจุด เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ มีที่ให้นั่งพักสำหรับความอ่อนล้าระหว่างทางเดินเป็นระยะ

ภูทอก


ถ้าเดินมาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหาร อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแปลกและน่าอัศจรรย์ที่สุด คล้าย ๆ กับพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า คือ เป็นหินแยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่ แต่ไม่ตกลงมา เพราะตั้งอยู่อย่างได้ฉากกับพื้นโลกพอดี ปัจจุบันมีสะพานไม้เชื่อมต่อระหว่างสะพานหินกับพุทธวิหาร มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจน และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา

ภูทอก


ในเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 จะเป็นจุดชมวิวิที่สวยที่สุด ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผายื่นออกมาทำให้ในบางครั้งเวลาเดินต้องเบี่ยงตัวออก มาเล็กน้อย โดยแต่ละจุดก็จะมีชื่อของหน้าผาที่แตกต่างกัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น ในช่วงฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกลอยอยู่รอบ ๆ ยอดเขา ทำให้เหมือนอยู่บนสวรรค์

สำหรับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และน่าชมที่สุดของชั้นนี้คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาคซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัสกับหิน และมีบ่อน้ำเล็ก ๆ มีน้ำขังอยู่เกือบตลอดปี

ภูทอก


ในส่วนชั้นที่ 7 จะมีบันไดไม้พาดขึ้นมา เมื่อเดินขึ้นบันไดผ่านมาแล้วจะเจอทางแยก 2 ทางเพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้น 7 ทางแรกเป็นทางชัน ต้องเกาะเกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้เดินลำบาก แถมยังมีป้ายบอกให้ "ระวังงู" ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนยอดภูแห่งนี้ด้วย ควรใช้อีกทางหนึ่งซึ่งเป็นทางอ้อมต้องเดินเวียนไปทางขวามือ แต่ก็จะมาบรรจบกันด้านบนชั้น 7 หรือดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม่ทึบธรรมดา มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่

สำหรับทางไป วัดภูทอก ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 222 ไปทางอำเภอศรีวิไล มีป้ายบอกทางเป็นระยะ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

//albumvote.postjung.com/itf59.html




 

Create Date : 15 กันยายน 2554   
Last Update : 15 กันยายน 2554 13:54:42 น.   
Counter : 2573 Pageviews.  

Pixlr-o-matic แต่งภาพแนว Retro ดีเท่า Intragram เล่นในคอมได้

pixlr-o-matic แต่งภาพถ่าย,Pxlr-o-matic on Facebook ,Photo editor online ,Pixlr-o-matic Download,ดาวน์โหลด Pixlr-o-matic ,แต่งภาพอาร์ต โปรแกรมแต่งภาพอาร์ต โปรแกรมแต่งภาพฟิล์ม

Pixlr-o-matic แต่งภาพถ่ายแนว Retro แต่งภาพสวยระดับ 5 ดาว


สำหรับคนที่ไม่มี Iphone Ipad สามารถดาวน์โหลโปรแกรม Pixlr-o-matic โปรแกรมแต่งภาพระดับ 5 ดาว

ลงเครื่องคอมได้เลย แล้วตกแต่งภาพให้เลิศๆง่ายๆ


3.gif



คู่แข่ง intragram แอฟที่ใช้ได้แค่ใน Iphone แต่ Pixlr-o-matic สามารถเล่นได้ในคอมพิวเตอร์เราเองได้ดาวน์โหลดมาแต่งภาพให้ดูอาร์ตๆ
ดูไฮโซเลิศๆ ง่ายๆ จริงๆ ต้องให้ 10 ดาวเลยทีเดียว

สำหรับ ผู้ใช้ iOS อย่าง iPhone / iPad ซึ่งมักมีกล้องอยู่แล้ว ก็ย่อมสนุกกับการถ่ายภาพต่างๆ เป็นปรกติ สิ่งที่ตามมาคือการหาแอพเจ๋งๆ ไว้คอยแต่งภาพให้ดู “เก๋” และ “แนว” เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง ซึ่งถ้ามองแอพในตลาดนั้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลายแแอพ ทั้งที่แบบเสียเงินแล้วเจ๋งสุดๆ อย่าง Photoforge2 หรือเอาแบบฟรีอย่าง Instragram แต่ถ้าใครคิดว่าจะหาของ “ฟรีและดี” ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณไปหา Pixlr-o-matic มาลงทันทีเลยครับ
ตัวอย่างแต่งภาพ อาร์ตๆ




การทำงานของ Pixlr-o-matic
นั้นเหมือนกับแอพแต่งภาพอื่นๆ คือเราเลือกภาพที่ต้องการเป็นต้นแบบ จากนั้น ก็เลือก Filter ปรับแต่งหรือ Effect ต่างๆ ซึ่งจะมีให้เลือกมากมาย โดยสำหรับ Pixlr-o-matic นั้นจะให้เราปรับสิ่งสำคัญสามอย่างคือชนิดของฟิลม์ที่ถ่าย ชนิดของเอ๊ฟเฟ็คแสงที่จะใช้กับภาพ และกรอบรูปของภาพ ซึ่งแม้ว่าอาจจะดูน้อยแต่ก็ขอบอกได้เลยว่าแค่สามอย่างนี้ก็จะทำให้คุณสนุกกับการปรับแต่งได้มากมายนับไม่ถ้วน

จุดที่ดีอย่างหนึ่งของ Pixlr-o-matic
คือการใช้ Filter และ Effect กับตัวภาพที่เลือกนั้น ทำได้ค่อนข้างดีถึงดีมาก ภาพจึงออกมาดูสวยงาม มีสไตล์ จนหลายคนอาจจะสนุกกับการเอาขึ้น Facebook (มีให้ในตัวแอพเลยด้วย) การใช้งานแอพไม่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่มีติดขัดหรือเกิดอาการหน่วงเครื่องแต่อย่างใด นอกจากนี้ App ยังเป็น Universal App ที่สามารถใช้งานได้แบบเต็มจอบน iPad อีกด้วย

ถ้าเทียบกับการที่แอพนี้ทำขึ้นมาให้ใช้กันฟรีๆ แล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นแอพแต่งภาพแบบฟรีที่ดีที่สุดแอพหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งเหมาะมากกับผู้ที่ไม่อยากเสียเงินซื้อแอพแต่งภาพ หรืออยากขอทดลองใช้ก่อนจะก้าวต่อไปสู่ระดับโปรในแอพเทพๆ


Pixlr-o-matic รองรับการใช้งานทั้ง iPhone, iPod touch และ iPad

สำหรับคนที่ไม่มี สามารถดาวน์โหลโปรแกรม Pixlr-o-matic ลงเครื่องคอมได้เลย แล้วตกแต่งภาพให้เลิศๆง่ายๆ

สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้เลย

//www.bbberry.net/webboard/viewthread.php?tid=5223&extra=page%3D1

ขอบคุณ pixlr.com บทความจาก appreview.in.th

Pixlr-o-matic แต่งภาพถ่าย,Pxlr-o-matic on Facebook ,Photo editor online ,Pixlr-o-matic Download,ดาวน์โหลด Pixlr-o-matic ,แต่งภาพอาร์ต โปรแกรมแต่งภาพอาร์ตๆ โปรแกรมแต่งภาพฟิล์ม

ขอบคุณที่มา www.bbberry.net




 

Create Date : 15 กันยายน 2554   
Last Update : 15 กันยายน 2554 13:51:16 น.   
Counter : 2474 Pageviews.  

ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ทะเลสาบที่ว่ากันว่าสวยสุดในโลก

ทะเลสาบพลิทวิเซ่

ทะเลสาบพลิทวิเซ่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

บนโลกกลม ๆ ใบนี้ มักมีความสวยงามของธรรมชาติให้มนุษย์อย่างเรา ๆ ได้ชื่นชมและประทับใจกันอยู่เสมอ แถมบางที่ยังสวยงามประดุจภาพวาดจากฝีมือศิลปินระดับพระกาฬเลยด้วย มาในวันนี้ก็มีอีกหนึ่งสถานที่บนโลก ซึ่งมาพร้อมด้วยความงามของธรรมชาติ จนอาจจะบอกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งสวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

สถานที่ที่ได้เกริ่นไปนั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ที่เมืองลิก้า (Lika) ประเทศโครเอเชีย เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลบนหินปูน ใหญ่ไม่ใหญ่ก็ดูเอาได้จากชั้นน้ำตกที่มีอยู่มากถึง 16 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นยังมีความงดงามของธรรมชาติ ที่สวยงามจนสามารถสะกดสายตาของผู้ที่มาเยี่ยมชมได้อย่างอยู่หมัด

ทะเลสาบพลิทวิเซ่


ทะเลสาบพลิทวิเซ่ ตั้งอยู่ท่ามกลาง 3 เทือกเขา ทั้งเทือกเขา "Pljesevica", "Mala Kapela" และ "Medvedak" ที่โอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ไว้ โดยทะเลสาบมีลักษณะทอดตัวยาวไปตามแนวร่องระหว่างเทือกเขา และมีเขื่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ขวางกันทะเลสาบเป็นช่วง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากพวกมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย ที่ก่อตัวเป็นเปลือกแข็งห่อหุ้มสลับกันไปเป็นชั้น ๆ แถมยังมีน้ำตก "เวลิกิ สแล็พ" (Veliki Slap) น้ำตกที่ใหญ่และสูงกว่า 70 เมตร ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก

นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติแบบ 100 % เต็มแล้วนั้น ทะเลสาปพลิทวิเซ่ แห่งนี้ ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิเช่น หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่น ๆ อีกกว่า 140 สายพันธุ์ ซึ่งเหตุนี้เอง จึงทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศขึ้นทะเบียน อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979 อีกด้วย

ทะเลสาบพลิทวิเซ่

จากที่ได้เห็นในภาพนั้นก็ต้องขอยกนิ้วให้กับความงามของธรรมชาติแห่งนี้จริง ๆ เรียกได้ว่าสวยสุด ๆ อย่างที่ว่ากันจริง ๆ ด้วย ว่าไปแล้วก็คงต้องรีบขยันทำงานและเก็บเงิน เพื่อไปพิสูจน์ความสวยงามของทะเลสาบพลิทวิเซ่แห่งนี้ ด้วยสายตาตัวเองสักหน่อยแล้ว!!




 

Create Date : 14 กันยายน 2554   
Last Update : 14 กันยายน 2554 17:33:10 น.   
Counter : 1867 Pageviews.  

ยำไข่เจียวน้ำพริกเผา



ส่วนผสม

1. ไข่ 1 ฟอง
2. หมูสับ 1/4 ถ้วย
3. กระเทียมดอง 2 หัว
4. กุ้งชีแฮ้ต้มใส่เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
6. มะนาวหั่นติดผิว 2 ช้อนชา
7. น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
9. มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
10. พริกแดงโรย
11. ผักชีโรย

วิธีทำ

1. เจียวไข่ ให้กรอบหนาๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตัดให้สั้น
2. หมูสับ เอาไปจี่ในกระทะ กดให้แบนทั้ง 2 ด้าน เมื่อเกรียมดีแล้ว ก็ตักขึ้น
3. กระเทียม ดองผ่าซีกหั่นตามยาว ละลายน้ำพริกเผา น้ำตาล น้ำปลา มะนาว ชิมรสตามชอบ คลุกเคล้ากับไข่เจียว โรยผักชี และพริกแดงหั่นฝอย เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ




 

Create Date : 13 กันยายน 2554   
Last Update : 13 กันยายน 2554 14:48:00 น.   
Counter : 1109 Pageviews.  

60 พุทธภาษิตเกี่ยวกับชีวิต และความตาย

๑. ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ สั้นนิดเดียว ลำบากยากเข็ญ มีทุกข์มาก แต่ก็ไม่มี เครื่องหมายให้รู้ว่า จะตายเมื่อใด

๒. สัตว์ทั้งหลายเกิดมาแล้ว พยายามหาวิธีที่จะไม่ต้องตาย ก็ไม่สำเร็จ ถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไป จนชราภาพก็ต้องตาย อยู่ดี เพราะธรรมดาของสัตว์โลกเป็นอย่างนี้

๓. สัตว์ทั้งหลายเกิดมาแล้ว ก็มีภัยจากการที่ต้องตายเป็นนิตย์ เปรียบเหมือน ผลไม้สุกงอม แล้ว ก็มีภัย จากการที่ต้องร่วงหล่นไปในเวลาเช้า

๔. ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ต้องแตกดับไปเป็นธรรมดาเปรียบเหมือนภาชนะดินทุกชนิด ที่ช่างหม้อปั้นแล้วในที่สุดก็ต้องแตกไป

๕. ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนโง่ ทั้งคนฉลาด ล้วนตกอยู่ในอำนาจของมฤตยู บ่ายหน้า ไปสู่ความตายทั้งนั้น

๖. เมื่อเหล่าสัตว์จะตาย ต้องไปปรโลกแน่นอนแล้ว บิดามารดาก็ไม่สามารถช่วย บุตรธิดาของตนไว้ได้ หรือหมู่ญาติก็ไม่สามารถจะช่วยพวกญาติของตนไว้ได้

๗. จงดูเถิด ทั้งๆ ที่มีหมู่ญาติมาเฝ้ารำพึงรำพันอยู่ โดยประการต่างๆ แต่ผู้จะตาย กลับถูกมฤตยูคร่าตัวเอาไปแต่เพียงผู้เดียว เหมือนโคที่เขาจะฆ่า ถูกนำไปแต่เพียงตัวเดียว

๘. สัตว์โลกตกอยู่ในอำนาจของความแก่และความตายอย่างนี้ เพราะเหตุนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายทราบชัดถึงสภาพของสัตว์โลกแล้ว จึงไม่เศร้าโศกกัน

๙. ท่านหาได้รู้ทางของผู้มา (เกิด) หรือผู้ไป (สู่ปรโลก) ไม่ เมื่อไม่เห็นปลายสุดทั้งสองด้าน ถึงจะคร่ำครวญไปก็ไร้ประโยชน์

๑๐. ถ้าผู้ที่ทำตนให้เดือดร้อนด้วยการหลงใหลคร่ำครวญ จะทำประโยชน์อะไร ให้เกิดขึ้นได้บ้าง นักปราชญ์ผู้รู้แจ้งก็คงจะทำอย่างนั้นตามไปแล้ว

๑๑. การร้องไห้ เศร้าโศก ไม่สามารถทำใจของผู้คนให้สงบได้ มีแต่จะเกิดทุกข์มากยิ่งขึ้น ทั้งร่างกายก็จะพลอยทรุดโทรม

๑๒. จะเบียดเบียนตนเอง มีร่างกายซูบผอม ผิวพรรณหมองคล้ำ การร่ำไห้คร่ำครวญ ไม่ได้ช่วยอะไรแก่คนที่ตายไปแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย

๑๓. คนที่สลัดความโศกไม่ได้ มัวทอดถอนใจถึงคนที่ตายไปแล้ว ตกอยู่ในอำนาจของ ความเศร้าโศก มีแต่จะทุกข์มากยิ่งขึ้น

๑๔. จงดูเถิด ถึงแม้คนอื่นก็กำลังจะตายไปตามยถากรรม สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ต่างตกอยู่ในอำนาจมฤตยู กำลังพากันดิ้นรน (กลัวตาย) ด้วยกันทั้งนั้น

๑๕. สัตว์ทั้งหลายตั้งความหวังอยากจะให้เป็นอย่างอื่น (คือไม่ตาย) แต่ก็ไม่สมหวัง ความพลัดพรากจากกันมีอยู่เป็นประจำ ท่านจงพิจารณาดูความจริงแท้ของสัตว์โลกเถิด

๑๖. แม้จะมีคนอยู่ได้ถึงร้อยปี หรือเกินกว่านั้นไปบ้าง ก็ต้องพลัดพรากจากหมู่ญาติ ทิ้งชีวิตไว้ในโลกนี้ อยู่ดี

๑๗. เพราะเหตุนั้น เมื่อได้สดับธรรมเทศนาของพระท่านแล้ว ก็พึงระงับ ความคร่ำครวญ ร่ำไห้เสีย ยามเมื่อเห็นคนล่วงลับดับชีวิตไป ก็ให้กำหนดรู้ว่า เขาตายไปแล้ว เราจะให้ เขาฟื้นคืนมาอีกไม่ได้

๑๘. ธีรชนผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด พึงกำจัดความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นเสียโดยฉับพลัน เหมือนเอาน้ำดับไฟ ที่กำลังไหม้ลุกลาม และเหมือนลมพัดปุยนุ่น

๑๙. ผู้แสวงสุขแก่ตน พึงระงับความเศร้าโศกคร่ำครวญร่ำไห้ ความโหยหา และ ความโทมนัส พึงถอนลูกศรคือความเศร้าโศกเสียให้ได้

๒๐. ผู้ถอนลูกศรนี้ได้แล้ว ก็จะมีอิสระ ได้ความสงบใจ ผ่านพ้นความเศร้าโศกทั้งปวง ไม่มีความเศร้าโศกมีแต่เยือกเย็นใจ


๒๑. ชีวิตนี้น้อยนัก มนุษย์ย่อมตายภายในร้อยปี ถึงใครจะอยู่เกินกว่านั้นไปบ้าง ก็ต้องตายเพราะชราเป็นแน่แท้

๒๒. ชนทั้งหลายเศร้าโศก เพราะสิ่งที่ยึดถือว่าเป็นของเรา ทั้งๆ ที่สิ่งที่ยึดถือนั้น ไม่มีอะไรเที่ยงแท้เลย ผู้ที่มองเห็นว่า ความพลัดพรากจากกันจะต้องมีแน่นอนเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ควรอยู่ครองเรือน

๒๓. คนที่สำคัญหมายสิ่งใดว่า " นี้ของเรา" ก็จะต้องจากสิ่งนั้นไปเพราะความตาย พุทธมามกะผู้เป็นบัณฑิต ทราบความข้อนี้แล้ว ก็ไม่ควรเอนเอียงไปในทาง ที่จะยึดถือว่า เป็นของเรา

๒๔. คนที่รักใคร่กัน ตายจากไปแล้ว ก็จะไม่ได้พบเห็นกันอีก เหมือนคนตื่นขึ้น ไม่เห็นสิ่งที่พบในฝัน

๒๕. (ขณะมีชีวิตอยู่) คนที่มีชื่อเรียกขาน ก็ยังพอได้พบเห็นกันบ้าง ได้ยินเสียงกันบ้าง คนที่ตายไปแล้วก็เหลือแต่ชื่อเท่านั้น ที่จะพูดถึงกันอยู่

๒๖. ผู้ที่พึงพอใจในสิ่งที่ยึดถือว่าเป็นของเรา ย่อมสละความเศร้าโศก ความคร่ำครวญ และความหวงแหนไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผู้เข้าถึงธรรม (มุนี) ทั้งหลายเห็น ความปลอดโปร่ง จึงสละสิ่งที่เคยแหนหวงเที่ยวไปได้

๒๗. บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวถึงผู้ไม่แสดงตนในภพ (ผู้บรรลุแล้ว) ว่าเป็นบุคคลที่สอดคล้อง เหมาะสมกับภิกษุผู้บำเพ็ญความหลีกเร้นถอนจิต (ผู้ที่ยังไม่บรรลุ) ซึ่งอยู่ในเสนาสนะ ที่สงัด

๒๘. ผู้เข้าถึงธรรม (มุนี) ไม่ติดอยู่ในสิ่งทั้งปวง ไม่ทำอะไรๆ ให้เป็นที่รัก ให้เป็นที่ชัง ความรำพึงรำพันและความหวงแหน จึงมิได้แปดเปื้อน เหมือนน้ำไม่แปดเปื้อนใบบัว

๒๙. หยาดน้ำไม่ติดบนใบบัว วารีไม่ติดบนดอกบัวฉันใด ผู้เข้าถึงธรรม(มุนี) ก็ไม่ติดในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน และอารมณ์ที่ทราบ ฉันนั้น

๓๐. ผู้ห่างไกลจากกิเลส ผู้มีปัญญา ไม่สำคัญหมายในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน และอารมณ์ที่รับทราบ ไม่ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยวิธีการอื่น ทั้งไม่ยินดียินร้าย

๓๑. บุคคลใด ประพฤติชั่วร้าย ไม่มีความคิด ถึงจะมีชีวิตตั้งร้อยปี ชีวิตของเขา ก็หาประเสริฐไม่ ส่วนบุคคลใด มีศีล มีความคิด แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ก็เป็นชีวิต ที่ประเสริฐกว่า

๓๒. บุคคลใด เกียจคร้าน มีความเพียรทราม ถึงจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี ชีวิตของเขา ก็หาประเสริฐไม่ ส่วนบุคคลใด มุ่งหน้าทำความเพียรอย่างมั่นคง แม้มีชีวิตอยู่ เพียงวันเดียว ก็เป็นชีวิตที่ประเสริฐกว่า

๓๓. บุคคลพึงสละทรัพย์เมื่อจะรักษาอวัยวะ พึงยอมสละอวัยวะเมื่อจะรักษาชีวิต และยอมสละทุกอย่างทั้งอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิต เมื่อคำนึงถึงธรรม

๓๔. อายุสังขารจะพลอยประมาทไปกับมนุษย์ทั้งหลาย ที่ยืน เดิน นั่งนอนอยู่ ก็หาไม่


๓๕. เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ คนเราควรทำกิจหน้าที่ของตน และไม่พึง ประมาท

๓๖. ดอกไม้ที่สุมกันอยู่เป็นกอง นายช่างที่ฉลาด สามารถนำมาร้อย เป็นพวงมาลัย มีคุณค่ามากได้ฉันใด ชีวิตคนเราที่เกิดมานี้ ก็ควรจะใช้ ประกอบกุศลกรรม ความดีให้มาก ฉันนั้น

๓๗. บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ในปรโลก

๓๘. ความตายเราก็มิได้ชื่นชอบ ชีวิตเราก็มิได้ติดใจ เราจักทอดทิ้งกายนี้ อย่างมีสติ สัมปชัญญะ มีสติมั่น

๓๙. ความตายเราก็มิได้ชื่นชอบ ชีวิตเราก็มิได้ติดใจเรารอคอยเวลา เหมือนคนรับจ้าง ทำงานเสร็จแล้วรอรับค่าจ้าง

๔๐. วัยสิ้นไปตามคืนและวัน

๔๑. วันคืนล่วงไป ชีวิตของคนก็พร่องลงไป จากประโยชน์ที่จะทำ

๔๒. วันคืนไม่ผ่านไปเปล่าๆ

๔๓. กาลเวลาล่วงไป วันคืนผ่านพ้นไป วัยก็หมดไปทีละตอนๆ ตามลำดับ

๔๔. รูปกายของสัตว์ย่อมร่วงโรยไป แต่ชื่อและโคตรไม่เสื่อมสลาย

๔๕. เมื่อจะตาย ทรัพย์แม้แต่น้อยก็ติดตามไปไม่ได้

๔๖. กาลเวลาย่อมกลืนกินสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกับตัวมันเอง

๔๗. ถ้าบุคคลจะเศร้าโศกถึงคนที่ไม่มีอยู่แก่ตนคือ คนที่ตายไปแล้ว ก็ควรจะเศร้าโศก ถึงตนเอง ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของพญามัจจุราชตลอดเวลา

๔๘. วัยย่อมเสื่อมลงไปเรื่อย ทุกหลับตา ทุกลืมตา

๔๙. เมื่อวัยเสื่อมสิ้นไปอย่างนี้ ความพลัดพรากจากกันก็ต้องมีโดยไม่ต้องสงสัย หมู่สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ควรเมตตาเอื้อเอ็นดูกัน ไม่ควรจะมัวเศร้าโศกถึงผู้ที่ตายไปแล้ว

๕๐. ผู้ที่เศร้าโศกถึงคนตาย ก็เหมือนเด็กร้องไห้ขอพระจันทร์ที่โคจรอยู่ในอวกาศ คนตายถูกเผาอยู่ ย่อมไม่รู้ว่าญาติคร่ำครวญถึง เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่เศร้าโศก เขาไปแล้วตามวิถีทางของเขา


๕๑. ตอนเช้า ยังเห็นกันอยู่มากคน พอตกเย็น บางคนก็ไม่เห็นกัน เมื่อเย็น ยังเห็นกันอยู่ มากคน ตกถึงเช้า บางคนก็ไม่เห็นกัน

๕๒. จะตายก็ไปคนเดียว จะเกิดก็มาคนเดียว ความสัมพันธ์ของสัตว์ทั้งหลาย ก็เพียงแค่ มาพบปะเกี่ยวข้องกันเท่านั้นเอง

๕๓. วันคืนผ่านไป อายุก็เหลือน้อยเข้าทุกที

๕๔. แม่น้ำเต็มฝั่ง ไม่ไหลทวนขึ้นสู่ที่สูงฉันใด อายุของมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมไม่เวียนกลับมาสู่วัยเด็กได้อีก ฉันนั้น

๕๕. ผู้เข้าถึงธรรม ไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ดำรงอยู่กับปัจจุบัน ฉะนั้นผิวพรรณจึงผ่องใส

๕๖. คืนวันผ่านไป ไม่มีอะไรให้เราเดือดร้อน ไม่เห็นมีอะไรที่เราสูญเสียในโลก ฉะนั้น เราจึงนอนสบายใจคิดแต่จะช่วยปวงสัตว์

๕๗. เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปเปล่าๆ จะน้อย หรือมาก ก็ให้ทำอะไรไว้บ้าง

๕๘. เร่งทำความเพียรเสียแต่วันนี้ ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะตายหรือจะอยู่

๕๙. คนขยันทั้งคืนวัน ไม่ซึมเซา เรียกว่า มีแต่ละวันนำโชค

๖๐. จะมีชีวิตอยู่ก็ไม่เดือดร้อน ถึงจะตายก็ไม่เศร้าโศก ถ้าเป็นปราชญ์ มองเห็นที่หมายแล้ว ถึงอยู่ท่ามกลางความเศร้าโศก ก็ไม่เศร้าโศก….

Cr.//www.watkoh.com/kratoo/printer_friendly_posts.asp?TID=3235




 

Create Date : 12 กันยายน 2554   
Last Update : 12 กันยายน 2554 15:15:14 น.   
Counter : 1153 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]