กลายเป็นสาวฮอตขึ้นมาทันที สำหรับนางเอกหน้าใส เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา หลังจบละคร “เล่ห์รตี” แฟนๆ ก็ยังคงพูดถึงคู่จิ้น หนูเคท-คุณเสกข์กันไม่ขาด แต่ในชีวิตจริงเรื่องความรักรวมถึงเรื่องเรียนของสาวคนนี้จะเป็นยังไง ใครอยากรู้บ้าง ตามไปดูกันดีกว่า

ความลับเรื่องรักและเรียนของเอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา

ถามเรื่องการเรียนกันก่อน ตอนนี้การเรียนเป็นยังไงบ้าง

ตอนนี้หนูเรียนอยู่ปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพค่ะ  สาขาที่เลือกตอนนี้เป็นภาควิชาการสื่อสารตรา ก็คือเป็นสาขาเปิดใหม่ของที่นี่เลยค่ะ หนูคิดว่ามันน่าสนใจดี เพราะมันไม่ได้เรียนเกี่ยวกับนิเทศโดยตรง แต่ว่ามีเรียนทฤษฎีด้านการบริหารการจัดการการตลาด แล้วก็พวกออกแบบด้วย ซึ่งหนูคิดว่ามันสามารถจะนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไปได้ ส่วนที่เลือกม.กรุงเทพ อย่างแรก คือ มันใกล้บ้านหนู แต่ที่สำคัญอีกอย่าง คือ ใครๆ ก็บอกว่าถ้าจะเข้านิเทศ ต้องที่ม.กรุงเทพ ก็คิดว่าเป็นมอที่มีชื่อเสียงทางคณะนี้ ซึ่งพอเข้ามาเรียนจริงๆ ก็โอเคเลยค่ะ ที่นี่เขาเน้นการลงมือปฎิบัติจริง ทำให้เราได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วอุปกรณ์ที่นี่ก็ครบทุกอย่างเลยค่ะ

วิชาโปรดของเอสเธอร์

วิชาเกี่ยวกับการจัดการการตลาดเลยค่ะ ทำให้เราได้รู้ว่าการตลาดทุกวันนี้เป็นยังไง รู้ถึงผลิตภัณฑ์แต่ละตัว ว่าเขามีการวาง Position มีทีมวางโฆษณายังไงบ้าง แล้วผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นนั้นต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง ซึ่งพอได้เข้าไปฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันน่าลองทำ แล้วก็น่าศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วย

แล้ววิชาที่ยากที่สุดสำหรับเอสเธอร์ล่ะ

น่าจะเป็นวิชาภาพถ่ายค่ะ เพราะโดยส่วนตัว หนูก็ชอบถ่ายรูปเล่นทั่วๆ ไปนะ แต่พอได้มาเรียนจริงๆ มันมีรายละเอียดยิบย่อยกว่านั้นเยอะ ทั้งการปรับแสง ปรับสปีดชัตเตอร์ แล้วก็ดูมุมมองของภาพด้วยว่าจะถ่ายยังไงให้ภาพมันออกมาเพอร์เฟกต์ที่สุด เกรดก็เลยออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือว่าอาจจะต้องลงใหม่เลยค่ะ TT

ถามถึงกลุ่มเพื่อนๆ ในมอบ้างดีกว่า

เพื่อนๆ น่ารักทุกคน ในกลุ่มหนูก็จะมีกันอยู่ 10 คน ก็เป็นหญิงชายอย่างละครึ่งๆ อะค่ะ ก็มีกลุ่มไลน์คุยกันตลอด ว่าเรียนเป็นยังไง ใครว่างก็จดเลกเชอร์มาให้ ถ้าวันไหนมาเรียนกันครบ ว่างๆ ก็จะแวะเดินห้าง กินข้าวกัน กลุ่มหนูมีร้านโปรด เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ ร้าน COCO ICHIBANYA ใกล้มอน่ะแหละ เมนูโปรดก็เป็นข้าวแกงกะหรี่ อร่อยดี คือคิดอะไรไม่รู้ก็เข้าร้านนี้แหละ แล้วก็ในแก๊งค์หนูชอบเซอร์ไพร์สวันเกิดกันค่ะ แต่ละคนก็จะแบ่งหน้าที่กันไป วันนี้วันเกิดใคร เดี๋ยวเราเป็นคนซื้อเค้กอะไรแบบนี้ค่ะ

ฉายาที่เพื่อนๆ ตั้งให้
เคยมีฉายาตอนประถมว่า “ไม้เสียบผี” หรือ “แห้ง” เพราะผอมมาก แต่ฉายาในมอตอนนี้ไม่มีนะคะ ก็มีแต่เพื่อนๆ ชอบแซวกันว่าเอสฮาไปป่ะ อะไรแบบนี้ คือถ้ามองภายนอกคนจะมองว่าหน้าหวาน ก็จะนึกว่าหนูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่จริงๆ เพื่อนๆ บอกว่าหนูเป็นคนฮา ตลก ขี้เล่นด้วยค่ะ ถ้าให้สามคำกับตัวเอง ขอตั้งให้ตัวเองว่า “โก๊ะจุงเบย” ล่ะกัน 55 เพราะอย่างที่บอกไป แล้วก็เป็นคนโก๊ะๆ เรื่องเปิ่นๆ มีเยอะมาก ล่าสุดนี่เลยค่ะ มีงานติดต่อให้หนูไปงานวันนี้ แต่ปรากฎว่าหนูเข้าใจผิดไปอีกวันหนึ่ง ก็โทรไปบอกพี่ที่เขานัดว่าหนูถึงแล้ว ปรากฎว่า พี่เขาบอกว่า “อ้าว ไม่ใช่วันนี้นะคะ” ก็หน้าแตกเพล้ง โก๊ะจริงๆ เลยค่ะ ><

โก๊ะจุงเบยแบบนี้ ^^ แต่หนุ่มๆ ก็ยังชอบนะ หนุ่มๆ ในมอว่าไงเอ่ย
ส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะเป็นเพื่อนกันมากกว่าค่ะ แล้วหนูก็อายุยังน้อย แล้วก็ทำงานตลอด เลยไม่มีเวลาไปเจอใครที่ไหนเลย แต่ก็มีเหมือนกันเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในมอนี่แหละ คณะเดียวกัน แต่ละคนละสาขา ก็รู้ว่าเขาแอบชอบเราอยู่นะ เพราะอย่างวันเกิดเขาก็จะถักผ้าพันคอมาให้เรา ซึ่งก็น่ารักนะ แบบเฮ้ย ผู้ชายถักผ้าพันคออะ เราก็รู้สึกขอบคุณมาก วันเกิดเขา เราก็มีของให้เหมือนกันเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แต่คือเราก็อยากให้เป็นเพื่อนกันมากกว่า ก็คุยกันปกติ ก็วางตัวให้เหมาะสม

แล้วอย่างนี้สเปกจริงๆ ของเอสเธอร์เป็นแบบไหนกัน

จริงๆ ถามว่าเพื่อนคนนี้ตรงสเปกมั้ย ก็ไม่ได้ตรงสเปกมากนะคะ แต่ชอบตรงนิสัยที่น่ารักของเขา เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ขี้โม้ หรือขี้โกหกค่ะ แต่ถ้าพูดถึงสเปกจริงๆ หนูชอบลูกครึ่ง ชอบตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ถ้าถามว่า มีเข้ามาบ้างมั้ย ก็ยังไม่มีคนที่ลงตัวนะคะ คือหนูว่าความรักมันเลือกไม่ได้ เพราะบางทีมันก็เข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น หนูก็เลยไม่ได้คิดว่าต้องดูที่สเปก จะมองที่ว่าคุยกัน แล้วเข้ากันได้หรือเปล่ามากกว่า

สาวหน้าใส มีความรักครั้งแรกตอนไหน

ตอนม.1 ค่ะ แอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่รุ่นพี่ไม่ใช่ลูกครึ่งนะ ^^ ไทยแท้เลยแหละ แต่แบบว่ารุ่นพี่เขาเล่นกีต้าร์เก่ง ตอนนั้นก็เลยปลื้มที่ความสามารถของเขามากกว่า มีได้เข้าไปคุยกับพี่เขาด้วย ได้บอกกับเขาว่าหนูแอบปลื้มพี่เขานะ แต่ก็แค่แอบปลื้มอะ เพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มก็แอบชอบเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกันค่ะ ก็ห่างๆ กันไป

เรื่องอกหักสำหรับสาวมองโลกในแง่ดีอย่างเอสเธอร์

ไม่เคยมีประสบการณ์อกหัก เพราะความรักแต่ละครั้งก็เพื่อนๆ กันมากกว่า ตอนเด็กๆ ก็แอบปลื้มกัน แบบกุ๊กกิ๊กๆ คุยโทรศัพท์กัน ช่วยเหลือกัน แต่ไม่ได้พัฒนากันถึงขั้นจริงจัง แต่หนูก็มีเป็นศิราณีรับปรึกษาให้เพื่อนบ้าง อย่างเพื่อนทะเลาะกับแฟน แล้วก็มาปรึกษาหนู ซึ่งหนูจะเป็นคนที่ชอบพูดตรงๆ กับเพื่อนมากกว่า อย่างถ้าเรามองแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีนิสัยบางอย่างที่ไม่ใช่เลย เราก็จะบอกเพื่อนตรงๆ ว่าผู้ชายคนนี้อย่าเลยนะ แต่ตอนนั้นก็คือต้องขึ้นอยู่กับเพื่อนด้วยแหละว่าจะรับได้หรือไม่ได้

นิยามความรักของสาวแสนสดใสอย่างเอสเธอร์

ความรักเหมือนโลกสีชมพู หนูว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามค่ะ รักได้ ไม่ได้ผิดอะไร แต่ว่าเราควรจะรักให้เป็น ไม่ใช่รักแบบหน้ามืดตามัว แต่รักอย่างเข้าใจ ให้รู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร ถ้าให้เปรียบความรักเป็นสิ่งของสักอย่าง หนูขอเปรียบเป็นดอกกุหลาบสีแดงสดล่ะกัน เพราะยังไงความรักก็ยังเป็นสิ่งที่สวยงามเหมือนดอกไม้ที่กำลังออกดอกผลิบานค่ะ

วาเลนไทน์ที่ประทับใจในความทรงจำ

ตอนม.2 ได้มั้งคะ มีรุ่นพี่คนหนึ่งเอาดอกไม้มาเซอร์ไพรส์ให้เป็นช่อใหญ่เลยค่ะ ในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเราไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลย แต่ว่าพี่เขาฝากเพื่อนมาให้นะคะ แล้วก็ไม่เปิดเผยตัวตนด้วยค่ะ ไม่ได้เห็นหน้าเลย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าพี่เขาเป็นใคร มาจากไหน 55

วาเลนไทน์แสนเศร้าในความทรงจำ

ไม่ได้เศร้าเรื่องเลิกกับแฟนนะคะ ส่วนใหญ่จะเศร้าตรงเพื่อนก็ไม่มีแฟน เราก็ไม่มีแฟนนี่แหละ อิอิ ก็เลยต้องนัดกันไปเที่ยว เดินสยาม กินข้าว ดูหนัง ตามประสาสาวโสดแทน แต่ว่าสำหรับวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมา ที่เศร้าจริงๆ ก็ตรงที่แม้แต่เพื่อนก็ไม่ได้นัดนี่แหละค่ะ 55 ก็ทำงานอย่างเดียวเลย อันนี้เศร้ามาก

ตามดูบทสัมภาษณ์ดารานักศึกษาไอดอลคนดังได้ที่ www.facebook.com/campusstar หรือ Campus Star เล่มใหม่ ได้ตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจ้า 

//teen.mthai.com/campus_star/92594.html

Create Date : 12 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 22:46:42 น.		0 comments
Counter : 1554 Pageviews.
Share Tweet