Group Blog All Blog
|
วิธีทำให้ฟองน้ำล้างจานปราศจากเชื้อโรค
เชื่อได้ว่าที่อ่างล้างจานของคุณต้องมีฟองน้ำล้างจานที่มีสภาพชุ่มโชกไปด้วยสบู่ล้างจาน วางแปะไว้ที่ข้างอ่าง และบางทีอาจมีเศษอาหารติดอยู่ ซึงเป็แหล่งเพาะเชื้อโรคนานาพันธ์ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นที่กันว่าเชื้อโรคชอบที่จะมีชีวิตอยู่กับแหล่งอาหาร และความชื้น และไม่ชอบแสงแดด
ฟองน้ำล้างจานจึงเป็นที่สิงสถิตย์ของบรรดาเหล่าเชื้อโรค หากอันไหนที่เชื้อราเป็นใหญ่มันก็จะแสดงความยิ่งใหญ่โดยการเปลี่ยนสีฟองน้ำให้กลายเป็นสีดำๆ เมื่อไม่นานมานี้ มีทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา สหรัฐฯ ได้ทำการวิจัยการฆ่าเชื้อโรคที่ฟองน้ำล้างจานโดยใช้ไมโครเวฟธรรมดาๆที่เราใช้กันตามบ้าน โดยการนำเอาฟองน้ำล้างจานที่เต็มไปด้วยน้ำเสีย และเชื้อโรค เข้าไปอบในไมโครเวฟ เป็นเวลา 4-10 นาที ผลการวิจัยพบว่า ฟองน้ำสะอาดเอี่ยมไร้เชื้อต่างๆที่ฝังตัวอยู่ แต่ทีมวิจัยบอกว่า เชื้อทั้งหมดในฟองน้ำโดนฆ่าตายตั้งแต่ 2 นาทีแรกแล้ว !!!!! นั่นหมายถึงว่า เพียงแค่เราเอาฟองนำล้างจานเข้าไปอบในไมโครเวฟแค่ 2 นาที เชื้อโรคก็ตาย ดีจังเลย แต่ทีมวิจัยยังคงเตือนมาด้วยว่า ต้องระวังประกายไฟที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ไมโครเวฟด้วย เพราะหลักการทำงานของไมโครเวฟต้องใช้โมเลกุลของน้ำ เพราะฉะนั้น หากคุณคิดจะนำวิธีการทำความสะอาดนี้ไปใช้ อย่าลืมทำให้ฟองน้ำล้างจานชุ่มน้ำก่อนและต้องเลือกฟองน้ำชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ มิฉะนั้น อาจเกืดประกายไฟไมโครเวฟอาจพัง และ เวลาเอาฟองน้ำออกระวังมือจะพองเพราะความร้อน เดี๋ยวจะหาว่าข้าเจ้ามิเตือน คลอเรสเตอรอลกับการกินไข่
อันว่าไข่นั้น มีส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วน คือ เปลือกไข่(shell) ไข่ขาว (white egg) และไข่แดง (yolk egg)
สารประกอบในไข่แดงส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว รวมถึง โอเมก้า 3 (ฟังคุ้นๆมั้ยคะ) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด มีคุณค่าเหมือนไขมันในปลาแซลมอลและปลาทะเล แต่ในไข่ขาวไม่มีคลอเรสเตอรอล นอกจากนี้ในไข่แดงยังมีธาตุเหล็ก (ดีประมาณว่าใช้แทนเนื้อสัตว์ได้ เคี้ยวง่าย ไม่เหนียว เลยเหมาะกับผู้บริโภคที่ฟันชุดที่หนึ่งยังไม่มา และฟันชุดสองก็จากไป) โฟลิก แอซิด (สารนี้มีส่วนช่วยป้องกันโรคเลือดจาง และการพิการแต่กำเนิด ผู้ที่อุ้มท้องเจ้าตัวเล็ก ควรรับประทานรเป็นอย่างยิ่ง) โคลีน (สารเสริมสร้างความจำ พวกที่ขี้หลงขี้ลืม ได้หน้าลืมหลัง พวกนี้ควรหามารับประทาน ) วิตามิน เอ บี ดี แล อี (ไม่มีวิตามินซี) มาถึงเรื่องที่จะคุยกัน คนมีคลอเรสเตอรอลสูงล่ะ ว่าไง กินได้มั้ย ตอบได้เลย ได้ต่ะ จากวารสารสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association หรือ AHA) ได้เปลี่ยนคำแนะนำในการทานไข่ จากเดิมไม่ควรทานเกิน 3 ฟอง/สัปดาห์ เป็น ทานได้ ไม่เกินวันละฟอง ถึงจะมีผลงานวิจัยระดับนี้มายืยยัน แต่ในความเห็นของผู้เขียนขอบอกว่าอย่าถึงกระนั้นเลย เอาแค่สามฟอง/สัปดาห์ น่าจะดีกว่ามั้ย เพราะฝรั่งตัวใหญ่กว่าเราเยอะเลย และหากจะกินกัน 5 ฟอง/สัปดาห์จริงๆ บางมื้อก็ขอให้เลี่ยงไม่ทานไข่แดง และควรทานไข่ใบใหญ่ๆ เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ดีกว่า ไข่นกกระทา เพราะมีปริมาณไข่แดงสูง คลอเรสเตอรอลก็จะสูงไปด้วย อ่านแล้วงงมั้ยคะ หมายความว่าถ้าจะทานไข่ในหนึ่งมื้อให้อิ่ม ถ้าเป็นไข่ไก่อาจใช้ 1 ฟอง แต่ถ้าเป็นไข่นกกระทา คงใช้สัก 8ฟอง ก็ให้เลือกใบโตไว้ก่อน โอเคนะคะ คราวนี้คงตัดสินใจได้แล้วว่า จะซื้อไข่ไปตุนไว้สักเท่าไหร่ดี แล้วจะเลือกยังไงดีล่ะ วิธีเลือก ก็ง่ายๆ สมมติว่าจะซื้อไข่ไก่ ก็ให้ดูที่ผิวสะอาด เจอสิ่งเปื้อนเปลือกไข่สีเหลืองๆ น้ำตาลๆ ก็อย่าเลือก เพราะมันคือ ขี้ไก่ ซึ่งหมายถึงสุขภาพของแม่ไก่ว่าอาจท้องเสียอยู่ และที่สำคัญมันย่อมสกปรกกว่าใบที่ไม่เปื้อน ดูวันหมดอายุ(บางฟาร์มจะปั๊มไว้ที่เปลือก) ถ้าจะให้ดี เลือกฟาร์มที่มีความน่าเชื่อถือในการเลี้ยงไก่ด้วยจะดีมาก เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่า เดี๋ยวนี้โรคไข้หวัดนก (แปลกมั้ย น่าจะเรียกไข้หวัดไก่) มันมากับสิ่งสกปรกที่เปลือกไข่นี่แหละ เพราะฉะนั้น หลังหยิบไข่อย่าลืมล้างมือ เมื่อซื้อเสร็จถ้าใบไหนเปลือกสกปรกมากก็ทำควาสะอาดก่อนเก็บ เวลาเก็บเอาด้านแหลมๆลงล่างเพราะฟองอากาศจะได้อยู่ด้านป้าน เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3 สัปดาห์ สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ เวลาจะนำไข่มาบริโภคควรทำให้สุก เพราะว่าย่อยยาก และอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคที่ติดมากับเปลือกไข่ ตอนที่เราตอกไข่ และก็เลือกการปรุงแบบใช้น้ำมันน้อยๆ หรือไม่ใช้จะยิ่งดี เช่น ไข่ต้มย่อมดีกว่าไข่เจียว หรือไข่ดาว แค่นี้ คงพอเป็นข้อมูลในการเลือกทานไข่อย่างฉลาด เพราะนอกจากจะได้สารอาหารที่ดีมีประโยชน์แล้ว ยังสบายกระเป๋า กว่าไปหาโอเมก้า 3 หรือ แซลมอนมาทาน จริงๆนะคะ |
ข้าเจ้า
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |
