Group Blog All Blog
|
วิธีแก้อาการ ขี้ลืม ใครบ้างจะไม่เคยลืม ลืมทำโน่น ทำนี่ ลืมของไม่รู้ว่าเอาไปวางไว้ที่ไหน บางคนลืมตัว และบางคนลืมแฟน แต่วันนี้จะมาคุยกันถึงเรื่องของการลืม ที่หมายถึง ลืมทำ อันนี้ถ้าเกิดขึ้นนานๆที คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ และถ้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เช่น วันเกิดคนรัก หรือ วันครบรอบแต่งงาน อันนี้บอกได้ว่าอันตรายอาจถึงแก่ชีวิตโดยทั่วไปการลืมเกิดขึ้นจากความไม่มีสมาธิ และไม่ตั้งใจจะจำเป็นส่วนใหญ่ ความจำเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นหลัก ซึ่งกระบวนการจำมีตั้งแต่ การรับเข้า (เหมือนกับเวลาคุยแล้วมีเครื่องบันทึกเทป) เพราะฉะนั้นเครื่องรับเข้าจะต้องดีก่อน แล้วจึงจะมีการบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องลงไปในสมอง จากนั้นก็จะมีการเรียกข้อมูลออกมาใช้ ซึ่งถ้ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้น ในขั้นตอนใดก็จะทำให้กระบวนการจดจำเสียไปได้ บางคนช่องรับเข้าไม่ดี (เช่น มีคนกำลังพูดให้ฟัง แต่เราใจลอยไปคิดถึงเรื่องอื่น) ก็จะจับใจความสำคัญได้ไม่หมด (เหมือนเด็กสมัยนี้ที่เวลาทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ ส่วนใหญ่มักเปิดวิทยุฟังเพลง หรือเปิดโทรทัศน์ไปด้วย) ตรงนี้เท่ากับเครื่องรับเปิดรับข้อมูลไม่เต็มร้อย เพราะ-ฉะนั้นผลที่ออกมาก็ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเช่นกัน ในเรื่องการบันทึกข้อมูลลงไปในสมอง ซึ่งการบันทึกลงไปจะเกี่ยวกับการเข้าใจในหลักการ แล้วโยงใยให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ ต่อมาจะเป็นเรื่องของการระลึกได้หลังการจดจำ (ใส่เทป) การหยิบขึ้นมาใช้บ่อยๆ ระลึกถึงบ่อยๆ จะทำให้ความจำของคนเราดีขึ้น นั่นหมายถึงคุณจะจำได้ในสิ่งที่คุณตั้งใจจะจำ และถ้าคุณไม่ใส่ใจจะจำ คุณจะลืม แต่ก็มีนะ บางครั้งไม่ตั้งใจจะลืมสักหน่อย แต่มันลืม ............... จริงจริ้ง การลืมแบบนี้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้สูงวัย แฮ่ม และบางครั้งก็เกิดกับผู้ที่เจ็บป่วยหรือได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง กรณีแบบนี้คงต้องหาวิธีการช่วยเหลือ มีสมาธิกับการทำงาน และทำทีละอย่าง จะได้ลืมยากขึ้น การฝึกสมาธิจะช่วยให้ความจำดี คนที่ชอบคิดฟุ้งซ่าน วิตกกังวลจนลืมโน่นลืมนี่อยู่เสมอ อย่าไปรำคาญตัวเองว่าทำไมเราถึง ขี้ลืมจังเลย อาการนี้สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะเรื่องของสมาธิที่จะช่วยในเรื่องของความจำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับข้อมูลเข้า ซึ่งถ้าเรามีสมาธิดี มีความตั้งใจ จะฟังได้รายละเอียดมาก เพราะในขั้นตอน ของการจดจำ หากไม่มีเรื่องอื่นๆ มารบกวน เราก็สามารถจะใช้จิตของเราไปค้นหาความจำในเรื่องต่างๆ ออกมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกสมาธินอกจากจะช่วยในเรื่องของความจำแล้ว ยังช่วยในเรื่องอื่นๆ อีกมากมายในชีวิตด้วย มีดยิ่งลับยิ่งคมฉันใด เช่นเดียวกัน ถ้า อยากให้สมองดี ความจำดี ก็ต้องหมั่นคิดวิเคราะห์ หัดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ ส่วนคนที่ชอบลืมบ่อยๆ (แต่ยังไม่ถึงขั้นสมองฝ่อ) เทคนิควิธีการที่ควรใช้คือการจด ซึ่งจะช่วยเตือนความจำในเรื่อง ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี -จดโน้ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ยังมาไม่ถึง เช่น งานที่ต้องทำในสัปดาห์หน้า บิลที่ต้อเคลียร์ตอนปลายเดือน เรื่องแบบนี้เกิดกับข้าเจ้าค่อนข้างบ่อย และขอยืนยันว่าการจดช่วยได้จริงๆ จะเป็นการจดลงกระดาษ โพ้สอิต PDA ฯลฯ -บำรุงสมอง ด้วยอาหาร ตามปกติอาหารที่ทำหน้าที่บำรุงสมอง มี อยู่ในอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนั่นแหละ เพราะถ้ากินอาหารครบ ๕ หมู่ทุกวัน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องหาวิตามินเสริมมากินเลย สมองของคนเราจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ได้รับสารอาหารที่เหมาะสม และหนึ่งในสารอาหารที่มีความสำคัญสำหรับสมอง คือ วิตามินบี ๖ วิตามินบี ๑๒ ซึ่งมีมากในถั่ว ชนิดต่างๆ และกรดไขมัน (ไม่อิ่มตัว ซึ่งมีมากในเมล็ดทานตะวัน งา ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดดอกคำฝอย อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง ฯลฯ) ใครที่อยากความจำดี สมองปลอดโปร่ง แจ่มใส ก็ต้องพยายามดูแลอาหารการกินให้ครบทั้ง ๕ หมู่ กินให้ได้ทั้งสัดส่วนและคุณภาพ ถึงเวลากินก็ต้องกิน กินแล้วค่อยทำงานต่อ ไม่ใช่ทำงานมาก คิดมาก ไม่ได้พักผ่อนนอนหลับ ใช้สมองอยู่ตลอดเวลา พอถึงคราวที่ต้องจดจำอะไรสำคัญๆ สมองจะล้า และส่งผลกระทบต่อความจำด้วย และไม่เพียงแต่อาหารดีมีประโยชน์เท่านั้น เรื่องการออกกำลังกาย และ อากาศที่ดีก็มีผลต่อสมองในระยะยาวเช่นกัน -ฝึกสมอง สมองก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายที่เสื่อมแล้วก็เสื่อมเลยไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ (ยกเว้นเม็ดเลือด) แต่ถ้ามีการฝึกฝนอยู่เสมอ สมองจะแก่ช้ากว่าร่างกาย ซึ่งความรู้ในทางการแพทย์จะบอกเราว่า เซลล์สมองของคนเรามีจำนวนมากมาย และในความเป็นจริง เราก็ไม่ได้ใช้สมองที่มีอยู่ทั้งหมดหรอก ตัวอย่างเช่น ถ้ามีสมองอยู่ 100 ส่วน เราอาจจะใช้สมองเพียงแค่ ๒๐ ส่วน เท่านั้นเอง และถึงแม้ว่าสมองจะตายไปเหลือเพียง 60-70% เราก็ยังสามารถฉลาดขึ้นได้อีกเรื่อยๆ เพราะส่วนที่เหลืออยู่ ยังไงเราก็ใช้มันไม่หมด -ผู้ที่มีลักษณะหรืออุปนิสัยเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ค่อยสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว มีสิทธิจะเป็นโรคสมองฝ่อได้มาก เพราะขบวนการของสมองไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่เหมือนกับคนที่ชอบอ่านหนังสือ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของสมอง เมื่อใช้บ่อยๆ (คิด - พูด - อ่าน) เซลล์สมองซึ่งมีเส้นใยเป็นขา เป็นแขนก็จะเชื่อมต่อกัน ซึ่งหากยิ่งใช้บ่อย มันก็จะเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่าย ทำให้คิดอะไรเป็นระบบ มีหลักการมีเหตุผล แต่หากไม่ค่อยได้ใช้สมองขบคิด เส้นใยเหล่านี้จะหดลง ไม่ต่อกัน ความจำก็จะไม่เป็นระบบ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น ในชีวิตประจำวัน แล้วรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ ก็นับเป็นการลับสมองที่ดีมากอย่างหนึ่ง นิสัย 10 อย่างที่ทำร้ายสมอง 1. ไม่กินอาหารเช้า การไม่กินอาหารเช้า ไม่เพียงแต่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุให้ร่างกายมีสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หากทำจนเป็นนิสัย ในระยะยาวจะทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น 2 กินอาหารมากเกินไป เห็นไหมว่าทุกอย่างต้องพอดีจึงจะมีประโยชน์ การกินมากเกินไป จะทำให้ หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น 3 การสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากมายหลายสิบชนิด และ แน่นอน หากใครสูบจนติดและไม่คิดเลิก ไม่นานคุณอาจโชคร้ายเป็นโรคสมองฝ่อโดยไม่รู้ตัว (ถ้าสมองใช้งานไม่ได้ การมีชีวิตอยู่ก็แทบไม่มีความหมายอะไร) 4. กินอาหารหวานมากเกินไป อาหารเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมโปรตีน และสารอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย เป็นสาเหตุให้ร่างกายขาดสารอาหาร เมื่อได้รับอาหารน้อย สมองก็ทำงานไม่เต็มที่ 5. การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ทั้งนี้เพราะสมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย ดังนั้นหากเราหายใจเอาอากาศเสียเข้าไปมากๆ เป็นประจำ จะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 6 การอดนอน การอดนอนเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้เซลล์สมองเสียหายและตายได้ (เร็วกว่าที่ควรจะเป็น) 7. การนอนคลุมโปง เรื่องนี้หลายคนอาจนึกไม่ถึง เพราะการนอนคลุมโปง จะทำให้เราได้รับออกซิเจน ไม่เต็มที่ เมื่ออากาศไม่เพียงพอ การทำงานของสมองก็ไม่เต็มร้อย 8. ใช้สมองในขณะเจ็บป่วย ยามเจ็บไข้ ไม่สบาย ก็เป็นการฟ้องอยู่แล้วว่าร่างกายต้องการการพักผ่อน แต่หากเรายังดื้อรั้นที่จะใช้สมองในการคิดหรือทำงานยามที่ร่างกายอ่อนแอ ก็เหมือนเป็นการทำร้าย สมองไปด้วย และผลงานที่ออกมาก็ไม่ค่อยดีนักหรอก 9. ขาดการใช้ความคิด การคิด วิเคราะห์ ฝึกแก้ปัญหาต่างๆ เป็นการฝึกสมองที่ดีที่สุด การอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่สนใจอะไรเลยจะทำให้สมองฝ่อ 10 พูดน้อยเกินไป นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ย้ำยืนยันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ในภาวะสมดุล จึงจะเกิด ประโยชน์สูงสุด เพราะการฝึกพูดอย่างมีสาระ เป็นสิ่งที่ต้องใช้สมองกลั่นกรอง ดังนั้นทักษะ ทางการพูด จึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงประสิทธิภาพของสมองด้วย ข้อนี้ข้าเจ้าชอบมาก ฮ่า ฮ่า ขอบคุณมากค่ะแต่เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ
พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจค่ะ โดย: นานา IP: 58.9.236.145 วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:1:23:31 น.
ขอบคุณมากค่ะ
โดย: เด็กขี้ลืม IP: 61.7.241.30 วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:15:30:54 น.
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
โดย: so IP: 61.7.169.54 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:44:12 น.
เชื่อมั้ย ผมไม่ตั้งแต่เกิดมาผมกินถั่วไม่ถึง 20เม็ด มิน่าความจำไม่ค่อยดี
โดย: *-* IP: 58.9.109.248 วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:49:21 น.
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคับ
โดย: บุรุษมีนาม IP: 125.24.226.77 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:48:48 น.
ขอบคุงครับ
ผมพึ่งจะเป็นครับ เฮ้อ ความจำ นี่จำไม่ได้ก็เวลานึกปวดหัวน่าดู ผมสอบติดเอฟมาสามวิชา เก้าหน่วยกิจเพราะตอนเข้าห้องสอบแล้วนึกอะไรไม่ออกทั้งๆที่ตัวเองเห็นโจทย์ยังบอกตัวเองเลยว่าง่ายมากๆ มันเป็นเวนกำอ่าไรกับผมอ่าป่าวน้า โดย: แฮๆ IP: 124.121.167.103 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:54:31 น.
ดีจังจะได้ลดอาหารหวาน แต่ชอบม๊ากม๊าก
โดย: แอม IP: 125.24.182.66 วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:12:21:15 น.
ใช่ ข้อ 9,10 น่าจะเป็นสาเหตุอาการของเรานะเพราะตั้งแต่เรียนจบมาไม่ค่อยได้ใช้ความคิด ไม่ได้คิดวิเคราะห์อะไรมากเลย ตอนนี้ทำงานก็เป็น โฮมออฟฟิสบ้างก็อยู่คนเดวเลยไม่ได้คุยกะใครเลย
โดย: oku IP: 124.121.238.43 วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:11:22:48 น.
ขอบคุณมากครับที่แนะนำวิธีแก้ไขให้กับคนที่ไม่ได้ใช้สมองอย่างผม
โดย: คนขี้ลืม IP: 58.64.90.153 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:11:42:09 น.
ขอบคุงมากคับ ที่แนะนำจะลองนำไปใช้ดู ปรกติเป็นคนพูดน้อยจะลองหัดพูดมากๆหน่อย
โดย: คนลืมขี้ IP: 118.172.51.226 วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:20:49:36 น.
ขี้ลืมมากเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีสติ ไม่มีสมาธิเอาซะเลย มันจะคิดฟุ้งซ่านไปหมด
โดย: ลืมง่าย แต่ไม่ลืมเธอ IP: 117.47.224.194 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:12:07:02 น.
ขอบคุณมาดเลยครับผมเป็นอีกคนที่ขี้ลืมสุดๆทำของหายบ่อยมากครับไม่รู้จะแก้ยังงัยครับ
พอได้อ่านแล้วก็มีวามรู้มากขึ้นกว่าเดิม ปล.จะลองปฎิบัตตามคำแนะนำครับ ขอบคุณมากครับ โดย: kitpipat IP: 203.144.144.165 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:15:22 น.
ขอบคุณค่ะ
ต่อไปนี้จะได้ไม่ลืมอีก โดย: ไนซ์ IP: 125.26.223.44 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:25:17 น.
ชอบนอนคลุมโปงเป็นประจำเลย แถมอาหารเช้าก็ไม่เคยกินเล้ย มิน่าขี้ลืมโคตร ๆ ขอบคุณนะที่บอกกัน
โดย: ว่าแล้ว IP: 117.47.64.47 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:16:39:34 น.
เฮ่อ
หามาตั้งนาน ขอบคุณค่ะ โดย: mmm IP: 125.27.232.188 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:22:09:07 น.
เป็นข้อคิดที่มีประโยชน์มากๆๆๆๆกะ
โดย: D kaๆๆๆๆๆ IP: 110.49.80.128 วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:20:44:40 น.
ขอบคุณครับ
โดย: d IP: 10.48.1.5, 202.28.180.202 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:12:49:16 น.
ขอบคุณคะเราเป็นหนึ่งในข้อ 1 ไม่คอยกินข้าวเช้าเพราะกลัวอ้วนต่อไปจะพยามกินคะ
โดย: คนขี้ลีม IP: 124.120.12.97 วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:11:06:44 น.
เหลือกตาไปทางซ้ายที ขวาทีก็จะช่วยเรื่องความจำได้
เพิ่มออกซิเจนให้สมองก็ช่วยได้โดยไปนั่งใต้ต้นไม้ บรรยากาศสดชื่นๆ หรือกินคลอโลฟิล กินผักเยอะๆ มีคลอโลฟิลเป็นผงสำหรับคนไม่ชอบกินผัก สนใจโทร 082-7179534 คลอโลฟิลช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ทำให้สมองรับได้ดี โดย: mini IP: 110.164.181.203 วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:21:53:33 น.
ช่วยได้เยอะ
โดย: ปลาทอง IP: 172.16.101.90, 58.137.65.10 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:28:14 น.
อยากเเก้ลืม
โดย: พัฒน์พงษ์ IP: 125.27.253.71 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:10:39:02 น.
ผม เป็นคนขี้ลืม จนเป็นเรื่องใหญ่ละ
ที่นี้จะต้องดูแลตนเองแล้ว ขอไห้โชคดี โดย: คนไม่สำคัญ IP: 118.173.82.237 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:19:58:56 น.
Tjhank For your advice I will try for it .
โดย: kaew IP: 125.25.3.251 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:32:26 น.
ผมก็เป็นโรคขี็ลืม ขอบคุณครับดีมาก(good)
โดย: kal IP: 124.121.254.251 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:10:48:36 น.
ผมเป็นคนหนึ่งทีพูดน้อยครับมันจะเกี่ยวมั้ยที่ทำให้ขี้ลืม
ถ้าใครขี้ลืมมากลองหัดนั่งสมาธิบ่อยๆช่วยได้แน่นอนครับ โดย: ทศพล IP: 111.84.255.252 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:9:41:42 น.
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆอย่างนี้นะครับ มีประโยชน์มากๆเลย...55+
โดย: คนอยากจำ IP: 101.108.144.160 วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:13:16:29 น.
|
ข้าเจ้า
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |
ขอบคุณนะคับส่วนนี้เป็นอะไรไม่รู้ขี้ลืมบ่อยๆ
ข้อมูลที่ให้มาผมนำมาคิดแล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ดีมากเลยคับ
ขอบคุณคับ